โอวาทของหลวงปู่
#1
โพสต์เมื่อ 30 September 2010 - 03:48 AM
โอวาทของหลวงปู่ (โอวาทเนื่องในวาระวันคล้ายวันเกิด พ.ศ. ๒๔๙๕/ 1952)
ผู้เทศน์เกิดวันศุกร์ ปีวอก บวชมา๕๐ พรรษา ค้นคว้าธรรมะเรื่อยมา การออกธุดงค์ ใจเป็นมรรคผล
สงบสมาธิ เป็นทางรู้ว่าเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นปัญญา(ไม่ใช่ธรรม) ดวงธรรมที่ทำให้เป็นพุทธรัตนะ
ผู้เทศน์รู้จักเกือบ ๕๐ ปี(ตำราไม่มี) โดยการค้นคว้าทางปฎิบัติ ดีที่สุดคือพระพุทธเจ้า ชั่วที่สุดคือมาร
ผู้เทศน์มารู้ตัวเมื่อบวชแล้ว ว่าต้นธาตุใช้ให้จุติมาเกิดเพื่อปราบมาร (ไม่ให้เจ็บ ไม่ให้แก่ ไม่ให้ตาย)
ถ้ามารไม่แพ้ ผู้เทศน์ยอมตายอยู่วัดปากน้ำ มารปล่อยสายมาปกครองมนุษย์ มนุษย์ตกเป็นบ่าวเป็นทาส
ของโลภะ โทสะ โมหะ (ผลคือความเสียหาย) มีแก่ มีเจ็บ มีตาย เช่นสงครามที่แล้วมาเกิดจากโลภะ
คือ ความโลภเป็นเหตุให้คนเจ็บ คนตาย ลูกชายหญิงมีความหลง โมหะ ว่าตัวเก่งแล้ว พ่อแม่ว่าไม่ได้
มีโทสะ โมหะ โต้เถียง ไม่กลัวเกรง ที่เป็นเช่นนี้เพราะนายโลภะ โทสะ โมหะ เขาปกครอง เขาสั่งให้ทำเช่นนั้น
เอาบ้านเมืองมาล่อ เอาความเจ็บ ความตายมาให้ ปราบมารเหล่านี้เสียได้ มนุษย์จะได้อยู่เป็นสุข เจ้า
ตัวมารเหมือนผีเที่ยวเข้าสิงบังคับให้เป็นไปตามคำสั่งของเขา เราต้องเข้าวิชชาธรรมกายจึงรู้ เห็นหมด
เพราะธาตุธรรมไม่เหมือนกัน
วัดปากน้ำช่วยเหลือแก้คนป่วยไข้ ให้หาย ไม่ต้องกินยา มารมันยอมให้คนไข้หาย แต่มันไม่ยอมแพ้ มันแพ้
หลอก ๆ (ตามวิสัยของมาร) มนุษย์ชายหญิงเป็นพระก็มาก เป็นมารก็มาก เป็นธรรมกายดูเป็น รักษาตัวได้
เราจับสายธรรมะเสีย เขาก็ไม่รบกัน เก็บสมบัติให้หมด เก็บอาวุธให้หมดตามจุด เขาก็ไม่รบกัน
(จับหรือเก็บในที่นี้หมายความว่าเก็บในทางปฎิบัติธรรม) กวดกันอย่างนี้ ๒๕ ปีแล้ว แยกพระ แยกมาร
ไม่ให้ปนกัน ไม่ให้กระทบกัน ต่างฝายต่างเป็นสุข (เหมือนรัฐกระทบกันในมนุษย์โลก) จะให้สัญญาไม่รังแก
กัน ถ้าไม่ยอมก็เก็บฤทธิ์เสีย ที่ไม่ตกลงกันเพราะเขาลองฤทธิ์กัน ผู้เทศน์ปล่อยชีวิต (ยอมตายถวายชีวิต
แด่พระพุทธเจ้า) ถึง ๒ คราว จึงได้พบ " ธรรมกาย" โคตรภู เท่ากับได้บวชข้างใน เป็นหญิงบวชใน
เป็นชายบวชข้างนอกเป็น ๒ ชั้น
ควมอยากเป็นเหตุให้เกิด เกิดเป็นผล หยาบดับได้ ดับเป็นชั้น ๆ ดับตั้งแต่กายมนุษย์หยาบจนถึง
ธรรมกาย ความเกิดเป็นของจริง จะได้เห็นดับ ดับนั้น เป็นนิโรธ นิโรธมีขึ้นได้ เพราะศีล สมาธิ ปัญญา
ดับหยาบไปหาละเอียดเป็นชั้น ๆ เข้าไป จนเป็นพระโสดา ตาดีก็เห็น ญาณดีก็รู้ มีบาลีรับรอง
พระพุทธเจ้าทั้งหลาย " ธรรมกาย" นั่นแหละเป็นผู้รักษาความสงบ
............................
ที่มา: หนังสือ ๑๒๔ ปี พระมงคลเทพมุนี ( วันศุกร์ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๑ คณะศิษยานุศิย์ได้จัดให้มีพิธีหล่อรูปเหมือน
ทองคำของหลวงปู่ ด้วยทองคำบริสุทธิ์ ขนาดเท่าครึ่ง)
...................................." ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ "......................................
การบูชาบุคคลที่ควรบูชา เป็นมงคลอันสูงสุด.........................>>>>> " หยุดเป็นตัวสำเร็จ " ๆ ๆ ๆ ๆ
10/10/10 เป็นวันอัญเชิญรูปเหมือนทองคำหลวงปู่ไปประดิษฐานที่บ้านเกิดหมายเลข๑ (กายเนื้อ) ไปร่วม
กันทำบุญใหญ่กันนะคะ วันอาทิตย์ที่๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๓ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ สาธุ ๆ ๆ
#2
โพสต์เมื่อ 30 September 2010 - 11:22 AM
อย่างแรง (ความจริง)
ยิ่งแรง ก็ยิ่งต้องระวัง
เพราะ ......
#3
โพสต์เมื่อ 30 September 2010 - 06:44 PM
#4
โพสต์เมื่อ 30 September 2010 - 07:26 PM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#5
โพสต์เมื่อ 01 October 2010 - 01:56 PM
#6
โพสต์เมื่อ 02 October 2010 - 11:04 PM
ไม่ใช่ของเก๊หรือของเทียม ธรรมกายจะปรากฏเป็นความจริงแก่ผู้เข้าถึงธรรม
เรื่องอย่างนี้เราไม่หวั่น เราเชื่อในคุณพระพุทธศาสนา"
#7
โพสต์เมื่อ 03 October 2010 - 04:28 AM
พระปราบมารผู้ถึงพร้อมด้วย ปริยัติ ปฎิบัติ และปฎิเวธ
เป็นต้นบุญ ต้นแบบที่ยิ่งใหญ่เกินจะพรรณนาได้ ......................