ฉิ่ง ฉาบ ขมิ้น ปูน ค้อน ตะปู พริก เกลือ
กราบแทบเท้าคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูงสุด
กระผมเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาชั้นปีที่ 3 ผมพร้อมครอบครัวเข้าวัดตั้งแต่ปลายปี 2536 ทันบุญหล่อทองหลวงปู่พอดี ได้เอาทองคำที่มีทั้งหมดในบ้านหนึ่งกอบ มาร่วมหล่อด้วย จากนั้นกระผมก็ได้มอบหน้าที่ให้ภรรยาทำหน้าที่เป็นผู้นำบุญ ภรรยาของผมจัดรถพาสาธุชนมาร่วมงานบุญใหญ่ทุกงาน สถิติสูงสุด 60 คันรถบัส ได้ทำบุญครั้งละ 1 S หลายครั้ง เช่น เสาค้ำฟ้าสภาธรรมกายสากล เสาค้ำโดมมหาธรรมกายเจดีย์ เสาเข็มมหาวิหารหลวงปู่ สร้างองค์พระภายนอกมหาธรรมกายเจดีย์ สร้างองค์พระบนโดม สร้างเสาแก้วพันปี บอกบุญองค์พระภายนอกได้เกือบ 200 องค์
และที่ภาคภูมิใจ ปลื้มใจมากก็คือ วันอยู่ธุดงค์ธรรมชัย ในวันที่พึ่งกลับจากวัด เวลา 3 ทุ่มกำลังจะเข้านอน ภรรยาของผมได้รับโทรศัพท์จากผู้ประสานงานว่า “ให้พาสาธุชนกลับเข้าวัดให้มากที่สุด...ด่วน ! ” ภรรยาผมรวมสาธุชนกลางดึกได้ร่วม 30 ชีวิต ออกเดินทางจากศรีสะเกษเที่ยงคืนวันนั้น และเป็นรถบัสต่างจังหวัดคันแรกที่เข้าถึงวัดพระธรรมกาย เวลา 10 โมงเช้า ภรรยาผมประกาศบนรถว่า “รู้ไหม วันนี้พวกเรามาทำอะไร” ทุกคนนิ่งมองตากัน เธอจึงพูดขึ้นว่า “วันนี้พวกเรารับบุญใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์เลยนะ เราจะไปปกป้องหลวงพ่อของเรา ปกป้องพระพุทธศาสนาไว้ให้ลูกหลาน จะให้ผู้บริสุทธิ์ถูกรังแก เรายอมไม่ได้ แม้จะต้องเอาร่างกายไปหนุนล้อรถข้าศึก เราก็ยอมใช่ไหม ?” ทุกคนในรถพนมมือท่วมหัว “สาธุ” พร้อมกัน ภรรยาของผมก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำบุญหลักของจังหวัดศรีสะเกษต่อเนื่องมาตลอดจนถึงปัจจุบัน กระผมกราบขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ฝันในฝันดังนี้ครับ
เตี่ยของผม มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ มีอาชีพทำขนมอบที่เก่งมาก ตัวโต แข็งแรง รูปหล่อ มาแต่งงานกับคุณแม่ของผมซึ่งเป็นคนจีนเหมือนกัน สร้างฐานะอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ขณะที่ลูกคนสุดท้อง อายุ 3 ขวบ คุณแม่ก็เสียชีวิตลง ด้วยโรคไตวาย เมื่ออายุ 49 ปี
