จากความเดิมตอนที่แล้ว ใครเป็นลูกช้างบ้าง ยกมือขึ้น ?
ฟ้าร้างว่า มีหลายๆ คน ที่ตอนนี้เป็นลูกช้างอยู่ และกำลังคิดจะสลัดโซ่ตรวน แปลงร่างเป็นต้นตระกูลช้าง หรือโคตรพ่อโคตรแม่ช้างนั่นเอง งานนี้ฟ้าร้างไม่ได้ใช้คำหยาบคายนะคะ แต่ที่จำเป็นที่ต้องใช้คำว่า โคตร เพราะงานนี้ พวกเรากำลังจะรวยโคตรโคตร x 2 กัน (หากทุกคนทำตามวิธีที่ฟ้าร้างกำลังจะพูดต่อไปในวันนี้) ก็ไม่รู้จะไปสรรหาคำไหนที่จะทำให้เข้าใจว่าสิ่งใดก็ตามที่มันมาแบบไม่บัันยะ บันยัง มันเป็นอย่างไร มากไปกว่าคำว่า โคตรโคตร อีกแล้ว
----------------------------------------------------------------------------------
มาอ่านต่อให้จบตอนกันดีกว่า ว่า "สูตรสำเร็จ" ของทุกสิ่งทุกอย่าง มันคืออะไร
ขอย้ำ...โปรดอ่านจนจบกระทู้ค่ะ
คนที่เขาประสบความสำเร็จ เขาทำกันอย่างไร
1. ตั้งเป้าหมายให้ใหญ่เข้าไว้
2. ลงมือทำทันที ณ บัด Now
3. ทำอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ถอนถอย แม้ว่าจะพบกับอุปสรรคอันใดก็ตาม
จะสังเกตได้ว่า ไม่มีใครเลย ที่ประสบความสำเร็จโดยปราศจาก 3 ข้อดังกล่าวนี้
โทมัส อันวา เอดิสัน ผู้ค้นพบวิธีผลิตหลอดไฟฟ้า เคยบอกไว้ว่า
แต่ผม แค่เรียนรู้วิธีที่ผลิตหลอดไฟฟ้าไม่ได้ แค่เพียง 3000 กว่าวิธีเท่านั้นเอง ซึ่งมันทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า มีแค่เพียงวิธีเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้หลอดไฟติด
จริงๆ แล้วเขาไม่ได้เป็นคนค้นพบวิธีทำหลอดไฟหรอกนะคะ เขาเป็นเพียงคนที่ไปเอาวิธีของคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว มาทำต่อน่ะเอง จนทำให้ไฟติดต่อเนื่องยาวนาน จนนำมาใ้ช้กันในอุตสาหกรรมและครัวเรือน จนเขากลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในยุคนั้นจนสืบต่อมาอีกเป็นพันปี และนอกจากนี้ผลงานของเขา่ได้รับการจดสิทธิบัตรมากกว่า 1000 ชิ้น
อีกอันนึง
