รักสามเศร้า(1ทอม2สาว)
#1
โพสต์เมื่อ 04 April 2007 - 07:52 PM
ทั้งมีความคิดเห็นที่ไม่สามารถโพสต์ได้ก็ส่งE-mail มานะคะ [email protected] ขอบคุณนะคะอนุโมทนาบุญด้วยมากๆเลยคะ
ขอบุญ คุ้มครอง ผู้อยู่ในบุญ สา...ธุ
#2
โพสต์เมื่อ 04 April 2007 - 08:16 PM
แต่ถ้าไม่เจอก้อช่างมัน เข้าวัดสบายใจกว่า
จากผู้มีประสบการณ์มาก่อน
#3
โพสต์เมื่อ 04 April 2007 - 08:23 PM
#4
โพสต์เมื่อ 04 April 2007 - 09:46 PM
นี่แหละครับ ความรักอันเกิดจากกิเลสราคะหรือความรักฉันท์ชู้สาว มักจะมีความทุกข์เจือเสมอ เพราะความรักที่เกิดขึ้น มันเป็นความรักแบบต้องการครอบครอง ต้องการให้เขาเป็นของเรา ซึ่งจริงๆแล้วเราลืมคิดไปว่า ไม่มีใครไปเป็นเจ้าของใครได้ แม้แต่ร่างกายของตัวเราเอง สักวันเราก็ต้องทิ้งมันไป เมื่อถึงเวลาหมดอายุขัย ร่างกายเราเองเรายังเป็นเจ้าของมันไม่ได้เลย แล้วอย่างนี้เราจะไปคิดเป็นเจ้าของคนอื่นทำไม ความรักแบบนี้จะมีแต่ความทุกข์ ซึ่งคุณjaikoya ก็คงกำลังประสบอยู่ และความรักแบบนี้หากผิดพลาด ก็ยังนำมาซึ่งการผิดศีลกาเมฯ อันจะก่อให้เกิดความทุกข์ต่อไปในภพภูมิเบื้องหน้าด้วย เพราะหากเราไปกระทำผิดศีลเข้า ก็จะมีอบาย ทุคติ วินิบาต สัตว์นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน รองรับอยู่ และก็จะวนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่จบสิ้น ผิดจากความรักอันเกิดจากความเมตตาและกรุณา ความรักแบบนี้จะมีแต่คำว่าให้ ให้สิ่งดีๆซึ่งกันและกัน เป็นกัลยาณมิตรให้กันและกัน ประคับประครองกันไป จนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรม ความรักแบบนี้จะมีแต่ความสุขและสุคติในภพเบื้องหน้า
ผมคิดว่าคุณjaikoya คงเข้าวัดมาได้ระยะหนึ่งแล้ว และคงได้ดูดาวธรรมอยู่บ้าง น่าจะพอได้รู้แล้วว่า จริงๆแล้วเราเกิดมาทำไม เราไม่ได้เกิดมาเพื่อเรียนหนังสือ จบแล้วก็หางานทำ มีแฟนมีครอบครัว มีลูกมีเต้า แล้วก็ตาย แต่เราเกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญสร้างบารมี เมื่อคุณjaikoya ได้รู้อย่างนี้แล้ว ก็อยู่ที่คุณjaikoyaแล้วแหละครับ ว่าจะเลือกอะไรให้กับชีวิตตัวเอง ซึ่งเป็นของน้อยนัก อีกไม่ช้าเราก็ต้องละโลกนี้ไปแล้ว คุณjaikoyaจะเลือกมีความทุกข์แบบนี้เรื่อยไป หรือเลือกที่จะมีความสุข มีแต่การสร้างบุญสร้างบารมี
เรื่องตัดใจไม่ได้ตรงนี้ไม่จริงหรอกครับ ที่ตัดใจไม่ได้เพราะเราไม่ยอมตัดใจต่างหาก ถ้าเราตัดสินใจตัดใจอย่างเด็ดขาด ก็จะตัดใจได้ครับ เปลี่ยนความรักแบบฉันท์ชู้สาว ให้เป็นความรักแบบเมตตากรุณาซะ เป็นกัลยาณมิตรให้กันและกัน ลองคิดดูว่าเมื่อก่อนเราก็อยู่ของเราคนเดียวได้ ไม่เห็นเป็นไร ก็แค่กลับไปอยู่คนเดียวเหมือนเมื่อก่อนก็แค่นั้น และก็คิดซะว่า นี่แหละเป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะได้ตัดสินใจ ประพฤติพรหมจรรย์ สร้างบุญสร้างบารมีให้เต็มที่ จะได้หลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์ พ้นจากความทุกข์แบบนี้ได้เด็ดขาดเสียที ไม่ต้องวนเวียนอยู่แบบนี้อีก ถ้าไม่ตัดใจให้เด็ดขาด ก็ต้องกลับไปเป็นอย่างนี้อีกเรื่อยไป ตัดใจเสียตั้งแต่ตอนนี้ ตอนนี้อาจจะทุกข์หน่อยเนื่องจากต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ซึ่งถ้าไม่พลัดพรากตอนนี้ ก็ต้องพลัดพรากกันสักวันอยู่ดี ต้องละโลกจากกันไปสักวันอยู่ดี ตัดใจตอนนี้เพื่อหวังสุขอันยิ่งใหญ่ในอนาคต ความทุกข์จากการพลัดพรากในตอนนี้ มันไม่อยู่ตลอดไปหรอกครับ สักวันมันจะค่อยๆจางหายไป เพราะความทุกมันก็อยู่ในไตรลักษณ์ คือ ไม่เที่ยง ตัดใจตอนนี้เพื่อไปแสวงหาความสุขอันยิ่งใหญ่ยั่งยืนในภายภาคหน้า คือสุขจากพระพิพพาน สุขจากการแสวงบุญสร้างบารมี ดีกว่าครับ
ผมเองคงแสดงความคิดเห็นและให้คำแนะนำได้เท่านี้ ก็อยู่ที่คุณjaikoyaจะตัดสินใจเลือกล่ะครับ
Someday I'm gonna be free.
