ด้วยอานุภาพบุญหลวงปู่ จริงๆ เลยค่ะ จะกล่าวว่าบังเอิญมิได้เด็ดขาด เพราะได้อธิฐานกับหลวงปู่ไว้ว่า
ถ้าจักรยานคันนี้เป็นของลูก และลูกมิได้ทำกรรมได้ขโมยของใคร ก็ขอให้ได้คืนด้วยเถอะค่ะ
ได้คืนจริงๆค่ะ พี่น้อง เนื่องจากวันอาทิตย์นี้ ไปถวายปัจจัยให้สามเณรลูกชายอุปถัมป์
เลยต้องเดินมาฝั่งตะวันตก และต้องนั่งทานข้าวคนเดียว พอทานข้าวเสร็จก็เดินมาทิ้งขยะ ก็มองเห็น จักรยาน
ชะอุ้ย นี่จักรยาน ยี่ห้อ เดียวกับรับเลยนะ อิอิ คิดในใจ La เหมือนกันเลย แล้วพอเดินไปใกล้ๆ อ้าว ของเราจริงๆ สะด้วยเพราะผ้าแดงที่ผูกคอจักรยาน ยังอยู่และ ด้านหลังไม่มีบังโคล่ และ ติดสติเกอร์สีทอง เพื่อจะได้ส่องสว่างในตอนกลางคืน ดีใจมากเลยค่ะ
อ่ะ แต่ที่หน้าจักรยาน มีกระเป๋า อยู่1 ใบ ทำไงล่ะทีนี่ ในตอนแรกก็คิดจะหยิบกระเป๋าวางไว้ตรงนั่นแล้วเอาจักรยานไป
แล้วก็มาคิดดู ถ้าทำเช่นนั่นเราก็จะเป็น ขโมย ของๆ ตัวเอง ซึ่งไม่ถูกต้อง จึงเดินหา คนที่ขี่จักรยานคันนั้น
เดินไปถามตรงเจ้าหน้าที่ ว่า คุณค่ะใครขี่จัรยานคันนี้เหรอค่ะ ก็มีผู้ชายตัวผอมๆ เข้ามาบอกว่า ของผมเองครับ
ผมขี่มาเอง อะๆๆ เราตอบทันทีเลยค่ะว่า นี่ของเรานะค่ะ ตามหามาหลายเดือนแล้วโดนตัดโซ่หายไปจากใต้สภา
เขาบอกว่า ไม่รู้สิครับผมเห็นมันจอดอยู่ที่ หน่วยงานแม่บ้านเฟต 1 ยางแบน เลยเอาไปซ่อม เสียค่าซ่อมไป 180 บาท อ่ะ งี้ทำไงดี คิดอยู่ เล็กน้อย อะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เราให้คุณ100 บาทแล้วกัน แต่ความจริง ดิฉันก็เพิ่งเสียเงินค่าซ่อมไป180 บาทเหมือนกัน ซ่อมที่โรงซ่อมในวัดเนี่ยละ สรุป โรงซ่อมเขาทำให้ดิฉันไม่ดี เลยยางมานแบนอีกและ เวลาขับ ก็เอียงๆ ติดๆ ลูกล้อด้วย (แต่เป็นแถวบ้านซ่อมเปลี่ยนยาง 80 บาทเองค่ะ) ดิฉันเลยตัดสินใจ
อ่ะให้คุณ100 บาท แล้วกัน อีก80 บาทถือว่า เป็นค่าเช่าจักรยานที่คุณเอาของดิฉันไปขี่ แถมกลับมาโศรมๆ เลยค่ะ
คุณว่าดิฉันทำถูกหรือเปล่าค่ะที่ให้เงินเขาไปเนี่ย ช่วยวิจารณ์กันหน่อยนะค่ะ
มหัศจรรย์ใจได้จักรยานคืนแล้วค่ะ
เริ่มโดย ประคองบุญ, Jun 11 2007 10:19 PM
มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 11 June 2007 - 10:19 PM
#2
โพสต์เมื่อ 12 June 2007 - 09:08 AM
ดีใจด้วยครับ ที่ได้จักรยานคืนครับ เรื่องเงินผมคิดเล่นๆว่าเป็นค่าดูแลจักรยานของคุณประคองบุญ เวลาที่คุณประคองบุญ ยังหาเจ้าจักรยานไม่พบดีกว่าครับ แต่ที่จักรยานมันโทรมคงเพราะจักรยานมันซนไปหน่อยนะครับ ของๆเราถ้าได้มาด้วยสุจริตยังไงมันก็เป็นของๆเรา(แม้จะไม่ได้เจอจักรยานตั้งหลายวัน) สาธุๆๆ
#3
โพสต์เมื่อ 12 June 2007 - 10:39 AM
ถ้าเป็นเรานะ เราจะให้เค้าทั้งหมดที่เค้าจ่ายไป
ได้จักรยานคืนมาก้อดีแล้ว
และเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานให้วัด ก้อไม่ได้มีรายได้มาก มีแค่พอใช้ส่วนตัวเท่านั้น
ได้จักรยานคืนมาก้อดีแล้ว
และเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานให้วัด ก้อไม่ได้มีรายได้มาก มีแค่พอใช้ส่วนตัวเท่านั้น
#4
โพสต์เมื่อ 12 June 2007 - 11:38 AM
ยินดีด้วยนะครับที่ได้จักรยานคืน ถ้าเป็นผมนะครับจะให้เขาไป 180 บาทครับเพราะเป็นค่าซ่อมที่เขาเสียไปแต่หากคิดว่าเป็นค่าเช่าก็ไม่น่ะคิดนะครับเพราะว่าเราทุกคนที่มาอยู่ครงนี้ได้ก็เป็นเชื้อสายธรรมกายลูกพระเดชพระคุณหลวงพ่อกันทั้งนั้นให้เขาใช้ไปช่วยงานพระพุทธศาสนาเถอะคับ
