ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 2 คะแนน

ยันถ่ายรูปติด จตุคามฯ ไม่ปาฏิหาริย์


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 19 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 มณีมายา

มณีมายา
  • Members
  • 52 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 June 2007 - 09:12 AM



.....ท่ามกลางกระแสความศรัทธาในองค์จตุคามรามเทพ ที่กำลังแพร่สะพัดทั่วบ้านทั่วเมือง โดยผู้คนส่วนใหญ่ มีความเชื่อในปาฏิหาริย์และสิ่งเหนือฟ้าใต้บาดาล ที่เกิดขึ้นขณะมีการประกอบพิธีเทวา ภิเษก กดพิมพ์นำฤกษ์สร้างองค์จตุคามในแต่ละรุ่น โดยเฉพาะจุดกลมๆ เหมือนดวงไฟที่คล้ายองค์จตุคามที่มักปรากฏขึ้นในภาพถ่าย ซึ่งทำให้ ผู้คนส่วนใหญ่เกิดความฮือฮาเพราะคิดว่าเป็นปาฏิหาริย์ขององค์จตุคามจริง ดังนั้น เพื่อความกระจ่างจึงได้มีการพิสูจน์กันถึงเรื่องนี้ ว่าจะเป็นปาฏิหาริย์ขององค์จตุคาม จริง หรือเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นจากวิทยาศาสตร์


.....ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. รายการ “มันแปลกดีนะ” ได้เชิญนายวรนันท์ ชัชวาลทิพากร ช่างภาพอาชีพชาวไทย ที่มีชื่อเสียงและได้รับรางวัลระดับโลกมามากมาย มาไขปริศนาจตุคามรามเทพ โดยเฉพาะภาพถ่ายที่มีดวงไฟกลมๆ ที่มีลักษณะคล้ายองค์จตุคาม นายวรนันท์กล่าวว่า ภาพดวงไฟที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นได้ หากในสถานที่นั้นๆ มีฝุ่นหรือละอองน้ำกระจายตัวอยู่ ทั้งที่เห็นและไม่เห็นด้วยตาเปล่า และมักจะเกิดขึ้นกับภาพถ่ายที่ถ่ายโดยกล้องดิจิตอล ที่มีเลนส์และแฟลตอยู่ในระนาบเดียวกัน เนื่องจากระยะสะท้อนของแฟลตนั้น ทำให้เห็นได้ชัดเจนกว่า ซึ่งทฤษฎีดังกล่าวสามารถพิสูจน์ได้ โดยอุปกรณ์ในการพิสูจน์ นั้น จะประกอบไปด้วย ห้องที่เป็นผนังสีเข้มเพื่อให้เห็นดวงไฟได้ชัดเจน ฝุ่นชอล์ก กระบอกฉีดน้ำ กล้องถ่ายภาพแบบดิจิตอล กล้องถ่ายภาพแบบซิงเกิ้ลเลนส์และคอมพิวเตอร์

.....จากนั้นทีมงานรายการ ได้ให้กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ พิธีกรรายการ ไปยืนบนเฟรมภาพ จากนั้นนำกระบอกฉีดน้ำให้เป็นละออง รอให้ละอองน้ำกระจายตัว แล้วนายวรนันท์ได้ใช้กล้องดิจิตอลถ่ายภาพ ก็ปรากฏภาพดวงไฟกลมๆ ที่มีลักษณ์คล้ายคลึงกับเหรียญจตุคามรามเทพที่เป็นข่าวขึ้นอยู่เต็มภาพ จากนั้นจึงพิสูจน์ด้วยฝุ่นชอล์ก โดยให้พิธีกรเข้าไปยืนในเฟรมถ่ายภาพเหมือนเดิมและให้ทีมงานทำฝุ่นให้กระจายตัวด้านหน้ากล้อง รอจนฝุ่นสลายตัวแล้วถ่ายภาพ ก็ปรากฏว่ามีภาพดวงไฟปาฏิหาริย์ดังกล่าวติดมาจำนวนมากด้วยเช่นกัน แต่เมื่อมีการนำกล้องประเภทซิงเกิ้ลเลนส์มาถ่าย บางภาพก็เห็นดวงไฟ แต่ส่วนใหญ่จะไม่เห็นเป็นไปตามทฤษฎีที่นายวรนันท์กล่าว

