ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ตัดใจไม่ไหว


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 20 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 บี

บี
  • Members
  • 151 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 August 2007 - 11:22 AM

ผมรักคนๆหนึ่ง เป็นเพื่อนร่วมคณะ เขาเป็นคนที่มีรูปร่างดีคนหนึ่ง ผมไม่ได้พูดคุยกับเขาเลยแม้แต่คำเดียว ท่ามกลางเพื่อนกลุ่มใหญ่ที่ผ่านเข้ามาคุยกัน ทำความรู้จักกัน แต่แปลกที่ผมกับเขากลับไม่คุยกันเลย พอทราบดีครับ สาเหตุที่ผมไม่คุยเพราะอาย แต่ยังสงสัยว่าเพราะเหตุใดเขาถึงเอาแต่ยิ้ม ไม่พูดคุยกับผมเลย

ในความรักครั้งนี้ผมไม่ต้องการดึงเขามาครอบครอง ทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ความห่วงนั้นมีมากเหลือเกิน ไม่อยากให้เขาไปเถลไถล ผมต้องทำอย่างไรดี ถึงจะหมดความรู้สึกห่วง ไม่อยากรักอีกแล้ว สงสารตัวเองเหลือเกิน สงสารคนที่อยู่รอบข้าง สงสารคนที่รักเราทุกคน คนๆเดียวทำไมถีงมีอิทธิพลกับผมขนาดนี้ ในอดีตชาติผมเคยทำให้เขาผิดหวังหรือ หรือเขาเคยเป็นคนรักผมมาก่อน

#2 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 09 August 2007 - 12:03 PM

- -ล มาถามผิดบอร์ดหรือเปล่าเนี่ย
นี่แหล่ะน้าความรัก ยังไม่ทันเริ่มต้นก็มีทุกข์เสียแล้วจากที่อ่านดูพอจะรู้แล้วว่าน้องรู้สึกยังไง ตอนนี้น้องกำลังโดนมารที่ชื่อว่าหลงสิงอยู่ในใจ ซึ่งดูแล้วท่าทางสมาธิจะช่วยอะไรน้องไม่ได้มากแล้ว หลับตาก็คงนึกได้แต่หน้าของคนๆนั้นใช่ไหม มันยากที่จะแก้ไขแต่ก็ไม่สายเกินไปนัก วิธีแก้ไขนั้นมีขึ้นอยู่กับว่าน้องจะหมั่นทำหรือปฏิบัติหรือไม่ วิธีแก้ความหลงนั้นก็คือต้องปลงอสุภะ ให้น้องคิดบ่อยๆเสมอๆ หากเขาแก่ตัวไปใบหน้าเหี่ยว ผิวหย่อนยาน คางมีเหนียงย้อย อาจอ้วนฉุเป็นหมูพะโล้ น้องจะยังคงความรักในตัวผู้หญิงคนนี้ได้หรือไม่ น้องทำใจเป็นคนใช้เขาตลอดชีวิตหรือไม่ หารูปคนแก่มาดูแล้วนึกทบทวน หากวันหนึ่งเขาเป็นแบบนี้ น้องจะยังรักเขาอยู่อีกหรือเปล่า
ขอเตือนน้องไว้อย่างนะ ความรักดูเหมือนมีสุขก็จริง แต่ก็เป็นสุขเพียงแค่ชั่วคราว แต่ทุกข์นั้นถาวร เหมือนเอาบ่วงมาคล้องคอตนเองเอาไปอย่างที่เขาเรียกกันว่าโซ่ท้องคล้องใจ ถ้าน้องอยากรู้ว่าทุกข์ยังไง ลองหาซื้อสร้อยทองเส้นโตๆสักเส้นมาใส่คอดู แรกๆจะรู้สึกภูมิใจมีความสุขว่าเรารวยมีสร้อยทองเส้นโตๆใส่ใช่ไหม แต่พอใส่ไปนานๆเข้า คอเริ่มเจ็บเพราะแบกรับนําหนักสร้อยทองเอาไว้ กระดูกคอเคลื่อนเพราะนําหนักกดทับ ส่งผลกระทบไปตลอดชีวิต ความรักก็เหมือนกัน มันทำให้มีความสุขแค่แปร๊บเดียว แต่ความทุกข์ที่ตามมามันตลอดชีวิตของน้อง เอากลับไปคิดดีๆแล้วกันว่ามันคุ้มไหมที่จะยอมเสียชีวิตทั้งชีวิตไปเพียงเพราะรักใครแค่คนเดียว
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#3 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 09 August 2007 - 01:26 PM

