ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 2 คะแนน

เรื่องราวของสิริมาอรรถกโถจารย์


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 12 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 January 2008 - 10:45 PM

เนื้อหาที่จะอ่านกันข้างล่างนี้ เป็นการถอดเทปพระธรรมเทศนาของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ หลวงพ่อธัมมชโย จากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ที่เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง DMC

เรื่องราวในอดีตชาติของสิริมานี้ ไม่มีกล่าวเอาไว้ในพระอรรถกถาจารย์ แต่ด้วยความเมตตาของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ท่านได้นำเรื่องราวในอดีตชาติของสิริมามาเปิดเผยจากการฝันในฝัน (เป็นคำนิยามในรายการอนุบาลฝันในฝันวิทยา ที่ใช้เรียกแทนการนั่งสมาธิเข้าไปดูเรื่องราวความเป็นจริงต่างๆ) และได้นำมาเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง DMC ซึ่งได้เผยแพร่ไปยังพุทธศาสนิกชน และศาสนิกชนศาสนาอื่นๆ ทั่วโลก เพื่อให้พวกเราได้เข้าใจเรื่องราวของกฎแห่งกรรมมากขึ้น ว่าเหตุจากการกระทำหนึ่งจะส่งเป็นผลวิบากแน่นอน แต่จะช้าจะเร็วเท่าไหร่ เรามิอาจรู้เท่าทันการส่งผลนั้นได้ บ้างก็ชาตินี้เลย บ้างก็ชาติหน้า บ้างก็ชาติถัดๆ ไปอีก เพราะศาสนาพุทธ เป็นศาสนาที่ยึดหลักเหตุและผล ทุกอย่างเมื่อมีเหตุก็ต้องมีผล และทุกผลที่เกิดขึ้นมีเหตุทั้งนั้น

สำหรับผู้อ่านที่ยังไม่มีความเชื่อเรื่องบุญ-บาป การทำสมาธิได้ฌาณ มีฤทธิ์ เรื่องราวปาฏิหารย์ กฏแห่งกรรม ชีวิตหลังความตาย อดีตชาติ อนาคตชาติ และเรื่องราวเหนือจินตนาการอีกหลากหลายในพุทธศาสนา โปรดอ่านอย่างผ่านสายตา แต่อย่าได้ใช้ความคิด จินตนาการว่าสิ่งที่ได้อ่านนั้นไม่เป็นจริง เป็นไปไม่ได้ ไม่มีจริง และทำการลบหลู่ดูหมิ่นในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่อศาสนาพุทธ

ถึงแม้ท่านจะไม่เชื่อ แต่โปรดอย่าได้ลบหลู่เลย ให้ท่านทำใจกลางๆ ให้เผื่อได้ เผื่อเสีย(เพื่อเป็นการดีสำหรับตัวท่านเอง) เอาไว้ ว่า หากเรื่องราวในความเชื่อตามหลักศาสนาพุทธมีจริง ก็จะได้ไม่ติดลบ คือทำบาปทางจิต แต่หากไม่มีจริง หรือไม่เป็นจริง ก็เท่ากับเจ๊ากันไป ไม่มีใครเสีย นะคะ

เนื้อหาด้านล่างนั้น หลวงพ่อธัมมชโย ได้แจกแจงรายละเอียด ซึ่งเป็นการแทรกหลักธรรมะ คำสอนที่เหมาะแก่การเข้าใจ และนำไปปฏิบัติตามได้ดีมาก อยากจะให้เพื่อนได้อ่านโดยละเอียดทุกคำเลยค่ะ

ขอบคุณทุกๆ ท่านที่ติดตามอ่านมาโดยตลอดค่ะ ก็มาอ่านเรื่องราวอดีตชาติของสิริมากันได้เลยจ้ะ


oooooooooooooooooooooooooo



นี่ก็เป็นเรื่องราวอรรถโถจารย์ที่ฝันเป็นตุเป็นตะ และนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา ฟังพอเพลินๆ สบายๆ เพื่อที่เราจะได้มองเห็นภาพของเธอได้ชัดเจนขึ้น

