![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/cb279ef8ae1a7fe2a8d714370e3b2db6?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
ทำไมตายไปร่างเราจึงเป็นรูปร่างมนุษย์หล่ะ? คำถามยากๆ :)
#1
โพสต์เมื่อ 27 October 2004 - 09:38 PM
1. ร่าง(กายละเอียด)ที่แท้จริงของสัตว์โลกคืออะไร มนุษย์หรืออะไร
2. คนฆ่าสัตว์ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร กิน ขาย หรือแม้แต่เป็นหน้าที่ก็บาป เช่นฆ่าไก่ หมู เป็นต้น แล้วนายนิรยบาล ฆ่าคนทำให้คนทุกข์ทรมาน ไม่บาปบ้างเหรอ หรือว่าบาปครับ ถึงแม้จะเป็นหน้าที่ก็ตาม เหมือนคน
^_____^
#2
*ชู*
โพสต์เมื่อ 27 October 2004 - 09:49 PM
#3
โพสต์เมื่อ 27 October 2004 - 10:00 PM
สุดยอดคำถาม
หาผู้รู้ตอบอีกเช่นเคย
เอาผู้รู้งูปลาตอบแทนได้ปะ
เอ้า! อยากรู้ไปค้นคว้าเอา ในพระไตรปฎิกเถอะคุณจิรัฎ
ส่วนเรา
ยังไม่จับพระไตรปฎิกอ่านเท่าไหรเลย ความรู้น้อยอะ
สำหรับข้อ1
แต่คิดว่า เป็นกายละเอียดเหมือนมนุษย์ค่ะ หมาแมวกาไก่ลิง ก็มาจากกายมนุษย์ทั้งนั้น
สำหรับข้อ2 นายนิรยบาลไม่ได้ฆ่าคนอะ เป็นการทำโทษกายละเอียดค่ะ และที่ไปอยู่ตรงนั่น
เพราะมีกรรมต้องใช้ด้วยค่ะ ส่วยกรรมอะไรนั่น จำไม่ได้ค่ะ บางทีอ่านๆ แล้วก็ลืม คนอายุน้อย
30นิดแล้วนิ
#4
*Guest*
โพสต์เมื่อ 28 October 2004 - 10:10 AM
เช่นวาดรูปคนเดินไปยังยมโลก ล้วนแต่นายนิริยพาลจับคนทั้งสิ้น
คำถามคือ มดตายกันเป็นว่าเล่น ทำไมไม่มีมดตายเลยรึ
แล้วอีกอย่างถ้ากายละเอียดของสัตว์โลกล้วนเป็นคนหมด ทำไมๆ คนใหญ่นักเหรอ ถึงต้องเป็นคน
สัตว์หรือคน ก็ต้องย่อมรักรู้ร่างของตัวเองไม่มากก็น้อย สมมุติเป็นนก ตายปุ๊บเป็นคน ก็ต้องสงสัยแล้ว เอะ ทำไมเป็นคนหว่า เอ้ย เราเป็นนกไม่ใช่เหรอ แล้วก็เอะ ทำไมเราโตจัง เราพึ่งอายุ 2 ขวบเอง มันก็น่าสงสัย เอะ ทำไมหน้าตาเราเป็นแบบนี้ แล้วก็เอะ เราโดนยิง ทำไมไม่มีรูหว่า หายไปไหน ใช่มั้ยครับ
แล้วก็ไม่ต้องให้ผมไปเปิดพระไตรปิฎกด้วย ผมไม่สามารถทำอย่างท่านบอกได้
ตอบไม่ได้ก็ให้ครูไม่ใหญ่ตอบให้สิครับ เพราะว่ากระทู้ในหมวดนี้ บอกว่า จะส่งให้ครูไม่ใหญ่อ่ะ ทำหรือเปล่าไม่รู้ ทำไมไม่มีผู้รู้มาตอบหล่ะครับ
ขอบคุณครับ
#5
โพสต์เมื่อ 03 November 2004 - 01:19 AM
