ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ลาภ 4 ประการที่มนุษย์เราึควรภูมิใจ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr19743

usr19743
  • Members
  • 27 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 October 2007 - 09:25 AM



ลาภ 4 ประการที่มนุษย์เราึควรภูมิใจ


บทอบรมกรรมฐาน
ก่อนที่จะลงมือปฏิบัติกรรมฐานในครั้งแรกๆ นั้น ท่านสอนให้นึกถึงบุญของเราแต่ละคน ว่าเราแต่ละคนได้มีโอกาสมาฝึกกรรมฐานนี้ เรามีบุญแล้ว คือ เราได้สิ่งที่บุคคลทําได้โดยยาก 4 ประการ จึงน่าภูมิใจ สิ่งที่บุคคลได้โดยยาก 4 ประการ คือ


1. การบังเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้า
2. การเกิดมาเป็นมนุษย์
3. การได้นับถือพระพุทธศาสนา หรือการได้บรรพชาอุปสมบทในพระศาสนา
4. การมีศรัทธามาปฏิบัติกรรมฐาน


ลาภข้อที่ 1 การบังเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้า
ที่ว่าเป็นลาภของเราแต่ละคน ก็เพราะพระพุทธเจ้านั้นเป็นบุคคลที่หาได้ยากอย่างแท้จริง ไม่ได้เกิดขึ้นในโลกทุกยุคทุกสมัย ในโลกที่มีอายุเป็นล้านๆ ปีนี้ พระพุทธเจ้าจะบังเกิดขึ้นได้ไม่ใช่ทุกยุคทุกสมัย บางยุคเป็นยุคที่ว่างจากพระพุทธศาสนา เมื่อยุคใดเป็นยุคที่ว่างจากพระพุทธศาสนา สัตว์โลกก็บอดมืด ไม่รู้ไม่เห็นหนทางแห่งความสงบสุข
การเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าแต่ละองค์นั้้น ต้องบําเพ็ญบารมีมานาน อย่างพระพุทธเจ้าของเรานั้น พระองค์ทรงบําเพ็ญบารมีมานานถึง 4 อสงไขยกับแสนกัปป์ จึงสามารถมาตรัสรู้ได้ การที่พระพุทธเจ้าจะปรากฏขึ้นในโลกนั้น เป็นสิ่งหาได้ยาก
เมื่อทรงอุบัติขึ้นแล้ว ก็สามารถนําความสุขมาให้แก่บุคตคลที่ได้มาพบเห็นพระพุทธองค์ พระพุทธเจ้าทรงมีพระคุณมาก ถ้าหากว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงบังเกิดแล้ว เราทุกคนนี้ก็จะไม่รู้จักพระพุทธศาสนา ก็อาจจะบอดมืดและอาจจะนับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งที่มีอยู่ในโลกนี้ ซึ่งไม่ใช่ทางแห่งความพ้นทุกข์
ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้นั้น สัตว์โลก มนุษย์ทั้งหลายกําลังบอดมืด ไม่รู้ว่าอะไรเป็นตัวทุกข์ อะไรเป็นตัวร้อน อะไรเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ อะไรเป็นข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ถูกไฟเผาอยู่ตลอดเวลา เพลิงที่เผาอยู่นั้นมีทั้งเพลิงทุกข์และเพลิงกิเลส
สัตว์โลกทั้งหลายถูกเพลิงทั้งสองใหม้อยู่ ทั้งๆ ที่ถูกเพลิงนี้เผาไหม้ แต่บุคคลในโลกนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นเพลิง แล้วจะรู้วิธีดับเพลิงได้อย่างไร แต่เมื่อพระพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นแล้วในโลก พระองค์เป็นคนแรกที่ทรงชี้ให้เห็นถึงหนทางถึงความดับทุึกข์ และดับทุกข์ได้จริง เพราะฉะนั้น การอุบัติขึ้นของพระองค์นั้น จึงจึดว่าเป็นความประเสริฐ เป็นลาภ
แม้พระองค์จะนิพพานไปแล้ว แต่ธรรมะของพระองค์ยังเป็นศาสดาสอนแทนพระองค์อยู่ การที่พระพุทธศาสนาจะอันตรทานไปจากโลกนั้้น ต้องมีลักษณะการอันตรทานดังต่อไปนี้