.....นายวรนันท์เผยว่า เป็นทฤษฎีทางการถ่ายภาพในสถานที่ต่างๆ ที่ปัจจัยเอื้ออำนวยและเกิดภาพลักษณะดังกล่าวมาหลายต่อหลายครั้ง ผู้ที่ถ่ายภาพและติดดวงไฟลักษณะนี้มา เชื่อว่าน่าเป็นความบังเอิญที่ในบริเวณนั้นมีละอองฝุ่นหรือละอองน้ำกระจายตัวอยู่และมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เมื่อถ่ายภาพและใช้แฟลชจึงเกิดดวงไฟขึ้นในภาพ โดยส่วนตัวตนก็นับถือองค์จตุคามรามเทพมานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่การมาบอกเล่าความจริงและพิสูจน์ครั้งนี้เป็นคนละเรื่อง การพิสูจน์ถือเป็นการทำหน้าที่ในฐานะช่างภาพ ที่นำเสนอเพื่อประโยชน์ของประชาชน และต้องการให้ผู้ที่นับถือองค์จตุคามรามเทพ นับถืออย่างมีสติไม่งมงาย

.....อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ดวงไฟทำไมจึงมีทรงกลมและมีลวดลายคล้ายกับองค์จตุคาม ได้รับคำชี้แจงจากนายบัญชา ธนบุญสมบัติ นักวิทยาศาสตร์แห่งสำนักงานวิทยาศาสตร์แห่งชาติว่า รูปทรงของโมเลกุลของฝุ่นนั้น มีทั้งเป็นเหลี่ยมและกลม แล้วแต่ชนิดของฝุ่น แต่หากมองด้วยตาเปล่า ละอองฝุ่นจะมีลักษณ์สัณฐานเป็นจุดๆ และกล้องถ่ายรูปไม่ใช่กล้องขยาย เมื่อถ่ายภาพออกมาจึงเห็นแต่สัณฐานของฝุ่นคือทรงกลมเท่านั้น ส่วนที่เห็นเป็นลาย เกิดจากมวลของฝุ่น ที่มีความหนาแน่นไม่ สม่ำเสมอ ประกอบกับการหักเหของแสงแฟลตที่มาตก กระทบไม่เท่ากัน จึงทำให้เห็นเป็นลวดลาย


จาก ไทยรัฐ


#2 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 June 2007 - 09:44 AM

ดีๆ ขอปักหมุดกระทู้นี้นะคะ พิสูจน์ให้เห็นกันจะๆ จะได้เลิกสงสัยกันเสียที
จักรแก้วเอย จตุคามเอย ฮี่ๆ
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#3 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 21 June 2007 - 11:07 AM

ยังมีสิ่งลี้ลับ ที่รอการพิสูจน์อีกเยอะ




#4 องค์พระใสสว่าง มังกร v-act

องค์พระใสสว่าง มังกร v-act
  • Members
  • 355 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests: การปฎิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย

โพสต์เมื่อ 21 June 2007 - 01:44 PM

จริงๆครับผมเองก็เคยถ่ายเจอแบบนี้เหมือนกันแต่ไม่ใช่จตุคามอะไรหลอกครับเป็นเพียงเศษฝุ่นอย่างว่านั่นแหละ หันมาบูชาพระรัตนตรัยกันเถอะครับดีที่สุด ชัวที่สุดเลย แต่องค์จตุคามนั้นก็เป็นอย่างพระพยอมว่าจะบูชาพระหรือจะบูชายาม หมายถึงองค์จตุคามนั้นถูกลงธรรณ์อยู่นะครับเราจะไปบูชาทำไมกันถูกลงโทษให้ไปดูแลรักษาสมบัติตรงที่ส่วนนั้นน่ะครับ
ใจหยุดคือ ที่สุดแห่งบุญ


#5 sCHer♥™

sCHer♥™
  • Members
  • 100 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 June 2007 - 03:39 PM