ชายหนุ่มคนนึง เป็นทนายความกิ๊กก๊อก ที่ว่าความไม่เคยชนะเลย วันๆ เอาแต่โอ้อวดตัวเอง ไปวันๆ และก็ใช้เวลาไปเที่ยวตามที่อโคจรทั้งหลาย แต่วันนึงในขณะที่ความคิดเขาตกผลึก เขาได้สลัดคราบของชายเสเพลในอดีต กลายเป็นผู้มีอิทธิพลต่อคนนับล้านทั่วโลก คนกว่า 30 ล้าน คนยินยอมทำตามเขา พระราชา ประธานาธิบดี ผู้นำประเทศทั่วโลกต่างรอคอยที่จะได้ทานข้าวกับเขา แม้ซักมื้อนึง
ชื่อของเขาคือ มหาตมะ คานธี ชายหนุ่มร่างเล็ก ผอมแห้งแรงน้อย แต่หัวใจของเขาแข็งแกร่งประดุจเหล็ก ไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรค ใด เป็นบุคคลที่ใช้เวลาทั้งชีวิต แลกมาด้วยเสรีภาพในอินเดีย
อีกคนนึง
ตาแก่วัยเกษียณ หลังจากเก็บเงินบำนาญในชีวิตข้าราชการก้อนสุดท้าย ก็เอามาเปิดร้านขายไก่ทอด เขาเดินขายสูตรไก่ทอดไปทุกที่ในเมืองของเขา และเมืองใกล้เคียง แม้จะเดินขายสูตรเป็นปีๆ และมากกว่า 1000 แห่งที่เขาไปเสนอขาย ก็ไม่มีคนสนใจเลยแม้สักรายเดียว แต่ในที่สุด มีคน แค่ 1 คน สนใจสูตรของเขา และจากจุดนั้นเอง ทำให้เขาเป็นราชาอาหารจานด่วนชื่อก้องโลก ชาวโลก รู้จักเขาในนาม
ผู้พัน แซนด์เดอร์ หรือ เจ้าของ ไก่ทอด KFC นั่นเอง
สุดท้าย
ในพิธีจบการศึกษาของนักศึกษา วิทยาลัยทหาร ของอังกฤษ อดีตนายกรัฐมนตรี วินสตัน เชอร์ชิล ได้รับเชิญมาบรรยายในงานนั้น เขาเดินเข้าห้องประชุมด้วยวัย 80 กับชุดสูทสีดำ และหมวกทรงสูงตามสไตล์เมืองผู้ดี ในขณะที่ทุกคนเงียบกริบ ได้ยินแต่เสียงไม้เท้าของตาเฒ่าผู้กรำศึก เขายืนอยู่หน้าไมค์โครโฟน แล้วเริ่มพูดปาถกฐา ของเขาด้วยเสียงอันดังว่า
อย่า......อย่ายอมแพ้ เขาเงียบ นิ่ง ไม่พูดอะไรไป 30 วินาที แล้วพูดต่ออีกว่า
อย่า......อย่ายอมแพ้ เขาเงียบ นิ่ง ไม่พูดอะไรไปอีก 60 วินาที แล้วพูดต่ออีกว่า
อย่า......อย่ายอมแพ้
แล้วเขาก็เดินก้าวลงจากเวทีทันที โดยไม่พูดอะไรอีกเลย แม้แต่คำเดียว ทุกคนอึ้ง เงียบ ไม่นึกว่าจะเป็นการปราศัยของผู้นำประเทศ แต่ตลอดเวลา 90 วินาที ที่เขากล่าวออกมานั้น ได้ระเบิดจิตใจ ของนักเรียนนายร้อยทั้งหลายให้ ฮึกเหิมยิ่งกว่าคำพูดเป็นร้อย เป็นพัน
นี่คือคนที่ประสบความสำเร็จใช่หรือไม่ ?