ผมเองเป็นลูกคนโต มีน้องอีก 7 คน พอผมอายุได้ประมาณ 30 ปี ผมก็จากเตี่ยและน้องๆที่กรุงเทพฯ มาเปิดร้านเภสัชอยู่ที่ภาคอีสาน และแต่งงานมีครอบครัว เมื่อผมสร้างตัวได้จึงไปรับเตี่ยและน้อง ๆ อีก 7 คน ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีลงมา จนถึง 5 ขวบมาดูแล บ้านที่เคยเงียบสงบก็กลายเป็นสมรภูมิ ทั้งระหว่างพี่น้องกันเอง, พี่สะใภ้กับน้องสามี, เตี่ยกับลูกสะใภ้ ภรรยาของผมซึ่งเป็นคนอีสาน ถูกญาติพี่น้องของผมชี้หน้าด่าเป็นภาษาจีน และถูกจับกลุ่มนินทาทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งๆที่ภรรยาผมพยายามดูแลปรนนิบัติญาติฝ่ายของผมอย่างสุดความสามารถ ภรรยาผมเรียกทีมน้องๆ ผมว่า “ฉิ่ง ฉาบ ขมิ้น ปูน ค้อน ตะปู พริก เกลือ”
เตี่ยเองก็ไม่ชอบภรรยาของผม ดังนั้นภรรยาของผม จึงมักจะถูกเตี่ยด่าเป็นภาษาจีนที่เธอฟังไม่ออกอยู่เสมอ จนเธอกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ สื่อสารกันไม่ได้ เพราะเตี่ยพูดแต่ภาษาจีน ซึ่งเธอก็ฟังไม่รู้เรื่อง..แต่พวกหลานๆอย่างอาตี๋อาหมวยนั้นฟังออก...และรู้เรื่องว่าเตี๋ยหรือก๋งของหลานๆพูดว่าอะไร...
เมื่อเตี่ยอายุมากขึ้นได้ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม ช่วงที่เตี่ยป่วยหนัก ภรรยาผมเอารูปองค์พระธรรมกายภายนอก จารึกชื่อเตี่ยมาให้ท่านไหว้ เตี่ยก็ไหว้และยิ้มด้วย ก่อนตาย 1 สัปดาห์ เตี่ยมีเฮือกใหญ่ ๆ 2-3 ชุด ห่างกันหลายวัน จนกระทั่งเตี่ยเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 88 ปี
น้อง ๆ ทั้ง 7 คน ผมและภรรยาได้ส่งน้อง 2 คน ให้เรียนจนจบปริญญาตรี น้องอีก 1 คนจบ ปวส. ที่เหลือแยกย้ายกันไปหลังแต่งงาน ปัจจุบันยังเหลือน้องสาวคนที่ 3 ที่อยู่กับผมมา 32 ปีแล้ว ตอนนี้เธออายุ 55 ปี เธอมีแผงขายผ้าเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่หน้าบ้านผม มีอาการทางประสาท เป็นไม้เบื่อไม้เมากับภรรยาของผม ห้าปีแรกที่อยู่กับผม เธอก็ช่วยผมเปิดร้านขายยาและช่วยเลี้ยงหลาน หลังจากนั้นมาก็ไม่ได้ช่วยงานเลย อาศัย อยู่ กิน ใช้ ของในบ้าน กินข้าวหม้อเดียวกัน แต่กับข้าวต่างคนต่างทำ เธอมีวาจาหยาบกระด้าง ชวนทะเลาะ ชอบใช้กำลัง มีสายตาเป็นอาวุธ ไม่พูดจากัน แม้แต่กับตัวผม อยู่แบบต่างคนต่างอยู่ แต่เวลาป่วยหนักภรรยาผมจะเป็นธุระขนส่งไปโรงพยาบาล น้องคนนี้ไม่เคยไหว้พระ มีคนชักชวนให้ไปนับถือลัทธิหนึ่ง ซึ่งมีตายายแก่ๆ เป็นเจ้าของลัทธิ ไหว้มือเดียว ปัจจุบันเริ่มมีคนเชื่อและนับถือตามเป็นพันคน มีกิจวัตรคือกรวดน้ำเป็นถังๆ โดยใส่แป้งฝุ่นเย็นลงในถังจนน้ำขุ่น สวดมนต์และเป่าเทียนสลับกันไปเป็นชั่วโมง บางวันเธอจะกรวดน้ำอยู่บนขอบหน้าต่างบ้านชั้นสอง คำสวดฟังไม่ออก แต่เมื่อเห็นพี่สะใภ้หรือพนักงานเดินไปพบ คำสวดจะดังขึ้นมาก เป็นคำสาปแช่งให้ล่มจม หยาบคาย เหมือนอาฆาตพยาบาทมาข้ามชาติ ทำมาเกือบ 30 ปีแล้ว แต่ไม่มีใครใส่ใจ
