ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

บริสุทธิ์ด้วยปัญญา (2)


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 2 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ThDk

ThDk
  • Members
  • 259 โพสต์
  • Location:Struer, Denmark
  • Interests:จุดมุ่งหมายของการประพฤติพรรหมจรรย์ เพื่อสำรอกราคะ... เพื่อละสังโยชน์... เพื่อถอนอานุสัย.. เพื่อรู้รอบสังสารวัฎอันยืดยาว... เพื่อความสิ้นอาสวะ... เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งผลคือ วิชชาและวิมมุติ... เพื่อญาณทัศนะ... เพื่อปรินิพพาน อันปราศจากอุปทาน.

โพสต์เมื่อ 30 July 2007 - 04:16 PM

unsure.gif องค์ ๓ แห่งดอกปทุม ได้แก่ ธรรมดาดอกปทุม เกิดอยู่ในน้ำ โตอยู่ในน้ำ แต่น้ำ ไม่ติดค้างอยู่ได้ ฉันใด พระโยคาวจรก็ไม่ควรติดอยู่ในตระกูล หมู่ คณะ ลาภ ยศ สักการะ สัมมานะ และบริโภคปัจจัย กับกิเลสทั้งปวง(37)ฉันนั้น,อันนี้เป็นองค์ที่๑แห่งดอกปทุมฯ,ธรรมดาดอกปทุมย่อมพ้นน้ำขึ้นไปตั้งอยู่ฉันใดพระโยคาวจรก็ควรครอบงำโลกทั้งสิ้นสูงขึ้นไปจากโลกแล้วอยู่ในโลกุตตรธรรม(38)ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่๒แห่งดอกปทุมฯธรรมดาดอกปทุมถูกลมพัดเพียงเล็กน้อยก็ไหวฉันใดพระโยคาวจรก็ควร ระวังกิเลสแม้เพียงเล็กน้อยควรเห็นโทษ แม้เพียง เล็กน้อยว่า เป็นของน่ากลัว(39) ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๓แห่งดอกปทุมฯข้อนี้สมกับคำของพระพุทธเจ้าว่าภิกษุย่อมเห็นภัยในโทษอันเล็กน้อยแล้วถือมั่นอยู่ใน สิกขาบททั้งหลาย(40)ดังนี้.องค์๒แห่งพืชได้แก่ธรรมดาพืชถึงมีเพียงเล็กน้อยเมื่อเขาปลูกหว่านลงในที่ดี เวลาฝนตกลงมาดีก็ย่อมให้ผลมากฉันใดพระโยคาวจรก็ควรปฏิบัติชอบเพื่อให้ศีลส่งให้ได้โลกุตตรผล(41) ฉันนั้นอันนี้เป็นองค์แรกแห่งพืชฯธรรมดาพืชที่เขาปลูกหว่านลงในที่บริสุทธิ์ย่อมงอกขึ้นได้เร็วฉันใด จิตของพระโยคาวจรผู้อยู่ในที่สงัดผู้อบรมสติปัฏฐานก็งอกงามขึ้นได้เร็ว(42)ฉันนั้นอันนี้เป็นองค์ที่๒แห่ง พืชฯข้อนี้สมกับคำของพระอนุพุทธเถรเจ้าว่าพืชอันตั้งอยู่ในที่บริสุทธิ์ดีย่อมมีผลไพบูลย์ทำให้ผู้ปลูกหว่าน ดีใจฉันใดจิตของพระโยคาวจรที่บริสุทธิ์อยู่ในที่สงัดก็งอกงามขึ้นเร็วในที่ดินอันดีคือสติปัฏฐาน (43)ฉันนั้น

unsure.gif องค์๑แห่งไม้ขานางได้แก่ธรรมดาไม้ขานางย่อมเจริญอยู่ใต้ดินแล้วสูงขึ้นตั้ง๑๐๐ศอกฉันใดพระโยคาวจร ก็ควรแสวงหาสมณธรรมคือสามัญผล๔,ปฏิสัมภิทา๔,อภิญญา๖อยู่ในที่สงัด(44)ฉันนั้นอันนี้เป็นองค์หนึ่ง แห่งไม้ขานางฯข้อนี้สมกับคำของพระราหุลเถรเจ้าว่าไม้ขานางมีรากหยั่งลงไปใต้ดินตั้ง๑๐๐ศอก เวลาถึงกาลแก่แล้วก็งอกขึ้นในวันเดียวตั้ง๑๐๐ศอกฉันใดพระโยคาวจรผู้อยู่ในที่สงัดก็เจริญขึ้นด้วยธรรม (45) ฉันนั้น ดังนี้