#5
โพสต์เมื่อ 05 April 2007 - 07:29 AM
#6
โพสต์เมื่อ 05 April 2007 - 07:56 AM
#7
โพสต์เมื่อ 05 April 2007 - 10:38 AM
#8
โพสต์เมื่อ 05 April 2007 - 11:00 AM
ไร้รักย่อมไร้ทุกข์
จิตผูกพันนั้นทุกข์มากมาย
ใจผูกพันกังวลกับคนรักเลยทุกข์
อยากหลุดจากทุกข์ต้องตัดใจ
อยู่คนเดียวก็สบายใจดี
ไม่วุ่นวาย
เขาและเธอมีขันธ์ห้าที่ไม่เที่ยง
จิตไปข้องเกี่ยวผูกไว้กับสิ่งไม่เที่ยงเลยทุกข์
ทุกข์เพราะพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก
ทุกข์เพราะประสบพบพากับสิ่งที่ไม่รักไม่ชอบ
ตอบได้เลยครับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะกรรม
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
พิจารณานะครับ
แล้วตรองดู
ปัจจุบันสำคัญที่สุด
ดูว่าที่ทุกข์เพราะอะไร
เพราะสิ่งที่ผ่านมาในอดีต
หรือเพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ทั้งสองอย่างไม่ควรทุกข์
#9
โพสต์เมื่อ 05 April 2007 - 11:44 AM
#10
โพสต์เมื่อ 05 April 2007 - 12:00 PM
หากิจกรรม ทำ
เจ็บ ไม่นาน เดี๋ยวก็หาย ดีกว่าเจ็บไปตลอด....
สู้สู้
#11
โพสต์เมื่อ 05 April 2007 - 02:18 PM
#12
โพสต์เมื่อ 05 April 2007 - 05:02 PM
เมื่อวนเวียนเช่นนี้อยู่ล่ำไป แล้วเมื่อใดหนอจะได้ ออกบวชซะที ที่สุดแห่งธรรมก็ คงอีกนานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เลิกยาก ลาหยอก รีบออกจากกาม เดินตามขันสามเรื่อยไป เสร็จกิจสิบหก ไม่ตกกันดาน นิพพานเป็นที่ไป โอวาทพระมงคลเทพมุนี หลวงปู่วัดปากน้ำ
#13
โพสต์เมื่อ 05 April 2007 - 05:14 PM
น้าจี้
#14
โพสต์เมื่อ 06 April 2007 - 12:00 AM
#15
โพสต์เมื่อ 07 April 2007 - 12:12 PM
- เผชิญปัญหาด้วยมโนปนิธาน
1. ความผิดพลาดที่ผ่านมา...ลืมให้หมด ไม่งั้นภาพ(ราคะ)ในอดีตมาหา
2. บาป อกุศลกรรม...อย่าทำเพิ่ม เดี๋ยวชนวนอกุศลจะปะทุ
3. นึกถึงบุญ...นึกเรื่อยๆ อย่างน้อยก็เป็นคลื่นแทรกช่องทางอกุศล
4. สร้างกุศลกรรมทับทวี(การบ้าน10ข้อ)...ให้ห่างไกลจากอกุศลยิ่งๆขึ้น ตามติดพระเดชพระคุณฯหมู่คณะไปก่อน
5. ปฏิบัติอย่างยิ่งยวดให้เข้าถึงไตรสรณคมณ์...ได้วิชชาเมื่อไหร่ จักทำลายให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ
#16
โพสต์เมื่อ 09 April 2007 - 09:19 PM
แล้วอธิษฐานให้บุญที่ทำไปตัดรอนวิบากกรรมที่เกิดขึ้น นั่งสมาธิมากๆ แผ่เมตตาให้เขาทั้งคู่เยอะๆบ่อยๆ
และอ่านหนังสือธรรมะ ข้อความ คติสอนใจ ทำทุกทางให้ใจเลิกคิดถึงค่ะ
และถ้าห่างได้ ห่างดีกว่าค่ะ
เอาเป้าหมายชีวิตเป็นหลัก การหลุดพ้นจากกรรม แม้มันจะเหนื่อยมาก แต่ต้องอดทนค่ะ
ลองคิดว่าอายุเราตอนนี้ 60 -70 ปีแล้ว เราน่าจะทำสิ่งที่เป็นบุญให้มากก่อนที่เราจะละจากโลกนี้ไปค่ะ
เอาใจช่วยนะคะ อ๋อ! ต้องหากัลยาณมิตรช่วยรับฟัง อาจจะผ่อนคลายได้อีกระดับหนึ่งค่ะ
#17
โพสต์เมื่อ 22 July 2008 - 09:44 PM