2. คนฆ่าสัตว์ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร กิน ขาย หรือแม้แต่เป็นหน้าที่ก็บาป เช่นฆ่าไก่ หมู เป็นต้น แล้วนายนิรยบาล ฆ่าคนทำให้คนทุกข์ทรมาน ไม่บาปบ้างเหรอ หรือว่าบาปครับ ถึงแม้จะเป็นหน้าที่ก็ตาม เหมือนคน
1. ร่างที่แท้จริงของมนุษย์ คือพระธรรมกายครับ อิอิอิ รู้จัก 18 กายหรือยัง
2. นายนิรยบาล เป็นกายสิทธิ์ คือไม่มีวิญญาณ เหมือนหุ่นยนต์ เกิดจากบาปที่เราทำไว้เองน่ะครับ
เหมือนคุณชกกระจกเงา ถามว่าเจ็บไหม อือ เจ็บ เงาในกระจกมันสวนคุณน่ะครับ มันไม่มีชีวิต
แต่มันทำคุณเจ็บ เพราะการกระทำของคุณเอง (บาป)
#6
โพสต์เมื่อ 06 May 2005 - 05:43 PM
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#7
โพสต์เมื่อ 07 May 2005 - 12:48 PM
ผมเข้าใจครับ เหตุที่ทำให้เราคิดอย่างนี้ได้ ก็เป็นเพราะอิทธิพลของวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่ในใจเราน่ะครับ ลองสังเกตุดูตอนเด็กๆ เราไม่มีความรู้อะไรเลย พอเราได้รับความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาจากที่โรงเรียน เราก็เชื่อความรู้นั้นทันที ประกอบกับวิทยาศาสตร์ ก็แสดงความสามารถให้เราเห็นได้หลายอย่าง เช่น ผลิตรถยนต์ เครื่องบิน โทรทัศน์ ฯลฯ เราจึงเข้าใจไปว่า วิทยาศาสตร์ถูกต้องทุกอย่าง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ปัจจุบันมีทฤษฎีวิทยาศาสตร์ทฤษฎีใหม่เกิดขึ้นมากมาย มาล้มล้างทฤษฎีเดิมอยู่เป็นระยะๆ
เช่นเดียวกับเรื่องนี้ เราถูกอิทธิพลของวิทยาศาสตร์ ใส่เข้าไปในหัวว่า คนมาจากลิง และลิงก็วิวัฒนาการมาจากสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำกว่า และสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น ก็วิวัฒนาการเรื่อยมาโดยเริ่มต้นจากสัตว์เซลเดียว พอมีความรู้นี้อยู่ในใจ อะไรที่คล้ายๆ ไปขัดกับความรู้นี้ เราจะแย้งในใจทันทีว่า ทำไมตายแล้ว ต้องกลายเป็นคน แล้วถ้ามดตายแล้วจะเป็นอะไร เนื่องจากเราเข้าใจไปว่า คนเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดทีหลังสุด (ของการวิวัฒนาการจากอดีตมาจนปัจจุบัน)
แต่ปัจจุบัน วิทยาศาสตร์ กำลังคิดใหม่ทำใหม่ กำลังเกิดทฤษฎีที่ว่า คนไม่ได้มาจากลิง แต่ไม่เฉพาะลิง แม้แต่สิ่งมีชีวิตอื่นๆ กลับน่าจะกลายพันธุ์ไปจากคน โอยมันจะไปกันใหญ่แล้ว แต่เขาศึกษากันไปถึงระดับโครโมโซม แล้วเขาก็พบว่า โครโมโซมของคน สมบูรณ์ที่สุด แต่โครโมโซมของสิ่งมีชีวิตอื่น กลับมี(โครโมโซม)บางตัวเพี้ยนไปจากคน จึงกลายเป็นสิ่งมีชีวิตนั้นๆ ขึ้นกับว่า โครโมโซมไหนเพี้ยนไป
