เฮ้อ....ช่วยหนูด้วยยยยยยย
#1
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 07:35 AM
ตอนนี้ดิฉันเป็นนักศึกษาของ DOU อยู่ค่ะ ซึ่งดิฉันลงวิชาสมาธิไว้ด้วย แล้วปัญหามีอยู่ตรงที่ว่า เวลาที่ดิฉันนั่งสมาธิอะค่ะ ดิฉันเผลอหลับตลอดเลย เป็นผลจากการทำงานที่เหนื่อยมากจนไม่มีเวลาพักผ่อน ทุกครั้งที่ดิฉันบันทึกผลการปฏิบัติธรรม ดิฉันรู้สึกอายตัวเองมากเลยค่ะ เพราะทุกวันมักจะมีคำว่า "เผลอหลับ" ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน เพราะผลการปฏิบัติธรรมที่ไม่ดีนี่แหละค่ะก็เลยทำให้ดิฉันกังวลว่าจะไม่ผ่านวิชานี้ค่ะ ไม่ทราบว่าดิฉันจะต้องทำอย่างไรให้ไม่เผลอหลับแล้วนั่งได้สบายขึ้นจนกระทั่งเห็นดวงแก้วใสๆคะ เพราะตอนนี้ทุกครั้งที่นั่งสมาธิ จะเห็นแต่ความฟุ้งซ่านและเวลาหลับตาก็นึกภาพดวงแก้วหรือองค์พระไม่ออกเลยค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 08:12 AM
#3
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 08:21 AM
ไม่งั้นสิ่งที่ได้มันจะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปนะครับ
#4
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 08:25 AM
เอ๊......ผลของการปฏิบัติธรรม "ต้องดี" เท่านั้นหรือครับ ถึงจะผ่านวิชานี้ เขาเอาอะไรเป็นตัวตัดสินหว่า ว่าผลการปฏิบัติธรรม "ดี" นั้นเป็นอย่างไร สงสัยจัง
ผมว่าผิดขั้นตอนตั้งแต่อยาก "เห็น" นี่แล้วหล่ะครับ ยึดติดกับนิมิตรจนเครียดไปหรือเปล่าครับ
ใครอยู่ DOU ช่วยตอบหน่อยนะครับ
#5
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 09:04 AM
#6
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 09:41 AM
ให้หลับสักงีบประมาณ10นาที แล้วพอตื่นขึ้นมาให้ตื่นด้วยความกระชับกระเฉง อย่าตื่นแบบงัวเงีย ถ้าตื่นแบบกระชับกระเฉงจะรู้สึกสดชื่นและจะไม่หลับอีกเลย แต่หากตื่นแบบงัวเงีย นั่งอีกก็หลับอีกครับ อันนี้ผมเจอมาครบสูตรแล้ว วิธีการนี้เป็นวิธีการที่จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง ช่วยระงับได้เร็วแต่จะมีผลเสียคือหากติดเป็นนิสัยจะมีอาการคล้ายดื้อยา
อีก1วิธีคือให้กำลังใจตัวเอง ตั้งใจให้แน่แน่วก่อนนั่งหลับตา กำหนดใจไว้ที่ศูนย์กลางกายก่อนนั่งสมาธิว่านั่งคราวนี้เราจะไม่หลับเด็ดขาด ท่องในศูนย์กลางกายก่อนนั่งสัก3ครั้ง ทำทุกครั้งก่อนนั่งสมาธิ และที่สำคัญก่อนนั่งสมาธิอย่าคิดว่าตัวเองเหนื่อย ไม่ว่าจากงานหรืออะไรก็ตาม หรือง่ายๆก็คืออย่าเอาใจไปนึกคิดถึงความเหนื่อยล้า วิธีนี้จะเห็นผลช้าหน่อย แต่เมื่ออยู่ตัวแล้วติดเป็นนิสัยแล้วจะไม่มีการหลับอีกเลยครับ
เมื่อก่อนผมก็เป็นแบบคุณเจ้าของกระทู้ นั่งหลับตลอด หาวิธีหนทางแก้ไขตั้งหลายวิธี นั่งสมาธิโดยไม่ใช้เบาะต่างระดับเอย ใช้เบาะแต่ไม่มีพนักเอย นอนก่อนนั่งสมาธิ แต่ก็ไม่ได้ผล สุดท้ายมานั่งนึกดูว่าเป็นเพราะอะไร จนมาได้ฟังเรื่องใจจากหลวงพ่อทัตตะจึงถึงบางอ้อ ว่าอ๋อ ที่เรานั่งหลับเพราะเราปล่อยให้ใจเป็นตัวสั่งการ ต้องแก้เสียใหม่คือเราต้องเป็นคนสั่งใจ แล้วมันก็ได้ผม ตอนนี้ขนาดผมนั่งหลังพิงฝายังไม่เคยหลับเลยครับ
ขอเป็นกำลังใจให้สู้ชนะใจนะครับ ^ ^
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#7
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 09:53 AM
ยังกะเจอราร์ดยิง 30 หลาตุงตาข่ายยังไงยังงั้นเลย.. สาธุ สาธุ สาธุ..