รูที่เป็นดวงๆ ทั่วๆ ไป
ที่เคยเห็นกันเป็นเรื่องจริงมั้ยคะ
เราคิกว่าน่จะจริงนะ


#6 boy_kmutt

boy_kmutt
  • Members
  • 91 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ปทุมธานี
  • Interests:กรรมฐาน

โพสต์เมื่อ 21 June 2007 - 03:45 PM

เรื่องนี้ก็แล้วคนที่ศรัทธาครับ ผมก็เป็นคนภาคใต้ ที่บ้านก็มีจตุคาม ก็ศรัทธาทั้งหมดครับ
http://boybuddhism2008.spaces.live.com


#7 มณีทวีบุญ

มณีทวีบุญ
  • Members
  • 12 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 June 2007 - 04:37 PM

เราควรเป็นชาวพุทธที่แท้จริง มีพระรัตนตรัย เป็นที่พึ่งที่ระลึก อันสูงสุดก็พอ (เป็นชาวภาคอะไรก็แล้วแต่)

ศรัทธา แต่ไม่ใช่เอามาเป็นที่พึ่งที่ระลึกน่ะ (ไม่อยากให้เอาแขวนคอกันเลย เสียชื่อชาวพุทธ(ที่แท้จริง) หมดเลย)

อาจจะแค่เหมือน ศรัทธา ผู้หลักผู้ใหญ่ ที่มีความดี ความเก่ง ที่เราชื่นชอบก็ได้น่ะค่ะ (ถ้าอยากศรัทธา)

นะนะนะนะ ...ขอร้อง


พุทธศาสนา จะล่มสลาย ก็เกิดจากพาลภายนอก และ พาลภายใน นี่แหละค่ะ
(อันนี้ถือว่าเป็นพาลภายใน)...


#8 Patch Adum

Patch Adum
  • Members
  • 69 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 June 2007 - 05:24 PM

จักรแก้ว กะ จตุคาม...มันคนละเรื่องนะ...เพราะว่าได้ยินจากหลวงพ่อในเคสแล้วเข้าใจเลยว่า...มีเทวดามาอนูโมทนาบุญ...แถมถ่ายติดด้วย...ทั้งที่วันงานในบรรยากาศที่ปกติไม่มีไร...ไม่มีฝน...แถมบางครั้งสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า(เมื่อใจละเอียด)...ถ่ายติดด้วย..จะเอามาให้ดู...วันหลัง...ดวงซ้อนๆกันเลย...ขอเถี่ยงเลยนะว่า...มันคนละเรื่องกัน...ขอใช้ภาษาชาวบ้านหน่อยค่ะ...แต่ภาพบางอย่างหลวงพ่อท่านก็เคยเกริ่นว่าเปนภาพที่ผุ่นละอองบ้าง...ไม่แน่เสมอไป...แต่ตัวเองเชื่อสุดๆนะ เพราะถ่ายติดกะมือเลย จนน้องที่เปน ดร. เขามาใหม่ด้วยที่วัด เห็นภาพแล้วต้องสร้างองค์พระเลย...เพราะเขาก็ถ่ายติดเอง...ทุกๆอย่างมีสองด้านเสมอ ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่ค่ะ ของแบบนี้...เพราะเจอเองค่ะ

ฟัง..เคสเยอะๆ จะได้คำตอบเองค่ะ...

