พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์
190 บำเพ็ญสมาธิทำไม
ปัญหา การบำเพ็ญสมาธินั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อจะทำลายกิเลส แล้วบรรลุมรรคผลเป็นพระอรหันต์เท่านั้นหรือ ? หรือว่ามีจุดมุ่งหมายอย่างอื่นด้วย ?
พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมาธิภาวนามีอยู่ ๔ ประการ คือ สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญแล้วเพิ่มพูนแล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่ออยู่เป็นสุขในปัจจุบัน ๑....
ย่อมเป็นไปเพื่อให้เกิดจากเป็นแจ้งด้วยญาณ ๑....
ย่อมเป็นไปเพื่อ (ความสมบูรณ์แห่ง) สติสัมปชัญญะ ๑....
ย่อมเป็นไปเพื่อความหมดสิ้นแห่งอาสวะ ๑.....”
สมาธิสูตร จ. อํ. (๔๑)
ตบ. ๒๑ : ๕๗ ตท. ๒๑ : ๕๒
ตอ. G.S. II : ๕๑-๕๓
163 คุณค่าของสมถะและวิปัสสนา
ปัญหา การเจริญสมถวิปัสสนามีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?
พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๒ อย่างเป็นไปในส่วนแห่งวิชชา ธรรม ๒ อย่างเป็นไฉน คือ สมถะ ๑ วิปัสสนา ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สมถะที่ภิกษุเจริญแล้ว ย่อมเสวยประโยชน์อะไร ย่อมอบรมจิต จิตที่อบรมแล้วย่อมเสวยประโยชน์อะไร ย่อมละราคะได้
วิปัสสนาที่อบรมแล้ว ย่อมเสวยประโยชน์อะไร ย่อมอบรมปัญญา ปัญญาที่อบรมแล้วย่อมเสวยประโยชน์อะไร ย่อมละอวิชชาได้ ปัญญาที่เศร้าหมองด้วยอวิชชา ย่อมไม่เจริญด้วยประการฉะนี้แล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะสำรอกราคะได้ จึงชื่อว่าเจโตวิมุติ เพราะสำรอกอวิชชาได้จึงชื่อว่าปัญญาวิมุต ฯ”
พาลวรรคปฐมปัณณาสก์ร ทุ. อํ. (๒๗๕-๒๗๖)
ตบ. ๒๐ : ๗๗-๗๘ ตท. ๒๐ : ๖๙-๗๐
ตอ. G.S. I : ๕๕-๕๖
174 ความสำคัญของจิต
ปัญหา พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาหนึ่ง ที่ถือว่าจิตใจเป็นสิ่งสำคัญ พระพุทธองค์ทรงสอนเกี่ยวกับการรักษาจิตไว้อย่างไรบ้าง ?
พุทธดำรัสตอบ “..... ดูก่อนคฤหบดี เมื่อบุคคลรักษาจิตไว้ แม้กายกรรมก็เป็นอันรักษา แม้ วจีกรรม... มโนกรรมก็เป็นอันรักษา เมื่อเขารักษากายกรรม วจีกรรม.... มโนกรรม แม้กายกรรมก็เป็นอันไม่ชุ่ม แม้ วจีกรรม.... มโนกรรม... ก็เป็นอันไม่ชุ่ม เมื่อเขามี กายกรรม..... วจีกรรม.... มโนกรรม..... ไม่ชุ่ม แม้กายกรรมก็เป็นอันไม่เสียแม้วจีกรรม.... มโนกรรมก็เป็นอันไม่เสีย เมื่อเขามีกายกรรม วจีกรรม.... มโนกรรม ไม่เสีย ความตายก็เป็นการตายดี การทำกาละก็งาม ดูก่อนคฤหบดีเปรียบเหมือนเมื่อเรือนซึ่งมุงไว้เรียบร้อย แม้ยอดเรือนก็เป็นอันรักษา แม้ไม้กลอนฝาเรือน.... ก็เป็นอันรักษา แม้ยอดเรือนก็ไม่ถูกฝนรั่วรด แม้ไม้กลอน ฝาเรือนก็ไม่ถูกฝนรั่วรด แม้ยอดเรือนก็เป็นของไม่ผุ แม้ไม้กลอน ฝาเรือนก็เป็นของไม่ผุ....ฯ”
กูฏสูตร ที่ ๑ ติ. อํ. (๕๔๙)
ตบ. ๒๐ : ๓๓๕-๓๓๖ ตท. ๒๐ : ๒๙๓-๒๙๔
ตอ. G.S. I : ๒๔๐
175 ความเห็นผิดคืออย่างไร
ปัญหา ข้อที่ว่าโลภและโกรธเป็นมูลเหตุให้เกิดอกุศลกรรมนั้น พอจะเข้าใจแล้ว แต่ข้อที่ว่าโมหะอันเป็นเหตุให้เกิดมิจฉาทิฐิความเห็นผิดนั้นคือเห็นอย่างไร ?