น้าชายของผม (น้องของแม่) เป็นคนขยันอดทน สู้ชีวิต ทำงานทุกอย่าง แม้กระทั่งงานแบกหาม ปะยางรถสิบล้อ จนสร้างฐานะขึ้นมาได้ ปกติแข็งแรงมาตลอดไม่เคยเจ็บป่วยเลย จนอายุประมาณ 70 กว่า เกิดป่วยเข้าโรงพยาบาล หมอก็หาสาเหตุไม่พบ มีอาการเหมือนคนนอนหลับ ต้องให้น้ำเกลือตลอด รักษาลมหายใจได้ 5-6 เดือน ก็เสียชีวิต
กล่าวถึงผมและภรรยามีความแตกต่างกันมาก ภรรยาของผม เรียนจบวิทยาศาสตร์บัณฑิตทางพยาบาล เป็นคนชนบทอีสาน คุณพ่อเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ เธอถูกอบรมให้เป็นกุลสตรี นอบน้อม ยิ้มแย้ม ต้อนรับ ปรนนิบัติ อดทน ส่วนผมจบแค่ ม. 3 อยู่ในครอบครัวชาวจีน และอายุมากกว่าเธอถึง 8 ปี
ก่อนแต่งงานกัน คุณพ่อของเธอบอกเธอว่า “ลูกทั้ง 2 น่ะ มีความแตกต่างกันมาก ทั้งการศึกษา วัย วัฒนธรรม สังคม สิ่งแวดล้อมและทัศนคติเลยนะ ลูกคิดดีแล้วหรือ ?” เธอตอบว่า “ลูกตัดสินใจแล้ว แม้เขาจะพาไปกัดก้อนเกลือกินก็ยอมค่ะ” แต่ก้อนเกลือของเธอ หนักหนาสาหัสมากครับหลวงพ่อ
ผมกับภรรยานั้น ใคร ๆ ก็ว่า เป็น “คู่กัด” ปรึกษาหารือกันไม่ได้เลย เพราะคุยกันไม่เกิน 2 ประโยค , ผมว่าเธอดื้อ ชอบเถียง , เธอหาว่าผมเผด็จการ ไม่มีเหตุผล ไม่อดทนพอที่จะรับฟังเหตุผลของเธอ , แต่ผมว่า เมื่อผมสั่งให้ทำก็ไม่จำเป็นต้องอธิบาย ถ้าเธอยังอ้างเหตุผลอีก ผมถือว่าเถียง
ตอนกลางวันเธอหน้าระรื่นรับแขก ตอนกลางคืนนอนเป่าปี่ จนหมอนเปียก ผมเปียกบ่อยๆ เธออดทนมาก ไม่ยอมปริปากบ่นให้คนอื่นได้ยินเลย เพราะเธอพยายามเต็มที่ที่จะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคุณพ่อของเธอ และเธอบอกว่า “เพราะฉันมีลูกๆที่น่ารักทั้ง 3 คน หรอกนะ จึงอดทนมาได้ถึงวันนี้”
ปี 2538 ผมและภรรยาเริ่มทำมินิมาร์ท เริ่มแรกธุรกิจดีมาก ต่อมาถึงยุค IMF ธุรกิจเริ่มชะลอตัว ขณะนั้นมีหนี้กับธนาคาร 3 ล้านบาท ดอกเบี้ย 19.5 % ผมและภรรยาก็คิดหาวิธีที่จะทำเงินใช้หนี้ จึงค้าข้าวเปลือก ค้าหอมแดง ทั้งปลูกพริก ปลูกผักชี ทำนา ทำกาแฟสด ดองมะม่วงขาย แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งติด แถมมีหนี้กับน้องชายคนที่ 4 เพิ่มอีกเกือบ 2 ล้านบาท ปัจจุบันผมตกอยู่ในภาวะฝืนทน