ไปที่เนื้อหา


Pro

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 19 Dec 2005
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Jan 26 2006 07:49 PM
-----

กระทู้ที่ฉันเริ่ม

ไม่มีเวลา ไม่มีในโลก

15 January 2006 - 12:36 PM

คัดลอกมาจาก
www.thaireaderclub.com


ชีวิตคนเราเมื่อพิจารณาให้ดีแล้ว มันสั้นนัก มีเกิดและดับเป็นธรรมดาโลก
แต่ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่นี่ซิ
มนุษย์ผู้มีปัญญาจึงควรที่จะดำรงชีวิตอย่างชาญฉลาด

พระพุทธเจ้าเคยอบรมสั่งสอนมนุษย์ไว้ว่า
ทรัพย์สินที่พึงได้จากการประกอบกิจการงานต่าง ๆ นั้น ควรแบ่งออกเป็น 4 กองเท่า
ๆ กัน

กองแรก เก็บสะสมไว้ใช้ยามขัดสน
กองสอง ใช้จ่ายเพื่อทดแทนผู้มีพระคุณ
กองสาม ใช้เพื่อความสุขส่วนตัว
กองสี่ ใช้เพื่อสร้างสรรค์ความดีงามให้แก่สังคม

แล้วการทำงานของมนุษย์ล่ะ
หลายคนยังมัววุ่นแก่การทำงานโดยไม่ยอมแบ่งเวลาเหลียวหลังมองถึง
บุคคลที่รักและห่วงใยตนเองเลยหรือ???

มนุษย์บางคนทุ่มเวลาทั้งหมดให้แก่หน้าที่การงาน พร้อมกับคิดว่า
การกระทำดังนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
แต่นั่นคือการกระทำที่โง่เขลาเป็นที่สุด

ทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่า ๆ กัน แต่ผู้ใดที่ทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับงาน
โดยไม่ยอมแบ่งปันเวลาให้แก่ผู้ใด
แม้กระทั่งตัวเองเป็นมนุษย์ที่เขลาเบาปัญญาที่สุด บริหารไม่ได้แม้กระทั่งเวลา
24 ชั่วโมงของตัวเองในแต่ละวันแล้ว มนุษย์ผู้นั้นจะบริหารอะไรได้

ทำไมมนุษย์ผู้ชาญฉลาดจึงไม่แบ่งปันเวลาให้เสมือนหนึ่งการแบ่งปันกองเงิน
ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าบ้างเล่า...

ไม่ต้องแบ่งเวลาให้เป็นสี่กองเท่า ๆ กันหรอก
เพียงแต่แบ่งปันเวลาในแต่ละส่วนให้เหมาะสมเท่านั้น

8 ชั่วโมงสำหรับการทำงาน เพื่อความก้าวหน้ามั่นคงในชีวิต
8 ชั่วโมงสำหรับการพักผ่อน
เก็บเรี่ยวแรงไว้ต่อสู้กับหน้าที่การงานและอุปสรรคในวันพรุ่งนี้
5 ชั่วโมงสำหรับการเดินทาง เพื่อประกอบกิจการต่าง ๆ
2 ชั่วโมงสำหรับโลกส่วนตัวของตนเอง
59 นาที สำหรับดูแลและรักษาความสะอาดของที่อยู่อาศัย และช่วยเหลือสังคม

และ 1 นาทีของคุณ
ที่มอบให้กับคนที่รักและห่วงใยคุณโดยไม่นำเวลาอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง
เพราะเพียง 1 นาทีนี้ มันมีค่ามากเกินกว่าคณานับได้ในความรู้สึกของเขาคนนั้น

จงอย่ากล่าวว่า " ไม่มีเวลา... "
เพราะเวลาเป็นสิ่งที่ยุติธรรมที่สุดในโลกนี้ที่มีให้แก่มนุษย์
มนุษย์ทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่า ๆ กัน ไม่มีใครมีเวลามาก
และไม่มีใครมีเวลาน้อยไปกว่านี้

24 ชั่วโมงใน 1 วัน ที่มหาเศรษฐี หรือยาจก
มีเท่าเทียมกันไม่ขาดเกินแม้แต่เศษเสี้ยวของวินาที