ดังนั้น ความเชื่อดังเดิมที่ว่า จากเริ่มต้นที่ศูนย์ พัฒนาเรื่อยมา (สัตว์เซลเดียว หลายเซล) จนกลายมาเป็นสมบูรณ์ (มนุษย์)
เริ่มเปลี่ยนใหม่กลายเป็น เริ่มต้นที่สมบูรณ์ (มนุษย์) แต่มีการบิดเบี้ยว กลายพันธุ์ไปจนกลายไปเป็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ ตั้งแต่ชั้นสูง ยันชั้นต่ำ (แต่ทฤษฎียังถูกไม่สมบูรณ์เมื่อเทียบกับพุทธศาสนานะครับ เพราะทฤษฎีนี้เพี้ยนลงไปถึงสัตว์เซลเดียว แต่พุทธศาสนายืนยันชัดเจนว่า จากมนุษย์เพื้ยนลงไปถึงแค่สัตว์ที่มีวิญญาณครองเท่านั้น)
ซึ่งสิ่งที่เขากำลังตื่นเต้นนั้น พุทธศาสนาบอกมานานแล้วครับ ว่าชีวิตเริ่มต้น คือ มนุษย์ครับ แล้วก็กลายพันธุ์ไปเป็นอะไรต่างๆ มากมาย ตามวิบากกรรมครับ
เมื่อใดก็ตามที่วิทยาศาสตร์ตามทันพระพุทธศาสนา เมื่อนั้น โลกจะเกิดสันติสุขที่แท้จริง
#8
โพสต์เมื่อ 07 May 2005 - 03:04 PM
ในเมื่อจิตของเรายังไม่หยุดไม่นิ่งพอที่จะไปรู้ไปเห็นอะไร แล้วหากมีใครมาบอกคุณอย่างโน้นอย่างนี้แล้วคุณจะเชื่อเหรอ เราว่า เป็นเราก็ไม่เชื่อ เพราะ ไม่ได้เห็นด้วยตา ไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง
แต่เราจะก็เชื่อในกฎแห่งกรรม ส่วนเรื่องปลีกย่อยต่าง ๆ หากได้รู้ได้เห็นสักวัน คงคลายไปเอง
คุณจิรัฎ หาเวลาซะหน่อยดีมั๊ย! ใกล้เข้าพรรษาแล้ว ลองเตรียมตัวเตรียมใจบวชที่วัดเลย สงสัยอะไร เจอหน้าหลวงพ่อท่าน ก็ถามท่านเลย แต่อะนะ ขอเตือนว่า ต้องถามด้วยความเคารพ ไม่ใช่ถามด้วยอาการที่กวน... นะค่ะคุณ ตามความคิดเรา หลวงพ่อธัมมะ ท่านค่อนข้างเมตตาลูกพระลูกเณรท่านเป็นพิเศษ แต่เคยจำได้ว่า พวกสัตว์ที่ตายแล้ว หากยังไม่หมดเวร ก็ไปเกิดต่อเลย
#9
โพสต์เมื่อ 11 May 2005 - 02:35 AM
(จากตอนหนึ่งของบทเพลงในอัลบั้ม "ตะวันธรรม ๒")
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#10
โพสต์เมื่อ 15 August 2005 - 01:36 AM
#11
โพสต์เมื่อ 21 November 2005 - 03:23 PM
คำถามที่คุณ elightka ถามมาว่า
1. ร่าง(กายละเอียด)ที่แท้จริงของสัตว์โลกคืออะไร มนุษย์หรืออะไร
ตอบ สสารและพลังงานไม่หายไปจากโลก สสารคือกาย พลังงานคือจิต จิตนี้เมื่อเข้าไปอยู่ในกายอุปมาก็เหมือนกับ น้ำที่เข้าไปอยู่ในภาชนะคือแก้วแบบต่าง ๆ เมื่อจิตกระทำกรรมไม่ดีมามากวิบากคือกรรม ก็จะบรรดา หรือเกิดกระบวนการสร้างกาย หรือแก้วให้แตกต่างกันไป แล้วดึงดูดจิตซึ่งเป็นพลังงานเข้าไปอาศัย ดังนั้นถามว่าสัตว์ คน ไดโนเสาร์ กายในเป็นอะไรผมขอตอบว่า