หาเงินจ่ายดอกเบี้ยธนาคาร ใจผมอยากทำบุญเหมือนเคย แต่ก็ทำได้อย่างจำกัดมากครับ เฝ้ารอเวลาว่าเมื่อใดหนอบุญจะส่งผลให้พ้นภาวะนี้ได้ แต่ก็ยังดีที่มี DMC ผมและภรรยานั่งเฝ้า DMC ทุกคืนที่มีถ่ายทอดสด เวลากลางวันก็ขายของไป ดู–ฟัง DMC ไปด้วย ยิ่งเดี๋ยวนี้มีภาพ Animation ดูไปหัวเราะไป โดยเฉพาะเพลงประกอบที่มีมาดอนเข้ กับ ไมเข้ แจ็คสั่น แม้จะได้ยินแต่เสียงภรรยาผมก็หัวเราะดังลั่นบ้าน เช่น เพลง “ทำไมถึงทำกับฉันได้” ฟังเสียงเพลงมันน่าเศร้า แต่เสียงโครมครามและภาพประกอบทำให้ขบขัน ทีมงานของคุณครูไม่ใหญ่ยอดเยี่ยมมากครับ ผมโชคดีที่ได้ภรรยาจูงมือผมมาพบหลวงพ่อ ยิ่งเมื่อได้ดู DMC แล้ว ความสงบสุขในบ้านก็เกิดขึ้นอย่างถาวรครับ
คำถามมีดังนี้ครับ
1. กรรมใดทำให้เตี่ยป่วยเป็นโรคความจำเสื่อมเรื้อรังเป็นเวลานาน , ก่อนตาย 1 สัปดาห์ เตี่ยมีเฮือกใหญ่ ๆ 2-3 ชุด ห่างกันหลายวัน เป็นเพราะเตี่ยยังห่วงอะไรอยู่หรือไม่ครับ หรือท่านอยากบอกอะไรลูก ๆหรือไม่, เตี่ยตายแล้วไปอยู่ที่ไหน ได้รับบุญที่ผมอุทิศให้หรือไม่ครับ
2. ช่วงที่เตี่ยป่วยหนักภรรยาผมเอารูปองค์พระธรรมกายภายนอก จารึกชื่อเตี่ยให้ท่านไหว้ เตี่ยไหว้และยิ้มด้วย ผลจากบุญนี้ช่วยท่านอย่างไรครับ, ขณะนี้ท่านเข้าใจลูกสะใภ้หรือยัง , เวรที่จองไว้กับลูกสะใภ้คนนี้สิ้นสุดหรือยังครับ , ชาติใหม่จะพบกันอีกหรือไม่ครับ (แต่ลูกสะใภ้อโหสิกรรมให้ท่านหมดแล้วครับ)
3. คุณแม่ของผม ขณะนี้ท่านอยู่ที่ภพภูมิใด ผมได้สร้างพระ
ธรรมกายประจำตัวอุทิศให้ มีผลกับท่านอย่างไรบ้างครับ
4. น้องสาวคนที่ 3 ของผม เธอมีกรรมอะไรจึงเป็นโรคประสาท , อดีตชาติเธอเคยเกี่ยวพันกับลัทธิที่เธอนับถืออยู่ในปัจจุบันอย่างไรครับ , เธอผูกเวรกันมาอย่างไรกับครอบครัวผม ถ้าภรรยาผมอโหสิกรรมให้ แต่เธอยังผูกพยาบาท จะมีผลกับเธอและภรรยาผมในชาติใหม่อย่างไรครับ
5. เหตุใดภรรยาผมจึงไม่เป็นที่รักของญาติๆทางสามี รวมถึงตัวผมอดีตชาติเคยเกี่ยวข้องกับเธอมาอย่างไร ทำไมชาตินี้จึงมาเป็น “คู่กัด” กัน , เคยมีไหมครับที่เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน แต่มาแต่งงานเพื่อชำระบัญชี โดยเฉพาะผมกับเธอใครชำระบัญชีใครครับ
6. ที่หลังของผมจะมีสิวเม็ดใหญ่ 2 เม็ด เป็น ๆ หาย ๆ ทุกเดือน ตั้งแต่หนุ่มจนถึงทุกวันนี้ และมักจะมีฝีขึ้นตามทวารบ้าง ที่หลังบ้าง ที่หลังจะเป็นบ่อย เป็นเพราะบุพกรรมใดครับ