ด้วยเหตุนี้ มนุษย์ผู้ใดที่กล่าวว่า " ไม่มีเวลา "
จึงเป็นผู้ล้มเหลวในการบริหารเวลา 24 ชั่วโมง
ในแต่ละวันของตนเองอย่างสิ้นเชิง และใช้คำว่า " ไม่มีเวลา "
เป็นข้อแก้ตัวเพื่อปกปิด ความล้มเหลวเรื่องเวลาของตนเองอย่างขลาดเขลา

มนุษย์ผู้ฉลาดและประสบความสำเร็จในชีวิต
จึงไม่ใช่ผู้ที่เก่งแต่การทำงานอย่างเดียว
แต่มนุษย์ผู้ฉลาดและประสบความสำเร็จในชีวิต
ต้องเป็นผู้ที่รู้จักแบ่งสัดส่วนเวลาวันละ 24 ชั่วโมงของตนเอง ได้อย่างลงตัว

วันละ 24 ชั่วโมงของตนเอง ที่มีไว้สำหรับการทำงาน การพักผ่อน การเดินทาง
มิตรภาพ ความรัก ความอบอุ่น ความห่วงใย ความเอื้ออาทร ฯลฯ
โดยไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่สิ่งหนึ่งสิ่งใด ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิต

นี่แหละ คือมนุษย์ผู้ชาญฉลาดที่รู้จัก " ใช้เวลา "
แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า
" ไม่มีเวลา " อีกหรือ?

ราคาของนมสดหนึ่งแก้ว

15 January 2006 - 12:31 PM

คัดลอกมาจาก
www.thaireaderclub.com


เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
เด็กชายเคลลี่ ซึ่งอยู่ในครอบครัวที่ฐานะยากจน
เขาต้องหาเงินไปโรงเรียนเอง
ด้วยการนำสิ่งของใส่กระเป๋าเดินไปขายตามบ้านที่อยู่ในเมืองใกล้เคียง
วันหนึ่งเขาพบว่าเมื่อจ่ายค่ารถและค่าสินค้าแล้ว
เขามีเงินในกระเป๋าเหลือเพียง 10 เซ็นต์ เท่านั้น
ขณะนั้นเขากำลังหิวมาก

แต่เงินสดที่มีอยู่นั้นไม่พอที่จะซื้ออาหารแม้แต่เพียงมื้อเดียว
ดังนั้นเขาจึงคิดจะไปขออาหารจากบ้านที่กำลังเดินไปถึง
แต่เมื่อกดกริ่งแล้ว หญิงสาวเจ้าของบ้านมาเปิดประตู
เด็กชายเคลลี่กลับเกิดความละอายที่จะขออาหารเหมือนกับขอทานที่ทำมาหากินไม่เป็น
เขาจึงขอเพียงน้ำเปล่าเพียงแก้วเดียวเท่านั้น
แต่เจ้าของบ้านสาวสังเกตุเห็นท่าทางของเด็กชายเคลลี่ว่าคงจะกำลังหิว
เธอจึงได้นำเอานมสดแก้วใหญ่มาให้เคลลี่ดื่ม
เด็กชายเคลลี่ดื่มนมอย่างกระหายจนหมดแก้วแล้วถามว่า

“ผมต้องจ่ายเงินค่านมถ้วยนี้ให้คุณเท่าไหร่ครับ”
เจ้าของบ้านสาวตอบว่า

“ไม่ต้องจ่ายเงินหรอก
แม่ของฉันสอนไม่ให้รับสิ่งตอบแทนจากการให้น้ำใจไมตรี”

เคลลี่ซาบซึ้งใจมากและตอบว่า
“ ถ้าเช่นนั้น ก็ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง จากหัวใจของผมก็แล้วกันนะครับ"
ขณะที่เด็กชายเคลลี่ได้เดินออกจากบ้านหลังนั้น
เขาไม่เพียงแต่ รู้สึกว่ามีกำลังแข็งแรงขึ้นจากนมสดแก้วโตเท่านั้น
แต่เขาได้มีความเข้าใจในเรื่องของน้ำใจไมตรีเพิ่มขึ้นด้วย