ก็ตอบว่าใช่
แล้วคนที่ประสบความสำเร็จคืออะไร
คำตอบคือ คนที่ล้มเหลวมาแล้วอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ยอมล้มเลิกไปก่อนเท่านั้นเอง
ฟ้าร้างจะขอสรุปนะคะว่า
ฟ้าร้าง ไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างที่ใครหลายๆ คน ใฝ่ฝัน
แต่ฟ้าร้างรู้สึกว่า ตัวเองประสบความสำเร็จ ที่สามารถไปถึงเป้าหมายแต่ละขั้นที่ตัวเองตั้งไว้ได้
ฟ้าร้างจะขอเล่าประสบการณ์ ในการตั้งเป้าเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ ของตัวเองบางช่วงบางตอนของชีวิตสักนิดนึงค่ะ
1. อายุ 13 ปี (พ.ศ.2535) สร้างบารมีครั้งแรก
เป้าหมายคือ: สร้างองค์พระประจำตัว ตอนนั้นเป้า 1 หมื่นบาท ในระยะเวลา 1 เดือน
ความสำเร็จ: 2 พันบาท
แต่ละวันฟ้าร้างได้เงินค่าขนมแค่วันละ 10 บาท ฟ้าร้างถามคุณอาว่า
คุณอา: ได้สิ ถ้าฟ้าร้างได้ทำ
แค่เพียงประโยคนี้ประโยคเดียว ฟ้าร้างบอกตัวเองว่า "เราทำได้" แล้วก็มุ่งหน้า เดินไปตั้งแต่ปากซอย ยันท้ายซอย เดินถือซอง บอกทุกคน ที่เป็นคน ใจมุ่งไปที่การสร้างพระธรรมกายประจำตัวภายนอก บุญนี้เป็นบุญใหญ่ ถ้าเราทำได้ ทุกคน ที่เราเดินไปบอกเขา ก็จะได้บุญกับเรา บอกตั้งแต่ภารโรง ยันครูใหญ่ บอกเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนในห้อง ม.1/1 ยัน ม.6/2 แต่ละคน ทำบุญกับฟ้าร้างมา คนละ 1 บาท 2 บาท มากสุดคือแบงค์ 20 บาท ซึ่งเป็นแบงค์แห่งความภาคภูมิใจทีุ่สุดของเด็กหญิงอายุ แค่เพียง 13 ปี จำได้ติดตามจนกระทั่งบัดนี้ว่า สามารถรวบรวมเงินมาได้ ถึง 2 พันบาท ความปลาบปลื้มปิติใจ เกิดขึ้นเป็นล้นพ้น เกิดมา ก็เพิ่งจะได้จับเงิน 2 พันบาท ก็วันนั้นแหล่ะ ยื่นเงินให้คุณอา ด้วยความภาคภูมิใจ ว่าเราทำได้แล้ว ถึงมันจะไม่เต็มองค์ แต่สุดท้าย คุณอา ก็ปิดองค์พระองค์นั้นให้ฟ้าร้างได้ปลื้มต่อไม่รู้จบ
นี่คือความสำเร็จขั้นที่ 1
-------------------------------------------------------------------------------------
2. อายุ 24 ปี (พ.ศ.2545)
เป้าหมายคือ: สร้างพระธรรมกายประจำตัวภายในถวายหลวงพ่อ 2 หมื่นบาท ในระยะเวลา 3 วัน
ความสำเร็จ: 2 หมื่นบาท
ท้าวความ: ฟ้าร้างมีเงินเดือนแค่ 1 หมื่นบาทต่อเดือน ก่อนหน้านี้เพียงแค่ 2 สัปดาห์ ฟ้าร้างทำบุญสร้างพระ ถวายพระพ่อ (คุณพ่อบวช) 2 หมื่นบาท และทำให้ตัวเองอีก 1 องค์ 1.5 หมื่นบาท เงิน สามหมื่นห้า แต่มาคิดถึงตอนนี้กลับไม่ค่อยจะปลื้มเท่าไร เพราะเงินมันได้มาง่ายไปหน่อยด้วยการไปยืมเขามา (ถึงแม้ว่าสุดท้ายใช้คืนจนหมดในภายหลัง แต่ไม่ปลื้มเลยค่ะ) ทุกวันนี้ฟ้าร้างขอหัวชนฝา ไม่ขอสนับสนุนให้ใครไปยืมเงินคนอื่นมาทำบุญค่ะ