7. เพราะเหตุใดน้าชาย ถึงต้องตายโดยที่หมอหาสาเหตุไม่พบ ตายแล้วไปไหน ลูกๆ ของท่านไม่ค่อยมีศรัทธาในพุทธศาสนา ทำอย่างไรจึงจะเปลี่ยนทิฐิลูก ๆ ของท่านได้ครับ ท่านมีข้อความฝากถึงลูก ๆ ของท่านไหมครับ
8. ลูกชายคนโตของผม ตอนเด็ก เป็นเด็กน่ารัก ฉลาด เรียนดี แต่พอเข้าเรียนชั้น ม. 1 เป็นต้นมา เขาก็ติดเกมส์คอมพิวเตอร์ ติดมากๆทั้งที่เรียนดีแต่ก็ไม่ยอมเรียนให้จบปริญญา ไม่คิดที่ช่วยงานพ่อแม่เลย เรียกใช้ทีก็ทำที ทำเสร็จก็จะวิ่งไปที่ห้องเกมส์ ปัจจุบันอายุ 28 ปี ก็ยังเป็นอยู่อย่างนี้ เพราะเหตุใดเขาจึงมีนิสัยอย่างนี้ ควรแก้ไขเขาอย่างไรดีครับ
9. ลูกชายคนโตกับลูกสาวคนที่ 2 อายุห่างกันเพียง 11 เดือน โตและเล่นมาด้วยกัน เสื้อผ้าก็จะซื้อให้ใส่เป็นคู่ ทำอะไรทำด้วยกันมาตลอด แม้แต่ป่วยก็ป่วยด้วยกัน ลูกสาวผมตอนเล็ก ๆ เคยถูกรถมอเตอร์ไซค์ชน ขาหัก นอนโรงพยาบาลได้ 2 วัน พี่ชายก็แขนหักตามเข้าไปนอนเตียงข้าง ๆ กัน กรรมใดทำให้เขาทั้งสองประสบอุบัติเหตุดังกล่าวในเวลาไล่เลี่ยกัน และเหตุใดเขาทั้งสองจึงมาเป็นพี่น้องที่อายุใกล้กันมากขนาดนี้ครับ
10. ลูกสาวคนที่ 2 เธอมีโชคดีอยู่อย่างหนึ่ง คือ อยากได้อะไรก็มักจะได้มาง่ายๆ ทำให้เธอเป็นคนไม่กระตือรือร้น แต่ในการสร้างบารมี เธอจะมีวินัยกับหมู่คณะ แต่ไม่มีวินัยในตนเอง อะไรที่เป็นเรื่องส่วนรวมเธอจะทำเต็มที่ แต่ถ้าเรื่องของตัวเองจะตามใจตัวเองมาก เพราะเหตุใดเธอจึงมีนิสัยนี้ติดตัวมา ทำอย่างไรจะแก้ไขได้ ส่วนคุณสมบัติที่ดีๆที่เธอมี ทำอย่างไรจึงจะติดตัวไป และทำอย่างไรให้ได้เกิดเป็นผู้ชายแบบถาวร
11. กรรมใดทำให้ผมและภรรยามีหนี้มาก เจอภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว ยิ่งดิ้นยิ่งติด เมื่อใดผมจะหมดหนี้ก้อนใหญ่นี้ครับ ผมควรทำอย่างไรจึงจะมีอาชีพที่จะสร้างมหาทานบารมีเป็น M ได้ ผมกลัวจะใช้หนี้ไม่ทัน เพราะขณะนี้ผมอายุ 63 ปี ภรรยาผม 55 ปีครับ
12. ผม ภรรยาและลูกทั้ง 3 คน เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรครับ โดยเฉพาะลูกชายคนเล็ก ทำไมชาตินี้เขารักในเพศบรรพชิตมาก ปัจจุบันเรียนจบปริญญาตรีแล้ว เขาบอกว่าถ้าได้บวชอีกครั้งนี้ เขาจะบวชไม่สึก
ขอกราบแทบเท้ามาด้วยความเคารพสูงสุด
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
1. “เตี่ย” ป่วยเป็น “โรคความจำเสื่อมเรื้อรัง” เพราะ.....กรรม “มุสา” ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ทั้งจากเรื่อง “ค้าขาย” และโกหกในชีวิตประจำวันมาส่งผลจ่ะ !
