ตอนนี้ต้องการกำลังมากๆๆ เลยค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 01 May 2007 - 04:34 PM
เวลาเราเปิดดู dmc เค้าก้อจะไม่ชอบจะว่าอยู่บ่อยๆๆ
จนตอนนี้มีคติกับ ณ.ใจเอามาก ๆๆ ไม่มีเหตุผลในเรื่องของงาน
จะคอยจับผิดๆๆ และจะพาล หาเรื่องกับลูกของตัวเอง แต่มาลงกับ ณ.ใจ
ตอนนี้ เริ่มรู้สึกท้อแท้แล้วค่ะ
ตอนแรกก้อทำใจใส ๆๆ มาตลอดค่ะ หนักเข้าก้อร้องให้... เพราะพูดอะไรไม่ได้ เพราะเป็นพ่อของเพื่อน
ณ.ใจ ควรจะทำอย่างไรดีค่ะ :'(
:'(
[email protected]
#2
โพสต์เมื่อ 01 May 2007 - 04:41 PM
#3
โพสต์เมื่อ 01 May 2007 - 05:55 PM
คนวัดเราแทบทุกท่านก็ต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มา ลูกพระธรรม ต้องสู้ ครับ
พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ท่านก็เป็นต้นบุญต้นแบบให้กับพวกเราสมัยที่ท่าน เผยแผ่วิชชาธรรมกายยุคแรกๆ
ท่านได้ให้แนวทางเราคือ "ไม่สู้ ไม่หนี ทำความดีเรื่อยๆไป" ครับ
....................................................................
ผมมีข้อความจากฟอเวิดเมลมาฝากเป็นกำลังใจนะครับ
..........................................................................
*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
ชายคนหนึ่งเพิ่งจะมาพูดได้ตอนอายุ 4 ขวบ
ชายคนนั้น...เพิ่งจะมาอ่านหนังสือออกตอนอายุ 8 ขวบ
ชายคนนั้น...เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียน
ชายคนนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนอาชีวะแห่งซูริค
ชายคนนั้น...เคยถูกอาจารย์ระบุว่า " สมองช้า ไม่ชอบสังคมและล่องลอยอยู่ในความฝันอันโง่เขลาของตัวเองตลอดเวลา"
ชายคนนั้น...ชื่อ " อัลเบิร์ต ไอสไตน์" บิดาแห่งปรมาณู
ชายคนหนึ่งเคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนเตรียมทหารเวสต์พอยต์
ชายคนนั้น...ลองสมัครใหม่ดูอีกที
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอีกครั้ง
ชายคนนั้น...พยายามเป็นครั้งที่สาม
ชายคนนั้น...ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียน
ชายคนนั้น...ได้เป็นทหารสมใจ
ชายคนนั้น...เข้าไปอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สองได้สำเร็จ
ชายคนนั้น...ชื่อ " นายพล ดักลาส แมคอาเธอร์" ผู้พิชิตแปซิฟิคแห่งสงครามโลกครั้งที่สอง
ชายกลุ่มหนึ่ง...เป็นนักดนตรี
ชายกลุ่มนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากผุ้บริหารคนหนึ่งจากบริษัทเดคคาเรคคอร์ติ้ง
ชายกลุ่มนั้น...ถูกปฎิเสธด้วยเหตุผลที่ว่า "เราไม่ชอบเสียงเพลงของพวกเขา
และกลุ่มนักดนตรีที่เล่นกีตาร์กำลังจะหมดสมัยแล้ว"
