ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

โอวาทหลวงพ่อ : หยุดกับนิ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 September 2007 - 12:53 PM

หยุดกับนิ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต

เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาพระราชภาวนาวิสุทธิ์(หลวงพ่อธัมมชโย)

เมื่อวันอังคารที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๕

-------------------------------------------------------------------------------------


แนบไฟล์  Macro______________051.jpg   401.36K   122 ดาวน์โหลด


การฝึกใจให้หยุดนิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต อย่าให้มีสิ่งใดมาเป็นอุปสรรคต่อการฝึกใจให้หยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เจ็บไข้ได้ป่วย หรืออ่อนเพลียเพียงไรก็ตาม ให้ลงมือนั่งสมาธิไปเลย กำหนดจิตว่า เราจะหยุดจะนิ่งให้ได้ พอเราตั้งใจแน่วแน่อย่างนี้ ไม่ช้าความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าก็จะหายไป เปลี่ยนมาเป็นความสุข แม้ความทุกข์ทรมานที่เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บก็จะเลือนหายไป

เหมือน ผู้ป่วยคนหนึ่งเป็นโรคมะเร็ง หมอบอกว่าจะมีชีวิตอยู่อีกไม่กี่เดือนก็จะต้องตาย ให้ล่ำลาหมู่ญาติ เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม คนป่วยฟังแล้วใจก็ เศร้าหมอง เพราะไม่รู้ว่าตายแล้วจะไปไหน ชีวิตในสัมปรายภพจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ จึงมีความกังวลมาก ทุกข์ทั้งกาย ทุกข์ทั้งใจ เป็นทุกข์ซ้อนทุกข์ ทุกข์ยกกำลังสอง แต่เมื่อได้ยอดกัลยาณมิตรไปแนะนำ ให้เขาปล่อยวางเรื่องความเจ็บไข้ได้ป่วย เรื่องที่หมอบอก ซึ่งมีแต่จะทำให้เกิดความวิตกกังวล และให้กำหนดจิตตัดใจ ทำใจให้แน่วแน่อยู่ตรงกลางของกลาง ให้หยุดให้นิ่งอยู่ภายในตัว





เมื่อ ตั้งใจทำอย่างจริงจังแล้ว ผลแห่งการปฏิบัติอย่างจริงจังย่อมจะปรากฏ แม้ร่างกายสังขารจะไม่อำนวย จะเจ็บป่วยไข้ด้วยโรคภัยที่ร้ายแรง แต่ก็สู้กำลังใจที่เข้มแข็งแน่วแน่ และการฝึกใจให้หยุดนิ่งไม่ได้ ในที่สุดก็เอาชนะทุกขเวทนานั้นได้ ใจอยู่เหนือทุกขเวทนา ใจหลุดจากสังขารแห่งความทุกข์ทรมาน ใจหยุดนิ่งเข้าถึงความสว่างภายใน เห็นดวงปฐมมรรค เห็นกายมนุษย์ละเอียด และในที่สุดก็ได้เข้าถึงองค์พระธรรมกายในตัว ความสุขก็พรั่งพรูออกมา จนลืมไปว่าตัวเองเจ็บไข้ได้ป่วย ลืมไปว่าหมอบอกว่าจะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกไม่นาน ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นความทุกข์ทรมาน มีแต่สุขอย่างเดียว สุขอยู่ในพระธรรมกายที่สว่างไสว ไม่หวาดกลัวต่อมรณภัย มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีปีติเบิกบาน





สิ่งที่เหนือธรรมชาติก็เกิดขึ้น ทำให้คำพยากรณ์ของหมอคลาดเคลื่อนไป จากความรู้ความชำนาญและประสบการณ์ของหมอที่บอกว่าคนป่วยจะมีชีวิตอยู่ได้ อีกไม่กี่เดือน กลับกลายเป็นว่ามีอายุยืนยาวต่อมาได้อีก ๑๐ ปี ทำ ให้หมออัศจรรย์ใจว่า คนไข้คนนี้ ทำไมมีหน้าตาเบิกบาน เนื้อตัวเกลี้ยงเกลาสะอาด ดวงตาสดใส ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ผู้ที่มาเยี่ยมไข้ก็ได้กำลังใจจากผู้ไข้ หมอกับพยาบาลก็ได้กำลังใจจากผู้ไข้ ผู้ไข้ก็มีความสุขอยู่ในกลางพระธรรมกายที่ชัดใสแจ่ม




