หยุดใจเป็นบุญยังใง ในเมื่อไม่ได้ทำอะไรเลย
#1
โพสต์เมื่อ 28 December 2007 - 10:46 PM
ถ้างั้นไม่หยุดใจก็เป็นบาปหรืออย่างไร
ข้าพเจ้าหลง ผู้เห็นทาง ผ่านแล้ว ช่วยชี้ทางนี้ด้วย
ขอบคุณ
#2
โพสต์เมื่อ 28 December 2007 - 10:50 PM
แล้วถ้าใจไม่หยุด จะเป็น บาป หรือไม่
ข้าพเจ้าต้องการศึกษาเรื่องนี้ให้รู้ชัดนะครับ
จะได้ลงมือปฏิบัติอย่างไม่ลังเลสงสัยครับ
#3
โพสต์เมื่อ 28 December 2007 - 11:17 PM
หยุดใจทำไมถึงได้บุญ
ถ้าหยุดใจในความหมายแค่ว่าอยู่เฉย ๆ ไม่ทำความดี ไม่ทำความชั่ว อันนั้นก็คงไม่ได้บุญหรอกครับ (สังเกตจากคนขี้เกียจสิครับ นอนทั้งวันไม่ทำอะไร กินแล้วก็นอน เพราะกลัวไปทำบาป ก็เลยอยู่เหมือนคนกลาง ๆ
แต่ถ้าหยุดใจในความหมายของสมาธิ จะเห็นชัดเลยว่าได้บุญแน่นอน เพราะเมื่อคิดจะหยุดใจ ใจก็จะหยุด หยุดที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด (กลางท้องก็ยังดี) จะได้บุญเพราะหยุดใจก็แสดงว่าใจเริ่มมีความละมุน เริ่มสว่าง สะอาด บริสุทธิ์ที่ละเล็กละน้อย เหมือนพุทธพจน์ที่ว่า เมื่อจิตผ่องใส ไม่เศร้าหมอง สุคติเป็นที่ไป หากยิ่งหยุดใจได้จนถึงดวงธรรมะภายในก็ยิ่งได้บุญยิ่งขึ้น หรือพูดง่าย ๆ การหยุดใจก็การสวนกระแสกิเลส พยายามสู้กับกิเลส จากหยาบไปจนกิเลสที่ละเอียดขึ้นไปเรื่อย ๆ
ส่วนถ้าใจไม่หยุด ก็จะบาปในความหมายที่ตรงข้ามกับหยุดใจนั้นแหละครับ
#4
โพสต์เมื่อ 28 December 2007 - 11:52 PM
"การรักษาใจให้ใส ให้สะอาดบริสุทธิ ก็เพื่อไม่ให้กระแสบาปเข้ามาปนเป็นได้ การฝึกใจให้หยุดนิ่งจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะเมื่อใจของเราใสบริสุทธิ กระแสบุญก็จะเพิ่มพูนทับทวีขึ้น ดังนั้น การสั่งสมบุญ และการทำใจไห้หยุดนิ่ง จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำควบคู่กันไป"
ปล.ได้ฟังประโยคนี้จากเสียงรอสายของผู้มีบุญค่ะ ขอกราบอนุโมทนาบุญไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ สาธุค่ะ
#5
โพสต์เมื่อ 28 December 2007 - 11:54 PM
"การรักษาใจให้ใส ให้สะอาดบริสุทธิ ก็เพื่อไม่ให้กระแสบาปเข้ามาปนเป็นได้ การฝึกใจให้หยุดนิ่งจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะเมื่อใจของเราใสบริสุทธิ กระแสบุญก็จะเพิ่มพูนทับทวีขึ้น ดังนั้น การสั่งสมบุญ และการทำใจไห้หยุดนิ่ง จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำควบคู่กันไป"
ปล.ได้ฟังประโยคนี้จากเสียงรอสายของผู้มีบุญค่ะ ขอกราบอนุโมทนาบุญไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ สาธุค่ะ