rolleyes.gif องค์๓แห่งเรือได้แก่ธรรมดาเรือย่อมพาคนเป็นอันมากข้ามฟากไปได้?ด้วยความพร้อมกันแห่ง ไม้ขนานต่างๆเป็นอันมากฉันใดพระโยคาวจรก็ควรข้ามโลกนี้กับทั้งเทวโลกไปด้วยความพร้อมกัน แห่งความขนานกันด้วยธรรมหลายอย่างคืออาจารคุณสีลคุณข้อวัตรปฏิบัติ(46)อันนี้เป็นองค์แรกแห่งเรือฯธรรมดาเรือย่อม สู้ลูกคลื่น สู้ลมเป็นอันมาก ฉันใด พระโยคาวจรก็ควรสู้ลูกคลื่นคือกิเลสต่าง ๆ เป็นอันมาก เช่น ลาภ สักการะ ยศ สรรเสริญ การบูชา การกราบไหว้ การนินทา สรรเสริญ ความสุข ความทุกข์ ความนับถือความดูหมิ่นเป็นอันมาก(47)ฉันนั้นอันนี้เป็นองค์ที่๓แห่งเรือฯธรรมดาเรือย่อมแล่นไปในมหาสมุทรอันกว้างลึกเต็มไปด้วยสัตว์น้ำหาประมาณมิได้มีปลาติมิงคละ,มังกรเป็นต้นฉันใดพระโยคาวจรก็ควรให้มี ใจอันขวนขวาย ซึ่งบารมี ที่จะข่มขี่เสียซึ่งสัญญาทั้งปวง เที่ยวไปในการู้แจ้งแทงตลอด ซึ่งสัจจะ ๔ อันมีรอบ๓มีอาการ๑๒ฉันนั้น(48)อันนี้เป็นองค์ที่๓แห่งเรือฯสมกับพระพุทธพจน์ในสัจจสังยุตอันมีในสังยุตตนิกายว่าดูก่อนภิกษุทั้งหลายเมื่อเธอทั้งหลายจะคิดก็ควรคิดว่าอันนี้เป็นทุกข์,อันนี้เป็นทุกขสมุทัย,อันนี้เป็น ทุกขนิโรธ อันนี้เป็นทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา(49) ขอถวายพระพร

unsure.gif องค์๒แห่งเรืออันติดหินโสโครกในมหาสมุทรนั้นได้แก่ธรรมดาเครื่องขัดข้องแห่งเรือย่อมขัดข้องเรือไว้ ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่อันมากไปด้วยคลื่นระลอกไม่ให้ไปสู่ทิศต่างๆได้ฉันใดพระโยคาวจรก็มีจิตข้อง อยู่ใน ลูกคลื่น คือ ราคะ โทสะ โมหะ ในเครื่องกระทบ คือ วิตกใหญ่ ไม่ให้ไปสู่ทิศต่าง ๆ ได้(50) ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์แรกแห่ง เครื่องขัดข้องเรือ ฯ ธรรมดาเครื่องขัดข้องเรือ ย่อมข้องเรือไว้ใน น้ำอันลึกตั้ง ๑๐๐ ศอกก็มี ฉันใด พระโยคาวจรไม่ควรข้องอยู่ในเครื่อง ข้อง คือ ลาภ ยศ สักการะ การกราบไหว้บูชา ควรตั้งจิตไว้ใน ปัจจัย พอให้ร่างกายเป็นไปได้เท่านั้น(51)อันนี้เป็นองค์ที่ ๒ แห่งเครื่อง ขัดข้องเรือ ฯ ข้อนี้สมกับคำของพระสารีบุตรเถรเจ้าว่า เครื่องขัดข้องในเรือมหาสมุทร ย่อมไม่ลอยอยู่ มีแต่จมอยู่ข้างล่าง ฉันใด ท่านทั้งหลายอย่าข้องอยู่ในลาภสักการะ อย่าจมอยู่ในลาภสักการะ(52) ฉันนั้น

unsure.gif องค์๑แห่งเสากระโดงได้แก่ธรรมดาเสากระโดงย่อมทรงไว้ซึ่งเชือกและรอกและใบเรือฉันใดพระโยคาวจร ก็ควรเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ ทุก เวลาก้าวหน้า ถอยกลับ แลเหลียว คู้เหยียด ครองสังฆาฏิ บาตร จีวร ฉันดื่ม เคี้ยวลิ้ม ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ เดิน ยืน นั่ง นอน ตื่น พูด นิ่ง ฉันนั้น(53) อันนี้เป็นองค์ที่ ๑ แห่งเสากระโดง ฯข้อนี้สมกับคำของพระพุทธเจ้าว่าดูก่อนภิกษุทั้งหลายภิกษุควรเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะอันนี้เป็นอนุสาสนีย์ สำหรับเธอทั้งหลาย(54) ดังนี้