#9 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 22 June 2007 - 09:17 AM

จะคิดเป็นยังไงก็ตามแต่ แต่สำหรับผมนะครับ บอกตามตรงผมดูไม่ออกเลยว่านั่นดวงแก้วหรือจักรแก้ว ผมมั่นใจเพียงแต่ว่า หากเป็นผู้ที่มีบุญจริงถ่ายติดจริงมันคงไม่กึ่งๆกลางๆดูไม่ออกดูไม่ชัดให้คนอื่นมาตีความกันเอาเองแบบนี้หรอกครับ ถ้าเป็นดวงแก้วจริงก็น่าจะเป็นดวงกลมใสไปเลย ถ้าเป็นจักรแก้วจริงก็หน้าที่จะเป็นรูปจักรไปเลย ที่สำคัญผมเชื่อว่าหากเป็นผู้ที่ฉลาดจริงๆเขาคงต้องเก็บรูปที่ถ่ายติดเอาไว้ชื่นชมคนเดียวแน่ สาเหตุสำคัญที่ทำให้หลายคนคิดว่าถ่ายติดของจริงนั่นก็คือ
1. ความงมงาย งมงายว่าของสิ่งนั้นศักดิ์สิทธิ์อย่างนู้นอย่างนี้
2. ความไม่รู้ ไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไร ไม่รู้เลยพูดเอาไว้ก่อน
3. ความอยาก อยากให้คนอื่นเห็นว่าศักดิ์สิทธิ์จริง อยากให้ของเราศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นอย่างนี้ อยากให้ผู้อื่นหันมาบูชา ความอยากเด่นอยากดัง อยากเอาชนะเห็นของๆคนอื่นมีอภินิหารย์ ไม่ได้เราก็ต้องมีเหมือนกัน

1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#10 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 June 2007 - 02:12 PM

ครั้งหนึ่ง พวกเราจำนวนมากก็เคยคลั้งไคล้ ภาพดวงแก้ว หรือ จักรแก้ว แบบนี้มาแล้ว

หรือ

พอถึงเทศการพยานาค ถ่ายภาพคลื่นน้ำมั่ง แสงไฟมี่เป็นเส้นๆบ้าง ก็กลายเป็นพยานาคไปหมด

มันไม่ได้แตกต่างกันเลย กับกลุ่มคนที่กำลังคลั่งไคล้องค์จตุคามนะ ผมว่า

ความเชื่อที่ไม่ได้ประกอบด้วยปัญญา เราเรียกว่า งมงาย
แต่ความเชื่อที่ประกอบด้วยปัญญา เราเรียกว่า ศรัทธา

#11 สิงโตเกเร

สิงโตเกเร
  • Members
  • 164 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 June 2007 - 02:52 PM

รู้ได้ซะทีว่ามัน บังเอิญ คือเหตุของภาพมีดวงๆนี้ หุหุ

#12 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 22 June 2007 - 06:13 PM

QUOTE
แต่ความเชื่อที่ประกอบด้วยปัญญา เราเรียกว่า ศรัทธา

nerd_smile.gif ขอแก้ไขเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและสมบูรณ์ขึ้นดังนี้ครับ

ศรัทธา หมายถึง ความเชื่อ มาจากคำในภาษาบาลีว่า "สัทธา" (ภาษาสันสกฤตสะกดว่า "ศรัทธา") ศรัทธาเป็นจุดเริ่มต้นของการนับถือศาสนา ดังที่นักปราชญ์กล่าวว่า เมื่อมนุษย์มีศรัทธาแสดงว่า มนุษย์มีศาสนา เพราะเหตุว่า ความเชื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดศาสนาต่างๆ ในโลก ดังนั้นศรัทธาจึงมีความสำคัญด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้คือ
๑. เป็นจุดเริ่มต้นของการนับถือศาสนา
๒. เป็นคุณธรรมเบื้องต้นอันเป็นปัจจัยอุดหนุนให้คุณธรรมอื่นๆ เกิดตามมา ได้แก่ สติ หิริ โอตตัปปะ วิริยะ และขันติ เป็นต้น
๓. เป็นคุณธรรมที่ต้องมาคู่กับปัญญาอันชอบ (สัมมาปัญญา) เสมอ มิเช่นนั้นแล้ว ย่อมจะกลายเป็นความเชื่อที่งมงาย (ศรัทธาแบบสุดโต่งโดยไม่มีเหตุและผลรองรับ) และถ้าหากปราศจากเสียซึ่งศรัทธาแล้ว ย่อมจะกลายเป็นบุคคลที่ไม่ปลงใจเชื่ออะไรเลยอีกเช่นกัน

