![รูปภาพ](/forum/uploads/photo-thumb-1565.jpg?_r=1166040289)
คิดยังงี้จะบาปไม๊ค๊า
#1
โพสต์เมื่อ 14 November 2005 - 08:01 PM
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
![](http://i60.photobucket.com/albums/h38/mooatoontaonoy/cartoon%20one/streamdharma.gif)
#2
**
โพสต์เมื่อ 15 November 2005 - 04:00 PM
ส่วนสูบบุหรี่เกี่ยวเนื่องกับข้อ 5 ลองหาวีซีดีเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ไปถวายท่านก่อนก็ได้ค่ะ
ส่วรเณรที่แซว ต้องดูอายุว่าเท่าไหร่ค่ะ เพราะบางทียังอยู่วัยคะนอง และหากเพิ่งบวชมาใหม่ ๆ ก็มีสิทธิ์ค่ะ ทำใจเย็น ๆ สบาย ๆ ก่อนเป็นดีค่ะ
ลองปรึกษาครูประจำชั้นซิค่ะ หรือไม่อาจารย์ที่สนิทก็ได้ค่ะ ควรทำอย่างไร ส่วนจะบาปคงไม่บาป แต่เมื่อคิดบ่อย ๆ ทำใจเราหม่องค่ะ หรือ ไม่ก็บอกท่านเจ้าอาวาสไปเลยค่ะ เราพูดเรื่องจริงไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ แต่ควรใช้คำพูดที่ดี ๆ นะค่ะ
#3
โพสต์เมื่อ 15 November 2005 - 05:16 PM
![nerd_smile.gif](style_emoticons/default/nerd_smile.gif)
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#4
โพสต์เมื่อ 15 November 2005 - 05:47 PM
#5
โพสต์เมื่อ 15 November 2005 - 05:49 PM
แต่ต้องทำด้วยความปรารถนาดีนะครับ ไม่ใช่ด้วยความโมโห
#6
โพสต์เมื่อ 15 November 2005 - 06:27 PM
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
![](http://i60.photobucket.com/albums/h38/mooatoontaonoy/cartoon%20one/streamdharma.gif)
#7
โพสต์เมื่อ 16 November 2005 - 10:38 AM
![nerd_smile.gif](style_emoticons/default/nerd_smile.gif)
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#8
โพสต์เมื่อ 17 November 2005 - 11:25 AM
#9
โพสต์เมื่อ 18 November 2005 - 06:35 PM
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
![](http://i60.photobucket.com/albums/h38/mooatoontaonoy/cartoon%20one/streamdharma.gif)
#10
โพสต์เมื่อ 19 November 2005 - 12:05 AM
พระพุทธเจ้าท่านทรงเรียกภิกษุที่ประพฤติไม่ตรงต่อคำสอนว่า "ภิกษุผู้เป็นข้าศึก" ซึ่งก็หมายถึง เขาเป็นมนุษย์ที่ยังมีกิเลสหนาและไม่ได้ประสงค์ต่อหนทางพระนิพพานเพื่อความสิ้นทุกข์ เมื่อคิดได้ดังนี้
คุณก็จะแยกพระดีกับคนที่ไม่ใช่พระได้ออกจากกันครับ เพราะความประพฤติที่ไม่ดีเขาไม่เรียกว่าพระครับ ถึงจะนุ่งห่มผ้ากาสาวพัส แต่ถ้าประพฤติไม่ดีไม่เหมาะก็ไม่มีสิทธิใช้คำว่าพระครับ
วิธีกำจัด กำจัดภิกษุผู้เป็นข้าศึกแบบง่าย ๆ ก็คือให้เลิกทำบุญให้ข้าวอาหารกับพระหรือเณรรู้นั้นหรือกลุ่มนั้น
โดยพุทธบริษัททั้งหมดจะต้องรวมตัวกันคว่ำบาตรโดยชักชวนกันไม่ทำบุญกับท่านที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม
ยุคสมัยใหม่เขาเรียกว่า ใช้อำนาจสื่อเป็นเครื่องกำจัดพฤติกรรมที่ไม่ดีครับ เช่น ถ่ายรูปประจาน พร้อมข้อความเตือนสติท่าน