หลับ.. แล้วไง..
มีกันทุกคน..
ง่วงก็ให้หลับ.. ฟุ้งก็ให้ลืมตา..
ความอยาก.. แค่คิดก็ผิดแล้ว..
จะอยากเห็นไปทำไม.. เห็นแล้วก็ใช่ว่าจะรักษาเอาไว้ได้ตลอดชีวิต..
ก็ต้องเร่งทำความเพียรต่อไปเรื่อยๆนั่นแหละ..
ความเสมอต้นเสมอปลายเท่านั้น.. จึงจะรักษาเอาไว้ได้..
ดังนั้น.. ใครอยากไปไหน.. ปล่อยให้เขาไปก่อนเลย.. ตัดความอายออกไปซะ..
รักษาความพอใจ ความนิ่งเฉยไว้..
พระพุทธองค์ทรงทำความเพียร 6 ปี.. จึงเห็นธรรมตามความเป็นจริง..
หลวงปู่ทำความเพียรประมาณ 10 ปี.. จึงเห็นธรรมตามความเป็นจริง..
คุณเป็นใครหรือ.. ?
นักเรียน DOU.. จะให้นั่งปุ๊บเห็นปั๊บ.. เหอ.. เหอ..
เอาแบบนี้สิ..
นั่งเครียดไปทำไม.. ก็เคยบอกไว้ให้นั่งใจสเบย..
บอกให้นั่งเฉยๆ.. เอ๊ยยย.. บอกให้นั่งเฉยๆ.. ยังนั่งอย่างเคย.. แล้วเป็นไง.. เป็นไง..
ของเรานะ.. ตอนนี้เวลานั่งๆแล้วรู้สึกตึงๆ เครียดๆ หรือมีลุ้นเร่งเพ่งจ้องนะ.. ทันทีเลย..
เหนื่อยเราไม่เหนื่อย.. เมื่อยเราไม่เมื่อย..
เรานั่งไปเรื่อยๆ.. เราไม่เมื่อย.. เราไม่เหนื่อย..
สีฟ้าน่ารัก.. คึกคักเวลาลงเล่น..
สีฟ้าใจเย็นๆ.. เวลาลงเล่นคึกคักคึกคัก..
บางทีก็เป็น..
มะพวกเรามามะ.. มาร่วมกันหล่อหลวงปู่..
หรือไม่ก็เป็น..
จะหาไหน.. หาไหนมาเทียม.. โอ้.. เจ้าดวงบุญ.. เอ้ยยยย.. 55555..
น้ำหยดลงหิน.. ทุกวันหินมันยังกร่อน..
แค่ใครบางคน.. ลงมือทำความเพียร.. ถ้าเขาผู้นั้นไม่เลิกไปซะก่อน..
ย่อมเท่ากับ.. เขาผู้นั้น.. กำความสำเร็จในการเข้าถึงธรรมเอาไว้แล้ว.. 100%.. ชัวร์..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#8
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 10:00 AM
#9
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 11:19 AM
นั่งสมาธิดีหรือไม่ดีค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับการลงบันทึกของ
นักศึกษาเองว่า ได้ลงมือปฏิบัติถูกวิธีหรือไม่
ได้รับผลเป็นอย่างไร ติดขัดข้อใด ต้องการคำแนะนำอะไร
เพิ่มเติมไหม เพราะเมื่อตรวจแบบฝึกหัด ก็จะทราบได้
ว่าผู้เรียนมีความตั้งใจเรียนอย่างไร
#10
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 11:38 AM
- พระเดชพระคุณฯเคยกล่าวไว้ ทุกครั้งเวลานั่งสมาธิ ส่วนละเอียดก็จะทำงานด้วยตัวเอง(รอการปรับสภาพในส่วนหยาบ ให้ปราณีต ลุ่มลึก หลุดจากนิวรณ์ลงไปเชื่อมต่อ)
- การนั่งทุกครั้ง...แม้จะไม่พบอะไร...ก็ไม่มีคำว่าสูญเปล่า...เพียงแต่รอบารมี10ทัศน์บรรจบกัน...เต็มเปี่ยม...เมื่อใจหยุดใจนิ่งตกศูนย์ถูกส่วนเพียงเวลาชั่ว-ช้างกระดิกหูหรืองูแลบลิ้น ผลบุญนั้นย่อมเพิ่มพูนนับอสงไขยอัปมานัง
เพียรสู้ต่อไป...ก็จะถึงเส้นชัย...สาธุ
#11
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 11:48 AM
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ
ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย
#12
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 02:50 PM
1. ตั้งใจว่าจะนั่ง อย่าตั้งใจว่าจะนอน
2.ยืดดดดดดดดดเส้นก่อน เคยยือดดดดดดดดเส้นบ้างรึเปล่าละ (สำคัญนา)
3.ต้องเต็มใจที่จะนั่ง อย่านั่งเพราะไม่เต็มใจ นั่งไปก็เบื่อไป แล้วเมื่อไหร่จะเห็นธรรม
4.ขณะที่นั่งไป ต้องรู้ทันอารมณ์ของตัวเองด้วย ว่าตอนนี้เป็นยังไง ต้องแก้อย่างไร
5.อย่าบังคับใจว่า ต้องหยุด ต้องนิ่ง แม้ว่าจะนั่งมานานเพียงใดก็ตาม
6.เมื่อยก็ขยับ ไม่ใช่ปรับเป็นการนอน
7.ฟุ้งก็ลืมตา อย่าคิดว่า ข้าไม่สน
8.เฉยทุกๆอารมณ์ที่มาเสนอ อย่าไปสนอง ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ชอบหรือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ชอบก็ตาม
9.เราสามารถนั่งได้ตลอดเวลานะ เวลาไหนก็นั่งได้ ด้วยการทำใจนิ่งๆว่างๆที่กลางกาย (ข้างนอกเคลื่อน
ไหว แต่ข้างในหยุดนิ่ง)
10.แม้นั่งเสร็จแล้วจะยังไม่เห็นอะไร ก็อย่าไปน้อยใจ นั่งทุกครั้งก็ได้บุญทุกครั้งแหละครับ
11.ให้บอกกับตัวเองทุกวันว่า เราจะต้องเข้าถึงธรรมให้ได้ แล้ววิธีการมันจะมาเอง
12.รักษาอารมณ์ให้เป็น อย่าไปเก็บเอาเรื่องที่ไม่ดีมาคิดมาก Delete มันทิ้งบ้าง
สรุป หลวงปู่ท่านบอกว่า (หยุด เป็นตัวสำเร็จ) (ไม่ได้ตายเถอะ)
หลวงพ่อท่านบอกว่า (อย่าลุ้น อย่าเร้ง อย่าเพ้ง อย่าจ้อง)(สติ สบาย สม่ำเสมอ สังเกตุ สำเร็จผล)
คุณยายท่านบอกว่า (จริงคำเดียวสำเร็จทุกอย่าง ที่ยังทำไม่สำเร็จ เพราะว่ายังทำไม่จริง)
ของจริงมันคู่กับคนจริงครับ ขอเพียงตั้งใจ เรื่องหลับเรื่องเล็ก แก้ไม่ยาก ถ้าอยากจะแก้จริงๆ
กุญแจวิเศษ
#13
โพสต์เมื่อ 26 October 2008 - 12:14 PM
#14
โพสต์เมื่อ 26 October 2008 - 01:00 PM
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#15
โพสต์เมื่อ 27 October 2008 - 11:32 AM
#16
โพสต์เมื่อ 27 October 2008 - 11:59 AM
เพราะเวลา มีคนถาม จะพลอยได้ทบทวน ธรรมะของตัวเอง
...
วิธีที่เดิมๆ คิดว่ารู้ดีแล้ว...
แต่ ถ้าเป็นเรื่อง ละเอียดแล้ว..
...
ความรู้นั้น กลับไม่มีวันเก่า..ไม่มีวันเก่ง
มาทบทวนยังไง ก็ยังมีเกร็ดใหม่ๆ จากเพื่อนๆ
...
ไม่ว่าท่านนั้น จะเป็นคนนั่งธรรมะดีแล้ว มาช่วยแนะนำ
...ก็นำมาปรับปรุงได้อีก ทุกรอบๆ
หรือ จะเป็นข้อมูล จากผู้ที่ยังฝึกตนอยู่..
ก็ ยังมา ตอกย้ำวิธีเบสิก ไม่ให้หลงให้ลืม..
..
ก็เลยเป็นเหตุ ให้ธรรมะ ได้ก้าวหน้าขึ้นได้อีก ทุกครั้งๆๆ
..
ขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่มาให้ธรรมทานจ้ะ
#17
โพสต์เมื่อ 27 October 2008 - 01:15 PM
เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม
น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม
#18
โพสต์เมื่อ 28 October 2008 - 03:45 PM