ถ้าสัตว์นั้นยังมีชีวิตและมีกรรมหนักอยู่พอที่จะก่อให้เกิดชนกกรรมได้ กายหยาบจะเป็นสัตว์อยู่ กายละเอียดถ้ามีกรรมบาปเชื่อมอยู่ตายแล้วก็จะยังเป็นกายสัตว์ละเอียดอยู่ แต่ใจ ณ ภายในเหมือนกันหมดครับ คือเป็นพลังงาน เมื่อใจรวมได้ก็เกิดเป็นแสงเป็นดวง เมื่อรวมไม่ได้ก็เป็นกลุ่มก้อน รวมได้มากก็ดวงใหญ่มาก รวมได้น้อยก็ดวงเล็ก
2. คนฆ่าสัตว์ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร กิน ขาย หรือแม้แต่เป็นหน้าที่ก็บาป เช่นฆ่าไก่ หมู เป็นต้น แล้วนายนิรยบาล ฆ่าคนทำให้คนทุกข์ทรมาน ไม่บาปบ้างเหรอ หรือว่าบาปครับ ถึงแม้จะเป็นหน้าที่ก็ตาม เหมือนคน
ตอบ ทุกการกระทำของทั้งคนและสัตว์ ถูกบันทึกไว้ที่จิต เหมือนเทปบันทึกภาพ นายนิริยบาลเกิดจากอารมณ์จิตของเจ้าของกรรมที่บันทึกไว้ ยกตัวอย่างเช่น คุณกำลังเอามีดสับหัวปลา จิตคิดสั่งหาร และสังหารได้เกิดขึ้นเป็นพลังงาน และได้สร้างกายสังหาร ณ ภายใน ซึ่งต่อมาเมื่อคุณตายละโลกไป กายสังหารที่คุณเองสร้างไว้เมื่อมีชีวิตก็จะกลับมาหาคุณ นี่แหละครับที่เขาเรียกว่า กฎแห่งกรรม นายนิริยบาลหาใช่ใครอื่น คือตัวเรานี่เอง
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#12
โพสต์เมื่อ 14 March 2006 - 11:48 PM
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้
#13
โพสต์เมื่อ 28 January 2007 - 02:15 PM
#14
โพสต์เมื่อ 21 June 2009 - 09:04 PM
เพราะมีอีกหลายอย่างมากมาย ที่วิทยาศาสตร์ไมสามารถอธิบายได้ไม่ว่าในเชิงตรรกกะ หรือ เหตุผลก็ตาม แม้นักวิทย
ศาสตร์ยังบอกเลยว่า พระพุทธศาสนานั้น เป็นสิ่งที่น่าค้นหาที่สุด คนที่รู้จักพระพุทธเจ้า จะรู้ว่า ท่านเก่งยิ่งกว่านักวิทยา
ศาสตร์ซะอีก แม้เรื่องโลกหรือจักรวาลก็มีในพระไตรปิฎก กว่า 2500กว่าปีมาแล้ว แล้ววิทยาศาสตร์ก็เพิ่งมาตามเจอ โดย
ที่แบบเข้าใจผิดๆไปก่อนตั้งมากมายมิหนำซ้ำ ยังถกเถียงกันไม่รู้จบ มารู้ทีหลังว่า พระพุทธเจ้าท่านทรงบอกไว้ก่อนนาน
แล้ว และสิ่งที่ท่านบอกไว้นั้น ถูกต้อง แน่นอน เป็นจริง อย่างไม่มีข้อกังขาใดๆค่ะ
