ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

--หากมนนุษย์ไม่มีศาสนา?


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 อหิงสา อโหสิ

อหิงสา อโหสิ
  • Members
  • 18 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2007 - 01:06 PM


[size="5"]----คืออาจารย์ที่มหาวิมยาลัยแห่งหนึ่ง เขาให้ข้าพเจ้าดูบัตรประชาชนของเขา ตรงศาสนาจะขีดว่าง เขาบอกว่าเขาไม่มีศาสนา แล้วก็อธิบายต่าง ๆ นานา แต่เหตุผลเขาก็ดีมาก และสอนหนังสือ ให้นักศึดษาเข้าใจดีมากด้วย ไม่มีความประพฤติที่โน้งเอียงไปในทางที่จะทพร้ายใครได้ แต่ก็ไม่ใช่หัวรุนแรงที่จะล้องสมอง น.ศ. ให้เชื่อตามเขาทั้งหมด คือสงสัยว่าแบบนี้เป็นการผิดหรือไม่ อย่างไร และหากจะมีคนเอาแบบเขาหลาย ๆ คนเข้า มันจะมีปัญหาอะไรมากแค่ไหน?[/size]
Without body.What trouble could I have?

#2 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 18 July 2007 - 01:20 PM

อันคนเราถ้าไม่ประสบความลำบากยากเข็ญแสนลำเค็ญ ก็ย่อมมองไม่เห็นทุกข์ทั้งหลาย หากเรือล่มอัปปางลอยคออยู่กลางมหาสมุทร แม้ฟางเส้นเดียวลอยมาก็ต้องคว้าเหนี่ยวรั้งไว้เป็นที่พึ่ง เป็นสรณะ

สัตว์ที่ไปโลกันต์นรกได้ คือต้องทำกรรมหนักหนาสาหัส คือ เป็นนิตยะมิจฉาทิษฐิ หรือ เป็นคนที่มิจฉาทิษฐิ ดิ่งลึกกู่ไม่กลับ ไม่รู้จักบาปบุญ ไม่รู้คุณโทษ ไม่รู้ความดีความเลว เชื่อว่าเกิดมาก็ตายหายสูญไปแค่นั้นก็จบ ใครมาสั่งสอนอย่างไรก็ไม่มีทางคลายความเชื่อเหล่านี้ได้ แบบนี้เรียกว่า นิตยะมิจฉาทิษฐิ ตายแล้วไปอยู่โลกันต์นรกครับ

ประทานโทษนะครับด้วยความเคารพ ลองเลียบเคียงถามท่านอาจารย์ว่า ถ้าพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่หรือลูกเมีย ของท่านอาจารย์เสียชีวิตท่านจะทำพิธีศพแบบศาสนาไหน ถ้าแบบพุทธท่านจะทำบุญไปให้ท่านเหล่านั้นหรือป่าว....

ไม่เห็นโลกศพ ไม่หลั่งน้ำตาครับ




#3 อหิงสา อโหสิ

อหิงสา อโหสิ
  • Members
  • 18 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2007 - 06:06 PM

-ไม่เคยถามอาจารย์เรื่องนี้เหมือนกัน แต่ที่เรียนกับอาจารย์มาเค้าบอกในทำนองศาสนากำเนิดมาจากมนุย์ (คนเป็นคนตั้งขึ้นมาเองเพื่อ...เรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับคนจะได้มีคำอธิบายเป็นเป็นไปได้ทั้งในทางที่เหนือธรรมชาติ คือมาจากการที่วิทยาศาสตร์ยังอธิบายไม่ถึงนั้นเอง เลยต้องเอาสิ่งที่เหนือธรรมชาติมาอ้าง แต่เป็นในทางของเหตุและผล) เมื่อนาน ๆ เข้าสะสมมาหลายชั่วอายุคน ก็เลยกลายเป็นบัญญัติ และแตกย่อยไปหลายศาสนา(ความเชื่อ) ............แต่เรื่องที่สนใจไม่เชื่อเรื่องนี้จึงไม่ขอพูดต่อ
ประเด็นที่อยากคลายสงสัยจริง ๆ หากว่าไปกระทบกับจิตใจของใครก็ต้องขอโทษด้วย เพราะผู้รู้น้อยอย่างข้าพเจ้า ตั้งกระทู้มาเพราะสงสัยจริง ๆ ไม่คิดจะให้เป็นเรื่องบานปลายแตกประเด็นอื่นแต่อย่างใด แค่อยากจะรู้ตามกระทู้แรกที่ตั้งมาเท่านั้นเอง
Without body.What trouble could I have?

