ชีวิตดีดี เริ่มต้นที่นี่ที่เดียว www.dmc.tv
เริ่มโดย เถลิงเกียรติ, Mar 11 2009 07:17 PM
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 11 March 2009 - 07:17 PM
ประมาณปี พ.ศ.2497 มีการถ่ายทอดทีวีครั้งแรกในประเทศไทย ถือเป็นข่าวใหญ่ของเมืองไทย ศิษย์หลวงปู่วัดปากน้ำท่านหนึ่งแบกทีวีขาวดำมาวัดปากน้ำเพื่อให้พระเปิดหูเปิดตาว่าเครื่องนี้คืออะไร ทีวีมีการถ่ายทอดข่าว ตกกลางคืนมีการละเล่น หลวงปู่วัดปากน้ำเห็นปุ๊บตบเข่าท่านฉาด พร้อมกับอุทานว่าฉิบหายใหญ่!
พวกญาติโยมเขากำลังดีใจที่ได้เอาทีวีมาให้พระดู พระเองก็ตื่นตาตื่นใจ พอหลวงปู่ฯอุทานมาอย่างนั้น ทุกคนเงียบหมดเลย ท่านนั่งเงียบมองไปสุดสายตา โยมที่เอาทีวีมาให้ดูก็เข้ามากราบหลวงปู่ฯแล้วถามว่า มันไม่ดีอย่างไร รัฐบาลหวังอย่างยิ่งเลยว่า ต่อแต่นี้ไปในเรื่องการสื่อสาร รัฐบาลจะกระจายข่าวให้ประชาชนได้เปิดหูเปิดตากว้างขวางทั่วโลก แล้วทำไมหลวงปู่ฯว่าไม่ดีล่ะ
หลวงปู่ฯท่านก็ตอบว่า “นี่น่ะฉิบหายใหญ่ เรื่องได้กับเสียมันไม่คุ้มกันหรอก โดยเฉพาะกับคนไทยเรามีวินัยหย่อน จะไม่มีการควบคุมที่ดี คอยดูนะ เราแพ้มารอีกแล้ว...นี่ต้องเรียกว่า
มาร มันเอาอบายมุขส่งเข้าถึงห้องนอน แต่พระเทศน์ไม่มีสิทธิเข้าไปถึงห้องนอนใครหรอก ถูกจำกัดเวลา ถูกจำกัดสถานที่ แต่นี่มารมันแซงหน้าเราไป เราแพ้มัน มารมันแซงหน้าเราเข้าไปถึงห้องนอน
เมื่อก่อนนี้พวกโขน ละคร ยี่เก ถ้ามีก็ต้องไปแสดงตามวัด
พูดง่ายๆเขาไปแสดงตามงานวัด พระเทศน์ก็เทศน์ที่ศาลาวัด อย่างนี้ยังพอสู้
แต่ตอนนี้พระเทศน์ที่ศาลาวัด ส่วนมารมันมุดเข้ามุ้ง เข้าห้องนอนได้ขึ้นเตียงไปฉิบ เราแพ้มารมันอีกแล้ว”
แต่ว่าตอนนี้สู้ได้แล้วครับ ด้วยสื่อสีขาว www.dmc.tv
สู้ๆๆ ครับ -ขอบคุณท่าน WISH ที่เอามาให้อ่านในกระทู้
เพื่อเตือนใจผู้ที่ชอบดูละครหลังข่าวภาคค่ำ นะคร๊าบๆๆๆ อิอิอิ
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#2
โพสต์เมื่อ 11 March 2009 - 09:02 PM
รู้ทันยังเสียครึ่ง.....รู้ไม่ทันเสียหมดแน่
...ก็ต้องกระจายข่าวดีๆ ข่าวบุญของเราให้หนักยิ่งขึ้นๆ
อย่างน้อยก็ให้มีช่อง DMC หรือเว็ป dmc.tv ให้แพร่หลายมากขึ้นๆกว่านี้ครับ
...ก็ต้องกระจายข่าวดีๆ ข่าวบุญของเราให้หนักยิ่งขึ้นๆ
อย่างน้อยก็ให้มีช่อง DMC หรือเว็ป dmc.tv ให้แพร่หลายมากขึ้นๆกว่านี้ครับ
#3
โพสต์เมื่อ 11 March 2009 - 09:04 PM
ขอบคุณบทความดีดีคะ
#4
โพสต์เมื่อ 11 March 2009 - 11:05 PM
ตั้งแต่ปี2497จนถึงปัจจุบันที่มีDMC
กว่า50ปีที่ตามหลังเค้า...
เป็นการเตือนสติที่ดีมากๆครับ
ต้องขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับจขกท.ด้วยนะคร้าบ...
กว่า50ปีที่ตามหลังเค้า...
เป็นการเตือนสติที่ดีมากๆครับ
ต้องขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับจขกท.ด้วยนะคร้าบ...
ถ้าอยากได้"จริง"จะได้...แต่ตอนจะได้ไม่"อยาก"
#5
โพสต์เมื่อ 11 March 2009 - 11:50 PM
โห้ ... หลวงปู่สุดยอด จริงๆ
มองทีวี ปราดเดียวรู้เรื่องเลย
ดีใจจังเป็นหลานท่าน
มองทีวี ปราดเดียวรู้เรื่องเลย
ดีใจจังเป็นหลานท่าน