ตอนนี้ท่านเป็นพระอริยบุคคลแล้ว อยู่บนสวรรค์ชั้นนิมมานรดี สวรรค์ชั้นนี้จะต้องการอะไร ก็เนรมิตตามกำลังบุญที่ตนสั่งสมเอาไว้ตอนเป็นมนุษย์

แต่ว่าตอนก่อนที่จะได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน ท่านก็เป็นหญิงงามเมือง หรือที่เราคุ้นกับคำว่าโสเภณี และก็มีเหตุการณ์อะไรต่างๆ ทำให้ได้มีโอกาสมารับฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และในที่สุดก็ได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน

วันนี้เราย้อนไปอีก เพราะในอรรถกถาจารย์ไม่ได้บอกเอาไว้ว่าทำไมเธอถึงเป็นหญิงโสเภณี และก็มีหน้าตาสวยสดงดงาม อีกทั้งรวยด้วย และได้บรรลุมรรคผลนิพพานเป็นพระโสดาบัน ก็ไม่ได้กล่าวถึงบุพกรรมตอนนี้ มีแต่เล่าไปอย่างที่ได้เล่าให้ฟัง ฉะนั้นตอนนี้เราก็ต้องมาฝันเป็นตุเป็นตะกันต่อ



ย้อนอดีตการไปในชาติหนึ่ง ชาตินั้น นางได้เกิดเป็นบุตรชายของพ่อค้าท่านหนึ่ง ซึ่งมีกิจการค้าขายซึ่งต้องเดินทางไปต่างเมืองด้วยกองเกวียนกันอยู่บ่อยๆ พ่อค้าท่านนั้น มีเพื่อนที่เป็นพ่อค้าอยู่ตามเมืองต่างๆ อยู่หลายเมือง เมื่อไปถึงเมืองนั้นก็จะไปพักกับเพื่อนๆ ที่อยู่ในเมืองๆ นั้น

ต่อมาภายหลังเมื่อบุตรชายเจริญวัยขึ้นมา ก็ได้สืบทอดกิจการจากผู้เป็นพ่อ ให้ทำหน้าที่ดูแลการค้า จึงมักจะต้องเดินทางไปซื้อของเมืองโน้นมาขายเมืองนี้ และบางทีก็ซื้อของเมืองนี้ไปขายเมืองนั้นหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงกันไปเรื่อยๆ ในการเดินทางไปต่างเมือง ก็ต้องไปพักที่บ้านของพ่อค้าผู้เป็นสหายของบิดาในแต่ละเมืองมีสหายของบิดาเยอะ

กล่าวถึงเมืองๆ หนึ่งซึ่งมีพ่อค้าที่เป็นสหายรักของบิดาท่านหนึ่ง พ่อค้าท่านนี้เดิมก็มีภรรยาอยู่ท่านหนึ่ง (สหายบิดานี่นะ)

แต่ต่อมาภายหลังภรรยาของท่านก็ได้เสียชีวิตลง จึงได้ครองตนเป็นพ่อหม้ายมาตลอด

อยู่มาภายหลัง ได้มีลูกหนี้ที่ได้ยืมทรัพย์ไปแล้วแต่ก็ไม่อาจจะใช้ทรัพย์คืนได้ จึงได้ยกลูกสาวแสนสวยให้กับพ่อค้าท่านนั้นเป็นการใช้หนี้ (เอาลูกมาใช้หนี้แทนเงิน) ซึ่งพ่อค้าก็ดีใจ (ถูกใจมาก เพราะตกพุ่มหม้าย) จึงได้แต่งงานเป็นสามีภรรยากับหญิงสาวคนนี้

เมื่อพ่อค้าหนุ่มได้เดินทางมาถึงเมืองๆ นี้ ก็ได้มาพักอาศัยอยู่กับพ่อค้าที่เป็นเพื่อนของพ่อ และก็ได้รู้จักกับภรรยาใหม่ของเพื่อนพ่อด้วย