ใจหยุดคือ ที่สุดแห่งบุญ
#5
โพสต์เมื่อ 12 June 2007 - 11:55 AM
คนที่เอาจักรยานไป ไม่ใช่เจ้าหน้าที่วัดนะค่ะ แต่เป็นคน มาขอข้าวเจ้าหน้าที่วัด ไปทานค่ะ สงสัย ดิฉัน สื่อสารผิด และ
แก้ข่าวด้วยนะค่ะ กิกิ ย้ำๆๆ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่วัดดดดดดดดดด ค่ะ แต่ดิฉันไม่อยากเรียกว่า ขโมย ค่ะ
แก้ข่าวด้วยนะค่ะ กิกิ ย้ำๆๆ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่วัดดดดดดดดดด ค่ะ แต่ดิฉันไม่อยากเรียกว่า ขโมย ค่ะ
#6
โพสต์เมื่อ 12 June 2007 - 12:49 PM
ผมว่า ตอนนี้คุณประคองบุญ น่าจะต้องคิดต่อไปดีกว่า ว่าจะทำไงต่อไปกับจักรยานคันนี้ดี หากจะทำแบบเดิม คือ หาโซ่มาล็อก จอดทิ้งไว้ ผมว่า ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบเดิมอีก ให้ใจเราต้องขุ่นมัวเปล่่าๆ
ดังนั้น จะยกให้วัดไปเลย หรือ จะหาบ้านคนรู้จักฝากไว้ ก็ต้องลองคิดดูนะครับ
ดังนั้น จะยกให้วัดไปเลย หรือ จะหาบ้านคนรู้จักฝากไว้ ก็ต้องลองคิดดูนะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#7
โพสต์เมื่อ 12 June 2007 - 03:46 PM
ของผมก็หายไปยี่ห้อ LA มีป้ายมหาลัยธรรมศาสตร์ เป็นทะเบียนอยู่ด้านหน้า
จอดไว้หน้าตึกสื่อสาร ใครพบบอกด้วย คิดว่าเค้าคงขอยืมไปแล้วนานไปเลยขอลืม
ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ออกกำลังกายไปก่อน เดินๆๆๆ หุหุ
จอดไว้หน้าตึกสื่อสาร ใครพบบอกด้วย คิดว่าเค้าคงขอยืมไปแล้วนานไปเลยขอลืม
ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ออกกำลังกายไปก่อน เดินๆๆๆ หุหุ
#8
โพสต์เมื่อ 12 June 2007 - 09:35 PM
ผมโดนหลายแบบครับ ส่วนตัวแล้วคิดว่าสังคมคนเยอะๆ เหลือบมันต้องมีเป็นธรรมดา ถ้าทำใจอยู่กับเหลือบได้ก็ไม่เป็นไร เหมือนคนเป็นมะเร็งที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับมะเร็งร้าย แต่ถ้าตัดใจได้ ...ผ่ามะเร็งออกซะ ยอมเจ็บหน่อยแต่โอกาสรอดสูง มันก็ต้องชั่งน้ำหนักดู ผลที่ได้ก็อาจคุ้ม เพราะไม่ต้องทนทรมานเพราะเหลือบอีกต่อไป....ยินดีด้วยครับที่ได้พาหนะคู่ใจใช้สร้างบารมี ใช้มันให้คุ้มค่า อย่าให้ตกไปอยู่ในมือคนขี้ขโมยที่จะเอามันไปใช้ในทางสร้างสะสมบาปนะครับ ยินดีด้วยจริงๆ
อัตตาหิ อัตตโนนาโถ = กายเป็นที่พึ่งแห่งกาย
#9
โพสต์เมื่อ 13 June 2007 - 09:16 AM
ผมคิดว่าน้องผู้ชายคนนั้นคงไม่ใช่ขโมยหรือครับ เค้าคงเป็นคนที่มีบุญด้านยานพาหนะมาบ้าง แต่คงน้อยเพราะได้ใช้งานจักรยานของผู้มีบุญได้แป๊บเดียวเอง อาจเป็นไปได้ว่าบุญในตัวเค้าคงไม่พอนะครับ เลยต้องเอามาแสดงให้เจ้าของบุญตัวจริงเห็น อย่างไรก็ดีใจกับคุณประคองบุญด้วยนะครับกับการได้ยานพาหนะคู่กายคืนมาไว้สร้างบุญสร้างบารมี จะได้ตามติดหลวงปู่ หลวงพ่อ และคุณยาย ไปทุกภพทุกชาติ ตราบเข้าถึงที่สุดแห่งธรรม.....
#10
โพสต์เมื่อ 15 June 2007 - 03:36 PM
บุญดีจัง ได้ของคืน
#11
โพสต์เมื่อ 18 June 2007 - 10:59 AM
แต่ก็ดีใจด้วยนะคะได้จักรยานคืนแล้ว
...ความรักก็เหมือนการจับไฟนั่นแหละ
ทางที่จะไม่ให้มือพองเพราะไฟเผามีอยู่ทางเดียว คืออย่าจับไฟอย่าเล่นกับไฟ
ทางที่จะปลอดภัยจากรักก็ฉันนั้น มีอยู่ทางเดียวคือ...อย่ารัก...
ทางที่จะไม่ให้มือพองเพราะไฟเผามีอยู่ทางเดียว คืออย่าจับไฟอย่าเล่นกับไฟ
ทางที่จะปลอดภัยจากรักก็ฉันนั้น มีอยู่ทางเดียวคือ...อย่ารัก...