ดังนั้น พระธรรมกายจึงเป็นที่พึ่งที่ระลึกอย่างสำคัญ ที่ช่วยขจัดทุกข์โศกโรคภัยได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้เวลาจะละโลกก็สามารถถอดกาย ตายก่อนตายได้ จะไปอยู่ภพภูมิไหนก็ได้ตามความปรารถนาของตน ด้วย เหตุนี้ จึงจะต้องทำใจให้เบิกบาน ให้อยู่เหนือความทุกข์ เหนือความวิตกกังวล ให้อยู่ในบุญ แล้วก็ทำใจให้หยุดนิ่ง ๆ เฉย ๆ ที่ศูนย์กลางกาย ถ้าได้ดวงธรรมเราก็ตรึกในกลางดวงธรรม ถ้าได้กายภายในเราก็ตรึกในกลางกายภายใน ถ้าได้องค์ พระเราก็ตรึกในกลางองค์พระ ถ้ายังไม่ได้อะไรก็ภาวนาสัมมาอะระหังเรื่อยไป ใจนิ่งอยู่ตรงกลางตรงนั้น นึกอาราธนาพระนิพพาน พระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระอริยบุคคลทั้งหลาย ให้ลงมาปกปักรักษาเรา ขจัดสิ่งที่ไม่ดีภายในร่างกายให้หมดสิ้นไป แล้วก็ทำใจให้ใส ๆ สบายๆ เบิกบาน แช่มชื่น ราวกับผู้นิรทุกข์ ไม่เคยเจ็บป่วยไข้เลย




ทำได้อย่างนี้ ไม่ช้าเราจะเข้าถึงธรรม จะเป็นคนป่วยที่สง่างาม องอาจ อยู่ในสายตาของเทวดา ของชาวสวรรค์ เขาจะชื่นชมยินดีกับผู้ป่วยที่มีที่พึ่งทางใจ แม้ป่วยกายแต่รัศมีธรรมจากใจก็สว่างวาบ ดวงตาทุกคู่ของชาวสวรรค์ก็จะจ้องมองมาที่เรา แล้วเราก็ทำใจนิ่ง ๆ ใส ๆ อย่างสบาย ๆ อธิษฐานให้หายเจ็บ หายป่วย หายไข้ไป เหมือนเข้าห้องเสริมสวยอย่างนั้น สิ่งที่ไม่ดีก็เอาออกไป ให้หลงเหลือแต่สิ่งที่ดี ๆ ถ้าทำได้อย่างนี้ ใจจะได้สดชื่น เบิกบานในทุกสถานการณ์ เป็นคนเจ็บ คนป่วยที่ให้กำลังใจแก่หมอพยาบาลและผู้มาเยี่ยมไข้ อย่างนี้เรียกว่า ป่วยอย่างสง่างาม




เพราะ ฉะนั้น ให้ลูกทุกคนหมั่นฝึกฝนอบรมจิตใจของเรา ให้หยุดให้นิ่ง ให้ทำอย่างจริงจัง ทำใจให้ใส ๆ ไม่ห่วงใยอาลัยอาวรณ์กับสังขารร่างกาย จะเป็นอย่างไรก็ช่าง เฉย ๆ ไม่สนใจ กำหนดใจลงไปที่ศูนย์กลางกายให้ตรึงใจติดอยู่ตรงนั้นเหมือนเอากาวชั้นดีตรึง ใจให้ติดกับศูนย์กลางกาย แล้วก็ภาวนาสัมมาอะระหัง ตรึกนึกถึงดวงใส ใจหยุดอยู่ในกลางดวงใส เราจะอาศัยกาย มนุษย์นี้อยู่เพียงชั่วคราว ให้รีบชิงช่วงความแข็งแรงและสดชื่นของร่างกายนี้ ก่อนที่จะถูกช่วงชิงความแข็งแรงความสดชื่นของร่างกายนี้ไป ต้องทำให้ได้อย่างนี้ทุกคนนะจ๊ะ
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#2 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 05 September 2007 - 02:02 PM