เมื่ออาศัยอยู่ในบ้านนั้นนานๆ เข้า ก็เริ่มรู้จักคุ้นเคยกับภรรยาสาวของเพื่อนพ่อมากขึ้น จึงเริ่มถูกตาต้องใจ เนื่องจากภรรยาสาวนั้นมีหน้าตาสวยงามและก็อยู่ในวัยใกล้เคียงกัน

(ตรงนี้แหละอกุศลเข้าสิงจิตแล้ว จุดมันเริ่มต้นจากตรงนี้ ตรงไปพึงพอใจภรรยาสาวของสหายพ่อซึ่งอยู่ในวัยใกล้เคียงกัน)

หลังจากนั้นก็ได้วนเวียนมาพักอยู่เสมอ จนกระทั่งครั้งหนึ่งเพื่อนของพ่อนั้นไม่อยู่ ไปธุระต่างเมือง

(มันเริ่มมาจากความพอใจก่อนนะ ถ้าหากว่าไม่ดับมันตอนนั้นด้วยขันติธรรม อดทน อดกลั้นแล้วล่ะก็ มันจะมาต่อ ถ้าไม่ดับไฟที่ปลายหัวไม้ขีด เมื่อมันขีดข้างกลัก มันมีสิทธิ์ไหม้ ลามไปไหม้ที่อื่นได้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างนี้)

ภรรยาสาวเพื่อนพ่อจึงได้ดูแลต้อนรับแทนด้วยความสนิทสนมคุ้นเคย

(เพราะความคุ้นเคยกันอย่างนี้แหละ)

ในที่สุดก็ได้ลักลอบมีสัมพันธ์ชู้สาวกัน

(นี่มันมาเริ่มตรงนี้ กรรมสำเร็จแล้ว คิดจะทำ ลงมือทำเลยเนี่ย set program เลย ตรงนี้ พอสำเร็จเป็นกรรมแล้ว เมื่อจะคิด พูด ทำ ก็จะ set program เป็นผังสำเร็จ เป็นวิบากไปแล้ว กิเลส กรรม วิบาก กิเลสก็บังคับให้มีความคิด มีสัมพันธ์กัน แล้วก็พูดเป็นสื่อ แล้วก็ลงมือทำ จบปั๊บก็ set เป็นผังไปเลย ทำครั้งหนึ่งก็ไปใช้อีกหลายครั้งนับไม่ถ้วนเลย มีวิบากรองรับ ตรงนี้แหละที่มนุษย์ไม่ให้โอกาสตนเองมาศึกษาความรู้เรื่องกฏแห่งกรรม นึกว่า เอ๊ะ ไม่เห็นเกี่ยวอะไรเลย มีความพึงพอใจกันก็น่าจะ OK ทำไมต้องมีนรก ทำไมต้องมีสวรรค์ มันไม่ยุติธรรม คนจะคิดกันอย่างนั้น เพราะว่าตกลงปลงใจกัน แต่ทีนี่เนื่องจากเราตกอยู่ภายใต้ Law of Karma กฏแห่งกรรม ตรงนี้สิที่มันมีผล มีภพมีภูมิมารองรับ เพราะผู้ที่เอากิเลสมาบังคับ เขาเป็นผู้มีฤทธิ์ มีอานุภาพมาก พญามารเขามีฤทธิ์มาก เขาจึงเอากระแสของโลภะ โทสะ โมหะ เข้ามาบังคับ)

หลังจากนั้นก็ได้มีการนัดแนะลักลอบมีความสัมพันธ์กันบ่อยขึ้น โดยเพื่อนของพ่อไม่ทราบเลย

นอกจากหญิงสาวรายนี้แล้ว พ่อค้าหนุ่มท่านนี้ก็มักจะไปมีสัมพันธ์กับหญิงสาวตามเมืองต่างๆ ด้วย