unsure.gif องค์๓แห่งต้นหนคือนายท้ายเรือได้แก่ธรรมดาต้นหนย่อมเอาใจใส่เรือ อยู่เป็นนิจ ทั้งกลางวันกลางคืน ไม่ประมาทเผลอเรอฉันใดพระโยคาวจร ก็ไม่ควรประมาท ควรกำหนดจิตไว้ด้วยโยนิโสมนสิการอยู่เป็นนิจ ทั้งกลางวันกลางคืน(55)ฉันนั้นอันนี้เป็นองค์ที่๑แห่งต้นหนฯข้อนี้สมกับคำของพระทศพลในพระธรรมบท ว่าเธอทั้งหลายจงยินดีในความไม่ประมาทจงรักษาจิตของตนจงยกตนขึ้นจากหล่มเหมือนกับกุญชรที่ ตกหล่ม แล้วยกตนขึ้นจากหล่มได้ฉะนั้น ฯ(56) ธรรมดาต้นหนย่อมรู้สิ่งที่ดีแลไม่ดีในมหาสมุทรได้สิ้น ฉันใด พระโยคาวจร ก็ควรรู้จักสิ่งที่เป็นกุศลและอกุศล มีโทษไม่มีโทษ ควรเกี่ยวข้องไม่ควร เกี่ยวข้อง เลวดีเปรียบด้วยของดำของขาว(57)ฉันนั้นอันนี้เป็นองค์ที่๒แห่งต้นหนฯธรรมดาต้นหนย่อมตั้งเข็มทิศ ด้วยตนเองไม่ให้ผู้อื่นแตะต้องฉันใดพระโยคาวจรก็ควรตั้งเข็มทิศไว้ในใจห้ามใจไม่ให้นึกถึงสิ่งที่เป็น บาปอกุศลต่างๆ(58)ฉันนั้นอันนี้เป็นองค์ที่๓แห่งต้นหนฯข้อนี้สมกับคำของพระทศพลในคัมภีร์สังยุตต นิกายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเธอทั้งหลายอย่างนึกถึงสิ่งที่เป็นบาปอกุศลอันเป็นกามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตกเลย (59)ดังนี้

unsure.gif องค์๑แห่งกรรมกรได้แก่ธรรมดากรรมกรย่อมคิดว่าเราเป็นลูกจ้างเราจักต้องให้ได้ค่าจ้างมาก เราจักต้องไม่ประมาทฉันใดพระโยคาวจรก็ควรเป็นฉันนั้นคือควรคิดว่าเมื่อเราพิจารณากายอันประกอบ ด้วยธาตุ๔นี้เราก็เป็นผู้ไม่ประมาทเนืองๆมีสติสัมปชัญญะดี,มีใจแน่วแน่เมื่อเป็นอย่างนี้ เราก็จักพ้นจากชาติ ชรา,พยาธิ,มรณะ,โสกะ,ปริเทวะ,ทุกข์,โทมนัส,อุปายาส,เพราะฉะนั้นเราไม่ควรจะประมาท(60)อันนี้เป็น องค์ หนึ่งแห่งกรรมกรฯ ข้อนี้สมกับคำของ พระสารีบุตรเถรเจ้าว่า ขอท่านทั้งหลายจงพิจารณากายนี้ จงกำหนด รู้กายนี้ร่ำไป จงเห็นสภาพในกาย จึงจักทำให้สิ้นทุกข์ได้(61) ดังนี้

