บุญส่งผล "อนันต์ อัศวโภคิน คว้าแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย"
#1
โพสต์เมื่อ 15 December 2008 - 06:06 PM
สำหรับผลการจัดอันดับ ปรากฏว่า แชมป์เศรษฐีหุ้นประจำปี 2551 ได้แก่
นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) สร้างสถิติใหม่ด้วยการรักษาตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไว้ได้อีกครั้งเป็นปีที่ 6 โดยถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดรวม 14,657.45 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ร้อยละ 23.98 มูลค่า 14,633.23 ล้านบาท และ บมจ.แมนดารินโฮเต็ลร้อยละ 1.67 มูลค่า 4.21 ล้านบาท
อันดับ 2 ยังเป็นของนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ผู้บริหารบ มจ.พฤกษาเรียลเอสเตท ซึ่งครองตำแหน่งติดต่อกัน 3 ปี โดยปีนี้ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 9,599.16 ล้านบาท จากการถือหุ้นพฤกษาฯในสัดส่วนร้อยละ 61.85 ลดลง 1,554.79 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.94 เนื่องจากราคาหุ้นพฤกษาฯลดลงร้อยละ 13.93
อันดับ 3 นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้บริหารสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ถือหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ ร้อยละ 13.55 และ บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช ร้อยละ 0.79 รวมมูลค่า 5,111.20 ล้านบาท ลดลง 1,167.80 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.60 เศรษฐีหุ้น
อันดับ 4 ได้แก่ นายประวิทย์ มาลีนนท์ ผู้บริหารบีอีซีเวิลด์ถือหุ้น บมจ.บีอีซี เวิลด์ร้อยละ 11.42 มูลค่ารวม 4,864.92 ล้านบาท ลดลง 433.96 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.19
อันดับ 5 ได้แก่ นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ผู้บริหารโอสถสภา รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครองทั้งสิ้น 4,372.48 ล้านบาท ลดลง 901.70 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.10
ส่วนตระกูลมาลีนนท์ครองอันดับ 1 ของตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยได้อีกครั้งในปีนี้ โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 24,426.93 ล้านบาท ลดลง 2,045.23 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.73 ซึ่งหุ้นที่ตระกูลมาลีนนท์ถือครอง ได้แก่ ถือหุ้น บมจ.บีอีซี เวิล์ด บมจ.ศิครินทร์ บมจ.ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์และบมจ.ไอที ซิตี้
ส่วนตระกูลอัศวโภคิน ยังคงรักษาอันดับ 2 ไว้อีกปีหนึ่ง จากการถือหุ้นของธุรกิจในตระกูล ได้แก่ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ และ บมจ.เอพี พร๊อพเพอร์ตี้ รวมมูลค่าหุ้นที่ตระกูลอัศวโภคินถือครองทั้งสิ้น 17,684.70 ล้านบาท ลดลง 156.17 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.88
อันดับ 3 เป็นของตระกูลวิจิตรพงศ์พันธุ์ เจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรรแบรนด์ "พฤกษา" รวมมูลค่า 11,409.66 ล้านบาท ลดลง 1,848.04 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.94
ส่วนตระกูลจิราธิวัฒน์ แห่งเซ็นทรัล ถือหุ้นรวมมูลค่า 10,916.73 ล้านบาท ลดลง 5,174.62 ล้านบาท หรือร้อยละ 32.16
และอันดับ 5 เป็นของตระกูลปราสาททองโอสถ ด้วยมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 6,624.74 ล้านบาท ลดลง 1,192.89 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.26
ส่วนตระกูลชินวัตรของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ตกลงมาหนึ่งอันดับจากอันดับ 47 มาอยู่อันดับ 48 ในปีนี้ โดยมูลค่าหุ้นลดลงเหลือ 1,369.31 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.98
"รักษา อารมณ์ดี + อารมณ์เดียว + อารมณ์สบาย ทั้งวัน "
#2
โพสต์เมื่อ 15 December 2008 - 09:00 PM
#3
โพสต์เมื่อ 15 December 2008 - 10:50 PM
#4
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 08:23 AM
#5
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 11:14 AM
#6
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 01:16 PM