เหมือนเรื่อง Season Change เลยครับ นายบอลหลงรักน้องดาวกว่าจะบอกให้เขารู้ น้องดาวก็ไปบูดาเปสซะแล้ว
ความรักไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ รักใครทำใจชิลๆกล้าๆหน่อย

แต่ถ้าคิดจะเอาธรรมะก็ต้องละกามครับ อ้อ!หลวงพ่อทัตตะท่านว่า สุขทางกามเหมือนหมาแทะกระดูกครับหอมหวานแต่ไม่อิ่ม ไม่ถาวร.....
ผมเคยถามหลวงพ่อทัตตะว่า ทำอย่างไรผมจึงจะละกามราคะได้ ท่านว่า " ให้มืงเป็นพระอนาคามีก่อนค่อยมาคุย " โดนท่านตีเลยผม confused_smile.gif แต่ท่านก็ทิ้งท้ายว่า อย่าไปคิดถึงมันก็หมดเรื่อง เป็ยวิธีที่ดีที่สุดครับ

(บูดาเปส เป็นเมืองหลวงของประเทศ ฮังการี Budapest Hungary) smile.gif smile.gif smile.gif




#4 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 August 2007 - 02:42 PM

มาบวชสิคะ สักเดือนสองเดือน ได้นั่งธรรมะ พร้อมกับหมู่คณะ ถือศีลมากเข้าๆ เดี๋ยวความสุขเพราะใจสว่าง อันเกิดจากหยุดนิ่งโดยสมบูรณ์ มันจะทำให้ลืมความสุขแบบหมาแทะกระดูกแบบเทียบกันไม่เห็นฝุ่นเองอ่ะค่ะ ยากหน่อยก็ตอนตัดใจมาบวชเนี่ยแหล่ะ แต่ถ้าทำได้นะ สามเดือนผ่านไป แล้วจะหันมาหัวเราะเยาะตัวเองในอดีตว่า โอ้ รู้งี้มาบวชซะตั้งนานและ

ไม่ลองไม่รู้
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#5 คุณรู้มั๊ย คุณนั้นเคยตาย

คุณรู้มั๊ย คุณนั้นเคยตาย
  • Members
  • 335 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:บุญ หยุดนิ่ง นั่งสมาธิ ฟุตบอล คอมพิวเตอร์

โพสต์เมื่อ 09 August 2007 - 02:48 PM

omg_smile.gif ไม่ต้องทำอะไรครับ ให้มีคนอยู่กลางกาย(เบื่อแล้วคนอยู่ข้างกาย) laugh.gif
หลับตาเบาๆ ผ่อนคลายสบาย ให้ใจหยุดนิ่ง ที่ศูนย์กลางกาย

นิ่งๆ นุ่มๆ นานๆ

#6 sai_sai

sai_sai
  • Members
  • 135 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 August 2007 - 03:05 PM

ต่อไปนี้เราต้องเริ่มมองทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเป็นแค่เพื่อนร่วมโลก ร่วมสร้าบารมี ร่วมเกิด แก่ เจ็บตาย เราต้อสอนตนเองว่าเราเกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมีเพื่อนำตนเองไปสูที่สุดแห่งธรรม พร้อมกับนำทางเป็นกัลยาณมิตรแก่ผู้ที่ไม่รู้ให้เจอหนทางสว่าง เพียงแค่นี้นะครับ เรามาเกิดเพื่อการนี้นะครับ
คิดอย่างนี้เรื่อยๆ บ่อยๆ คิดทุกที่ที่เราไป ที่เราเจอมนุษย์ ที่บ้าน ที่ทำงาน ที่ป้ายรถเมลล์ หรือที่ต่างๆ มอง พูดผู้อื่นด้วยศูนย์กลางกาย แล้วไม่นานเราก็จะมีหวใจอย่างพระที่คิดเพียงแต่จะเกื่อกูลเพ่อนร่วมโลกเท่านั้น
เพียงแค่นี้เราก็จะคลายจากความรักครับ
อาจเป็นวิธีที่ไม่ดีที่สุด แต่พยายามตอบอย่างที่สุดแล้วครับ
สาธุ สาธุ สาธุ

#7 บี

บี
  • Members
  • 151 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 August 2007 - 04:55 PM

happy.gif
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ
เพียง 1 กำลังใจ แม้น้อยนิด
แต่มากที่สุด
happy.gif