- ปริยัติอันตรธาน คือ คนไม่สามารถจดจําคําสอนของพระพุทธเจ้าได้เลย
- ปฏิบัติอันตรธาน คือ คนไม่ได้ปฏิบัติเลยแม้แต่ศีล 5
- ปฏิเวธอันตรธาน คือ ไม่มีผู้บรรลุมรรคผลเลยล
- ลิงคอันตรธาน คือ ไม่มีเพศบรรพชิตเลย
- ธาตุอันตรธาน คือ พระบรมสารีริกธาตุของพระองค์ที่กระจายอยู่ทั่วโลกอันตรธานหายไป


แต่อันตรธานทั้ง 5 ประการนี้ ยังไม่เกิดขึ้นในพระศาสนาของเรา เพเราะปริยัติก็ยังบริบูรณ์อยู่ ปฏิบัติก็ยังบริบูรณ์อยู่ ปฏิเวธก็ยังเชื่ือว่ามีผู้บรรลุอยู่ เพศของสมณะก็ยังปรากฏอยู่ ยังมีผู้บวชอยู่ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าก็ยังปรากฏอยู่
รวมความว่า ทั้งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ยังปรากฏบริบูรณ์อยู่ในโลกนี้ พระพุทธเจ้าที่ยังปรากฏให้เห็นชัดก็คือ พระบรมสารีริกธาุตุ และพระธรรมอันเป็นตัวแทนของพระองค์ ก็มีทั้งปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ ส่วนพระสาวกของพระองค์ก็ยังมีอยู่ เพราะฉะนั้น พระพุทธศาสนาจึงชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่ในโลกปัจจุบัน เราเกิดขึ้นในยุคที่พระพุทธศาสนายังมีอยู่
โดยเฉพาะเกิดิเป็นคนไทยในประเทศไทย ซึ่งไม่มีการทําลายพระพุทธศาสนาเหมือนกับในบางประเทศ เราจึงควรภูมิใจว่าเรานั้นมีบุญ คือ มีบุญที่ได้มาเกิดในประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา ในขณะที่ศาสนาของพระบรมศาสดานั้นยังมีอยู่ ชื่อว่าได้ลาภข้อที่ 1


ลาภข้อที่ 2. การเกิดมาเป็นมนุษย์
คือ การที่สัตว์โลกซึ่งท่องเที่ยวในสังสารวัฏนั้น ไม่ใช่ของง่ายเลยที่จะได้อัตภาพเกิดมาเป็นมนุษย์ เพราะในโลกมีสัตว์โลกนับเป็นแสนๆ ชนิด แต่เราได้อัตภาพมาเป็นมนุษย์ก็น่าภาคภูมิใจ เราไม่เกิดดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ไม่เป็นเปรต เป็นอสูรกาย หรือเป็นสัตว์นรก เมื่่อเกิดขึ้นมาแล้วก็มีอาการครบ 32 บริบูรณ์ ไม่บ้าใบ้ ไม่หูหนวก หรือไม่บกพร่องอย่างใดอย่างหนุึ่ง ซึ่งนับว่าเป็นลาภ เพราะการที่ได้อัตภาพมาเป็นสนุษย์นี้ไม่ใช่ของง่ายๆ
พระพุทธเจ้าตรัสว่า "การกลับมาเป็นมนุษย์เป็นการยาก" คือ คนบางคน เมื่อชาติหนึ่งเคยเป็นมนุษย์แล้ว แต่ประพฤติล่วงศีล 5 ข้อใมดข้อหนึ่งหรือหลายข้อเป็นประจํา เมื่อตายไปก็อาจไปบังเกิดในอบายภูมิ เช่น เกิดิเป็นสัตว์เดรัจฉานเป็นต้น ไม่อาจจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ได้เป็นเวลานาน ด้วยเหตุนี้ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า "การกลับมาเป็นมนุษย์เป็นการทําได้โดยยาก" แต่เราทุกคนได้อัตภาพมาเป็นมนุษย์แล้ว นับเป็นบุญในข้อนี้แล้ว เพราะผู้ที่จะได้อัุตภาพมาเป็นมนุษย์นั้น ในชาติก่อนอย่างน้อยจะต้องมีัศีล 5 เป็นพื้นฐาน เมื่อเราได้อัตภาพนี้แล้ว แสดงว่าเมื่อชาติก่อนเราเป็นผู้มีศีล 5 ประจําใจ จึงได้เกิดมาเป็นมาุษย์นี้ เมื่อได้อัตภาพเช่นนี้แล้ว ก็ถือว่าเป็นบุญ เป็นลาภ