[attachmentid=6503]
--- ก่อนตายเตี่ยหายใจเฮือก 2 - 3 ชุดห่างกันหลายวันนั้น ก็เป็นเรื่องของสังขารที่ใกล้จะละโลกแล้ว , ไม่ได้ห่วงอะไรเลย และไม่รู้เรื่องอะไรเลย
[attachmentid=6504]
--- ตายแล้ว ก็ไปเป็น “ภุมมเทวา” ระดับทั่วไป ด้วยบุญที่ทำให้ก่อนตาย , ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว
ก็ทำให้มีสภาพดีขึ้นในทุกด้านจ่ะ !
--- เตี่ยเข้าใจลูกสะใภ้แล้ว และรู้ตัวว่าได้มาอยู่ตรงนี้ได้เพราะลูกชายและลูกสะใภ้ได้ช่วยทำบุญให้ทั้งก่อนตายและภายหลังจากตายแล้ว , ท่านก็ขอบใจและซาบซึ้งในสิ่งที่ลูกทั้ง 2 ได้ทำไปให้ท่าน ดังนั้นชาติต่อไปก็จะไม่มีเวรภัยต่อกันจ่ะ !
[attachmentid=6505]
2. “คุณแม่” ตายแล้ว ก็ไปเกิดเป็น “มนุษย์” นานแล้วจ่ะ ! จึงไม่ได้รับบุญที่อุทิศไปให้
[attachmentid=6484]
3. “น้องสาวคนที่ 3” เป็น “โรคประสาท” เพราะ.....กรรมในอดีต ชอบดื่มสุราและชอบนับถือผี , ลัทธิต่าง ๆ ที่แปลก ๆ มีการเซ่นไหว้ด้วยสุราเป็นต้น มาส่งผล ทำให้ต้องมาอยู่ในวงจรของลัทธิแปลก ๆ ในปัจจุบันจ่ะ !
[attachmentid=6485]
--- ได้เคยผูกเวรกันมากับครอบครัวลูกในอดีต โดยเป็นญาติกันแล้วก็ทะเลาะกัน ได้ผูกเวรกันมา , เมื่อมาเจอกันเป็นญาติกันอีก จึงทะเลาะกัน อีกทั้งในชาตินั้น ก็แช่งชักหักกระดูกว่า อย่าได้มาเป็นญาติกันอีก , แต่ยิ่งแช่งกลับยิ่งเพิ่มการผูกเวรมากขึ้นที่จะทำให้มาเจอกันในชาติ นี้จ่ะ !
[attachmentid=6486]
--- แม้ภรรยาลูกอโหสิกรรมให้เธอแล้วก็ตาม , ก็มีสิทธิ์ที่เธอจะตามไปเจอ แต่กรรมจะเบาบางลง ยกเว้นต่างอโหสิกรรมด้วยกันทั้งคู่จ่ะ !
