นั่งสมาธิแล้วเกิดอาการตัวเอียง
#1
โพสต์เมื่อ 11 November 2010 - 11:02 AM
ผมมีคำถาม ที่จะถามผู้ที่เคยมีประสบการณ์ว่า เวลานั่งสมาธิแล้วเกิดอาการตัวเอียง (ไม่เป็นบ่อย)
หรือนั่งสมาธิไปสัก15 นาที จะมีความรู้สึกที่ รูก้นทวารปิด (ปกติเวลานั้งใหม่ ๆ จะไม่เกิดอาการใด ๆ ทั้งสิ้น ช่วงหลังเป็นทุกครั้ง )
นั่งสมาธิมาเป็นเวลา 5 เดือนแล้วแต่ไม่ได้ปฏิบัติจริงจังนัก ประมาณอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ต่อครั้งประมาณ 40 - 60 นาที
รบกวนผู้มีประสบการณ์ช่วยตอบคำถามด้วยครับ
#2
โพสต์เมื่อ 11 November 2010 - 11:13 AM
#3 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 11 November 2010 - 02:52 PM
แช่อิ่มในความสุข การเข้าถึงธรรม และยิ้มออกมาได้เองค่ะ
#4
โพสต์เมื่อ 11 November 2010 - 10:20 PM
#5
โพสต์เมื่อ 12 November 2010 - 02:23 AM
บทความที่เกี่ยวข้อง
ในขณะนั่งสมาธิ นักปฏิบัติธรรมหลายท่าน เกิดมีอาการเหล่านี้ขึ้น คือ บางคนรู้สึกเหมือนตกจากที่สูง หรือตกเหว บางคนถูกดูดลงไป บางคนรู้สึกตัวขยาย บางคนก็รู้สึกตัวหนักอึ้ง หรืออึดอัด บางทีรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก กำลังจะตาย บางครั้งมีอาการตัวยืด ขยาย ย่อ คว่ำไปข้างหน้า หงายมาข้างหลัง หมุน ตกจากที่สูง ขนลุก น้ำตาไหล หัวใจเต้นแรง เป็นต้น เมื่อเกิดอาการเหล่านี้หลายท่านจึงกลัวเพราะเราไม่รู้ว่าจะเจออะไรข้างใน พลอยคิดไปว่าตัวเองจะต้องตาย หรือจะเกิดอะไรที่ไม่ดี จึงทำให้กลัวการนั่งสมาธิ
7.6.2 สาเหตุ
อาการดังกล่าวที่กล่าวมาข้างต้น เป็นอาการที่ใจเริ่มละเอียด คือ มีการเปลี่ยนแปลงของสภาวะจิตจากหยาบไปหาละเอียด เป็นสภาพที่ใจกำลังเริ่มเป็นสมาธิมากยิ่งขึ้น
7.6.3 วิธีแก้ไข
1. เวลาใจกำลังลงให้ดูเฉยๆ ให้ยอมตายสักครั้งหนึ่งแล้วเกิดใหม่เป็นธรรมกาย คือไม่กังวลอะไร นั่งสบายๆ ปล่อยชีวิตไปเลย ปล่อยอารมณ์ฟุ้ง เคลิ้ม เครียด ทิ้งลงไปเลย
2. ทำตัวเหมือนผู้เจนโลก ที่ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยใจที่เป็นปกติ เป็นกลางๆ ไม่ยินดียินร้าย
3. อย่ากลัว อย่าขยับ อย่าดัน ให้ทำเฉยๆ เดี๋ยวใสสว่าง
4. สิ่งที่ควรทำภายหลังนิ่งไม่สมบูรณ์ เช่น ยืด ขยาย ย่อ ไปข้างหน้า จะหงายมาข้างหลัง หมุน ตกจากที่สูง ขนลุก น้ำตาไหล หัวใจเต้นแรง อะไรก็แล้วแต่เหล่านี้ให้เฉยๆ อย่าฝืนประสบการณ์ อย่าตั้งคำถามและแสวงหาคำตอบ เราไม่คุ้นกับประสบการณ์ภายในนั่นเอง ให้ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทำเฉยๆ ดูซิว่ามันจะมีประสบการณ์อะไรต่อไป ยืดจะยืดแค่ไหน ขยายจะขยายไปขนาดไหน ดูเฉยๆ นิ่งๆ ให้เห็นเป็นเรื่องธรรมดา อย่ามองว่ามันไม่ธรรมดา เพราะมันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
5. รู้สึกตัวหนักๆ อย่าลืมตา อย่าขยับตัว แล้วก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น มันเป็นความหนักที่จะเปลี่ยนภาวะไปสู่สิ่งที่เบาที่สุด ต้องอย่าลืมตา อย่าขยับตัว อย่ากลัว ทำ 3 อย่างนี้ นิ่งเฉยๆ รู้แล้วไม่ชี้ ทำความรู้สึกกับสิ่งนั้นสัก 1 เปอร์เซ็นต์ รู้ว่าอาการหนักเกิดก็อยู่เฉยๆ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#6 *กันจัง*