**บางคนก็ตอบไม่ค่อยตรงคำถาม
**แล้วก็เรื่องที่บอกว่าให้ไปนั่งสมาธิก่อนแล้วจะรู้เอง เป็นเรื่องที่ดีมากนะคะ แต่ต้องเข้าใจว่า คนเรามีกิเลส การที่จะเข้า
ถึงแล้วไปรู้ด้วยตัวเองนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ไม่ยังงั้น ถ้าในอดีต มีคนไปถามพระพุทธเจ้ามากมาย ท่านก็ต้องบอกให้ทุกคน
ว่าไปนั่งสมาธิให้รู้ด้วยตนเองสิ แต่ท่านกลับตอบคำถามให้ผู้ถามได้เข้าใจลึกซึ้ง และไร้ข้อสงสัย นั่นเพราะเหตุไร เพราะเมื่อ
ท่านได้ขจัดความสงสัยให้กับผู้ถามอย่างถ่องแท้แล้ว ผู้ถามก็จะพึงรู้ด้วยตนเองว่า ไม่มีใครตอบได้ดีไปกว่าท่าน และการที่
จะตอบได้แบบท่าน ก็ต้องอาศัยความเพียร การศึกษาหาความรู้ทางธรรมอย่างถูกหลักวิธี ผู้นั้น ก็จะเอาท่านเป็นเยี่ยงอย่าง
และก็จะเริ่มเชื่อในการนั่งสมาธิ การฟังธรรม ด้วยตนเอง เพราะได้เห็นแล้วชัดเจนกับตนเองว่าไม่มีวิธีไหน หรือ ไม่มีอะรัยจะ
ตอบคำถามได้ดีไปกว่า พระธรรมกาย หรือ พระพุทธเจ้า หรือ อย่างน้อยที่สุด ก็จะรู้ว่า คนที่ศึกษาพระพุทธศาสนามาอย่างดี
เท่านั้น จึงจะตอบได้โดยทำให้ผู้ถามไร้ข้อสงสัย เพราะฉะนั้น สิ่งแรกที่ควรทำก็คือการตอบคำถามให้ตรงประเด็นค่ะ เพราะ
ส่วนตัวเราเอง ก็เป็นคนชอบถาม เราเชื่อเรื่องบุญบาปมาตั้งแต่เล็กๆ และเราก็ไม่ชอบไปถามคนที่บ่ายเบี่ยงประเด็น
หรือ บางครั้ง เวลาคนตอบตอบแบบยังไม่รู้จริง เราก็จะขัดกับสิ่งนั้น ว่ามันไม่กระจ่างไม่ถ่องแท้ เอาล่ะ เข้าเรื่องนะคะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นักเรียนอนุบาล elightka
จำนวนความเห็น: 16ความคิดเห็น #1 |
เห็นรูปภาพของครูไม่ใหญ่ ไม่ว่าจะนาค ไม่ว่าจะคน ตายไปก็มีรูปร่างเป็นมนุษย์แล้วสงสัยว่า หมา แมว ตายไปเป็นรูปร่างมนุษย์ด้วยหรือเปล่า ถ้าใช่ เพราะอะไร ร่างที่ตายไปเป็นกายละเอียด ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงตามร่างตอนตาย ???
1. ร่าง(กายละเอียด)ที่แท้จริงของสัตว์โลกคืออะไร มนุษย์หรืออะไร
2. คนฆ่าสัตว์ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร กิน ขาย หรือแม้แต่เป็นหน้าที่ก็บาป เช่นฆ่าไก่ หมู เป็นต้น แล้วนายนิรยบาล ฆ่าคนทำให้คนทุกข์ทรมาน ไม่บาปบ้างเหรอ หรือว่าบาปครับ ถึงแม้จะเป็นหน้าที่ก็ตาม เหมือนคน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอบคำถามนะคะ สัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าตายไป ยังไงก็ตาม กายละเอียด ก็คือ กายมนุษย์ละเอียดนั่นแหละค่ะ ที่ใช่ ก็เพราะว่าไม่