ลาภข้อที่ 3 ได้นับถือพระพุทธศาสนา หรือการได้บรรพชาอุปสมบท
ทั้งนี้ก็เพราะว่าโลกในปัจจุบัน ซึ่งมีมนุษย์อยู่เป็นพันๆ ล้านๆ คนนั้น ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธมีอยู่นิดเดียว นอกนั้นก็นับถือศาสนาอื่ื่นๆ หรือไม่ก็ไม่นับถือศาสนาใดๆ เลย แต่การที่เรานับถือพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นสัจธรรมอันประเสริฐ ที่เราสามารถพิสูจน์ได้ และนําความสุขมาให้แก่ผู้ปฏิบัติได้อย่างแท้จริง ส่วนการบรรพชาหรืออุปสมบทเป็นพระภิกษุหรือสามเณรในพระศาสนา หรือแม้การบวชเป็นแม่ชีผู้เว้นชั่ว ประพฤติดี ก็ชื่อว่าบวชเช่นกัน
การที่บุคคลเราเกิดมาเ้ป็นมนุษย์แล้ว ได้เข้ามาบวชไม่ใช่ของทําได้ง่าย เพราะการบวชนั้นต้องอาศัยความอดทน อาศัยบุญบารมี อาศัยเหตุปัจจัยหลายอย่าง จึงทําให้บวชได้ เราจะเห็นได้ว่าผู้เข้ามาบวชนั้้นยังน้อย นอกนั้นก็วุ่นวายยุ่งอยู่กับกิจการของโลก ซึ่งก่อนให้เกิดกิเลสนานาชนิด และเป็นทางที่นําไปสู่ความดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ส่วนใหญ่ยังไม่อาจยกจิตขึ้นสู่ทางสงบสุข
แต่เราทุกคนซึ่งได้นับถือพระพุทธศาสนา และบางท่านได้มีโอกาสเข้ามาบวช ถือว่าเป็นลาภ แต่ก็คงมีบางท่านซึ่งบวชแล้ว แต่ไม่สามารถยกจิตขึ้นสู่ระดับสูงได้ ก็นับว่าน่าเสียดาย