(ผ่านเมืองไหนก็มีที่นั่น มีไปเรื่อยๆ เลย นั่นคือจุดเริ่มต้น)

ก่อนละโลกก็มีกรรมนิมิต (คือภาพแห่งการกระทำ ก็มาฉายให้เห็นเป็นเรื่องเป็นราวเลย ว่าเจอคนนั้นคนนี้คนโน้น อะไรต่างๆ) และก็มีคตินิมิตที่ดำมืด

คตินิมิตที่ดำมืดก็ดูดเข้าไปสู่ภพของอบายภูมิ มาตกนรกอยู่ที่มหานรกขุม 3 ด้วยกรรมเจ้าชู้นั่นเอง

(ก็มาถูกฉับ เฉือน เชือด ชัวะ ชะ อะไรต่างๆ อีกมาก มุ่งไปที่อุปกรณ์ตรงนั้นแหละ

...นายนิรยบาลที่เกิดขึ้นด้วยวิบากกรรมของสัตว์นรกนั้นก็บังเกิดขึ้น มีทั้งนางนิรยบาลเกิดขึ้น แล้วก็เป็นเครื่องฑันทรมานอยู่ในมหานรกยาวนานทีเดียว

...ตรงนี้ก็มนุษย์เหมือนกัน ไม่ค่อยจะมาศึกษาความรู้ตรงนี้ ว่าหากประกอบเหตุอย่างนี้ จะต้องไปเป็นผลอย่างนี้ เรื่องเหตุเรื่องผลไม่ค่อยได้ศึกษากัน)

พอพ้นจากมหานรกแล้วก็มาอุสสทนรก แล้วก็มายมโลก

(ไปปีนต้นงิ้วที่ยมโลกเมื่อกรรมเบาบางลงไปแล้ว)

และก็มาเป็นสัตว์เดรัจฉาน ตั้งแต่สัตว์ชั้นต่ำ หนอนในห้องน้ำ มด แมลง เป็นต้น ไล่เรื่อย จนกระทั่งสัตว์ใหญ่ขึ้นมา และก็เป็นสัตว์แต่ละอย่างกันนับครั้งไม่ถ้วน

กระทั่งโตเรื่อยๆ ขึ้นมา จนกระทั่งสามสัตว์สุดท้าย ก็เป็นพวกลิงบ้าง เป็นลาบ้าง เป็นวัว เป็นควายบ้าง พวกที่เป็นวัวเป็นควายก็เพราะไปสวมเขา อะไรอย่างนั้น

และก็มาเป็นสุนัขที่สำส่อน สมสู่อย่างสำส่อนอย่างนั้นแหละ

(เห็นอย่างนี้ อุ๊ย น่ารัก แต่ว่ามีวิบากมาทั้งสิ้นนั่นแหละ)

พอพ้นจากกรรมตรงนั้นแล้วเป็นเวลายาวนาน จึงมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็มาเป็นหญิง และก็มามีอาชีพเป็นโสเภณี ขายบริการทางเพศ

(กรรมมันจะบันดาลให้เข้าไปสู่เส้นทางนั้นเอง จะสมัครใจ จะถูกบังคับ หรืออะไรก็แล้วแต่ล่อลวง สารพัด ทำให้ต้องไปอยู่ตรงนั้น)

แล้วก็วนเวียนเป็นโสเภณีอยู่หลายๆ ชาติทีเดียว

(เป็นร้อยๆ ชาติ เห็นไหมว่า ทำแค่ไม่นานเท่าไหร่ ไม่กี่ครั้ง เพราะว่าช่วงอายุไม่นานเท่าไหร่ของมนุษย์ แต่ไปใช้ทียาวนานมาก มันไม่คุ้มกันเลย)

เป็นโสเภณีอยู่หลายร้อยชาติ จนในชาติหนึ่ง ได้เกิดเป็นหญิง และก็ได้ไปเป็นโสเภณีในสำนักของหญิงงามเมือง ซึ่งมีหญิงโสเภณีที่เลื่องชื่อประจำเมือง ได้ไปเป็นหญิงโสเภณีสมาชิกของสำนักนี้