ชายกลุ่มนั้น...มีนามว่า " เดอะ บีเทิลส์" สี่เต่าทองแห่งตำนาน
ชายคนหนึ่ง...เป็นนักกีฬา
ชายคนนั้น...เล่นบาสเกตบอลให้กับทีมโรงเรียนมัธยม
ชายคนนั้น...เคยถูกคัดออกจากทีมโรงเรียน
ชายคนนั้น...ชื่อ " ไมเคิล จอร์แดน" หนึ่งในนักกีฬาบาสเกตบอลที่ทำเงินมากที่สุดในโลก
ชายคนหนึ่ง...เป็นนักแต่งเพลงชาวเยอรมัน
ชายคนนั้น...สูญเสียความสามารถในการฟังลงเรื่อยๆ
ชายคนนั้น...หูหนวกสนิทเมื่อมีอายุได้ 46 ปี
ชายคนนั้น...ได้ใช้ช่วงเวลาบั้นปลายชีวิตประพันธ์เพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ชายคนนั้น...ชื่อ " ลุดวิก ฟาน บีโธเฟน" นักประพันธ์เพลงชื่อก้องโลก
ชายคนหนึ่งสอบตกประถม 6
ชายคนนั้น...เคยมีชีวิตที่พ่ายแพ้และล้มเหลวมาตลอด
ชายคนนั้น...ล้วนทำประโยชน์ครั้งใหญ่ๆเมื่อเขากลายเป็นผู้สูงอายุแล้ว
ชายคนนั้น...ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่ออายุ 62 ปี
ชายคนนั้น...ชื่อ " วินสตัน เชอร์ชิล" อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ
ชายคนหนึ่งเรียนปริญญาตรี
ชายคนนั้น...เคยถูกจัดให้เป็นแค่นักศึกษาระดับกลางเท่านั้น
ชายคนนั้น...เคยสอบได้อันดับที่ 15 จากนักศึกษา 22 คนในวิชาเคมี
ชายคนนั้น...ชื่อ " หลุยส์ ปาสเตอร์"
ชายคนหนึ่งเป็นนักร้อง
ชายคนนั้น...เคยถูกผู้จัดการของ แกรนด์โอเลโอเพรย์ไล่ออก
ชายคนนั้น...เคยโดนดูถูกว่า "แกมันไปไม่ถึงไหนเลย แกควรกลับไปขับรถบรรทุกมากกว่า"
ชายคนนั้น...ชื่อ " เอลวิส เพรสลีย์"
หญิงคนหนึ่งเป็นนางแบบผู้เปี่ยมไปด้วยความหวัง
หญิงคนนั้น...ทำงานให้กับบริษัทบลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่
หญิงคนนั้น...เคยโดนผู้อำนวยการบริษัท บลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่ดูถูกว่า
" เธอควรไปเรียนด้านเลขาฯ หรือไม่ก็แต่งงานเสียดีกว่า"
หญิงคนนั้น...ชื่อ นอร์มา จีน เบเกอร์ หรือที่รู้จักกันในนาม "มาริลีน มอนโร" นั่นเอง
ชายคนหนึ่ง หลงใหลวิชาการเงินอย่างมาก
ชายคนนั้น...ยื่นใบสมัครกับมหาวิทยาลัยธุรกิจฮาวาร์ดอันเลื่องชื่อ
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธในเวลาต่อมา
ชายคนนั้น...ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยธุรกิจโคลัมเบีย
ชายคนนั้น...สำเร็จการศึกษา
ชายคนนั้น...ปัจจุบันมีสินทรัพย์รวมกว่า 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเงินลงทุนเพียง 100 เหรียญสหรัฐ
ชายคนนั้น...ชื่อ " วอเรน บัฟเฟตต์" นักลงทุนอัจฉริยะ อภิมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก
ชายคนหนึ่ง หลงใหลในคอมพิวเตอร์อย่างมาก
ชายคนนั้น...ชอบหมกตัวกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ
ชายคนนั้น...ถูกเพื่อนมองว่า "สกปรก - บ้าคอมพิวเตอร์"
ชายคนนั้น...เคยเสนอซอฟแวร์ระบบให้กับ แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอย่างไม่ใยดี
ชายคนนั้น...ปัจจุบันคือผู้ให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนกับ แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...เคยถูก ไอบีเอ็ม มองว่า "แค่เด็ก"
ชายคนนั้น...ปัจจุบันเป็นผู้นำบริษัทซอฟแวร์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก
ชายคนนั้น...ชื่อ วิลเลี่ยม เฮนรี่ เกตส์ ที่สาม หรือที่รู้จักกันในนาม " บิลล์ เกตส์" ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ผู้ถือครองสินทรัพย์กว่า 46,000 ล้านเหรียญ
ผมเชื่อว่าทุกคนเคยแพ้ ผมเชื่อว่าทุกคนเคยล้มเหลว
แต่คนแพ้ไม่ใช่คนที่ล้มเหลว
คนล้มเหลวคือ...คนที่ล้มเลิกต่างหาก
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#4
โพสต์เมื่อ 01 May 2007 - 07:54 PM
#5
โพสต์เมื่อ 01 May 2007 - 08:40 PM
ต้องอธิษฐานขอบารมีธรรม หลวงปู่ช่วยด้วยนะครับ
ขอเป็นกำลังใจอีกคนครับ
#6
โพสต์เมื่อ 02 May 2007 - 12:07 PM
คำแนะนำของผมก็คือ ไม่ต้องทำอะไรครับ ที่ผมแนะนำเช่นนี้เพราะ ตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านเคยสอนไว้ว่า
1. มนุษย์เราแบ่งได้เป็นดอกบัวสี่เหล่า คือเหนือน้ำ บนผิวน้ำ ใต้ผิวน้ำ และในตรม ซึ่งคำสอนนี้ผมจำได้ว่าในพระไตรปิฎกมีระบุไว้ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเลือกสอนเฉพาะมนุษย์3ประเภทแรกเท่านั้น ส่วนประเภทที่4ซึ่งเป็นประเภทบัวในตรมนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านจะหลีกเลี่ยงครับ เพราะนอกจากเขาจะไม่คิดฟัง ไม่คิดทำความเข้าใจแล้ว อาจจะก่อให้ความไม่พอใจจนถึงขั้นเป็นความเห็นที่ผิดร้ายแรงได้เลยทีเดียว แทนที่จะทำให้เขาตาสว่างกลับจะทำให้เขายิ่งต้องตกนรกอีกต่างหาก ดังนั้นพระองค์จึงไม่คิดสั่งสอนมนุษย์ในตรมพวกนี้ครับ
2. อเสวนาจะพาลานัง หรือก็คือไม่เสวนากับคนพาลครับ เพราะนอกคนพาลจะมีความเห็นผิดแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดโทษหรือคิดร้ายแก่เราด้วย ดังนั้นหากเราจะไปบอกบุญใครแล้วล่ะก็ หากเป็นคนพาลอย่าได้ไปต่อความยาวสาวความยืดเด็ดขาดครับ
หลักในการบอกบุญของผมจะใช้คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า2ข้อนี้เป็นหลักในการบอกบุญด้วยครับ โดยวิธีของผมจะแบ่งเป็น3ขั้นด้วยกัน คือ
ตอนแรกถ้าผมเข้าไปบอกบุญกับเขา หากเขาว่ากล่าวหรือยอกย้อนกลับมา หากผมแก้ต่างได้ผมก็จะแก้ต่างไปก่อน แต่ถ้าดูแล้วผมตันหรือหมดปัญญาผมก็จะหลบทางให้กับเขาก่อน