#8 Nachpuzzorn

Nachpuzzorn
  • Members
  • 35 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 09 August 2007 - 05:13 PM

happy.gif จริงๆ อย่างคุณสิริปโภ ว่านะคะ ความรักไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร พี่อยากให้ น้อง Choyai ลองทบทวนอุปนิสัย ใจคอ และอัธยาศัยของตัวเราเองอีกทีว่า ใจเราถนัดแบบไหน เราอยากมีครอบครัวไหม เราชอบมีคนอยู่เคียงข้าง เป็นคู่บุญคู่บารมี คู่ชีวิตไหม แต่ชีวิตคู่ไม่ราบเรียบเสมอไป ต้องมีทะเลาะกันบ้าง ขัดกัน โกรธกันบ้าง mad.gif งอนกันบ้าง นิสัยใจคอที่แตกต่างกันอีก ซึ่งเราก็ต้องเตรียมใจว่า เราพร้อมไหม ที่จะเสียสละ สละความโกรธ ความไม่พอใจ และต้องรู้จักยอม

แต่ถ้าอารมย์เราเป็นแบบเบื่อๆ อยากๆ บางอารมย์อยากมีคนอยู่ข้างกาย บางอารมย์เบื่อชีวิตคู่ เบื่อที่ต้องมานั่งตามใจ เบื่อที่ต้องมาอดทน เบื่อที่ต้องเสียใจ นั่นก็แสดงว่า เรายังไม่พร้อมที่จะเสียสละชีวิตส่วนหนึ่งของเราให้กับคนอีกคนหนึ่ง ซึ่งถ้าคบกันจริงๆ ก็ลำบากหน่อย

ถ้าเรามีอารมย์แบบนี้ ก็ต้องทบทวนให้หนักว่า เราต้องการชีวิตแบบไหนกันแน่ ถ้าเราอยากมีคู่มากกว่าเบื่อ เราต้องเลือกคู่บุญคู่บารมี และพร้อมที่จะเสียสละชีวิตส่วนหนึ่งของเราให้กับเขา แล้วชีวิตคู่ก็จะมีความสุข ว่าไงก็ว่าตามกัน red_smile.gif แต่ถ้าเราตัดสินใจแน่แล้วว่า เบื่อมากกว่าอยาก เราก็นึกทบทวนถึงเหตุผลที่ทำให้เราเบื่อมากกว่าอยากบ่อยๆ นะจ๊ะ
นึกบ่อยๆ ซ้ำๆ เวลาทำบุญก็อธิษฐานว่า ให้เรารักชีวิตพรมจรรย์มากกว่าชีวิตคฤหัส ประมาณนี้นะจ๊ะ

พี่ว่า น้องยังไม่เคยคุยกับเขาเลย ลองคุยดูสิจ๊ะ อารมย์มันจะเปลี่ยนไปนะ บางทีเขาอาจไม่เป็นแบบที่เราฝันไว้ แล้วเราก็จะคลายไปเอง ความรู้สึกแบบนั้นก็จะเปลี่ยนไป เราก็ชวนเขามาสร้างบารมีกับหมู่คณะเพราะเราอยากให้เขามีชีวิตที่ดี เป็นกัลยาณมิตรให้เพื่อน แต่ถ้าเขาเป็นเหมือนที่เราฝันไว้ ก็ค่อยๆ ดูกันไป ดูว่า เราชอบชีวิตแบบไหนกันแน่ ดูให้แน่ใจ ดูว่าเขาเป็นยังไง เข้ากับเราได้ไหม เข้ากับครอบครัวเราได้ไหม รักชีวิตการสร้างบารมีแบบเราไหม เป็นต้น อย่างนี้แหละจ๊ะ หนุ่มน้อย smile.gif

#9 น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

    เราคือ นักรบกล้าอาสาสมัคร กองทัพธรรม

  • Members
  • 1961 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:ช่วยงานบุญที่วัด ให้ถึงที่สุดกำลัง ตราบวันที่ชีวิตจะสิ้นลมหายใจ

โพสต์เมื่อ 09 August 2007 - 05:36 PM

มาวัดบ่อยๆเดี๋ยวมีกัลยาณมิตรคอยให้คำแนะนำมากขึ้นก็จะละได้เองละค่ะ มีแต่เรื่องบุญกับบุญ
"ด้วยใจกล้าอาสา พัฒนาไม่หยุดยั้ง"

น้ำฝนลูกพระธัมฯ

#10 OMARISS

OMARISS
  • Members
  • 26 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 August 2007 - 05:56 PM

เขาเป็น boy or girl คะ ? just wondering.

