อยากได้จริง หรือ อยากกำมะลอ
ไปทบทวนดูนะลูกนะว่า เราอยากได้ธรรมะจริงหรือเปล่า เราจะรู้ตัวเรา เรายังไม่อยากได้อย่างแท้จริง ถึง แม้เราอยากได้ แต่มันยังไม่แท้จริง มันยังเป็นอยากเทียมอยู่ ถ้าอยากแท้จริงมันต้องมีจิตตะ จดจ่อ เดี๋ยวมันก็ได้ ลองไปทบทวนนะลูกนะ ไม่ผิดหรอก คือ ยังไม่อยากได้อย่างแท้จริง ทั้ง ๆ รู้ว่าดี
ถ้าอยากได้อย่างแท้จริง เราจะทำทุกอิริยาบถ ในทุก ๆ กิจกรรม ตั้งแต่ตื่นนอน อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน อะไรทุกอย่างเรื่อยเลย ต้องทำอย่างนี้ก่อนในช่วงแรก ๆ ถ้าทำ ๆ หยุด ๆ ทำบ้างไม่ทำบ้าง ปล่อยมันเรื่อยเปื่อย แล้วก็ไปทำอย่างอื่นมากกว่า อย่างนี้ยากกว่าอยากได้ แต่ถ้าความอยากได้มีมาก แต่ว่าเกินไปนิด อย่างนี้ไม่ยาก แค่ลดลงมาอีกหน่อย ก็พอดี
ถ้าอยากได้จริง ๆ ต้องได้ ไม่มีอะไรที่ไม่ได้ อยากไปดวงจันทร์จริง ๆ ก็ไปได้ อยากไปไหนก็ไปได้ คุณยายเราอยากไปหาพ่อในปรโลก หรืออยู่ไหนก็ไม่รู้ ยังไปได้ ถ้าอยากได้ต้องได้ เพราะฉะนั้นต้องถามตัวเองว่า เราอยากได้จริงหรือเปล่า อยากเข้าถึงธรรมจริงไหม อยากเข้าถึงวิชชาธรรมกายจริงไหม แต่ถ้าอยากเกินไปไม่ยาก แค่ปรับลงมาหน่อยนึง
ให้ไปทบทวนนะลูกนะว่า เรารู้สึกยังไม่ได้ให้ความสำคัญตรงนี้มากมายนัก อย่างนี้เรียกว่า อยากกำมะลอนะ อยากเทียม ไม่ใช่อยากแท้ ยังเป็นความอยากสังเคราะห์อยู่ (synthetic) เป็นความสังเคราะห์ความอยาก มันไม่ใช่ธรรมชาติ เพราะฉะนั้นปรับตรงนี้ หลวงพ่อว่าต้องยกชั้นหมด
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
เรียบเรียงจากคำสอนของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย)
23 มกราคม พ.ศ. 2551