พุทธดำรัสตอบ “..... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นมิจฉาทิฐิมีความเห็นวิปริตว่า ทานที่ให้แล้วไม่มีผล ยัญที่บูชาแล้วไม่มีผล การเช่นสรวงไม่มีผล ผลวิบากของกรรมที่บุคคลทำดีทำชั่วไม่มี โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี มารดาไม่มี บิดาไม่มี สัตว์พวกที่เกิดผุดขึ้นไม่มี สมณะพราหมณ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ทำโลกนี้และโลกหน้าให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว สอนหมู่สัตว์ให้รู้ตามไม่มีในโลก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าทิฐิวิบัติ.... เพราะทิฐิวิบัติเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายเมื่อกายแตกตายไป ย่อมเข้าถึงอบายทุคติ วินิบาต นรก.....ฯ”
อยสูตร ติ. อํ. (๕๕๗)
ตบ. ๒๐ : ๓๔๕ ตท. ๒๐ : ๓๐๒
ตอ. G.S. I : ๒๗๐
196 ใช้ตัณหาปราบตัณหา
ปัญหา มีบางท่านกล่าวว่า ความอยากถึงนิพพานก็จัดเป็นตัณหาอย่างหนึ่ง และเป็นแรงผลักดันให้คนปฏิบัติเพื่อบรรลุถึงนิพพาน เข้าทำนอง ใช้ตัณหาดับตัณหา คำกล่าวเช่นนี้ มีหลักฐานในพระไตรปิฎกยืนยันหรือไม่ ?
พระอานนท์ตอบ “.....ดูก่อนน้องหญิง คำที่เรากล่าวว่ากายนี้เกิดด้วยตัณหา อาศัยตัณหาแล้วพึงละตัณหาเสียดังนี้ เรากล่าวเพราะอาศัยอะไร
“ดูก่อนน้องหญิง ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ เมื่อได้ข่าวว่า ภิกษุชื่ออย่างนี้กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติและปัญญาวิมุติอันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไปด้วยปัญญาอันยิ่ง ในปัจจุบันนี้ ดังนี้ เธอเกิดความปรารถนา (ตัณหา) อย่างนี้ว่า เมื่อไรหนอ เราจักกระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุต ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ ในปัจจุบันชาตินี้ ดังนี้ ในเวลาต่อมา เธออาศัยตัณหานั้นแล้วละตัณหาเสียได้
“ดูก่อนน้องหญิง คำที่เรากล่าวว่า กายนี้เกิดขึ้นด้วยตัณหาอาศัยตัณหาแล้วพึงละเสียดังนี้ เรากล่าวเพราะอาศัยความจริงข้อนี้......”
อินทริยวรรค จ. อํ. (๑๕๙)
ตบ. ๒๑ : ๑๙๕-๑๙๖ ตท. ๒๑ : ๑๗๑
ตอ. G.S. II : ๑๔๙
![รูปภาพ](/forum/uploads/photo-thumb-16230.jpg?_r=1184140447)
พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์
เริ่มโดย สาธุธรรม, Jul 11 2007 04:11 PM
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 11 July 2007 - 04:11 PM
หยุดนิ่งนั้นแหละไซร้ พรหมจรรย์
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#2
โพสต์เมื่อ 11 July 2007 - 09:07 PM
อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ สาธุๆๆ
#3
โพสต์เมื่อ 14 July 2007 - 12:10 PM
ขอกราบอนุโมทนาบุญกับคุณ สาธุธรรม ด้วยนะครับ สาธุ
#4
โพสต์เมื่อ 14 July 2007 - 08:26 PM
อนุโมทนาบุญด้วยครับ