แต๋มหลบพ่อไปอยู่ที่อื่นจะเป็นทางออกที่ดีรึเปล่า
#1
โพสต์เมื่อ 04 August 2007 - 01:31 AM
แต๋มไม่แน่ใจว่าเรื่องการสักยันต์ต่างๆจะเกี่ยวกับนิสัยอาลวาด ข่มผู้อื่นของพ่อไหม ตอนเด็กแต๋มจำได้ว่าพ่อ สักเต็มเลย พ่อเป็นตำรวจค่ะ แม่เคยเล่าว่าสมัยหนุ่มๆพ่อ อยู่กองปราบพิเศษ ต้องปลอมตัวล่อผู้ร้ายบ่อยๆ เสี่ยงตายหลายครั้ง เคยปราบตี๋ใหญ่ด้วย เพื่อนพ่อโดนยิงแต่พ่อไม่เป็นไรเลย พ่อมีเสือพาดกลางที่หน้าอก(แต๋มจำได้ ) ที่หลังมี เก้ายอด มีเจดีย์อะไรก็ไม่รู้เรียกไม่ถูก ที่ไหล่ก็มี ทั้งสองข้างเลย (แต่จำไม่ได้ว่าเป็นอะไร เพราะเด็กเลยไม่สนใจ)ซึ่งทุกรอยสัก ลงคาถากับอาจารย์ชื่อดังนะคะ แต่ทุกวันนี้เหลือแต่เก้ายอดค่ะ นอกนั้นมาสังเกตุอีกทีก็ไม่เห็นแล้ว แม่บอกว่าของเข้าตัว เพราะไม่ถือศีลถือสัตย์ กินเหล้า พูดหยาบ ผิดในหลายข้อที่เขาห้าม ของเลยเข้าตัว นิสัยก็เลยเป็นแบบนี้ พ่อเคยลืมตัวใช้มือขย้ำคอแต๋มด้วย พอรู้ตัวก็เลยรีบปล่อย แต่ตอนนั้น จำได้ว่า แววตานั้นไม่เหมือนพ่อเลย น่ากลัวมาก เพียงช่วงวูบเดียวเท่านั้นพ่อก็รู้ตัว และคลายมือออก อืม....นี่เป็นแค่เหตุการณ์คร่าวๆนะคะ ที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกันรึเปล่า แล้วถ้าเกี่ยวจะแก้ไขอย่างไรดี และการหลบไปที่อื่น เพื่อหนีการมีปากเสียงกับพ่อ แต่ไม่ได้ดูแลพ่อกับแม่ หรือการอยู่ดูแล แต่ไม่รู้ว่าจะอดทนได้แค่ไหนนั้น อันไหนจะบาปน้อยกว่ากัน และควรทำไงดีคะ
#2
โพสต์เมื่อ 04 August 2007 - 05:48 AM
#3
โพสต์เมื่อ 04 August 2007 - 10:07 AM
เมื่อก่อนตัวเองก็เคยเป็น...แบบนั้น ยึดมั่น ถือมั่นมาก รู้สึกว่าทุกข์ รู้สึกว่าหนัก พยายามหาหนทางออกจากปัญหาอยู่ตั้งนาน แท้จริงอยู่ที่ใจตัวเราเองนี้แหละ
ลองเอาใจตัวเองเป็นเหมือนเครื่องกรองน้ำดูซิค่ะ อันไหนหนักก็อย่าถือ อันไหนไม่ดีก็โยนทิ้ง
ตอนแรกก็ดูทำยากน่ะ แต่เริ่มทำดูก่อนซิ ทำเรื่อยๆ..ทำบ่อย ๆ...แล้วก็จะรู้ว่าจริงเหมือนกันแฮะ..
ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ...