หญิงงามเมืองเลื่องชื่อคนนั้นมีความงามมาก และก็มีความสามารถในการฟ้อนรำขับร้อง เป็นดาวเด่นประจำเมือง

(คือ ร้องรำทำเพลงอะไรต่างๆ และก็บริการทุกอย่างเพื่อให้เกิดความพึงพอใจ และก็ได้เงินมา)

จึงมีลูกค้าในระดับมหาเศรษฐี มหาอำมาตย์ และเชื้อพระวงศ์มาใช้บริการอยู่เป็นประจำ ซึ่งเมื่อเปรียบค่าบริการแล้วก็ประมาณหนึ่งพันกหาปณะต่อคืน (คือแพงมากละกันในยุคนั้น) ถ้าใครให้หนึ่งพันกหาปณะก็จะได้ครอบครองเธอหนึ่งคืน

ส่วนโสเภณีอดีตพ่อค้าหนุ่มนั้น เป็นเพียงหญิงสาวหน้าตาธรรมดาๆ คนหนึ่ง จึงไม่ค่อยมีลูกค้ามาใช้บริการ (ไม่ค่อยสวย อดีตพ่อค้าหนุ่ม มาเป็นโสเภณีแล้วนะ หน้าตาไม่ค่อยสวย)

จะมีลูกค้าประเภทบริวารติดตามเจ้านายมาใช้บริการ ซึ่งได้ค่าบริการไม่มากนัก ก็เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจในความอาภัพของตนที่เกิดมาไม่สวยเท่ากับหญิงงามเมืองเจ้านายคนนั้น อาภัพ

คืนหนึ่ง เป็นคืนที่ไม่มีลูกค้ามาใช้บริการเลย เธอก็กลุ้ม

(แทนที่จะสบายเนื้อสบายตัว แต่ว่าเธอกลุ้ม เพราะว่ากรรมมันไปบีบคั้น นอกจากคิดว่ามันเป็นทางมาแห่งทรัพย์แล้ว มันยังมีความกลุ้ม มีความกำหนัดยินดีในกามอยู่ในตัว เพราะวิบากกรรมมันไปบังคับให้เธอคิดหรือรู้สึกอย่างนั้นขึ้นมา)

จึงนอนไม่ค่อยจะหลับ และก็ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืด ลุกจากเตียงแล้วก็ออกไปเดินเล่นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงประตูเมือง

(ยุคนั้นมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้า)

เช้าวันนั้น พระปัจเจกพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง

(พระปัจเจกพระพุทธเจ้าคือ ผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง ไม่มีใครสอน แต่ก็ไม่สอนใคร คือ ขวนขวายน้อย)

ได้ออกภิกขาจารมาถึงบริเวรประตูเมือง

(คือท่านคงตรวจในญาณเป็นปกติของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า และเข้าไปในข่ายพระญาณของท่านว่า จะต้องมาโปรดหญิงโสเภณีคนนี้)

ก็ผ่านมาทางนั้นพอดี เป็นบุญลาภของเธอ เธอได้เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้วเกิดจิตเลื่อมใส

(ปกติโสเภณีนี่เขินกับพระนะ จะไม่กล้าเข้าใกล้ แต่ฝากทำบุญอย่างนี้ก็มี แต่จะให้จะจะอย่างนี้ ไม่ค่อยกล้า มีความรู้สึกว่าตัวเราไม่ค่อยสะอาด อะไรแบบนี้ ไม่อยากเจอ)

เห็นแล้วเกิดจิตเลื่อมใส ความเลื่อมใสของเธอทำให้เธอเดินเข้าไปกราบอาราธนาพระปัจเจกพุทธเจ้าให้ไปรับภัตตาหารที่เรือนของตน พระปัจเจกพุทธเจ้าก็รับอาราธนาด้วยอาการสงบนิ่งๆ (แต่ก็รู้กันได้ว่าท่านรับแล้ว)

