ขอความคิดเห็นจากทุกท่านครับ หากใจคิดฟุ้งซ่าน เช่น คนนี้เป็นคนโลภ เห็นแก่ตัว หรือ ใจคิดอยากจะกลั่นแกล้งเขา หรือใจคิดอยากจะทำร้ายเขา หรือไม่ชอบขี้หน้าเขา ฯลฯ เป็นต้น เป็นเพียงแต่ใจคิดไปต่าง ๆ นานา เท่านั้น ไม่ได้แสดงออกทางกาย หรือวาจา แต่อย่างใด เพราะใจจริง ไม่ต้องการจะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว เพราะทราบว่าเป็นบาป แต่ใจคิดฟุ้งซ่านไปตามอารมย์ กรณีเช่นนี้ จะบาปหรือไม่ ถ้าหากเป็นบาป จะมีวิธีแก้ไข หรือผ่อนหนักให้เป็นเบาอย่างไร ยินดีรับฟังความคิดเห็นจากทุกท่านครับ
สาธุ
ใจคิดฟุ้งซ่าน
เริ่มโดย สุรชัย (กัปตัน), Oct 11 2007 01:22 AM
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 11 October 2007 - 01:22 AM
#2
โพสต์เมื่อ 11 October 2007 - 08:59 AM
บาปครับ บาปด้วยมโนกรรมครับ หากไม่ได้ลงมือปฏิบัติออกมาทางกายและวาจา ก็คงจะโดนแค่มีคนคิดแบบนี้กับเราเหมือนที่เราคิดไม่ดีกับเรา ฉะนั้นเราก็พยายามฝึกเมื่อใจเราคิดอยากจะด่าใคร เราก็เริ่มท่องสัมมาอะระหังไปก่อน พอนึกจะด่าหรือคิดไม่ดีปุ๊ป ก็สัมมาอะระหังไปแล้วมันก็จะได้เอง
#3
โพสต์เมื่อ 11 October 2007 - 09:15 AM
สู้กับมันให้ได้นะครับ ผมก็ฟุ้ง
#4
โพสต์เมื่อ 11 October 2007 - 11:33 AM
เป็นบาปทางใจ ครับ หรือมโนกรรม เวลาบาปส่งผล จะทำให้เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ และเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ วิธีแก้ไข คือ เปลี่ยนอารมณ์ เช่น สั่งหมอง คือ เพราะเวลาความคิดที่่ไม่พึงปรารถนาเกิดขึ้นมา ให้เราหายใจออกแรงๆ 1 ครั้ง อารมณ์จะเปลี่ยนทันที ลองดูสิครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#5
โพสต์เมื่อ 11 October 2007 - 01:09 PM
ใจคิดฟุ้งซ่าน คิดในทางไม่ดี ก็ต้องล้างใจให้ผ่องใส โดยหมั่นนั่งสมาธิแผ่เมตตาบ่อยๆ
เมื่อใจเราใสสะอาด ใจก็จะพบสุขที่แท้จริง แล้วเราก็จะเกิดความคิด
อยากแบ่งปันความสุขให้แก่ผู้อื่น การทำสมาธิทำได้ทุกอริยาบท
ทั้ง นั่ง นอน ยืน เดิน หรือขณะทำงาน เหมือนการบ้านที่ คุณครูไม่ใหญ่ให้ไว้
เพียงแค่เรารักษาใจให้หยุดนิ่งไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ไว้ให้ได้ตลอด
แล้วใจของเราจะผ่องใสขึ้น ความคิดฟุ้งซ่านอื่นๆในทางที่ไม่ดี ก็จะลดน้อยลง
หมั่นทำให้ได้อย่างสม่ำเสมอแล้วก็จะพบเองว่า ใจของเราจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
เมื่อใจเราใสสะอาด ใจก็จะพบสุขที่แท้จริง แล้วเราก็จะเกิดความคิด
อยากแบ่งปันความสุขให้แก่ผู้อื่น การทำสมาธิทำได้ทุกอริยาบท
ทั้ง นั่ง นอน ยืน เดิน หรือขณะทำงาน เหมือนการบ้านที่ คุณครูไม่ใหญ่ให้ไว้
เพียงแค่เรารักษาใจให้หยุดนิ่งไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ไว้ให้ได้ตลอด
แล้วใจของเราจะผ่องใสขึ้น ความคิดฟุ้งซ่านอื่นๆในทางที่ไม่ดี ก็จะลดน้อยลง
หมั่นทำให้ได้อย่างสม่ำเสมอแล้วก็จะพบเองว่า ใจของเราจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
#6
โพสต์เมื่อ 11 October 2007 - 02:41 PM
เป็นบาปเพราะทำให้ใจเราเศร้าหมองนะคะ ทำร้ายตัวเองค่ะ เพราะฉะนั้น เราต้องให้อภัยเค้านะคะ
เจริญเมตตามากๆๆ คิดว่าทุกคนมีข้อผิดพลาดในตัวเองทั้งนั้น ไม่มีใครสมบูรณ์พร้อมไปหมด
แม้แต่ตัวเราเอง เราจะได้สงสารเค้า เห็นใจเค้าเห็นใจทุกๆคนและรักทุกคนได้ แผ่เมตตาบ่อยๆ นั่งธรรมะมากๆ เดี๋ยวก็ดีเองนะคะ
เจริญเมตตามากๆๆ คิดว่าทุกคนมีข้อผิดพลาดในตัวเองทั้งนั้น ไม่มีใครสมบูรณ์พร้อมไปหมด
แม้แต่ตัวเราเอง เราจะได้สงสารเค้า เห็นใจเค้าเห็นใจทุกๆคนและรักทุกคนได้ แผ่เมตตาบ่อยๆ นั่งธรรมะมากๆ เดี๋ยวก็ดีเองนะคะ
sleepless
#7
โพสต์เมื่อ 11 October 2007 - 04:56 PM
QUOTE
ใจคิดฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์ กรณีเช่นนี้ จะบาปหรือไม่
- ความฟุ้งซ่าน เป็นหนึ่งในนิวรณ์5 เป็นอุปกิเลส หนังสือบางเล่มกล่าวว่าเป็นกิเลสขั้นกลาง(ขั้นหยาบคือโลภะ โทสะ โมหะ ขั้นละเอียดคือสังโยชน์10)- นิวรณ์5 เป็นอุปสรรคต่อการเจริญภาวนา เพราะนำพาอกุศลเข้าสิงจิต
- จะชนะได้อย่างเด็ดขาด ก็ต้องหยุดใจไว้ที่ 072(หลุมหลบภัยจากอกุศลชั้นเยี่ยม)
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#8
โพสต์เมื่อ 12 October 2007 - 11:06 AM
การฟังเพลงทำให้ใจฟุ้งซ่านไหม ผมชอบดนตรี ฟังเพลง ร้องเพลง และก็ชอบฟังธรรมะด้วย สลับกันไปทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นอยู่แบบนี้อ่ะครับ ใครเป็นบ้าง แต่ตอนนี้การดูทีวีช่อง3 7 5 9 ต่างๆจะไม่ค่อยจะดูแล้ว แต่ที่ยังติดอยู่คือการฟังเพลงครับ
#9
โพสต์เมื่อ 29 October 2007 - 12:13 PM
ขออนุโมทนาบุญกับผู้ที่แสดงความคิดเห็นทุกท่านครับ
#10
โพสต์เมื่อ 31 October 2007 - 08:57 PM
ขอบคุณครับ