#6
โพสต์เมื่อ 29 December 2007 - 03:46 AM
เราเปลี่ยนใจดวงใหม่ไม่ได้ ก็มีแต่ต้องนำใจดวงนี้มาแก้ไข ระหว่างใจทำงานเราอาจจะหยอดน้ำมันได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ ๆ ก็ต้องหยุดใจก่อนครับ
#7
โพสต์เมื่อ 29 December 2007 - 09:33 AM
#8
โพสต์เมื่อ 29 December 2007 - 09:36 AM
#9
โพสต์เมื่อ 29 December 2007 - 09:36 AM
เป็นคำถามที่ดีนะครับ ผมขอตอบสั้นๆแต่อาจจะไม่ทั้งหมดนะครับ บุญในพระพุทธศาสนาที่ปรากฏอยู่ในบาลีที่หลักๆเห็นชัดๆมีอยู่สามอย่างนะครับ คือปุญญกิริยาวัตถุ ๓ ประการนี้ ๓ ประการเป็นไฉน คือ ทานมัยปุญญกิริยาวัตถุ ๑ ศีลมัยปุญญกิริยาวัตถุ ๑ ภาวนามัยปุญญกิริยาวัตถุ ๑ การหยุดใจเป็นส่วนที่เรียกว่า ภาวนามัยปุญญกิริยาวัตถุ ครับ เมื่อทำแล้วบุญจะเกิดขึ้นครับ ส่วนรายละเอียดของการทำภาวนาเป็นอย่างไรก็มีมากมายในพระไตรปิฎกนะครับ แต่บุคคลที่รู้ช่ำชองในบาลีในพระไตรปิฏกและมีประสบการณ์ในการปฏิบัติมาก่อนอย่างหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านสรุปมาคือ "หยุดเป็นตัวสำเร็จ" แต่อย่างว่าแหละครับ ความหมายทางตัวอักษรกับความรู้สึกจริงๆมันก็มีความแตกต่างกันอยู่ แต่ถ้าเราลองดูเมื่อถึงจุดนั้นเราก็จะเข้าใจได้ง่ายไม่ต้องอธิบายมากครับ ตัวอย่างที่เห็นปัจจุบันที่มีคนทำได้ก็มีอยู่นะครับเช่นประสบการณ์ในการทำสมาธิภาวนาของบุคคลต่างๆตามลิงค์นี้นะครับ http://www.dmc.tv/ar...meditation.html
ปุญญกิริยาวัตถุสูตร http://www.84000.org.../...4992&Z=5046
ยินดีด้วยสำหรับการเริ่มต้นที่ดี ที่จะลองดูนะครับ
#10
โพสต์เมื่อ 30 December 2007 - 01:01 PM
#11
โพสต์เมื่อ 31 December 2007 - 12:42 PM
- จะหยุดได้ก็ต้อง"จริง"
- อิทธิบาท4
#12
โพสต์เมื่อ 02 January 2008 - 01:03 AM
#13
โพสต์เมื่อ 02 January 2008 - 07:09 AM
รวมแสงได้ประกายไฟ ก็เกิดได้ เช่นเดียวกันกับการหยุดใจ รวมใจได้ด้วยสมาธิที่เป็นสัมมาสมาธิ
ใจจะมีอนุภาพมาก เหมาะและคู่ควรกับ การงาน ต้องอาศัยปฏิบัติเยอะฟังจากครูบาอาจารย์เยอะๆ
คำถามเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับคุณเลยนะคะ ลงมือปฏิบัติธรรมเยอะๆ ความลังเลสงสัย คือนิวรณ์ธรรม
เข้าถึงธรรมยากนะคะ
#14 *YTTRA*
โพสต์เมื่อ 02 January 2008 - 12:50 PM
เพราะฉนั้นเราจึงได้บุญจากการนั่งสมาธิด้วยใจที่หยุดนิ่ง
#15
โพสต์เมื่อ 04 January 2008 - 11:11 AM
เพราะ ๐๗๒ เป็นประตูสู่อายตนะนิพพานซึ่งเป็นแหล่งผลิตบุญ