#7
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 10:09 AM
#8
โพสต์เมื่อ 18 December 2008 - 08:41 AM
#9
โพสต์เมื่อ 18 December 2008 - 09:12 AM
#10
โพสต์เมื่อ 21 December 2008 - 02:01 PM
#11
โพสต์เมื่อ 22 December 2008 - 12:17 AM
#12
โพสต์เมื่อ 22 December 2008 - 07:47 PM
#13
โพสต์เมื่อ 22 December 2008 - 09:06 PM
ยิ่งทำบุญมาก ยิ่งรวยมากๆ
#14
โพสต์เมื่อ 26 December 2008 - 05:29 PM
#15 *ศุภการ*
โพสต์เมื่อ 27 June 2011 - 04:11 PM
การที่กระผมเขียนมาถึงท่านก็ใครอยากจะขอความกรุณาจากท่าน ได้โปรดพิจารณาเรื่องราวของกระผมก่อนแล้วค่อยพิจารณาว่าจะช่วยเหลือหรือไม่ตามความเหมาะสมครับ
เนื่องด้วยกระผมเป็นลูกคนโต มีน้องอีก 2 คน และมีพ่อแม่ที่ต้องตอบแทนบุญคุณท่านอีก(ปัจจุบันพ่ออายุ 64 แม่ 60 ) ครอบครัวของผมลำบากมาแต่เล็ก (จนที่สุดในหมู่บ้าน) แต่ด้วยผมผ่านการอบรมสั่งสอนที่ดีจากคุณพ่อและคุณแม่ตลอดมาจึงทำให้ผมและน้องๆ ยึดมั่นอยู่ในความดี และเป็นตัวอย่างที่ดีแก่คนในหมู่บ้านและโรงเรียน ใครก็ชมว่าพ่อแม่เลี้ยงลูกได้ดี เป็นคนดีทุกคน จนมีคนเอาลูกมาฝากให้แม่ผมเลี้ยงให้ ท่านเชื่อมั้ยครับตัวผมเองก็ตั้งตนอยู่ในคุณความดีเรื่อยมา ตั้งใจเรียน โดยไม่เคยออกนอกลู่ทาง ตั้งใจเรียนจนสามารถสอบเข้าไปเรียนที่โรงเรียนนายสิบทหารบก จบมารับราชการทหารดังกล่าว ทำความภูมิใจให้กับพ่อแม่จนสำเร็จเป็นที่เชิดหน้าชูตาของพ่อแม่และวงศ์ตระกูล ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้ดีครับ ท่านเชื่อมั้ยครับผมรับเงินเดือนเริ่มแรกประมาณ 7000 กว่าบาท แต่ผ่านมา 8 ปี ผมรับเงินเดือน 14000 ได้ส่งให้พ่อแม่ใช้เดือนล่ะไม่ถึง 2000 บาท เพราะค่าใช้จ่ายเริ่มเยอะขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ เริ่มหมุนเงินไม่ทัน มีการกู้เงินนอกระบบมาใช้ รวมทั้งหนี้ในระบบราชการด้วย ล่าสุดกระผมได้กู้เงินในระบบราชการมา 800,000 บาท ใช้หนี้นอกระบบและหนี้ในระบบประมาณ 100,000 บาท และนำไปให้พ่อแม่สร้างบ้าน 200,000 บาท และ นำมาซื้อข้าวของในบ้าน และให้น้องสาวและน้องชายคนล่ะ 50,000 บาท และตั้งใจว่า จะเก็บไว้เป็นค่าสินสอด 200,000 บาท และ ทองหมั้นอีก ประมาณ 200,000 บาท และมีกำหนดแต่งงานเดือน ก.ค.54 นี้ แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นครับท่าน ด้วยความที่กระผมอยากนำเงินไปบริหารเพื่อให้เกิดดอกผล แต่ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการทำธุรกิจ ได้นำไปลงทุนในธุรกิจตัวนึงกับเพื่อน ลงไปประมาณ 200,000 บาท ปรากฏว่าธุรกิจล้มไม่เป็นท่าครับ หมดเงินไป 200,000 กว่า หมดสิ้นทุกอย่างเลยครับท่าน แต่ผมก็ยังไม่ยอมแพ้ครับท่านได้ไปทำธุรกิจอีกตัวนึง ซึ่งตอนนี้ก็กำลังเริ่มดีขึ้นครับ แต่ก็ยังไม่เห็นผลมากมาย แต่อนาคตดีแน่นอนครับ แต่ก็ต้องใช้เวลานิดนึงครับ แล้วนี่ก็จะถึงเดือน ก.ค.54 แล้วครับ กระผมยังหาเงิน 200,000 บาท ยังไม่ได้เลยครับ กระผมกลุ้มใจมากๆ เลยครับ ไม่รู้จะทำยังยังไง ผมรักผู้หญิงคนนี้มากครับ เธอเป็นคนดี แต่ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีเท่าไรผมก็อยากช่วยเธอด้วย และที่สำคัญคือช่วยตัวผมเองให้มีค่าสินสอดนั่นแหล่ะครับ ที่จริงแล้วกระผมก็คิดอยู่นานเหมือนกันครับว่าจะเขียนมาถึงท่านดีหรือไม่ แต่ด้วยไม่มีทางออกอื่นแล้วครับ จึงได้เขียนมาเพื่อขอความกรุณาจากท่านด้วยเห็นว่าท่านเป็นมหาเศรษฐีและเป็นคนที่ใจบุญสนทาน เงินเพียงน้อยนิดนี้คงไม่เป็นปัญหาสำหรับท่านเท่าไร เพียงที่จะช่วยกรุณาให้คนดีๆ คนนึงได้มีโอกาสที่จะสร้างอนาคตของตัวเขาเอง ได้มีโอกาสที่จะสร้างครอบครัวที่มีความสุข เป็นพื้นฐานที่ดีของสังคม จะได้สร้างคนดีเข้าสู่สังคมไทย หากแม้นว่าท่านจะกรุณาเสียสละ เงินก้อนนี้หรือให้ข้าพเจ้ากู้ยืมจากท่านก็ได้ เมื่อกระผมทำธุรกิจสำเร็จแล้วกระมจะได้รีบนำเงินนั้นไปคืนท่านให้เร็วที่สุด
ควรมิควรแล้วแต่จะกรุณาครับ
จ.ส.อ.ศุภการ มยุโรวาส
ป.พัน.103 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา 30000
โทรศัพท์ 084-8274553 (ชา)
ปล. กระผมต้องกราบขออภัยที่ได้เขียนมารบกวนท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความกรุณาจากท่านครับ