#11 Dhamma Bot

Dhamma Bot
  • Members
  • 477 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 09 August 2007 - 07:41 PM

ลองอ่านหนังสือ Lovely Love หรือความรักที่น่ารัก ของ "ตะวันธรรม" ซึ่งจะออกวันที่ 27 สิงหาคม นี้นะครับ อ่านจบปุ๊บก็.... พอดี

#12 mpbkkt

mpbkkt
  • Members
  • 55 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 August 2007 - 10:37 PM

ผมก็เคยเป็นตอนอายุ 25 จะเป็นจะตายเสียให้ได้พอมาเจอเธอใหม่ตอนอายุ 35 ได้แต่นึกในใจทำไมเราโชคดีอย่างนี้ที่เธอไม่ โอเค ด้วยเพราะตอนนี้คุณเธอไม่เหลือความงามที่ทำให้ผมหลงไหลอยู่เลย เลยลองส่องกระจกดูตัวเองเป็นเหมือนกัน เคยหน้าคมหน้าเนียน แต่เดี๋ยวนี้หน้าเริ่มเหี่ยวรออยู่เนี่ยครูไม่ใหญ่ท่านก็ยังไม่บอกสูตรหน้าตึงสักที
คุณลองไปสังเกตุดูนะเราจะโดนหลอกด้วยภาพลวงตาทั้งเพศหญิง ชาย เพราะทั้งสองเพศเลยจะดูสวยดูงามที่สุดตอน อายุ 15 - 25 พอเลยช่วงนี้ไปแล้วจะค่อยๆแย่ลงตามลำดับอย่าเพิ่งรีบร้อนอายุสัก 40 ก็ยังไม่สายผม 46 แล้วยังอิสระอยู่เลยพออายุมากขึ้นความคิดความอ่านก็จะเปลี่ยนตามไปด้วยจะมีข้อมูลสำหรับประกอบการตัดสินใจมากขึ้น อย่าเพิ่งใจร้อนเราต้องพบเจอคนสัตว์สิ่งของอะไรต่ออะไรอีกเยอะ

#13 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 10 August 2007 - 09:28 AM

จริงด้วยครับคุณ mpbkkt ผู้หญิงน่ะ 25 ไปแล้วก็เริ่มหมดสวย ถอยลงๆ แต่ผู้ชายอ่ะได้เปรียบ 45 ยังหนุ่มเฟี้ยวก็มี ดูอย่าง เฟียส บอสแนมพระเอกเจมบอนส์007 อายุ50กว่าแล้ว สาวยังกรี๊ดสลบ

การครองพรหมจรรย์เป็นปณิธานที่ดีครับ แต่การครองเรือนก็ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายเสมอไป แม้พระโพธิสัตว์ก็ยังต้องมีคู่บุญบารมี เราท่าน หากยังบารมีไม่แก่ก็อาจพลาดไปมีครอบครัวมีเหย้ามีเรือนไปทุกคน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ควรใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส สร้างบุญบารมีร่วมกันเลยเอาแบบอุกฤษยิ่งยวดไปเลย ครูบาอาจารย์ท่านไม่ห้ามหรอกครับ พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ห้าม ให้ไปมีครอบครัว แต่ท่านสั่งสอนให้รู้ว่าสิ่งใหนสุข สิ่งใหนทุกข์ มากกว่ากัน สุขใหนยั่งยืนคงทนถาวรกว่ากัน เมื่อรู้อย่างนี้ผู้มีปัญญามีบารมีมากๆ ก็พึงสั่งสอนตัวเองตามกำลังปัญญาบารมีของตนไป

คุณยายท่านสอนว่า ใครมีบารมีมากน้อยกว่ากัน เค้าวัดกันที่ว่าใครจะสั่งสอนตัวเองได้แค่ไหน เราไม่รู้ตัวหรอกครับแต่สถานการมันจะบอกเราเองเรารักใครชอบใคร หากเรามีบารมีมากเราก็ตัดใจได้แล้วบำเพ็ญเนกขัมมะบารมี ครองโสดประพฤติพรหมจรรย์ไป เราบารมีอ่อนเราก็ไปครองเรือนแล้วสร้างบารมีไปแบบทางโลก หรืออาจพลาดไปเจอคนไม่ดี ก็อาจตกเป็นทาษไปตลอดชีวิตก็ได้