[attachmentid=6487]
4. “ภรรยา” ไม่เป็นที่รักของญาติสามีและตัวลูกเอง เพราะ.....กรรมในอดีต ภรรยาได้เคยเป็นญาติของญาติสามี แล้วก็เคยไม่ถูกกันทะเลาะกันด้วยเรื่องดูถูกดูหมิ่นกัน ดังนั้นเมื่อมาเจอกันในชาตินี้ จึงทะเลาะกัน
[attachmentid=6488]
--- ส่วนกับตัวลูกลึก ๆ ก็รักกัน เพียงแต่ว่าต้องระวังคำพูดทั้ง 2 ฝ่าย อย่าให้กระทบกัน , ต้องพูดจาดี ๆ ต่อกัน
--- อีกทั้งในปัจจุบัน ตระกูล , วัฒนธรรม , การศึกษา ไม่เหมือนกัน จึงทำให้เหมือนไม่ลงรอยกันจ่ะ !
--- ภรรยาและ ตัวลูก อดีตก็เป็นสามี - ภรรยากัน และเคยสร้างบุญร่วมกันเหมือนชาตินี้จ่ะ !
--- ดังนั้นรักกันไว้เถิดจ่ะ !
[attachmentid=6489]
5. ที่ด้านหลังของลูกมีสิวอยู่ 2 เม็ด เป็น ๆ หาย ๆ ตั้งแต่หนุ่มจนบัดนี้ เพราะ.....“วจีกรรม” ในอดีตและปัจจุบันที่ชอบพูด “นินทาวิจารณ์ลับหลัง” ว่า คนโน้นไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แม้กระทั่งพ่อ - แม่ - ญาติผู้ใหญ่เป็นต้น มาส่งผลจ่ะ !
--- ฝีขึ้นตามทวารบ้าง ด้านหลังบ้างบ่อย ๆ เพราะ.....กรรมนินทาวิจารณ์ลับหลังดังกล่าว มาส่งผลจ่ะ !
[attachmentid=6490]
--- จะแก้ไขก็ต้องมีปิยะวาจา , สวดมนตร์ภาวนา , ทำทาน , รักษาศีล , มาทำความสะอาดหอฉัน , ลานธรรม เป็นต้นจ่ะ ! หนักก็จะเป็นเบา , เบาก็จะหาย
[attachmentid=6491]
6. “น้าชาย” ตายโดยหมอหาสาเหตุไม่พบ เพราะ.....ท่านหมดอายุไขยจ่ะ !
--- ตายแล้ว ก็ไปเป็น “สัมภเวสี” อดอยาก เพราะไม่ค่อยได้ทำทานเท่าไหร่ในตอนมีชีวิตจ่ะ !
--- ท่านพูดได้คำเดียวว่า “หิว ๆ” จ่ะ ! ดังนั้นต้องให้ลูก ๆ ของท่านทำบุญอุทิศไปให้ท่านบ่อย ๆ , โดยไปทำที่วัดที่ตนเองมีศรัทธาจ่ะ !
[attachmentid=6492]
7. “ลูกชายคนโต” ตอนเด็กน่ารักมาก , ฉลาด , เรียนดี แต่พอโตขึ้นก็ติดเกมส์คอมพิวเตอร์ ไม่ยอมเรียนให้จบปริญญา เพราะ.....ติดนิสัยข้ามชาติมา เรื่องมีอยู่ว่า ชาติในอดีตได้เกิดในตระกูลที่มีฐานะดี , พ่อ - แม่ตามใจ เลยเอาแต่เที่ยวเตร่สนุกสนานเที่ยวเตร่เป็นหลัก , มาชาตินี้บุญหย่อนลงมา แต่นิสัยเดิมยังอยู่ จึงทำให้เป็นดังกล่าวนั่นแหละจ่ะ !
[attachmentid=6480]
--- จะแก้ไข ต้องให้เขาคบเพื่อนที่ดี ๆ ที่จะชักชวนเขาไปในทางที่ดี , บางครั้งก็ต้องเฉียบขาดกับเขา
--- อีกทั้งให้สั่งสมบุญทุกบุญแล้วอธิษฐานจิต ให้บุญนี้ไปตัดรอนวิบากกรรมที่ทำให้เขามีนิสัยดังนี้ให้หมดไปจ่ะ !