ขั้นที่2 ผมจะทำตัวอย่างให้เขาดู นำเสนอในเรื่องของทางวัดในด้านดี เช่น ทำตัวให้ดูเรียบร้อย สงบเสงี่ยม แนะนำวัดในทางที่ดี เช่น วัดสะอาดอย่างนู้นอย่างนี้ ไปวัดได้ทานข้าวฟรี ร่มรื่นอย่างนั้นอย่างนี้ และแน่นอน ผมจะไม่บอกให้เขาทำบุญหรอกครับ เรื่องที่จะทำให้เขาเสียเงินกับทางวัดผมจะไม่พูดกับเขาเด็ดขาด แต่จะพยายามพูดโน้มน้าวให้เขามาวัดให้ได้ คือโน้มน้าวให้เขาได้มาสัมผัสกับวัดด้วยตัวเองก่อน
ขั้นที่3 หากเขายอมมากับผม ผมจะยังไม่ชวนเขาทำบุญหรอกครับ แต่จะพาเขาเดินดูวัดไปเรื่อยๆ ดูผู้คนหลายหมื่นมาปฏิบัติธรรม เล่าให้เขาฟังถึงมโนปฏิพานของวัดที่ต้องการจะเผยแพร่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก หากมีโอกาสจะให้เขาได้เข้าพบหลวงพ่อทั้ง2ท่าน เพื่อให้เขาได้ซักถามข้อข้องใจกับท่านทั้ง2 ในช่วงนี้หากเห็นเขาเปลี่ยนความคิดกับทางวัดเราแล้ว นี่แหละครับ ผมถึงจะชวนเขาทำบุญกับทางวัด แต่ถ้าหากเขามีความเห็นที่ไม่ดีกับทางวัดเราอยู่ ผมก็จะพยายามชวนให้เขามาวัดเราอีก หากเขาไม่มาก็ไม่เป็นไร วันหลังค่อยชวนใหม่ เรียกว่าคอยตอดเล็กตอดน้อยไปก่อนน่ะครับ แต่ในขั้นที่3นี้ หากผมแนะนำเกี่ยวกับทางวัดแล้วเขาไม่คิดจะฟังแถมแสดงท่าทีไม่พอใจหรือโกรธเกรี้ยว ผมจะเลิกยุ่งกับเขาทันทีครับ
อันนี้ผมขอแนะนำเพื่อนๆกัลยาณมิตรนะครับ หากบังเอิญไปตรงกับท่านใดเข้าผมก็ต้องขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วยนะครับ คือ ผมเห็นมาหลายเคสอยู่เหมือนกัน อย่างตัวผมเองเมื่อครั้งที่ผมเห็นผิดผมก็เคยโดนมาเหมือนกัน ซึ่งผมบอกตามตรงว่าทำให้ผมไม่พอใจอย่างมากและทำให้ผมมองวัดอย่างเสียๆหายๆในตอนนั้น คือ ผมเห็นหลายคนที่มาบอกบุญส่วนมากมักจะไม่ค่อยดูเชิงก่อน มาถึงก็ปล่อยมัดน๊อคตูมเดียวเลย คือ มาถึงก็ชวนให้ผมทำบุญทันที และคอยพูดและตามตื้อให้ทำบุญให้ได้ 1Mไม่ได้ 1S ก็ยังดี 1Sไม่ได้ 10kก็ยังดี ถ้าเป็นผู้ที่เคยเข้าวัดมาก่อนแล้วแน่นอนย่อมเห็นเป็นเรื่องธรรมดาใช่ไหมครับ แต่ผมขอบอกไว้เลยนะครับ ว่าในสายตาของคนที่ยังเห็นผิดซึ่งผมเองก็เคยเป็น1ในนั้นมาก่อน ขอบอกว่า มันจะเป็นการทำให้คนเหล่านั้นคิดว่า อะไร วัดนี้เห็นแก่เงินถึงขนาดนั้นเลยหรือ และผมมั่นใจว่าหลายคนเลยที่ยังมีความเห็นที่ผิดอยู่จะต้องคิดว่า อะไรอยู่ๆก็จะมาให้เราเสียเงินเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน วัดก็รวยอยู่แล้ว จะทำไปทำไม สู้ไปทำวัดจนๆดีกว่า พวกเขาต้องคิดแบบนี้แน่นอน และแน่นอน หากทุกท่านเขาไปปล่อยหมัดน๊อคตูมเดียวแบบนี้ วัดเราย่อมต้องนี้ไม่พ้นถูกเขาเหล่านี้ว่ากล่าวว่าเป็นวัดขายบุญเป็นแน่ถูกไหมครับ เพราะฉะนั้น ผมขอแนะนำนะครับ ท่านใดก็ตามที่ต้องการจะไปบอกบุญหรือชวนคนอื่นมาวัด อย่าเข้าไปหาเขาแล้วปล่อยหมัดน๊อคเช่นนี้ ไม่เช่นนั้น นอกจากเขาจะไม่พอใจแล้วจะทำให้เขาเข้าใจผิดมากขึ้น ให้ค่อยๆแย็บก่อน ดูชั้นเชิง ดูท่าทีของอีกฝ่าย หากเห็นเขาคล้อยตาม เราค่อยเริ่มหมัดตรงหรือหมัดฮุค หากเขาเห็นดีเห็นงามด้วย นั่นแหล่ะครับเราถึงค่อยปล่อยหมัดน๊อคออกไป