เคยมีผู้นำบุญท่านหนึ่ง รู้ว่าลูกสาวจะแต่งงาน ก็ร้องไห้เสียใจ อยากจะให้ลูกสาวครองพรหมจรรย์ ก็ไปกราบหลวงพ่อทัตตะ เรียนท่านว่า หลวงพ่อเจ้าคะ ลูกดิฉั้นจะแต่งงานเจ้าค่ะ หลวงพ่อก็บอกเสียงดังๆว่า " เอ้อ ... ช่างมันเห๊อะ "




#14 บี

บี
  • Members
  • 151 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 August 2007 - 10:25 AM

ขอกราบอนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ


#15 บี

บี
  • Members
  • 151 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 August 2007 - 10:42 AM

ขอบคุณทุกๆกำลังใจครับ

#16 Trai072

Trai072
  • Members
  • 225 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 August 2007 - 11:59 AM

^^~*

ต้องขอบคุณ ความคิดเห็น ทุกๆ ความคิดเห็นในที่นี้มากๆ เลยนะครับ ...

อ่านแล้วได้สาระมาก ครับ บางครั้ง ความมืดมนเข้ามาครอบงำจิตใจ .... ก็อาจจะทำให้เราขาดแสงสว่าง ไป

ต้องมาทนทุกข์ อยู่กับความมืดมิด ...

แต่มาวันนี้ ... ได้มาเจอ ต ะ วั น เจอ ... ห มู่ ด า ว ...

คอยส่องแสงสว่างให้กับตัวเรา มันเหมือน กำลังใจ ที่ ไม่มีคำบรรยาย ...

รู้สึกมีความสุข อิ่มเอมใจ กับ ความคิดเล็กๆ น้อย ที่ประสาน เป็นข้อคิดดีๆ ...

ที่เป็นหนทางในการดำเนินชีวิต ไม่ให้ผิดพลาด ติดตามกันไปถึงที่สุดแห่งธรรม ...

ขอกราบอนุโมทนาบุญ กับทุกๆ ท่านมากๆ เลยนะครับ ...... สาธุ สาธุ สาธุ ...
.........


เ มื่ อ เ ร า ส ว่ า ง * * * โ ล ก * * * ก็ ส ว่ า ง ด้ ว ย ^^~*

ส า ธุ . . . ค รั บ ^^~*





#17 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 10 August 2007 - 12:19 PM

เชิญแวะไปทำความรู้จัก เรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ในกระทู้นี้สิครับ

QUOTE
สาระธรรม เหตุแห่งความรักhttp://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=13224

by : นักเรียนอนุบาล Singha


ไฟล์แนบ



#18 เฉย เฉย

เฉย เฉย
  • Members
  • 618 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:เรื่องกฎแห่งกรรม การกระทำ สมาธิ

โพสต์เมื่อ 12 August 2007 - 11:06 AM

สาธุ
แม้มืดตื้อ..มืดมิด..ก็มีสิทธิ์เข้าถึงธรรม

#19 เด็กสมบูรณ์

เด็กสมบูรณ์
  • Members
  • 173 โพสต์
  • Location:ไม่ค่อยแน่นอนเท่าไหร่อ่ะ
  • Interests:-

โพสต์เมื่อ 14 August 2007 - 08:44 AM

ก็บอกแร้ว...ที่ใดมีรัด ที่นั่นมีทุกข์ รักมาก ก็ทุกข์มากนะจ๊ะ อ้อ...ลืมบอกไป เป็นทุกข์เฉพาะความรักที่ไม่ใช่รักแท้จ้า
...ความรักก็เหมือนการจับไฟนั่นแหละ
ทางที่จะไม่ให้มือพองเพราะไฟเผามีอยู่ทางเดียว คืออย่าจับไฟอย่าเล่นกับไฟ
ทางที่จะปลอดภัยจากรักก็ฉันนั้น มีอยู่ทางเดียวคือ...อย่ารัก...

#20 บี

บี
  • Members
  • 151 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 August 2007 - 09:44 AM

ขอกราบอนุโมทนาบุญ กับทุกๆ ท่านมากๆ เลยนะครับ ...... สาธุ สาธุ สาธุ ...


#21 tep072

tep072
  • Members
  • 32 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 August 2007 - 02:48 PM

อยากให้ได้อ่านเรื่องของอุบาสิกาถวิล เกี่ยวกับเบื้องหลังวัดพระธรรมกาย จะมีเรื่องความรักของครูของเราที่คุณยาย
อาจารย์ท่านได้หาวิธีแก้ไขอย่างไร