การสร้างบารมีโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ฟ้าร้างตัดสินใจ รับมาอีก 1 องค์ สองหมื่นบาท ขณะนั้น เหลือเวลาอีกแค่ 7 วัน ฟ้าร้างไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนอีกตั้ง สองหมื่นบาท ลังเลคิดว่าคงทำไม่ได้หรอก แต่ก็นั่งสมาธิอย่างต่อเนื่อง ใจก็หวังลึกๆ ว่าคงทำได้ล่ะน๊า แต่ก็จนปัญญาหมดหนทาง ไม่รู้จะไปบอกใคร เพิ่งเข้าบริษัทมมาใหม่ อายคน ไม่อยากไปบอกบุญเขา กลัวเขาจะว่า คิดไปนานา สารพัด จนปล่อยเวลาให้ล่วงเลย เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 3 วัน ก็จะถึงวันหล่อพระแล้ว เงิน 2 หมื่นบาท จะไปหาที่ไหน มานั่งทบทวนตัวเอง กับเวลา 4 วันที่ผ่านไป ว่าเราทำอะไรอยู่ ?? ทำไมปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลย แล้วแบบนี้มันจะสำเร็จ ได้อย่างไร
คิดได้ดังนั้น ความฮึด ก็เริ่มเกิดขึ้นภายในใจ มาจากไหนก็ไม่ทราบ เริ่มโดยการบอกคนใน msn ทุกคนที่มีอยู่ใน list จนไม่เหลือใครให้บอก แล้วก็ลุกขึ้นเดินบอกคนทั่วบริษัท ตั้งแต่ยามจนกระทั่งหัวหน้าแผนกทุกคน ตั้งกล่องสร้างองค์พระ ไว้ที่โต๊ะยาม เทียวลุกไปเดินดูว่ามีเงินมากี่สิบ กี่ร้อยบาทแล้ว เจอหน้าใครก็บอกเขาทำบุญสร้างพระ คนด่าก็มี คนไม่ทำก็เยอะ ปัญญาบารมี วิริยะบารมีเกิดมาจากไหนก็ไม่ทราบ ตอบได้หมดทุกคำถาม มุสลิม ขอทาน ชวนหมดจนไม่เหลือใครให้ชวน พูดมาซะยาวสามวัน สุดท้าย ได้เงิน มา 5 พัน และเงินตัวเองที่ปิดบัญชีแล้วอีก 5 พัน (ไม่รู้พรุ่งนี้จะกินอะไร) ใจก็ยังคิดต่อไปอีกว่า ได้สิน่า ได้สิน่า สุดท้ายแล้วเพื่อนทีรักคนนึงถามมาว่า ยังขาดอีกเท่าไร บอกไปว่า 1 หมื่นบาท เขาก็บอกว่าโอเค เดี๋ยวฉันทำด้วย 1 หมื่นบาท แถมให้เงินมาอีก 1000 ไว้กินจนถึงสิ้นเดือน
วันนั้นคือวันแห่งชัยชนะของฟ้าร้าง ความปลื้มปิติใจ ความสุขใจ ความภาคภูมิใจ สารอะดรีนาลิน หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย น้ำตาแห่งความปลื้มปิติ ท่วมท้นออกมา ตัวมันพอง ขยายใหญ่คับฟ้า ใจขยายครอบโลก จากวินาทีนั้น ปรากฏว่า ฟ้าแถบถล่ม ดินแทบทลาย เวลาบ่าย 3 โมง แต่มันมืดมา ยังกับ 3 ทุ่ม ฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้าง พายุกระหน่ำ (เหมือนวันที่วัดโดนถล่ม) ทุกคนตกใจ ยังกับ "มัน" จะเอาตึกชินฯ 3 ถล่มลงเสียให้ได้ ไม่มีใครรู้หรอก ว่าเกิดอะไรขึ้น นอกจากฟ้าร้างคนเดียวที่รู้อยู่ภายในใจ