unsure.gif องค์๕แห่งมหาสมุทรได้แก่ธรรมดามหาสมุทรย่อมไม่อยู่ร่วมกับซากศพฉันใด พระโยคาวจรก็ไม่ควรอยู่ ร่วมกับ ราคะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ มักขะ ปลาสะ อิสสา มัจจริยะ มายา สาไถย ความคดโกง ความทุจริต กิเลส มลทินทั้งหลาย(62) ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์แรกแห่ง มหาสมุทร ฯ ขอถวายพระพร ธรรมดามหาสมุทรย่อมรักษาไว้ซึ่ง แก้วต่างๆ คือ แก้วมณี, แก้วมุกดา, แก้วไพฑูรย์, สังข์ ศิลา,แก้วประพาฬ,แก้วผลึกไว้ไม่ให้กระจัดกระจายออกไปภายนอกได้ฉันใดพระโยคาวจรได้บรรลุ มรรคผล ฌาน วิโมกข์ สมาธิ สมาบัติ วิปัสสนา อภิญญาแล้ว ก็ควรปกปิดไว้ ไม่ควรนำออกไป ภายนอก(62) ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๒ แห่งมหาสมุทร ฯ ธรรมดา มหาสมุทรย่อมอยู่ร่วมกับสัตว์ใหญ่ ๆ ฉันใด พระโยคาวจรก็ควรอยู่ ร่วมกับเพื่อนพรหมจรรย์ผู้มักน้อย ผู้สันโดษ ผู้กล่าวคำอันเป็นเครื่องกำจัด ผู้มีความขัดเกลา ผู้สมบูรณ์ด้วยอาจารกิริยา ผู้เป็นลัชชี ผู้มีศีลเป็นที่รัก ผู้เป็นที่เคารพ เป็นที่นับถือ เป็นผู้ว่ากล่าว เป็นผู้ ควรแก่การว่ากล่าว ผู้ตักเตือน ผู้ติเตียนความชั่ว ผู้สั่งสอน ผู้ให้ รู้แจ้ง ผู้ให้เห็นจริง ให้ถือมั่น ให้อาจหาญ ให้ร่าเริง(63)ฉันนั้น อันนี้ เป็นองค์ที่ ๓ แห่งมหาสมุทร ฯ ธรรมดามหาสมุทรย่อมเต็มด้วยน้ำ ซึ่ง ไหลมาจากแม่น้ำต่าง ๆ หลายร้อยสาย มีแม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู มฮี เป็นต้นทั้งมีน้ำฝนตกลงมาจากอากาศแต่น้ำเหล่านั้นก็ไม่ไหลล้นฝั่งไปได้ฉันใด พระโยคาวจรก็ไม่ควรแกล้งล่วงสิกขาบทเพราะเห็นแก่ลาภ,ยศ,สักการะ,สรรเสริญ,ความนับถือ,ความไหว้,ความบูชา,ตลอดถึงเหตุที่จะให้สิ้นชีวิต(64)อันนี้เป็นองค์ที่ ๔ แห่งมหาสมุทร ฯ ข้อนี้สมกับพระพุทธพจน์ว่า มหาสมุทรมีน้ำ เต็มฝั่ง ไม่ล้นฝั่งไปได้ ฉันใด สาวกทั้งหลายของเราก็ไม่ล่วงสิกขาบท ที่เราบัญญัติไว้ แม้เพราะเหตุแห่งชีวิต(65)ฉันนั้นฯธรรมดามหาสมุทร ย่อมไม่รู้จักเต็มด้วยน้ำ อันไหลมาจากแม้น้าทั้งปวง มีแม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู มฮี เป็นต้น อีกทั้งน้ำฝนด้วย ฉันใด พระโยคาวจรก็ไม่ควรอิ่มด้วยการเรียน การฟัง การทรงจำ การวินิจฉัย พระธรรมวินัย พระสูตร วิเคราะห์ นิกเขปบท บทสนธิ บทวิภัตติ ในพระพุทธศาสนา(66) ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๕ แห่งมหาสมุทร ฯ

ข้อนี้สมกับคำของพระพุทธองค์ในมหาสุตตโสมชาดกว่าไฟที่ไหม้หญ้าและไม้ย่อมไม่รู้จักอิ่มด้วยเชื้อไฟ มหาสมุทรย่อมไม่รู้จักอิ่ม ด้วยน้ำ ฉันใด บัณฑิตทั้งหลายก็ไม่รู้จักอิ่มด้วยคำอันเป็นสุภาษิตฉันนั้น(67)


โลกอยู่ภายใต้การครอบงำของชรา ก้าวเข้าไปสู่ชรา ไม่ยั่งยืน

โลกไม่มีผู้ต้านทาน ไม่มีผู้เป็นใหญ่

โลกไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวง

โลกพร่องอยู่เป็นนิจ ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา.

- สละโลกได้ ก็พ้นทุกข์ได้


#2 jane_072

jane_072
  • Members
  • 539 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 July 2007 - 10:35 AM

อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ สาธุๆๆ

#3 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 August 2007 - 12:59 PM

ขออนุโมทนาบุญนะครับ...สาธุ