โพสต์เมื่อ 02 December 2010 - 03:54 AM
ประโยคนี้เราว่าเอาไปเป็นหลักในการนั่งสมาธิได้เลยค่ะ คือนิ่งแบบเดียวกับว่าเราคือ "ศพ" ไปเลย เพราะเราเคยเกือบเข้าถึงศูนย์กลางกายได้แล้วแต่ดันกลัวเพราะโดนดูดอยู่นานมาก จนทนไม่ไหวลืมตาเองซะก่อน เฮ้อ
เพราะเมื่อก่อนนี้สมัยตอนที่เรายังไม่สนใจเรื่องทำสมาธิให้เข้าถึงธรรมกาย (คือสมัยนั้นพ่อกับแม่เข้าวัดพระธรรมกายแล้วนะคะ แต่เรายังอายุน้อยเลยไม่สนใจเรื่องวัดเลย) มีอยู่ครั้งนึงเราลองทำโยคะท่า "อสุภะ" คือท่าศพ นอนเหยียดยาว กางแขนกางขาให้เสมอไหล่ หลับตาหายใจเข้าออกช้าๆ ทำตัวเหมือนตัวเองเป็น "ศพ" หายใจเข้าออกแบบไม่คิดอะไรเลยจริงๆ แล้วใจมันก็ไปนิ่งอยู่ตรงจุดที่ลมหายใจสุดที่ในท้องเอง (ไม่ต้องตั้งใจค่ะ มันไปอยู่ตรงนั้นเอง) คือ ศพนี่จะเจ็บจะเมื่อยจะอะไรไม่รู้สึกอยู่แล้ว คือเล่นเป็นศพจริงๆ ตอนนั้น แล้วค่อยๆ รู้สึกเหมือนตัวขยายออก แขนขาไม่รู้สึกว่ามีจริงๆ ตอนนั้นไม่กลัวนะ รู้สึกสนุกด้วยซ้ำ
แล้วจู่ๆ ภาพหลังม่านตาที่มืดเป็นปกติเวลาหลับตา มันก็วูบ เรารู้สึกว่าตัวเราตกหลุมโดนดูดไปตามอุโมงมืดๆ คือภาพที่เห็นหลัีงตาคือตาเรามองริ้วอุโมงแล่นผ่านตาเราไปเรื่อยๆ มีส่วนสว่างเป็นวงๆ (นึกถึงอุโมงในหนังวิทยาศาสตร์คือมืดหมด สว่างเป็นริ้วๆ เหมือนเส้นนีออนเป็นวงๆ) เรามองไปรอบๆ เห็นแต่อุโมงกำลังดูดเราลงไป มองไม่เห็นแขนขาตัวเองทั้งนั้น คือมองขึ้นลงซ้ายขวาได้หมดเลยค่ะ แต่มองไม่เห็นตัวเองในนั้น เหมือนไปแค่ตาอย่างเดียว
เราปล่อยให้โดนดูดอยู่สักพัก แล้วรู้สึกกลัวขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไร (ตอนนั้นยังไม่รู้จักการนั่งสมาธิเข้าศูนย์กลางกายอะไรทั้งนั้น บังเอิญล้วนๆ) นึกว่าผีอำแต่ตอนนั้นเรารู้สึกตัวปกติ แขนขาขยับได้ตัวไม่หนัก หายใจปกติ ไม่ได้ฝันแน่ๆ จนท้ายสุดเราลืมตาขึ้นมาเอง เลยหยุดไปแค่นั้น
เรางงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยหลายปีมากแล้ว และเคยนึกถึงอีกเลยด้วย จนกระทั่งได้มารับฟังเรื่องการนั่งสมาธิ และประสบการณ์ช่วงจะเข้าถึงองค์พระ เราถึงได้แวบนึกออกว่า สิ่งที่เราสัมผัสตอนนั้นต้องใช่สภาวะ "กำลังจะเข้าศูนย์" แน่ๆ เสียดายตอนนั้นเราดันลืมตาเองซะก่อน ไม่งั้นได้เข้าถึงองค์พระก่อนจะรู้เสียอีกว่าคืออะไร
หยุดคือตัวสำเร็จ คำนี้จริงแท้แน่นอนค่ะ หรือบางท่านลองทำดูแบบเราก็ได้นะคะ นอนเหยียดยาว ทำตัวเป็นศพที่หายใจได้ ไม่นึกไม่คิดไม่อะไรทั้งสิ้น นอนหลับตานิ่งเป็นศพ หายใจได้อย่างเดียว ไม่แน่อาจเข้าถึงองค์พระได้ในท่านอนนั่นแหล่ะ เรายังเคยเกือบได้มาแล้วเลย (แต่พอนั่งทำกลับเมื่อยทนไม่ได้ทุกที) ใครชอบปวดหลังเมื่อยขา ลองท่านอนได้เลยค่ะ
#7 *โอย ตาย*
โพสต์เมื่อ 02 December 2010 - 10:24 AM
โอมเพี้ยง ! ขอให้ทุกท่านเข้าถึงธรรม me too!
#8
โพสต์เมื่อ 16 December 2010 - 11:46 AM
พยายามนั่งให้ได้ทุกวัน อย่างต่อเนื่องนะครับ
#9
โพสต์เมื่อ 30 August 2011 - 02:13 PM
#10
โพสต์เมื่อ 26 July 2013 - 12:45 AM
อนุโมทนากับทุกท่านครับ สาธุ
Army Of The Lord Buddha.
ขออนุโมทนา บุญทุกบุญ กับทุกท่านด้วยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