#4
โพสต์เมื่อ 04 August 2007 - 10:25 AM
1. อยู่ที่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่ต่อไป เพราะสงสารคุณแม่ อยู่คอยดูแลท่านทั้งสอง เอาบุญพิเศษ คือ กตัญญูกตเวที แต่เลี่ยงการกระทบกระทั่งกับคุณพ่อไม่ได้
วิธีแก้ไข เรื่องกระทบกระทั่งกับคุณพ่อ นั่งสมาธิมาก ๆ หลักในการหลับตาทุกครั้งคือ ผ่อนคลายสบาย นั่งแล้วต้องสบายใจนะคะ นั่งแล้วเครียดใช้ไม่ได้ ทุกครั้งหลังนั่งเสร็จ ให้อธิษฐานเบาๆ ไปในความสบายนั้นว่า ขอให้คุณพ่อใจเย็นลง หลุดพ้นจากวิบากกรรมต่าง ๆ ให้ท่านคิดดี พูดดี ทำดี กับ น้องแต๋ม และคุณแม่ และขอให้เราได้งานดี ขอให้วิบากกรรมไม่ดีทั้งหลายตามไม่ทัน ให้กรรมดีส่งผลก่อน ทำอย่างนี้ทุกวัน อย่าขาดต่อเนื่องกันให้ได้อย่างน้อยวันละ ครึ่งชั่วโมงนะคะ
ผลที่จะได้รับ ถ้าต้องกระทบกระทั่งกับคุณพ่อโดยเลี่ยงไม่ได้ เราก็จะมีวิบากกรรมติดตัว ถ้าเถียง ก็จะเจอลูกหลานไม่เคารพ (แต่ต่างกับใช้เหตุผล ด้วยความใจเย็นนะคะ) ถ้าเมินเฉย อาจหูหนวกได้ ถ้าขว้างของ อาจมือกุดได้ แต่แก้ได้ คือ นั่งสมาธิแบบที่พี่บอกนะคะ แล้วก็อธิษฐาน วันไหนคุณพ่อใจเย็น หรือจะถือเอาวันเกิดพ่อ หรือวันพ่อ ก็ได้ ซื้อพวงมาลัยสวย ๆ ขอขมาท่านว่าสิ่งที่เราล่วงเกินท่านด้วยกาย วาจา ใจ ขอคุณพ่ออโหสิกรรมให้แต๋มด้วยนะคะ ถ้าพ่ออโหสิกรรมให้
ก็ตัดวงจรกรรมได้ทันที น้องก็ไม่ต้องเจอวิบากกรรมร้าย ๆ ดังกล่าว
ซึ่งการขอขมา สามารถทำได้หลายครั้ง เพราะคนเรามักจะเผลอทำผิดอยู่ซ้ำๆ แต่ก็ต้องคิดหาอุบายที่จะไม่ทำให้ท่านรู้สึกว่า เรานี่อะไร พอทำผิด ก็จะขอขมา อย่างนี้ทำผิดได้ร่ำไปหรือเปล่า เราก็ต้องดูจังหวะ เวลา โอกาส ที่เหมาะสม
เช่น ใกล้เทศกาลวันพ่อทีหนึ่ง ก็ถือโอกาสกราบคุณพ่อ พร้อมกับขอขมาไปในตัว อย่างนี้ไงจ้ะ
2. อยู่ที่บ้าน 4 วัน ช่วยคุณแม่ทำงานบ้าน ดูแลท่านทั้งสอง อยู่ทึ่อื่น 3 วัน เพื่อมีเวลานั่งสมาธิมาก ๆ อธิษฐานให้คุณพ่อ คุณแม่ และตัวเอง และเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกับคุณพ่อ
อนุญาติให้ใช้วิธีนี้ได้ ในช่วงแรกของการปรับตัวนะคะ เพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะกับคุณพ่อ พอใจเรานิ่งมากขึ้นเราจะรู้เอง แต่ต้องนั่งสมาธิแบบที่พี่บอกนะคะ นั่งสบาย ๆ แล้วก็อธิษฐาน ให้คุณพ่อใจเย็น เป็นสัมมาทิฐฐิ พอใจเรานิ่งมีความสุขกับความสบายที่เรานั่งสมาธิ รู้สึกว่า ไม่ว่าอารมณ์ภายนอกจะมากระทบยังไง เราก็เฉย ๆ เราก็กลับมาอยู่บ้านตามปกติ