ซึ่งศรัทธาในทางศาสนานั้นมีอยู่ ๒ ระดับ ได้แก่

๑. ศรัทธาญาณสัมปยุต คือ ความเชื่อที่ประกอบด้วยปัญญา รู้เหตุ รู้ผล เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อโดยอยู่บนพื้นฐานของเหตุและผลก่อนที่จะตกลงปลงใจเชื่อ
๒. ศรัทธาญาณวิปยุต คือ ความเชื่ออันเกิดจากความไม่รู้เหตุรู้ผล หรือไม่อยู่บนพื้นฐานของเหตุและผล ซึ่งมักเป็นความเชื่อแบบหยั่งดิ่งอุทิศทุ่มเท (งมงาย)

"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#13 tor

tor
  • Members
  • 356 โพสต์
  • Location:BKK
  • Interests:meditation

โพสต์เมื่อ 23 June 2007 - 10:01 AM

เรื่องแบบนี้ไม่อยู่ในความสนใจของผมอยู่แล้ว เมื่อถ่ายภาพงานบุญก็ไว้ดูระลึกถึงบุญที่เคยไปทำ มีดวงไม่มีดวงไม่สำคัญ
อัตตาหิ อัตตโนนาโถ = กายเป็นที่พึ่งแห่งกาย

#14 ชาร์ป

ชาร์ป
  • Members
  • 985 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ปทุมธานี

โพสต์เมื่อ 24 June 2007 - 06:05 PM

สำคัญคือขอให้ได้ไปในงานได้ถ่ายรูปเถอะ . . .T-T

#15 Doctor 072

Doctor 072
  • Members
  • 96 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 June 2007 - 02:50 PM

เคยทดลองด้วยกล้องดิจิตอลเหมือนกัน ถ่ายรูปในสถานที่ที่ยืนอยู่จุดเดียวกัน ถ่ายไปทิศทางเดียวกัน โฟกัสเล็งที่เดียวกัน ในเวลาใกล้เคียงกันมาก สลับกันถ่าย ปรากฏว่า บางคนถ่ายติดดวงเยอะและขชัดเจน ในขณะที่บางคนถ่ายไม่ติดดวงเลย อธิบายได้ว่าอย่างไรจ๊ะ

#16 ณ ทะเลจันทร์

ณ ทะเลจันทร์
  • Members
  • 78 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 June 2007 - 04:27 PM

เหอ..เหอ..พิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์อย่างนี้ดีเยี่ยม

 

"จงอย่าเป็นทุกข์เพราะความหยาบคายของผู้อื่น"  

"สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"  "เจตนา..นั้นแหละคือ..กรรม"

"จงทำในสิ่งที่ถูกต้อง..มากกว่าถูกใจ"  "ไม่มีสิ่งเลวร้ายใดที่คนพูดโกหกทำไม่ได้"


#17 ลูกพระธรรมDMC

ลูกพระธรรมDMC
  • Members
  • 3 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 June 2007 - 05:27 PM

เราก็ไม่เชื่อเหมือนกันจตุคามฯนั่นนะ

#18 บุญเย็น

บุญเย็น
  • Members
  • 812 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:thailand

โพสต์เมื่อ 29 June 2007 - 10:12 AM

เชื่อก็เฉยไว้ ไม่เชื่อก็เฉยๆไว้
หยุดๆๆๆๆๆ ใสๆๆๆๆๆ
แล้วก็ยิ้มๆๆๆๆๆ
๕๕๕+
นำมอ ตี่ จ่าง อ้วง ผู่ สัก

#19 Doctor 072

Doctor 072
  • Members
  • 96 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 June 2007 - 11:16 AM

การตั้งชื่อหัวเรื่อง ชวนให้เข้าดู แต่อาจจะสื่อสารไขว้ไป
ดวงไม่ใช่ถ่ายติดเฉพาะจตุคามเท่านั้น ยังถ่ายติดในงานบุญอื่นๆอีก
ถ้ามองในแง่ดี อย่างน้อยก็ช่วยกระแสเศรษฐกิจ
แต่อย่างไรก็ตาม พระพุทธย่อมเป็นที่ระลึกอันสูงสุด


#20 ลูกพระธรรมDMC

ลูกพระธรรมDMC
  • Members
  • 3 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 June 2007 - 05:04 PM

จ้า.............เราก็เคยถ่ายแล้วก็ติดเป็นจักรแก้ว