#4 jane_072

jane_072
  • Members
  • 539 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 July 2007 - 12:00 AM

--หากมนุย์ไม่มีศาสนา?, อยากทราบว่าหากคนเราไม่มีศาสนา อยู่ได้หรือไม่?
ผมว่าอยู่ได้นะ ในอดีตแสนจะอดีตศาสนายังไม่ได้เกิดขึ้นบนโลก มวลมนุษย์ก็อยู่กันได้ตามความรู้ที่มีในช่วงยุคสมันนั้นคุณว่าจริงไหม

ส่วนเรื่องอาจารย์ของคุณไม่มีปรากฏว่านับถือศาสนานั้น ผมว่าน่าจะเป็นจริตนึกคิดของอาจารย์(ความพอใจ+ความรู้ที่นึกคิด) อาจารย์ของคุณน่าจะเป็นคนที่มีความคิดมากมาย ผมไม่แปลกใจเลยครับเรื่องนี้ผมก็มีคนรอบข้างแบบนี้ครับ บุคคลที่มีจริตแบบอาจารย์คุณ ถ้าให้ตอบ อาจารย์คุณไม่ผิดอะไรนี้ครับ ไม่ผิดที่อาจารย์มีความรู้สึกชอบ ยินดีในสิ่งที่กระทำอยู่ไม่ไปเบียดเบียนใครๆ และถ้ามีคนเอาแบบอย่างอาจารย์คุณจะเป็นอะไรไหม ผมก็ว่าไม่อีกนั้นแหละทั้งหมดอยู่ที่จริตนึกคิด แต่ถ้าถามว่ามีปัญหาไหม ผมก็ว่าไม่อีกนั้นแหละ แต่ผมเสียดายที่เขาไม่ได้รู้ความจริงของชีวิตเท่านั้นเอง


แต่........ศาสนาพุทธไม่ใช่เป็นศาสนาที่เกิดในห้วงของความคิดเพียงอย่างเดียว แต่เป็นศาสนาแห่งการปฏิษัติในลู่ทางของเหตุและผล(โดยการสั่งสมมวลความรู้และนำมาปฏิษัติ)

#5 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 July 2007 - 06:55 PM

QUOTE
อยากทราบว่าหากคนเราไม่มีศาสนา อยู่ได้หรือไม่?

อยู่ได้ เพราะพุทธศาสนาเป็นหลักสากล ผู้ปฏิบัติจริงปฏิบัติชอบย่อมได้ชื่อว่าเข้าถึง

ในสมัยพุทธกาลเคยมีมาณพคนหนึ่ง ได้ถามพระตถาคตเจ้าทำนองว่า ธรรมใดจรรโลง ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อต่างๆนั้น ให้คงอยู่
พระองค์ตรัสตอบว่า ลัทธิ ความเชื่อที่จรรโลงอยู่ได้ ต้องประกอบด้วย....เป็นอย่างน้อย
1. ทาน ซึ่งรวมถึงการบริจาค การสงเคราะห์
2. การถือบวช รวมถึงวินัยต่างๆ
3. กตัญญูกตเวที
ซึ่งหมายความถึงลัทธิ ความเชื่อใดที่มีหลักธรรมต่างๆนี้เป็นพื้นฐาน ลัทธิ ความเชื่อนั้นย่อมดำรงอยู่ได้ แม้จะไม่ช่วยให้พ้นจากวัฏฏะสงสารก็ตาม ดังเช่น เคยมีลัทธิที่สอนให้เกลียดบิดามารดา อันนี้ย่อมอยู่ไม่ได้เพราะขัดหลักกตัญญูกตเวที

หากเพื่อนจำแหล่งอ้างอิงจากอรรกถาจารย์ได้ รบกวนช่วยเพิ่มเติม แก้ไขด้วย...สาธุ
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#6 danaiporn

danaiporn
  • Members
  • 73 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 July 2007 - 08:01 PM

ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าคนยังไม่มีอะไรเป็นสรณะ และเป้าหมายชีวิต อะไร คาดว่าได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตก เพราะศาสนาบางศาสนา ไม่สามารถตอบคำถามอะไรได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล

ถ้าเคยฟังธรรมบทเรื่อง รอยเท้าในอากาศ อาจารย์ผู้นั้น ก็เหมือนแสวงหารอยเท้าในอากาศอยู่ ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสตอบแล้ว่า รอยเท้าในอากาศไม่มี สมณะนอกพระพุทธศาสนา ไม่มี

ผู้ที่มีปัญญา ก็ย่อมแสวงหา เมื่อค้นพบแล้วว่า อะไรเป็นเป้าหมายชีวิต ตายแล้วจะไปไหน ก็ย่อมเดินไปได้ถูกต้อง ผู้มีปัญญามากย่อมต้องการผู้ที่มีปัญญาเสมอหรือมากกว่า ไปโปรดครับ