เธอดีใจมาก รีบกลับไปที่บ้าน และปลุกเพื่อนหญิงโสเภณีอีกคนที่อาศัยอยู่ด้วยกัน ด้วยความง่วงนอนของเพื่อน เพราะโดยปกตินางจะต้องัรบแขกในช่วงกลางคืน ในตอนแรกนางจึงปฏิเสธ แต่ก็ทนการรบเร้าชักชวนของหญิงสหายมิได้ (เอ้า ไปก็ไป) จึงจำต้องลุกขึ้น และมาช่วยกันจัดเตรียมภัตตาหารแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า

ครั้นเตรียมภัตตาหารเสร็จแล้ว แล้วก็นิมนต์พระปัจเจกพุทธเจ้าให้รับภัตตาหารหน้าเรือนของตน

หลังจากนั้นนางทั้งสองก็ได้ตั้งจิตอธิษฐาน โดยหญิงโสเภณีอดีตพ่อค้าหนุ่มจอมเจ้าชู้ก็ได้อธิษฐานว่า

ด้วยผลบุญนี้ ดูดวงปัญญาของเธอนะ ขอให้ข้าพเจ้าได้เกิดเป็นหญิงโสเภณีที่งดงามที่สุด มีชื่อเสียงที่สุด และก็มีรายได้ดีที่สุด

(ดวงปัญญาเธอมีอยู่แค่นั้นแหละ กรรมมันไปบีบคั้น ที่เธออธิษฐานเช่นนี้ก็เพราะความคับแค้นใจที่เกิดมาไม่สวย ไม่มีชื่อเสียงเท่าหญิงงามเมืองดาวเด่นคนนั้น พอกรรมมันบีบคั้น บางทีก็ไม่รู้จะอธิษฐานยังไงเหมือนกันนะ ประกอบกับวิบากกรรมกาเมยังส่งผลอยู่ จึงทำให้นางอธิษฐานติดในกามเช่นนั้น ให้ติดในกามเพราะวิบากกรรมเจ้าชู้นั่นแหละมันติด)

แต่ท้ายที่สุด ก็ยังได้อธิษฐานว่า

ขอให้ได้บรรลุธรรมที่พระคุณเจ้าบรรลุ และได้เห็นธรรมที่พระคุณเจ้าได้เห็น

(ก็ยังดี มีช่องแสงสว่างแห่งดวงปัญญาหน่อยนึง ก็มีบุญเก่าที่เคยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนามาส่งผลให้ นิพพาน ปัจจโย โหตุ)

ส่วนหญิงสหายของนางนั้นใกล้จะหมดกรรมแล้ว จึงทำให้นางอธิษฐานว่า

ด้วยบุญนี้ ขอให้ชาติต่อไปไม่ต้องมาทำงานเช่นนี้อีก

(เห็นไหมว่ามันขึ้นอยู่กับกรรมหนัก กรรมเบา เพราะฉะนั้นคำอธิษฐานจะไม่เหมือนกัน)

...และได้เป็นผู้ที่มีทรัพย์สมบัติร่ำรวย ให้ได้เกิดในตระกูลเศรษฐี มีดวงปัญญาคิดได้ และขอให้ได้มีดวงตาเห็นธรรมเช่นเดียวกับพระคุณเจ้าด้วย

(เห็นไหม ใกล้จะหมดกรรมเจ้าชู้ กรรมกาเมแล้ว ก็จะอธิษฐานอย่างนี้)