อนุโมทนา สาธุ กับธรรมทาน นะครับ สาธุ smile.gif
........................................................................
QUOTE
สิ่งที่เหนือธรรมชาติก็เกิดขึ้น ทำให้คำพยากรณ์ของหมอคลาดเคลื่อนไป จากความรู้ความชำนาญและประสบการณ์ของหมอที่บอกว่าคนป่วยจะมีชีวิตอยู่ได้ อีกไม่กี่เดือน กลับกลายเป็นว่ามีอายุยืนยาวต่อมาได้อีก ๑๐ ปี ทำ ให้หมออัศจรรย์ใจว่า คนไข้คนนี้ ทำไมมีหน้าตาเบิกบาน เนื้อตัวเกลี้ยงเกลาสะอาด ดวงตาสดใส ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ผู้ที่มาเยี่ยมไข้ก็ได้กำลังใจจากผู้ไข้ หมอกับพยาบาลก็ได้กำลังใจจากผู้ไข้ ผู้ไข้ก็มีความสุขอยู่ในกลางพระธรรมกายที่ชัดใสแจ่ม
QUOTE

..........................................................................................................................

กระผมเองก็มีประสบการแบบนี้กับบิดา ของกระผมครับ ...
กับเรื่องปล่อยวาง นี่ผม ได้ฟังเพลงของตะวันธรรมเพลงหนึ่ง ผมก็แปลงเป็นแบบสไตล์ผม ไว้ท่อง (ใช้คำว่าร้องไม่ได้ครับ เพราะผมร้องเพลงไม่เพราะ) ผมก็เอามาฝาก พี่ๆน้อง ในนี้นะครับ หลังจากที่ไม่ได้เข้ามานาน เข้ามาแบบผ่านๆ เพราะงานเยอะจริงๆครับ

เริ่มนะครับ...

ชีวิต ก็เป็นอย่างนี้ มีสุขหรือทุกข์ มีสรรเสริญ มีนินทา มีรวย มีจน มียศฐาบรรดาศักดิ์ สักวันก็ไม่มี
แล้วผม จะดีใจเสียใจไปทำไม

สรรพสิ่งทั้งหลาย ก็คล้ายกับความฝัน ตื่นขึ้นมา ก็พลันหายไป.....

ปล่อยวาง.........................ได้ใจก็จะสบาย
สบายอย่างที่ไม่เคยเป็น....ไม่ช้าใจจะใสบริสุทธิ์ หยุดนิ่งอยู่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด
จะเข้าถึงความสุขที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีประมาณ..........ชีวิต....จะเบิกบาน ด้วยตัวของเราเอง..จบครับ

ผมร้องในใจเป็นประจำ ปล่อยว่างดี ธรรมก้าวหน้าดี มีสุข จึงเอามาฝากพี่น้องครับ

ขอให้เจริญในธรรม มีดวงตาเห็นธรรมทุกท่านนะครับ

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  10.jpg   39.57K   50 ดาวน์โหลด


ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#3 tarotpop

tarotpop
  • Members
  • 32 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 September 2007 - 02:23 PM

"ให้รีบชิงช่วงความแข็งแรงและสดชื่นของร่างกายนี้ ก่อนที่จะถูกช่วงชิงความแข็งแรงความสดชื่นของร่างกายนี้ไป"

เป็นคำพูดที่เพราะมากครับ

#4 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 September 2007 - 02:25 PM

อนุโมทนาบุญกับคุณฟ้าร้างด้วยนะครับ...สาธุ

#5 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 September 2007 - 10:53 PM

อนุโมทนาบุญกับคุณฟ้าร้างด้วยนะครับ...สาธุ

พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#6 pp_dmc

pp_dmc
  • Members
  • 93 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 September 2007 - 08:21 AM

รู้สึกเหมือนได้เติมความสบายใจทุกครั้งที่ได้อ่านบทความดีๆเหล่านี้และดีใจที่ได้มาเจอหมู่คณะ โลกภายนอกไม่อบอุ่นเหมือนที่วัดของเราเลย อนุโมทนาบุญนะคะ

#7 kiangjung

kiangjung
  • Members
  • 119 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 September 2007 - 10:43 AM

กราบอนุโมทนาบุญค่ะ

#8 อยู่ในบุญ

อยู่ในบุญ
  • Members
  • 8 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:Aurora, ON Canada
  • Interests:Meditation, yoga, drawing

โพสต์เมื่อ 08 September 2007 - 12:29 AM

กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ และชอบประโยคนี้มากค่ะ "เราจะอาศัยกาย มนุษย์นี้อยู่เพียงชั่วคราว ให้รีบชิงช่วงความแข็งแรงและสดชื่นของร่างกายนี้ ก่อนที่จะถูกช่วงชิงความแข็งแรงความสดชื่นของร่างกายนี้ไป "