#7 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 20 July 2007 - 12:14 PM

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ศาสนาคือ อะไรน่ะครับ หากไปเข้าใจว่า ศาสนาคือ แค่ศาสนสถาน ศาสนบุคคล ศาสนวัตถุ และศาสนพิธี หากเข้าใจแค่นี้ บางคนหัวสมัยใหม่ ย่อมจะรู้สึกว่า ไม่เห็นต้องมีศาสนาเลย แค่ไม่ทำชั่วก็พอ

แต่ถ้าเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ศาสนาคือ ศิลปการแก้ทุกข์ ก็จะเข้าใจว่า ทุกๆ คน ย่อมต้องมีศาสนา หรือมีศิลปการแก้ทุกข์ประจำตัวครับ

ดังเช่น ตัวคุณเอง เวลาคุณทุกข์ คุณแ้ก้อย่างไร เช่น ง่วงนอน ก็แก้ด้วยการไปวิ่ง นี่คือ ศิลปการแก้ทุกข์ของคุณ หากมันไม่เป็นที่นิยม มันก็เป็นศิลปการแก้ทุกข์ของคุณเพียงคนเดียว ศาสนาก็ย่อมไม่เกิดขึ้น เช่น บางคนง่วงนอน เขาแก้ด้วยการไปนอน เป็นต้น

แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ต่างกันออกไป เริ่มต้นพระองค์ตรัสรู้ศิลปการแก้ทุกข์เพียงพระองค์เดียว ตอนนั้นศาสนายังไม่เกิดขึ้น แต่ต่อมา เมื่อพระองค์ถ่ายทอดศิลปนี้ออกไป แล้วผู้คนปฏิบัติตาม แล้วเห็นว่า ได้ผลแฮะ แก้ทุกข์ได้ทุกเรื่องเลย เป็นไงครับ ศาสนาเกิดแล้ว

ดังนั้น คงเข้าใจแล้วนะครับ ศาสนา ก็คือ ศิลปการแก้ทุกข์ที่ได้รับความนิยม ในคนหมู่มาก หากคุณไม่สนใจศิลปการแก้ทุกข์ของศาสนาพุทธ แต่ต้องการทดลองศิลปการแก้ทุกข์ด้วยตัวคุณเอง ย่อมทำได้ครับ แต่ก็ยังได้ชื่อว่า มีศาสนาอยู่นั่นเอง คือ ศาสนาของคุณคนเดียวไงครับ

เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ศิลปของคุณได้รับความนิยมในคนหมู่มาก เมื่อนั้นศาสนาคุณก็เกิดขึ้น คุณอาจได้เป็นศาสดาผู้ตั้งศาสนา แต่การจะให้เป็นเช่นนั้นได้ ศิลปการแก้ทุกข์ของคุณต้องเิลิศ คนทั้งหลายใช้วิธีนี้แล้วติดใจ แก้ทุกข์ได้ หากไม่เช่นนั้น มันก็แค่ศิลปแก้ทุกข์ของคุณคนเดียว


เมื่อคุณเข้าใจตรงนี้แล้ว คราวนี้ลองไปศึกษาพระพุทธศาสนาสิครับ ไปศึกษาดูว่า เหตุใด ศิลปการแก้ทุกข์ของพระพุทธเจ้า จึงได้รับความนิยม แล้วคุณจะเข้าใจว่า ศิลปของท่านครอบคลุมทุกๆ วิธีแก้ทุกข์อย่างได้ครบ เราไม่ต้องเสียเวลาคิดหาวิธีเอง ใช้ของพระองค์ไปเลย พอเข้าใจตรงนี้ จะเ้กิดความซาบซึ้งและนับถือพระพุทธศาสนาอย่างเด็มใจน่ะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#8 Katerine

Katerine
  • Members
  • 15 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 July 2007 - 08:43 PM

Thank you for very answer. Great !

#9 อหิงสา อโหสิ

อหิงสา อโหสิ
  • Members
  • 18 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 July 2007 - 11:20 AM

[b]-----ขอบคุณมากสำหรับทุก ๆ คำตอบ ตอนตั้งกระทู้นี้ ทีแรกนึกว่าจะมีใครมาว่าตัวข้าเพเจ้า(ผู้ตั้งกระทู้) ว่าจะส่อไปในทางทำลายพระพุทธศาสนา และกลัวว่าอาจจะมีคนมาด่าว่าข้าพเจ้ามาก ๆ ซะแล้ว ที่ไหนได้ กลับมีแต่มิตรที่เมตตากต่อข้าพเจ้า อธิบายให้ข้าพเจ้ากระจ้างแจ้งและเลือกทางเดินที่คิดว่าได้เหมาะกับข้าพเจ้าแล้ว--

---------------ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำตอบที่งดงามจากกัลยาณมิตรที่ดี--------------
Without body.What trouble could I have?

#10 jane_072

jane_072
  • Members
  • 539 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 July 2007 - 09:24 PM

อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ สาธุๆๆ