พระปัจเจกพุทธเจ้า

(ท่านเป็นแหล่งแห่งเนื้อนาบุญ เพราะก่อนจะมาบิณฑบาต ท่านก็เข้านิโรธสมาบัติตรวจตรา เป็นบุญของบุคคลนี้ เป็นแหล่งแห่งพลังงานบุญธาตุ บุญธาตุที่จะปรุงให้เกิดความสุขและความสำเร็จในชีวิต ให้ความปรารถนาของผู้ที่มาใส่บาตรนั้นสมหวัง สมหวังดังใจทุกสิ่ง เพราะใจท่านมันสว่างหมด มีพระธรรมกายพระปัจเจกพุทธเจ้าสว่างไสวทีเดียว หมดกิเลสแล้ว หลุดร่อนไปหมดแล้ว กะเทาะหลุดหมดทุกกายไปแล้ว)

ท่านก็นิ่งๆ

พอทั้งสองอธิษฐานจบ ท่านก็กล่าวว่า

ขอความปรารถนาของเธอทั้งสองที่ได้ตั้งใจไว้ด้วยดีนั้นจงสำเร็จทุกประการเทอญ เอวํ โหตุ ให้เป็นเช่นนั้น

ooooooooooooooooooooooooooooo



ไฟล์แนบ


พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#2 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 January 2008 - 05:58 AM

ดีจังเลยครับ อนุโมทนาบุณกับคุณวัดในดวงใจด้วยนะครับ...สาธุ

#3 sunshining

sunshining
  • Members
  • 111 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 January 2008 - 11:12 AM

อนุโมทนาบุญค่ะ...สาธุ

#4 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 02 January 2008 - 11:46 AM

อนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ

#5 บุญเย็น

บุญเย็น
  • Members
  • 812 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:thailand

โพสต์เมื่อ 02 January 2008 - 04:48 PM

สาาาาธุ
นำมอ ตี่ จ่าง อ้วง ผู่ สัก

#6 mpbkkt

mpbkkt
  • Members
  • 55 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 January 2008 - 08:50 AM

ดีจัง ขออีก

#7 nuntawatee

nuntawatee
  • Members
  • 118 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 January 2008 - 05:05 PM

อนุโมทนาบุญกับธรรมะดีๆด้วยนะคะ

#8 Bruce Wayne

Bruce Wayne
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 January 2008 - 10:59 PM

ได้ความรู้ดี น่าจะมีบทความของอรรถกโถจารย์โดยเฉพาะ happy.gif

#9 สาธุธรรม

สาธุธรรม
  • Members
  • 1124 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 January 2008 - 10:16 AM

อ่านแล้วกลัวเลยค่ะ........

หากเรายังเจริญสติน้อย
ก็จะต้องตกเป็นบ่าวเป็นทาสเขาอย่างนี้
ไม่ยุติธรรมเลย
บังคับให้เราทำ
แล้วก็ลงโทษเรา



ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทาน อันเลิศที่ จขกท นำมาด้วยนะคะ สาธุ
ขอให้บุญนี้ที่เกิดจากธรรมทานของครูไม่ใหญ่ และ เจ้าของกระทู้
ส่งผลให้ จขกท และ ทุกท่าน (รวมดิฉันด้วย happy.gif')
หลุดพ้นจากการเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามาร
ให้มหาปูชนียาจารย์ทุกท่านได้บรรลุซึ่งมโนปณิธานกันประเสริฐโดยเร็วพลันค่ะ
สาธู๊............ นิพพาน ปัจจโย โหตุ
หยุดนิ่งนั้นแหละไซร้ พรหมจรรย์
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ

สุนทรพ่อ

#10 usr20907

usr20907
  • Members
  • 18 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 09:04 PM

ขอบคุณมากรับได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ

#11 JaiKaeW

JaiKaeW
  • Members
  • 149 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 January 2008 - 11:53 PM

Anumotanaboon na ka, Sadhu ka.

#12 usr21591

usr21591
  • Members
  • 75 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 January 2008 - 11:08 AM

ศีลข้อ 3 นี่ต้องรักษาให้มากเลยนะครับเนี่ยะ Better to die than to betray the Principle 3

#13 hk_girlza

hk_girlza
  • Members
  • 580 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 January 2008 - 06:10 PM

อนุโมทนาบุญ สาธุค่ะ