ลาภข้อที่ 4 มีศรัทธาเข้ามาฝึกกรรมฐาน
ทั้งนี้ เพพราะการที่เรานับถือพระพุทธศาสนา มีน้อยคนจะได้เข้ามาบวช และแม้ที่บวชแล้ว ก็มีน้อยคนที่จะได้มาฝึกรรมฐาน แม้ฆราวาสทั่วไปก็เหมือนกัน นับถือพุทธศาสนามานานก็จริง น้อยท่านที่จะมีศรัทธามาฝึกกรรมฐาน แต่เราทุกท่านทั้งบรรพชิตฆราวาสและซึ่งนั่งอยู่ ณ สถานที่นี้ มีศรัทธามาปฏิบัติกรรมฐาน จึงถือว่าเป็นลาภข้อที่ 4
ทั้ง 4 ประการนี้ เป็นลาภของเราแล้ว ขอให้ทุกคนทุกท่านพิจารณาถึงบุึญของเราแต่ละคนั้นว่า เรานั้นมีบุญจึงได้ลาภทั้ง 4 ประการนี้คือ
1. เราเกิดในยุคที่พระพุทธศาสนายังมีอยู่
2. เราได้อัตภาพมาเป็นมนุษย์ คือ เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว
3. เราได้นับถือพระพุทธศาสนา หรือเราได้บรรพชาหลีกเร้นออกจากสิ่งที่วุ่นวายแล้ว
4. เราได้มีศรัทธา ได้มีโอกาสมาฝึกกรรมฐานแล้ว
เพราะฉะนั้น ควรใช้โอกาสที่มีอยู่นี้ ฝึกกรรมฐานให้มากที่สุด เท่าที่จะทําได้
การฝึกอบรมกรรมฐานในพระพุทธศาสนานั้น ยังมีทั้งแบบสมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน แต่อย่างไรก็ตาม กรรมฐานทุกระบบต้องใช้ศีลเป็นพื้นฐาน เป็นก้าวแรก ต่อไปก็๋ต้องใช้สมาธิเพื่อเป็นบาทขึ้นสู่วิปัสสนา..................

#2 น้ำใส

น้ำใส
  • Members
  • 778 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 17 October 2007 - 09:58 AM

สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ ยิ่งทราบข้อมูล ยิ่งภูมิใจมากที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ และได้พบพระพุทธศาสนา ขออนุโมทนาบุญอีกครั้งค่ะ

เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม

น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม


#3 สิงโตเกเร

สิงโตเกเร
  • Members
  • 164 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 October 2007 - 10:08 AM

โหลดสื่อสีขาวได้ที่ www.กัลยาณมิตร อีกช่องทาง อิอิ

#4 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 October 2007 - 10:47 AM

สาธุ สาธุ สาธุ
พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#5 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 October 2007 - 03:59 PM

สาธุ ๆ ๆ ๆ ครับ

#6 ว่างว่าง

ว่างว่าง
  • Members
  • 200 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 October 2007 - 06:07 PM

ภูมิใจมากครับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา ได้ปฎิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และก็ได้มานั่งสมาธิในวิชชาธรรมกาย

#7 Nida49

Nida49
  • Members
  • 456 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 October 2007 - 11:58 AM

น่าภูมิใจที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ในพระพุทธศาสนา และ เป็นลูกของคุณครูไม่ไหญ่

อนุโมทนาบุญด้วยคะ

#8 นักรบเผ่าพันธุ์ตะวัน

นักรบเผ่าพันธุ์ตะวัน
  • Members
  • 380 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 31 October 2007 - 08:59 AM

อนุโมทนาบุญด้วยน่ะครับกับความรู้ดีๆ สาธุ สาธุ สาธุ
เพราะเป้าหมายของพวกเราคือ "ที่สุดแห่งธรรม"

#9 เฉย เฉย

เฉย เฉย
  • Members
  • 618 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:เรื่องกฎแห่งกรรม การกระทำ สมาธิ

โพสต์เมื่อ 01 November 2007 - 09:40 AM

สาธุ
แม้มืดตื้อ..มืดมิด..ก็มีสิทธิ์เข้าถึงธรรม

#10 นักรบเผ่าพันธุ์ตะวัน

นักรบเผ่าพันธุ์ตะวัน
  • Members
  • 380 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 12 November 2007 - 10:37 AM

อนุโมทนาบุญ ด้วยน่ะครับ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
เพราะเป้าหมายของพวกเราคือ "ที่สุดแห่งธรรม"