อยากให้ทุกท่านเอาแบบอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เวลาท่านจะเทศนาสั่งสอนใคร ท่านจะเข้าดูวาระจิตของคนๆนั้นก่อน ว่าคนนั้นเคยฟังธรรมเรื่องไหนมาก่อนบ้าง แล้วมีปัญญามากน้อยเพียงไหน นี่คือการปล่อยหมัดแย๊บของพระองค์ เมื่อพระองค์รู้ถึงวาระจิตของคนๆนั้นแล้วพระองค์จงจะเทศนาโดยลำดับเริ่มจากง่าย แล้วค่อยไปหายาก นี่เป็นการเริ่มปล่อยหมัดตรงของพระองค์ เมื่อเห็นคนๆนั้นมีความเข้าใจมากขึ้น นี่แหล่ะครับ พระองค์ถึงจะปล่อยหมัดเด็ดหรือหมัดน๊อคออกไป นี่เป็นสาเหตุไงครับ ที่ทำให้ทุกคนที่ได้ฟังพระองค์ได้บรรลุธรรมหลังพระองค์เทศน์จบ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#7
โพสต์เมื่อ 02 May 2007 - 07:55 PM
อย่างที่เพื่อนๆ แนะนำไว้ ผมเห็นด้วยกับ อเสวนา จพาลานัง
#8
โพสต์เมื่อ 02 May 2007 - 08:46 PM
#9
โพสต์เมื่อ 02 May 2007 - 10:43 PM
แล้วผมต้องขอบคุณ คุณเถลิงเกียรติมากครับ ผมกำลังเหนื่อย
กับงานที่ทำอยู่ เหนื่อยกายนะครับ ไม่ได้ท้อใจ พออ่านแล้วรู้สึกดีขึ้นครับ
ขอบคุณครับ
#10
โพสต์เมื่อ 02 May 2007 - 11:41 PM
ยิ้มให้ อาสาช่วยขนของ
รู้มั๊ย......................
เมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมาผมไปเล่นนำกับพวกของมัน
ผมโดนผัวหรือน้องชายของมัน ซื่งดูซื่อๆดีๆ ตามหลักโหงวเฮ้ง ตบหน้าจนเจ็บ
ผมไม่สู้ครับเพราะมันอ้วนน่าเกลียดกว่า และ กลัวมันจองเวร อีกทีถ้าจะทำร้ายมันกลับสู้ซื้อปืนมาเก็บเลยดีกว่า
ทัศนคติเป็นบวกกับ
พวกตำรวจทันที
ผมเลยแช่งมันตายเลยครับ แต่ที่ผ่านมาวันสองวันนี้ผ่านไปดูที่ร้าน ก็เห็นมันดีอยู่
ขอถามกลับเจ้าของกระทู้นี้กลับนะครับว่า
ผมควรทำอย่างไรดี
ไม่จองเวรนะครับ
#11
โพสต์เมื่อ 03 May 2007 - 04:34 PM
- คบบัณฑิตให้เหนียวแน่น อย่าให้พาลมาตัดทอนกำลังนะ
#12
โพสต์เมื่อ 03 May 2007 - 09:30 PM
don't mix with them.
don't curse.
don't use the rude words.
this web board should be the best example for all,
and then all will be respected by even those who don't understand our temple.
#13
โพสต์เมื่อ 03 May 2007 - 10:08 PM
#14
โพสต์เมื่อ 03 May 2007 - 11:23 PM
ยิ้มแล้วรวย อาสาช่วยขนของ
ทราบมั๊ย......................
เมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมาผมไป สังสรรสมาคม กับพวกของมัน
ข้าพเจ้าก็เลย โดนผัวหรือน้องชายของมัน ซื่งดูซื่อๆดีๆ ตามหลักโหงวเฮ้ง เหนี่ยว จนเจ็บ
จะบวกคืนก็ไม่สามารถ... เพราะเจ้านั่นมัน ดูทเรศน่าเกลียดกว่า และ กลัวมันจองเวร อีกทีถ้าจะทำร้ายมันกลับ สู้ซื้ออย่างว่ามา เล่นเลยดีกว่า
ทัศนคติเป็นบวกกับ
พวกตำรวจทันที
ข้าพเจ้าเลย นึกสวน มัน ยับ เลยครับ แต่ที่ผ่านมาวันสองวันนี้ผ่านไปดูที่ร้าน ก็เห็นมันทุเรศอยู่
ขอถามกลับเจ้าของกระทู้นี้กลับนะครับว่า
ผมควรทำอย่างไรดี
ไม่จองเวรนะครับ
#15
โพสต์เมื่อ 04 May 2007 - 09:12 PM
#16
โพสต์เมื่อ 08 May 2007 - 10:13 AM
ต้องรู้อยู่เสมอนะคะว่าทุกคำพูดที่ท่านพูดมาคือท่านยังไม่รู้จักวัดเหมือนเรา เหมือนช่วงแรกๆที่วัดโดนทำร้าย โดยเกิดจากความไม่เข้าใจของอีกฝ่ายหนึ่ง หลวงพ่อท่านก็ยังบอกว่า "อย่าไปโทษเค้าเลย ต้องโทษเราเอง ที่ไม่สามารถอธิบายให้เค้าเข้าใจอย่างเราได้" ถือว่าสร้างขันติบารมีนะคะ.. การสร้างจิตใจของเราให้เข้มแข็งและอยู่ในบุญตลอดควรหากัลฯที่จะคอยให้คำปรึกษาเราได้ทุกเมื่อนะคะ เพราะจะทำให้เราไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่เข้ามาง่ายๆ เพราะเราก็ยังเป็น "กล้าตะวัน" กันอยู่นะคะ... ก็นั่งธรรมะเยอะๆ ทำใจให้ใสเสมอนะคะ แล้วก็อาจจะทำบุญใส่ชื่อท่านตามหลักวิชานะคะ แล้วท่านก็จะเข้าใจเราเอง.. ท้อๆก็บอกตัวเองว่า "สู้โว้ย!!!" นะคะ... อนุโมทนาบุญล่วงหน้าค่ะ
#17
โพสต์เมื่อ 08 May 2007 - 02:14 PM
ถ้าคิดไม่ออก บอกไม่ถูก ไม่รู้จะทำยังไง แล้วหล่ะก็ หมั่นนั่งสมาธิ อธิฐานจิต แล้วจะเกิดปัญญาแก้ไขให้ทุกอย่างคลี่คลายไปได้ด้วยดีค่ะ
สู้ ๆ นะค๊ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
#18
โพสต์เมื่อ 08 May 2007 - 02:24 PM
ลุงว่าจะฝาก Flash file เป็น Powerpoint มีทั้งรูปสวยๆและเพลงประกอบ มาให้หลาน เพื่อให้กำลังใจและจะได้เอาไปให้พ่อของเพื่อนดูด้วบ กำลัง Upload อยู่ Server บอกว่า Upload failed, you are not allow to up load this ype of file.
จึงส่งให้ไม่ได้ ก็ได้แต่ให้กำลังใจ หลานต้องยึดถือคำสอนหลวงปู่นะหลานนะ
ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีต่อไป หลานทำตัวให้ดี มีความดีในตัว ความชั่วย่อมหนีเอง สักวัน สัมมาทิษฐิ ย่อมชนะมิจฉาทิษฐิเสมอ
#19
โพสต์เมื่อ 08 May 2007 - 09:25 PM