ไม่ต้องกลัวว่าจะได้บาปครับ เพราะคุณจะได้บุญที่เกิดจากการทำตัวเป็นทนายแก้ต่างให้พระศาสนาป้องกันไม่ให้คนชั่วเข้ามาย่ำยีพระศาสนาได้ครับ ดังภาษิตของหลวงพ่อที่ว่า "เรื่องส่วนตัวให้วางอุเบกขา เรื่องพระศาสนาให้เอาอุเบกขาวาง"
ถ้าคุณยอมให้คนชั่วที่ใช้คำว่าพระมาแอบอ้าง ลอยนวล คุณนั่นแหละคือตัวการปล่อยให้โจรลอยนวลในพระศาสนาหลอกข้าวชาวบ้านกินไปวัน ๆ ครับ สรุปคือ ใจกล้าทำความดี แต่ให้ละอายทำความชั่วนั่นเองครับ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#11
โพสต์เมื่อ 19 November 2005 - 01:15 PM
![nerd_smile.gif](style_emoticons/default/nerd_smile.gif)
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#12
โพสต์เมื่อ 20 November 2005 - 09:46 PM
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
![](http://i60.photobucket.com/albums/h38/mooatoontaonoy/cartoon%20one/streamdharma.gif)
#13
โพสต์เมื่อ 21 November 2005 - 12:47 AM
เช่น ชักชวนท่านติดดาวธรรม เล่าเรื่องงาน เทเหล้าเผาบุหรี่ ฯลฯ
ทําคนเดียวไม่ถนัด ไปชวน กัลฯลฯมิตรคนอื่นมาร่วมด้วย
ทําใด้สําเร็จเมื่อไหร่ บุญมหาศาล
ปล Don't forget to follow up on it....very important
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ
![^_^](https://www.dmc.tv/forum/public/style_emoticons/default/happy.png)
#14
โพสต์เมื่อ 22 November 2005 - 12:26 AM
(ยุคสมัยใหม่เขาเรียกว่า ใช้อำนาจสื่อเป็นเครื่องกำจัดพฤติกรรมที่ไม่ดีครับ เช่น ถ่ายรูปประจาน พร้อมข้อความเตือนสติท่าน)
ผมหมายถึงสื่อสิ่งพิมพ์ที่เจ้าทุกข์จะต้องทำเองครับ การจะให้ลงสื่อสิ่งพิมพ์พวกหนังสือพิมพ์ หรือโทรทัศน์ดูจะไกลเกินกว่าวัตถุประสงค์ผมครับ
เหมือนอย่างโรงเรียนที่ทำทัณฑ์บนกับนักเรียนที่เกเรจัดวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนเกเรอายแล้วไม่ทำอีก
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#15
โพสต์เมื่อ 27 November 2005 - 06:13 PM
ดิฉันไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง
เห็นเณรรูปหนึ่งใช้แป้งพัฟประหน้าอยู่ ซึ่งถือว่าผิดศีลข้อ 7
แต่ยังไม่ได้แจ้งท่านเจ้าอาวาสค่ะ เพราะยังไม่มีโอกาสได้ไปที่วัดนั้นอีก
ดิฉันก็ได้แต่หวังว่า ท่านเจ้าอาวาสน่าจะทราบความประพฤติของเณรรูปนั้นแล้ว
และได้ตักเตือนไปแล้วค่ะ
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
#16
โพสต์เมื่อ 02 December 2005 - 09:00 PM
ถ้าเราไม่เอาไปถวายแล้วท่านจะสูบยังงัยล่ะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#17
โพสต์เมื่อ 12 December 2005 - 09:08 PM
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
![](http://i60.photobucket.com/albums/h38/mooatoontaonoy/cartoon%20one/streamdharma.gif)
#18
โพสต์เมื่อ 05 February 2007 - 12:24 PM