ประวัติชีวิต เจ้าของเนเจอร์กิฟ
พลิกชีวิต..เพราะซื้อที่ถวายวัด
ผม ดร.เค หรือ ดร.กฤษฎา จ่างใจมนต์ อดีตเด็กสลัม ผู้สร้างตำนานกาแฟเนเจอร์กิฟ กาแฟบำรุงสุขภาพอันดับ 1 ครับ
✔..ว่าไปแล้ว...อดีตชีวิตของผมใครๆ ก็รู้ครับว่า..ยากจนและลำบากมาก เพราะผมจนหนักมากถึงขนาดสมาชิกในครอบครัวทั้ง 8 คนต้องอยู่กันอย่างแออัดในสลัม บนพื้นที่เพียง 12 ตารางเมตรเท่านั้น
✔อีกทั้งยังต้องวิ่งขายเรียงเบอร์ ขายขนมตั้งแต่ตัวเล็กๆ ระหว่างเรียนก็ไม่มีเงิน แต่ได้รับทุนเรียนดี และอาศัยรายได้จากการช่วยอาจารย์ทำวิจัยสมัยที่ผมเรียนวิศวะจุฬาฯ ซึ่งผมต้องกะเบียดกะเสียนทุกอย่างถึงขนาดกินน้ำก๊อก ไม่เคยกินนม หรือขนมเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ เลย
✔พอผมเรียนจบ ก็มาทำงานเป็นลูกจ้างได้เงินเดือนแค่ 1,550 บาท ซึ่งเงินก้อนนี้ต้องใช้เลี้ยงคนทั้งบ้าน จนผมรู้สึกเข็ดขยาดกับความจนเหลือเกิน แต่ก็ไม่เคยยอมแพ้ แถมยังคิดเสมอว่า..พรุ่งนี้เราจะดีขึ้น..เราต้องดีขึ้นกว่าเดิม
✔จากนั้นก็ตัดสินใจออกมาทำกิจการเอง เพราะถ้าไม่ทำเอง ก็คงจนไปตลอดชาติ ด้วยเหตุนี้ ผมจึงลาออกมาทำธุรกิจเองหลายอย่าง แต่ทำอะไรก็เจ้งหมดเลยครับ แถมติดหนี้ติดสินหนักกว่าเดิม
✔จนปี 2526 มีเพื่อนคนหนึ่ง มาชวนผมทำบุญซื้อที่ดินวัดพระธรรมกายตารางวาละ 62.50 บาท แต่ด้วยความที่ผมจน เขาเลยเกรงใจถามผมว่า.. จะทำบุญสัก 1 ตารางวาไหม.?
✔แต่เพราะความจน ผมจึงคิดว่า..ตอนอยู่สลัมก็ยังต้องเช่าที่แค่รูหนูอยู่ แม้ปัจจุบันทำงานแล้ว..ก็ยังต้องเช่าตึกแถวเก่าๆ อยู่อย่างแออัด ด้วยเหตุนี้...อย่ากระนั้นเลย... ดร.สลัม อย่างผมขอทุ่มทำบุญเทกระเป๋าทำบุญซื้อที่ดินถวายวัดที่ 110 ตารางวา !!! ซึ่งผมปลื้มมากเลยครับ เพราะเป็นการทำบุญใหญ่ครั้งแรกอย่างสุดกำลัง
✔หลังจากทำบุญนี้เสร็จธุรกิจเครื่องฟอกอากาศที่ผมทำอยู่ตอนนั้น ก็เกิดเป็นอะไรก็ไม่ทราบครับ คือ มียอดขายพุ่งปรี๊ดสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย จนผมพลิกชีวิตมีเงินซื้อทาวน์เฮ้าส์เป็นของตัวเองหลักแรกในชีวิต จากนั้นก็มีเงินซื้อบ้านเดี่ยวติดริมทะเลสาบ 236 ตารางวา มีเงินซื้อที่ดินในสนามกอล์ฟ 2 แห่งกว่า 5 ไร่ และได้ที่ดินสร้างโรงงานผลิตเครื่องฟอกอากาศได้อีก 224 ตารางวา และมากไปกว่านั้นยังซื้อที่ดินที่ลพบุรีได้อีก 500 ไร่