... อีก30 ปีต่อมา มีหญิงคนหนึ่ง ป่วยหนักด้วยโรคหัวใจ
ซึ่งแพทย์ท้องถิ่นไม่สามารถรักษาได้
จึงส่งไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านโรคหัวใจทำการรักษา
เมื่อได้อ่านประวัติผู้ป่วยแล้ว
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านนั้นได้สะดุดใจกับชื่อหมู่บ้านของผู้ป่วยคนนั้น
จึงตั้งใจรักษาด้วยการผ่าตัดหัวใจอย่างพิเศษ
โดยใช้อุปกรณ์ทันสมัยที่สุดและยาราคาแพงที่ดีสุด
จนผู้ป่วยหายเป็นปกติพร้อมจะกลับบ้าน
ผู้ป่วยมีความเกรงว่าค่ารักษาพยาบาลคงจะมีราคาแพงหลายหมื่นดอลลาร์
ซึ่งเธอเข้าใจว่าคงจะต้องทำงานทั้งชีวิตกว่าเธอจะหาเงินค่ารักษาพยาบาลได้
เพราะเธอไม่มีประกันสุขภาพ และยังไม่สามารถไปเบิกได้จากที่ไหน
แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนนั้น ได้บอกเจ้าหน้าที่แผนกบัญชี
ให้นำใบเก็บเงินไปให้เขา
แล้วหมอก็ใช้ปากกาเขียนข้อความสองบรรทัดแล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่บอกให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้
โดยไม่ต้องจ่ายเงินเลย
ข้อความที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านนั้นเขียนในใบเรียกเก็บเงินนั้นมีว่า
“จ่ายค่ารักษาพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ด้วยนมสดหนึ่งแก้ว”
...........................
ลงนาม นายแพทย์โฮเวอร์ด เคลลี่

“ราคาของนมสดหนึ่งแก้ว”
ป็นเหตุการณ์จริงที่เกี่ยวกับน้ำใจไมตรีในต่างประเทศ
(ข้อมูลจากคณะทำงานกลุ่มน้ำใจไมตรี ประเทศสิงคโปร์
จากจดหมายของนายแพทย์โฮเวอร์ด เคลลี่)

วอลเปเปอร์ครับ

15 January 2006 - 09:24 AM

ทำไมไม่มีวอลเปเปอร์ของใหม่ๆเลย น่าจะมีใหม่ทุกงานบุญใหญ่ๆนะครับ

คนเป็นเหมือนวงกลม

14 January 2006 - 11:22 AM

คัดลอกมาจาก
www.thaireaderclub.com


คน ก็เป็นเหมือนวงกลม

...มีหลายด้านให้มอง...

มี 360 องศา ให้เดินค้นหา มองเห็น

แต่คนเรามักจะหยุดอยู่แค่องศาแรกที่มองเห็น
และยึดติดว่าสิ่งที่เห็น สิ่งที่รู้ในด้านนั้น
เป็นทุกอย่างของคน คนนั้น ไปเสียทั้งหมด

แต่เมื่อคน คนนั้นเริ่มหมุน
เปลี่ยนมุมมอง ทิศทาง ให้ได้ดู ได้เห็น ได้รับรู้บ้าง

กลับบอกว่าเขา - เปลี่ยนไป

ฉะนั้น
การจะรู้จัก คบหากับใครสักคน
ต้องเดินวนให้ครบ 360 องศา ก่อน .. ใช่มั้ย

ถึงจะสามารถรู้ได้ว่าคน คนนั้นมีกี่มุม ให้ได้มอง

มีปัญหาเรื่องการดาวน์โหลดไฟล์เสียง

14 January 2006 - 11:09 AM

เวลาผมจะดาวน์โหลดไฟล์วีดีโอ พอโหลดไปได้กลางคัน อยู่ๆก็กลายเป็นdownload complete พอเปิดดูก็ดูได้สักพักแล้วก็จบไปเลยทั้งทั้งที่เพลงยังไม่จบ ลองโหลดใหม่ก็เสียแบบเดิมทุกครั้ง ควรจะทำอย่างไรครับ :'(