ว่าจะร่างกายของสัตว์ หรือ คน ก็ล้วนเป็นสังขาร ไม่เที่ยง เป็น ทุกข์ ไม่ใช่ของเรา แม้ร่างกายที่เราใช้อยู่ตอนนี้ ก็ไม่ใช่
ของเรา เพราะท้ายที่สุด เมื่อเราตายไป ก็เอาร่างนี้ไปไม่ได้ แต่ทำไม ร่างจึงแตกต่างกัน เหตุนั้น เป็นเพราะ กรรมดี และกรรม
ชั่ว ที่เราได้ทำมา มาส่งผล นะคะ เช่น บางคน ชอบกินเหล้า ตายไปก็ตกนรกกก่อน ไปเป็นสัตว์นรก พอใช้กรรมในนั้นเบาบาง
ก็เข้าสู่ภพของการเป็นสัตว์เดียรัจฉานอยู่ เพื่อชดใช้กรรมอีกต่อ โดยเป็นงู เพราะโดยปกติ งูนั้น จะเลื้อยไปๆมาๆ ไม่ตรง
นั่นก็มาจากกรรมสุรานะคะ เมื่อกรรมเบาบางลงมาอีก จึงค่อยได้เกิดเป็นคน คือได้สังขารคน แต่ก็ต้องเป็นบ้า ใบ้ ปัญญาอ่อน
ไม่สมประกอบก่อน ชดใช้กรรมให้เบาบางอีก ก็จะเริ่มได้เกิดเป็นคนที่ปดติมากขึ้น แต่อาจจยังชอบฟุ้งซ่าน เกทอะรัยช้าหน่อย
ก็มาจากกรรมสุราที่ตามมานะคะ ถ้ามาชาตินี้แล้วรู้ว่า ตัวเองเคยไปทำกรรมมา แล้ว พยายามทำความดี สร้างแต่บุญ กรรมนั้น
ก็จะลดลงไปอีกค่ะ ทำให้กลายเป็นคนที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดมากขึ้น แต่ถ้ายังไม่มีกัลยาณมิตร หรือ บุญเก่ามาเตือน ก็
อาจจะกลับไปทำผิดซ้ำอีก แล้วก็ตกนรกซ้ำอีก วนเวียนกันไปอย่างนี้นะคะ (อันนี้เราเพิ่มเติมให้นะคะ)
1. ร่าง(กายละเอียด)ที่แท้จริงของสัตว์โลกคืออะไร มนุษย์หรืออะไร
= ร่างที่แท้จริง ก็คือ ธรรมกาย อย่างที่ นักเรียนอนุบาล โต LordBSDได้บอกไว้นะคะ ซึ่ง มันมีอะไรละเอียดมากกว่านั้น
ก็อย่างที่ว่า คือ กิเลสทำให้มันแปลงมา เป็น แบบพวกเรา หรือ สัตว์เดียรัจฉาน หรืออะรัยต่างๆอย่างนั้น ทำให้ร่างธรรมกายนั้น
ผิดเพี้ยนไป เหมือนร่างที่เราใช้นะคะ แต่ ว่า กายที่คุณมองว่าละเอียดอย่างกายมนุษย์นั้นน่ะ มันยังมีละเอียดกว่านั้น เข้าไปจนถึง
ธรรมกายไงคะ คือ ว่าละเอียดมากๆ จริงๆ ต้องเข้าไปหลายๆๆๆชั้น ด้วยการนั่งสมาธินะคะ กายละเอียดรูปร่างมนุษย์เนี่ย
มันก็ยังละเอียดน้อยไป เพราะเมื่อคนมีบุญตายก็อาจจะทิ้งกายละเอียดมนุษย์นี้ เป็นกายทิพย์อีก อะรัยยั้งงั้น คือ มันเป็นเรื่อง
ละเอียดลึกซึ้งมากๆค่ะ เราขอแนะนำว่า ให้ไปศึกษาจากพระอาจารย์ที่มีภูมิรู้ หรือ ดูดีเอมซีบ่อยๆนะคะ หลวงพ่อบอกบ่อยมาก
เราเองก็อ่านมา แต่ถ้าจะให้อธิบาย คือ มันยาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แล้ว มันต้องบอกเป็นสัดส่วน
เลยค่ะ แต่เราว่า เท่านี้ ก็คงจะพอแก้ข้อสงสัยได้ละนะคะ โอเคมั๊ย ??