✔ทรัพย์สินตรงนี้...ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่า..เกิดจากการทำบุญซื้อที่ดินถวายวัดอย่างสุดกำลังจริงๆ และที่ผมเอาโนฮาวน์ตรงนี้มาบอกก็เพราะว่า..ผมไม่อยากให้ทุกคนพลาดบุญใหญ่ที่กำลังมาถึง คือ บุญจากการซื้อที่ดิน และบุญตอกเสาเข็มถวาย เพื่อสร้างอนุสรณ์สถานของหลวงปู่องค์ที่ 8 เพราะทำที่ท่าน สุดท้ายก็ได้ที่เรา อย่างที่ผมประสบมาแล้ว
✔แต่ต่อมาด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ผมก็ขาดการมาวัด ขาดทำบุญใหญ่อย่างต่อเนื่อง เลยทำให้ผมประสบปัญหาในธุรกิจจนติดหนี้ท่วมหัวไปถึง 55 ล้านบาท
✔จนกระทั่งปี 2548 ผมจึงตัดสินใจทำบุญใหญ่กับวัดอีกครั้ง โดยการถวายที่ดินที่ลพบุรีจำนวน 555 ไร่ ให้กับวัดใช้สร้างศูนย์อบรมเยาวชนลพบุรี ทั้งๆ ที่ความจริงตอนนั้นหากผมเอาที่ดินที่ลพบุรีนี้ไปขาย ก็จะได้ประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งนอกจากใช้หนี้ได้หมดแล้ว ยังมีเงินเหลือมาทำธุรกิจกาแฟอย่าเหลือเฟือ แต่ผมกลับตัดสินใจเอาที่ดินตรงนี้มาสร้างมหากุศลอันยิ่งใหญ่ให้กับตัวเองก่อน
✔ซึ่งหลังจากถวายที่ดินเสร็จเพียงเดือนเดียว ธุรกิจกาแฟที่กำลังจะเจ๊ง กลับรวยรุ่งพุ่งแรงขายดีจนสามารถเปิดโรงงาน DK1 แห่งแรกเพื่อผลิตกาแฟเพื่อให้ทันต่อความต้องการของตลาด และมีเงินใช้หนี้ธนาคารหมดก่อนกำหนดแบบทันควัน
✔ซึ่งนับจากนั้นผมและครอบครัวก็ไม่ประมาทกันอีกเลยครับ คือ หมั่นสั่งสมบุญทุกบุญ และไม่ขาดการมาวัดเลย ซึ่งก็ปรากฏว่า..ผมกลับรวยเอาๆ
✔เพราะจากเดิมที่ผมไม่มีที่จะอยู่ ต้องขอเช่าที่แคบๆ แค่ 12 ตารางเมตรอยู่ในสลัม แต่ด้วยผลบุญจากการถวายที่ดิน ทำให้ผมมีบ้านที่มีพื้นที่กว้างถึง 1,200 ตารางเมตร มีสวนดอกไม้และต้นไม้ล้อมรอบ 7 ไร่ จากนั้นก็มีโรงงานผุดขึ้นอีกทั้งหมด 3 โรง
✔แม้ปีนี้ เศรษฐกิจจะย่ำแย่มากๆ ผมจึงคิดว่า..ต้องสู้วิกฤติด้วยบุญ คือ พอผมทราบว่าที่วัดจะซื้อที่ดินและตอกเสาเข็มสร้างอนุสรณ์สถานหลวงปู่องค์ที่ 8 ผมจึงไม่รอช้ารีบตัดสินใจทุ่มทำบุญอย่างเต็มที่เต็มกำลังที่ 5 M ทันที
✔ซึ่งด้วยผลบุญนี้ ก็ทำให้ธุรกิจผมดีวันดีคืน จนผลิตสินค้าไม่ทัน แถมสวนกระแสมีผลิตภัณฑ์น้องใหม่ออกมา คือ เครื่องดื่มรสส้ม และรสมะนาวที่กินแล้วไม่อ้วน แถมยังมีวิตามินและเกลือแร่สูงถึง 16 ชนิด
✔สุดท้ายนี้ ผมก็อยากชวนทุกคนมาทำบุญซื้อที่ดินและตอกเสาเข็มสร้างอนุสรณ์สถานหลวงปู่องค์ที่ 8 กันครับ...