***ทำ สมาธิ ภาคพิศดาร จะได้บุญใหมครับ ***
#1
โพสต์เมื่อ 27 September 2008 - 10:30 AM
2.รอตีหัว คู่อริ มีใจจดจ่อกับการรอ มีอารมย์เดียว(ก็เป็นสมาธิ)
3.ขณะกินทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่สนใจใคร จดจ่ออยู่กับอาหาร (ก็เป็นสมาธิ)
4.ขณะซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ จดจ่ออยู่กับการ กลัวร่วง (ก็เป็นสมาธิ)
5.นั่งฟังแม่ บ่น มีใจจดจ่ออยู่กับการฟังแม่ว่า จะบ่นอะไร(ก็เป็นสมาธิ)
ถามหน่อย สมาธิอย่างนี้ จะได้บุญใหมครับ
#2
โพสต์เมื่อ 27 September 2008 - 11:01 AM
สาธุ
#3
โพสต์เมื่อ 27 September 2008 - 11:04 AM
เอาใจจรดจ่อกับสิ่งอื่น
ได้บุญไหม ผมขอรอฟังคำตอบด้วยคนครับ
หุหุ
#4
โพสต์เมื่อ 27 September 2008 - 11:22 AM
นั่นสิ จะได้บุญมั้ย
หวาดเสียว ข้อ 4
#5
โพสต์เมื่อ 27 September 2008 - 11:46 AM
2.ผมหลับตาทำใจนิ่งที่ศูนย์กลางกายเพื่อไม่ให้ความโกรธคลอบงำตัวผม
คุณคิดว่า ข้อ1 หือ 2 อันใหนได้บุญบ้างครับ
#6
โพสต์เมื่อ 27 September 2008 - 11:56 AM
มีมิจฉาทิฐิ กับ สัมมาทิฐิ ก็คงรู้นะว่าอันไหนได้บุญได้บาป
เหอๆ อืม..เรื่องมีสมาธิเวลาทำกิจกรรมได้บุญไหมก็ไม่รู้
อย่างน้อยเราก็มีสติ ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นน้อย
#7
โพสต์เมื่อ 27 September 2008 - 01:15 PM
กัลยาณมิตรท่านหนึ่ีง (ตอนนี้ท่านบวชเป็นพระแล้ว) เคยเล่าให้ผมฟังว่า ก่อนบวชสมัยวัยรุ่นท่านมีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่ง คือ เพียงเห็นปืนปุ๊บ ไม่ว่าจะเป็นปื่นรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร ท่านรู้สึกคุ้นหมดเลย และท่านสามารถใช้งานปืนเหล่านั้นได้อย่างง่ายๆ เหมือนกับท่านเคยใช้มานาน ทั้งๆที่เพิ่งเห็นครั้งแรก อีกทั้งท่านยังยิงปืนแม่นด้วยนะครับ ทั้งๆ ที่ไม่เคยฝึกมาก่อนเลย
ปัจจุบันพอบวชเป็นพระ ท่านก็เลิกสิ่งเหล่านี้หมดแล้ว ซึ่งท่านเฉลยว่า คุณครูไม่ฝันเล่าให้ฟังว่า ในอดีตท่านเคยเป็นทหารมาหลายภพหลายชาติ เลยคุ้นกับเรื่องเหล่านี้
คุณสาครคิดว่า ความสามารถพิเศษของแต่ละคนที่มีไม่เท่ากันนี้ เป็นเพราะอะไรครับ
คำตอบคือ อำนาจสมาธิที่ฝึกมาในอดีตไงล่ะครับ
สมาธิมี 3 ระดับคือ ขณิกสมาธิ ได้แก่ สมาธิอย่างอ่อนๆ เช่น อ่านหนังสือ ตีกอล์ฟ ทำกับข้าว ยิงปืน ขับรถ ซ้อนท้ายรถ ฟังแม่บ่น และอื่นๆ อีกมากมายดังที่คุณสาคร ยกตัวอย่างมา
อุปจารสมาธิ สมาธิระดับกลาง สูงขึ้นมา
อัปนาสมาธิ สมาธิระดับสูง จิตใจหยุดนิ่ง แ่น่วแน่ แนบแน่น มีอานุภาพและมีพลังมาก
ในความเห็นผม สมาธิทั้งหมดล้วนได้บุญ บุญจากการทำสมาธิ คือ ทำให้เกิดปัญญา หากฝึกสมาธิอย่างอ่อนๆ เช่น เล่นกีฬาอย่างต่อเนื่องมาหลายๆ ชาติ เราก็จะมีความสามารถพิเศษด้านกีฬา เหนือว่า ผู้ที่ไม่เคยฝึก
ยิงปืนมาหลายชาติ ก็จะมีความสามารถพิเศษด้านยิงปืน