2. คนฆ่าสัตว์ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร กิน ขาย หรือแม้แต่เป็นหน้าที่ก็บาป เช่นฆ่าไก่ หมู เป็นต้น แล้วนายนิรยบาล ฆ่าคนทำให้คนทุกข์ทรมาน ไม่บาปบ้างเหรอ หรือว่าบาปครับ ถึงแม้จะเป็นหน้าที่ก็ตาม เหมือนคน
= นายนิรยบาลไม่ได้ฆ่าคนค่ะ เพราะกายนั้น เป็นกายสัตว์นรก ไม่ได้มีเนื้อหนัง และทำความดี-ชั่วไม่ได้เช่นมนุษย์ มันเป็นคนละ
กายกัน ตรงนี้ต้องทำความเข้าใจนะคะ จะเพิ่มให้อีกหน่อย นายนิรยบาลเนี่ย มีอยู่ หลายแบบ เท่าที่เรารู้ก็คือ มีกุมภัณฑ์ชั้นต่ำ
ที่เกิดจากคนที่ไม่ค่อยทำความดี และก็ไม่ได้ทำความชั่วมากนัก ตายไป ก็ไม่มีบุญให้ไปเสวยสุข ก็เลยไปเป็นนายนิรยบาล
ต้องคอยทำโทษสัตว์นรก ซึ่งเป็นหน้าที่ของเค้า และก็เป็นผลกรรมของสัตว์นรกนั้น ที่ได้เคยทำไว้ สมัยที่เป็นมนุษย์ไงคะ
ก็เลยไม่บาป อีกจำพวกนึง คือ นายนิรยบาลที่เกิดจากกรรมของสัตว์นรกโดยตรงเลยค่ะ อันนี้คือ ไม่ใช่อดีตมนุษย์แล้ว
เคยดูเคสที่หลวงพ่อ เล่ามั๊ยคะ ที่มี ปักษาวารี ในสวรรค์ บินไปบินมา แต่ไม่ใช่เทวดา หรือ อดีตมนุษย์ ก็เป็นเพียงกายสิทธิ์
ที่เกิดจากผลของกรรมที่เจ้าของได้ทำไว้ นั่นล่ะค่ะ ถ้าให้เปรียบ ก็เหมือนเครื่องจักรทำงานล่ะค่ะ โอเคมั๊ยคะ ??
ส่วนที่บอกว่า มนุษย์ฆ่าสัตว์ เพราะเป็นหน้าที่นั่น ไม่ใช่เหตุผลนะคะ เพราะมนุษย์สามารถเลือกได้ว่าจะทำอาชีพอะไร
จริงมั๊ย คะ แต่เค้าก็ยังเลือกที่จะทำอาชีพที่ผิดศีล ด้วยตัวของเค้าเอง ก็บาปเอง แล้วก็ต้องไปรับผลเอง นั่นไม่ใช่แม้เพียง
คำว่าหน้าที่เลยค่ะ แล้วก็ไม่มีใครกำหนดมาให้ว่าคนนั้นต้องทำแบบนั้น มันเป็นอาชีพที่เค้าเลือกเองไงคะ
พอหายสงสัยรึเปล่าคะ พยายามดู DMC บ่อยๆ ติดตามหลวงพ่อ ฟังธรรมะ ศึกษาธรรมะเยอะๆนะคะ
เรื่องเหล่านี้น่าสนใจ มากกว่าเรื่องทางโลกอีก เราก็ชอบมากๆ เลยค่ะ เรื่องธรรมะนั้นไม่ไกลตัวนะคะ ก็อยู่ในชีวิตประจำวัน
ยิ่งศึกษายิ่งศรัทธา ยิ่งลึกซึ้ง ที่สามารถตอบได้ก็เพราะธรรมะจากพระพุทธเจ้านะคะ จากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ก็ขอให้ทุกคนเพียรทำความดี รักษาศีล เจริญสมาธิ ภาวนาให้ยิ่งยวด อย่าประมาทในชีวิตกันนะคะ (สาธุ !! )
#15
โพสต์เมื่อ 21 June 2009 - 09:10 PM