นี่คือความสำเร็จขั้นที่ 2
-------------------------------------------------------------------------------------
2. อายุ 29 ปี (พ.ศ.2551)
เป้าหมายคือ: หล่อหลวงปู่ทองคำ 5 บาททองคำ ระยะเวลา 4 เดือน
ความสำเร็จ: ทะลุเป้าไป 10 เท่า (1 ล้าน 1 แสน)
ภารกิจครั้งนี้ ถือเป็นความยากขั้นที่ 3 เพราะเป้ามันเปลี่ยนจากหมื่น เป็นแสนเสียแล้ว ลำพังเงินเดือนเด็กวัด เหลือไม่ถึง สองพันบาทต่อเดือนซึ่งก็คือค่าข้าว จะไปหาเงินจากไหน
Step1. นั่งคิด นอนคิด ยืนคิด เดินคิด จะตื่นก็คิด จะหลับก็คิด
ว่าอยากทำทองหลวงปู่จังเลย โดยปล่อยให้เวลามันผ่านไปเล่นๆ 1 เดือน โดยที่ไม่ทำอะไรเลยนอกเหนือจากนี้
Step2. คิดต่อ แต่คิดว่า เรามันก็แค่เด็กวัด จะไปหาเงินมาจากไหน วันๆ ก็ต้องทำงานในวัด ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอีก 1 เดือน
Step3. เอาไงเอากัน จะตายโดยไม่ได้หล่อหลวงปู่ซักโล สองโล ก็คงเสียชาติเกิด เริ่มคิดหาวิธีการ คิดอะไรไม่ออกก็ www.dmc.tv นี่แหล่ะ เพราะมองซ้ายมองขวาแล้ว เราทำคนเดียว ไม่สำเร็จแน่ๆ ไหนๆ ก็ไหนๆ หาพลพรรค เปลี่ยนเป้าเป็น 10 บาททองกันไปเลย เพื่อนก็ทักท้วงว่า จะได้หรอๆ "ได้สิน่า" แล้วก็เริ่มสร้างโมเดล ทองแท่งใหญ่ โดยให้สมาชิกที่มาเจอกันวันแรกที่นัดรวมพล เพื่อเป็นการตอกย้ำเป้าหมายร่วมกัน
ข้อนี้ หลายๆ คนอาจคิดว่า ใช่สิ ฟ้าร้างเป็น webmaster มันก็ง่ายละ ที่จะชวนคนทำบุญ แต่จะมีใครสักกี่คนบ้าง ที่รู้ว่า กว่า www.dmc.tv จะสำเร็จมาได้ถึงวันนี้ ฟ้าร้างต้องผ่านอุปสรรคอะไรมาบ้าง ท้อขนาดไหน กับการทำงานใหญ่เพียงลำพัง (เอาไว้หาโอกาสมาเล่าต่อวันหน้าดีกว่าค่ะ อิอิ)
Step 4. เงินเริ่มเข้ามาก้อนแรก ดีใจกันทั้งทีม
Step 5. เงินเริ่มแผ่ว ทุกคนใจแป้ว แต่ก็ยังไม่ถอนถอย ทำหน้าที่ต่อไป
Step 6. เงินเข้ามา 1 แสน ภายในเวลาไม่ถึงสิบวัน ทุกคนแฮปปี้ เพราะทะลุเป้าแรกไปแล้ว
Step 7. ขยายใจ เปลี่ยนเป้าให้ใหญ่ขึ้นที่ 1 กก. 1 ล้านบาท
Step 8. เกินล้านมาได้ไง???!!!!
Stop 9. 1.5M สู้ต่อไป ไม่ถอนถอย แม้จะเหลือเวลาอีกแค่ ไม่ถึง 5 วันดี
Step 10. ............................................สำเร็จสิน่า
นี่คือความสำเร็จขั้นที่ 3 ที่กำลังจะมาถึง
ซึ่งครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ เพราะเป็นการตามคนที่พลัดหลงจากหมู่คณะไปยาวนาน กลับมาได้อื้อเลยค่ะ
-------------------------------------------------------------------------------------
ใช่ว่าฟ้าร้างไม่เคยล้มเหลว ?