[attachmentid=6481]
8. “ลูกชายคนโต” กับ “ลูกสาวคนที่ 2” อายุห่างกัน 11 เดือน , โตและเล่นมาด้วยกัน , ทำอะไรก็ทำด้วยกัน , ป่วยก็ป่วยเหมือนกัน เช่น ลูกสาวถูกรถมอเตอร์ไซด์ชน “ขาหัก” ต่อมาอีก 2 วัน พี่ชายก็ “แขนหัก” นอนอยู่บนเตียงคนป่วยในโรงพยาบาลใกล้กัน โรงพยาบาลเดียวกัน เพราะ.....ในอดีตเป็นเพื่อนรักกัน เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ ได้ช่วยรุมตี “สุนัข” จรจัดด้วยความสนุกจนมันพิการ , โดยคนหนึ่งตี “ขาข้างหน้า” อีกคนตี “ขาข้างหลัง” วิบากกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ !
[attachmentid=6482]
--- ที่มาเป็นพี่น้องกันและอายุไล่เลี่ยกัน โดยห่างกันแค่ 11 เดือนนั้น ก็เป็นเรื่องของธรรมชาติ , ธรรมดาที่มาเกิดใกล้เคียงกันเท่านั้นแหละจ่ะ !
[attachmentid=6483]
9. “ลูกสาวคนที่ 2” อยากได้อะไรมักจะได้อย่างง่าย ๆ ทำให้เป็นคนไม่กระตือรือร้น แต่ในการสร้างบารมีเธอจะมีวินัยกับหมู่คณะ แต่ไม่มีวินัยในตนเอง อะไรที่เป็นเรื่องส่วนรวมจะทำเต็มที่ , แต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวจะตามใจตนเอง เพราะ.....พุทธันดรที่ผ่านมาได้เป็น “กุลบุตรไฮโซ” ในตระกูลสูง ได้รับการตามใจมาตลอดเลยติดนิสัยนี้มา , ต่อมาได้ออกบวชตามพระราชาองค์ที่ออกบวชจนตลอดชีวิต , ได้ทำหน้าที่ “เผยแผ่” , มีผลการปฏิบัติธรรมเข้าถึงดวงใส ๆ พอเอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีได้ , ที่มาเป็นผู้หญิงในชาตินี้ เพราะกรรมเจ้าชู้
[attachmentid=6495]
--- ดังนั้นชาตินี้รู้ตัวแล้วก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่และแก้ไขข้อบกพร่อง พร้อมกับอธิษฐานจิตทุกวันให้ได้ไปเกิดเป็นผู้ชายแบบ “ยั่งยืน” จ่ะ !
[attachmentid=6493]
10. ลูกและภรรยามีหนี้มาก เพราะ.....ในอดีตเมื่อทำบุญแล้วมักเสียดายในภายหลัง จึงทำให้กรรมตระหนี่ในชาติอื่นได้ช่องส่งผลจ่ะ !
[attachmentid=6496]
--- ชาตินี้ก็ให้ตั้งใจสั่งสมบุญไปเท่าที่จะทำได้อย่างเต็มกำลังและให้ถูกหลักวิชชา แล้วอธิษฐานจิต ให้หมดหนี้สิน เหลือกิน เหลือใช้ เหลือไว้สร้างบารมีให้เยอะ ๆ จ่ะ !
[attachmentid=6497]
11. ตัวลูก , ภรรยา และลูกทั้ง 3 เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา โดยตัวลูกสาวคนที่ 2 และลูกชายคนที่ 3 ก็เคยออกบวชกับหมู่คณะเมื่อพุทธันดรที่ผ่านมา และเป็นกำลังเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย
นอกนั้นเป็น “กองเสบียง” จ่ะ !
[attachmentid=6498]
--- “ลูกชายคนเล็ก” รักในเพศบรรพชิตมาก เพราะ.....มีผังบวชนี้ติดข้ามชาติมาจ่ะ !
[attachmentid=6494]
--- ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !
[attachmentid=6499]