การหลีกไปอยู่ที่อื่นเพื่อเลี่ยงการสร้างวิบากกรรมใหม่ ยิ่งทำกับพ่อแม่หนักมาก ถ้าทำดี ก็ดีโลด ถ้าทำไม่ดี ก็ตรงกันข้ามสุด ๆ ก็ไม่ผิด แต่ในใจเราให้คิดว่า เราต้องตอบแทนพระคุณท่านให้ได้ คิดทุกวัน กลับไปดูแลท่านบ้าง ส่งเงินให้ท่านสม่ำเสมอ กลับไปให้กำลังใจท่าน อย่างนี้ใช้ได้
ทั้ง 2 วิธีนี้ พี่เน้นเรื่อง นั่งสมาธินะจ๊ะ ถ้าเรานั่งแล้วสบายใจ ใจพองๆ มีความสุข แล้วอธิษฐานจิต บุญจะส่งผลเร็วมาก
คุณพ่อจะเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเลยนะจ๊ะ อ้อ! วิธีนั่งสมาธิ ลองศึกษาในเวป dmc.tv/ และเวปลิงค์ ดูนะจ๊ะ ถ้ามีข้อสงสัยอะไร ก็ถามได้นะจ๊ะ
#5
โพสต์เมื่อ 04 August 2007 - 04:06 PM
บอกได้แค่ควบคุมตัวเองให้ได้ คุณจะหนีไปอยู่ที่ไหนก็ค่าเท่ากันแหละค่ะ ถ้ายังทนการกระทบกระทั่งไม่ได้แบบนี้ ถือว่ากำลังฝึกตนเองแล้วกันนะคะ
#6
โพสต์เมื่อ 05 August 2007 - 07:54 PM
#7
โพสต์เมื่อ 05 August 2007 - 08:01 PM
จะทำอะไรตัดสินมันด้วยเหตุและผลนะครับ สู้สู้
ทุกๆคนจะเป็นกำลังใจให้
#8
โพสต์เมื่อ 06 August 2007 - 10:05 AM
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#9
โพสต์เมื่อ 06 August 2007 - 11:18 AM
เอาใจช่วยคะ
#10
โพสต์เมื่อ 06 August 2007 - 03:12 PM
#11
โพสต์เมื่อ 08 August 2007 - 05:41 PM
.. .. ..
ใจหนึ่งก็อยากจะบอกน้องแต๋มว่า "อย่ากังวลในสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้"
แต่พี่ก็เห็นใจและเข้าใจหนูมากเลยล่ะ ที่ต้องเผชิญกับภาวะสงครามอย่างนี้
แล้วหนูเองก็ถือได้ว่าอยู่กลางสมรภูมิทีเดียวเชียว...
เอาเป็นว่าตอนนี้ อยากขอให้หนูอดทนอีกหน่อยนะคะ
พอหนูหางานทำได้ สถานการณ์จะดีขึ้นกว่านี้นะ...พี่คิดว่างั้นนะ
... .... ...
พระอาจารย์เคยบอกว่า "เรามีเพียงโอกาสเดียวเท่านั้นที่จะได้ดูแลผู้มีพระคุณ คือ เมื่อเรายังมีลมหายใจ"
"จงอย่าเป็นทุกข์เพราะความหยาบคายของผู้อื่น"
"สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" "เจตนา..นั้นแหละคือ..กรรม"
"จงทำในสิ่งที่ถูกต้อง..มากกว่าถูกใจ" "ไม่มีสิ่งเลวร้ายใดที่คนพูดโกหกทำไม่ได้"