ป่าวเลยค่ะ ฟ้าร้างล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วนค่ะ แต่ละครั้งที่ผ่านมาก็สาหัสสากรรจ์ จนไม่อยากนึกถึงเพราะมันล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง
ความล้มเหลวของฟ้าร้างหากเทียบกับความสำเร็จในชีวิตแต่ละครั้ง คงได้ราวๆ 80:20 แต่วันนี้ฟ้าร้างจะไม่ขอเอ่ยถึงมัน เพราะทุกวันนี้ ได้เปลี่ยนวิธีคิดของตัวเองไปแล้วค่ะจากที่คิดในแง่ลบต่อทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตน่เปลี่ยนเป็น เราต้องมองทุกอย่างให้มันเป็นบวก หากเราติดลบกับชีวิต ชีวิตเราก็จะติดลบไม่สิ้นสุด แต่หากเราคิดบวกแล้ว ชีวิตเราจะพลิกเป็นบวกในทันที ตราบใดที่เรามองทุกอย่างที่เข้ามาอย่างมีสติ และเป็นแง่บวก
ขอทวนนะคะ
สูตรสำเร็จ
คนที่เขาประสบความสำเร็จ เขาทำกันอย่างไร
1. ตั้งเป้าหมายหมายให้ใหญ่เข้าไว้ สร้างภาพให้ชัดเจน ด้วยการเีขียนแปะไว้หน้าประตูบ้าน หรือสร้างโมเดล แบบจำลองภาพในใจที่เราอยากให้มันเป็น วางตั้งไว้ในที่ที่เราเห็นมันได้ทุกวัน
2. ลงมือทำทันที ณ บัด Now
3. ทำอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ถอนถอย แม้ว่าจะพบกับอุปสรรคอันใดก็ตาม
ขอแถม
4. หมั่นสังเกตวิธีการ และผลลัพธ์ที่ได้ หากไม่เวิร์ค จงอย่าทู่ซี้ทำต่อ แต่ให้พลิกแพลงหาเส้นทางใหม่ๆ
สักวันคุณจะพบว่า สูตรสำเร็จของความสำเร็จนั้น อยู่ที่ใจ ไม่ต้องเอื้อม
บทสรุป
1. เป้าหมายใหญ่ ตัวเรายังเล็ก เราอาจทำได้แค่ 20% ของเป้าหมาย เราก็ถือว่า ชนะแล้ว
2. เป้าหมายระดับกลาง แต่เราทุ่มเทแรงกายและใจทำได้จนสำเร็จ มันจะล้นในวันข้างหน้า
3. เป้าหมายใหญ่ แต่เราก็ไม่หวั่นไหวใดๆ ทำคนเดียวไม่ได้ ก็ไปหาคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ตั้งทีมทำมัน สุดท้ายแล้วมันก็ล้นเกินควรเกินคาดจริงๆ
หากเราคิดว่า เราทำไม่ได้ เราก็จะทำไม่ได้ตั้งแต่ยังไม่ได้ลงมือทำ
หากพบกับอุปสรรคมากหรือน้อย แล้วถอย ความสำเร็จ ก็จะไม่เกิดขึ้นเช่นกัน
เงิน ไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริง แต่มันคือตัวเลขวัดค่าความตั้งใจอันยิ่งใหญ่ของคนๆ หนึ่ง ว่า คุณมีใจเกินร้อยหรือไม่ ที่จะนำข่าวที่ว่า
"ขณะนี้ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ได้อุบัติขึ้นแล้ว"
"ขณะนี้ หนทางสู่พระธรรมกายภายใน ได้ถูกปักหลักลงแล้ว ที่วัดพระธรรมกาย ประเทศไทย"
"ขณะนี้ เส้นทางแห่งความสุขที่แท้จริง ของมวลมนุษยชาติ อยู่ที่นี่แล้ว"
ยิ่งเป้าใหญ่ขึ้น การไปทำหน้าที่ ก็ยิ่งใหญ่ตามมา เป้าหมายในครั้งนี้คือ "การตามลูกหลานหลวงปู่กลับมา"
สู้ๆ นะคะทุกท่าน 5 วันนี้ ทุกคนที่ "จริง" จะ "อัศจรรย์ใจโคตรโคตร"
ลองทำตาม "สูตรสำเร็จของความสำเร็จทุกอย่าง" นี้ดู เพราะมันใช้ได้ผล กับทุกๆ ความปรารถนาค่ะ
ลองดู แล้วคุณจะรู้ว่า ความสุขใจที่ได้เอาชนะเป้าหมายของตัวเองได้นั้น มันยิ่งใหญ่ขนาดไหน