ฟังแม่บ่นมาหลายชาติ ก็จะมีความสามารถพิเศษในการฟัง เป็นต้น
แต่สมาธิที่นำไปใช้ในทางที่ผิด ท่านเรียกว่า มิจฉาสมาธิ ความเห็นผมคือ เป็นบุญปนบาป (คล้ายๆ ฆ่าไก่ไปทำบุญ) คือ มือปืน ทำบ่อยๆ ก็เกิดความสามารถพิเศษด้านการยิงปืน แต่การฆ่าคน ก็ต้องไปอบาย เกิดใหม่ก็จะอายุสั้น ต้องตายด้วยภัยต่างๆ เป็นต้น
ก็เลือกเอานะครับ ระหว่างบุญล้วนๆ หรือ บุญปนบาป หรือ ฝึกความสามารถพิิเศษด้านที่ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตเจริญขึ้นมาแต่อย่างใด แม้ไม่บาป แต่ก็จะเปลืองบุญไปเรื่อยๆ เช่น ผมเคยฝึก หมุนปากกา จนคล่อง เมื่อมาศึกษาพระพุทธศาสนา แม้รู้ว่า มันเป็นสมาธิ(อย่างอ่อนๆ) แต่ก็เลิก เพราะไม่เห็นว่า มันไม่ได้ช่วยอะไร แค่ให้หมุนปากกาเก่งขึ้น เท่านั้นเอง
#8
โพสต์เมื่อ 27 September 2008 - 02:24 PM
ผมก็เลยมีคำถามมั่งอ่ะ..
1. นั่งอ่าน บทความกระทู้ของคุณสาครด้วยใจจรดจ่อ เพราะเกรงว่าถ้าอ่านพลาด ก็ตอบผิด (มีสมาธิ)
2. ขณะอ่านไป ใจก็คิดหาคำตอบไป พออ่านจบ แต่ใจยัง searching.. ไม่เสร็จเลย (จะมีสมาธิไหมเนี่ย?)
3. หลัง searching..ได้คำตอบแล้ว แต่มีมากกว่า 1 คำตอบ (ที่ต้องการ) ก็เกิดกังวลใจว่า อันไหนดีหว่า? (สมาธิเริ่มฟุ้งซ่าน)
4. สุดท้าย เลือกคำตอบ (ที่คิดว่าดีที่สุด) กำลังจะพิมพ์ตอบคุณสาคร (อยู่แล้วเชียว) คำตอบของคุณหัดฝัน (ดัน) โผล่พรวด (พราด) ขึ้นมาเต็มหน้าจอ..ตกใจเหมือนมีใครมาจี้สะดือตัวเอง..(สมาธิเตลิดเข้าป่าไป..)
5. บอกกับตัวเอง นี่แหล่ะคำตอบคุณหัดฝัน คือเป็นอะไรที่..ใช่เลย..yes yes!!..yahooooo..(เลยลืมหมดเลย สมาธ๊ง สมาธิ..)
..............................................................................................................................................
แฮ่ะ..แฮ่ะ..ก็มีแซวกันบ่ง กันบ้าง เป็นธรรมดง ธรรมด๊า ธรรมดา เน๊าะ เน๊าะ..
ไม่ว่ากานนนน้า..
สาธุ..
#9
โพสต์เมื่อ 27 September 2008 - 05:24 PM
แหม...ตีแผ่กระบวนการได้ เหลือร้าย
จริงๆ ตัวเองก็เคยเจอแบบเดียวกับคุณ homer324 นะคะ อิอิอิ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#10
โพสต์เมื่อ 27 September 2008 - 05:24 PM
#11
โพสต์เมื่อ 28 September 2008 - 08:41 AM
แต่ละคำถามดูเศร้า และเหมือนอยากประชดตัวเองรึเปล่าคะ
นั่งสมาธิแยะ ๆ มาวัด เข้าวิหารหลวงปู่เลยดีกว่า
ช่วงนี้เปิดทุกวันเลย
เมื่อวาน (เสาร์ 27.9.08) ก็ไปนั่งมา 2.20 ชั่วโมง และเข้าโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันด้วย
เอาบุญมาฝากนะคะ
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ
ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย
#12
โพสต์เมื่อ 28 September 2008 - 09:53 AM
ช่วงนี้คำถามของผมก็ ปนๆกันไปครับ มีสาระบ้าง ธรรมะบันเทิงบ้าง
จะได้ไม่เครียดครับ
#13
โพสต์เมื่อ 29 September 2008 - 01:13 PM