![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/0f3199914292819e2b69a6f57fc50a42?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
ใครหงุดหงิดใจ เวลาเจอป้ายจองบ้าง
#1
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 09:27 AM
#2
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 10:55 AM
แต่สำหรับเราไม่เป็นน๊ะ ทุกครั้งเวลาไปทำบุญที่วัดใจใสตลอดเลย เป็นธรรมดาที่จะมีเรื่องให้ชวนใจขุ่นแต่เห็นแล้วจะทำใจเฉย ๆ ไม่เคยหงุดหงิดเลย บุญบันเทิงตลอด
ใจเย็นๆ น๊ะค๊ะคุณอังคารเวลาไปเอาบุญทำใจใสๆไว้น๊ะ คนข้างๆคุณ เช่นคุณแม่คุณจะได้ใจไม่ขุ่นด้วย เพราะถ้าในกลุ่มที่ไปมีใครใจขุ่นแล้วหละก็จะพลอยทำให้คนอื่นใจขุ่นตามก็ไม่ดีอีก บางเรื่องก็ทำเฉย ๆไว้แล้วก็ผ่านพ้นไปได้ดี ก็ถือว่าเป็นการชวนคุณแม่ออกกำลังกายละกัน แล้วยังเป็นการฝึกขันติวิริยะไปในตัวด้วยได้บารมีเพิ่มอีกขั้นด้วยน๊ะค๊ะ
****น่ารักจังพาคุณแม่ไปทำบุญที่วัด****สาธุค๊ะ
100กะรัต
#3
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 11:17 AM
#4
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 11:26 AM
#5
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 11:38 AM
จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด
อนุโมทนาบุญด้วยครับ
โอ / เชียงใหม่
#6
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 12:26 PM
#7
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 12:39 PM
ไม่เคยไปร่วมงาน ได้แต่ดูผ่านดาว คงมีใครสักคนที่ถือโคมเทียนที่เราได้ทำบุญไป
ไม่ทราบว่าโคมมีมากพอกับจำนวนคนที่มาร่วมงานทุกครั้งหรือยัง
#8
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 01:21 PM
ไม่เอาน่ะ อย่าคิดไปกันใหญ่
ทำใจใสๆ เอา wheel chair มาด้วยสิคะ คุณแม่จะได้ไม่ลำบาก เราก็แค่เข็นๆ ไป เจอที่ไหนว่าง ก็ตรงนั้นแหล่ะค่ะ หงุดหงิดฟรี ขุ่นฟรี ไม่ได้อะไรกลับคืนมานอกจากความขุ่นข้องหมองใจ ใจหมอง บุญหก บุญหล่น
ใครเขาจะทำอะไร มันก็เรื่องของเขา ปล่อยๆ ไปเถ๊อะ เขาทำเอาไว้ให้คนในภาค พวกเจ้าภาพใหญ่ๆ ที่มีสังกัดภาค มีผู้ประสานงานคอยดูแล เขาก็ต้องเอาอกเอาใจเป็นธรรมดา เพื่อเป้าที่จำเป็นจะต้องปิด มันก็ต้องรักษาน้ำใจของผู้ทำบุญที่ทำอย่างสม่ำเสมอ มันก็เท่านั้นเอง เพราะวัดก็มีค่าใ้ช้จ่ายประจำ และถาวร ขอให้เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย แค่นี้ ความสุข ก็เกิดในใจเรา ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไปในลานธรรมแล้วล่ะค่ะ
เตรียมตัว เตรียมใจตัวเองมาให้พร้อม อย่าหวั่นไหว กับสิ่งแวดล้อม หรือผู้คน ทำใจเราให้นิ่ง ให้มั่นคง ว่า เรามาเอาบุญ เราไม่ได้มาเอาความขุ่นใจ แค่นี้ ใจเราก็มีความสุขแล้วค่ะ ^^
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#9
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 02:40 PM
น้องๆเขาต้องมาก่อนวันงาน เพื่อเตรียมงาน นอนก็น้อย เวลากลับก็กลับทีหลัง เรามานั่ง มาเอาบุญ เบิกบานเสร็จแล้วก็กลับ
ทำใจใสๆน่ะครับ วัดธรรมกายเป็นวัดของเรา บ้านของเรา อยากให้เป็นอย่างไหน แบบไหน เราก็ต้องลงมือทำครับ
#10
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 02:47 PM
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็ควรจะเห็นใจเขานะครับ เพราะเขาเป็นชาวต่างชาติ คุยภาษาไทยก็ไม่รู้เรื่อง อ่านภาษาไทยก็ไม่ออก หากไม่ช่วยบริการเขาหน่อย เขาก็เก้ๆ กังๆ ดีไม่ดีอาจจะเคว้งคว้างไปเลย เขาอุตส่าห์บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาร่วมงาน เราเป็นเจ้าของประเทศก็ช่วยเสียสละบริการพวกเขาหน่อย ผมว่าจะเป็นบุญติดตัวไป
เมื่อถึงคราว เราต้องเดินทางไปต่างถิ่นต่างแดน ก็จะได้มีคนดูแลเราได้เต็มที่ไงล่ะครับ
#11
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 02:52 PM
หาก มี อาจารย์ ท่านใด มี ศิษย์ๆ จะ นำมา อบรม ได้ นะค๊ะ ยิน ดี เพื่อ เตรียม งาน วัน ที่ 22 เมษา นะค๊ะ งาน นิ่ม ดูแล ช่วยๆ พี่ๆ ก็ คือ งานโภชณา การ เรา ต้อง ดู แล กอง ทัพ ท้อง ทั้ง วัดเลย ทั้ง ตำรวจ ที่มาคอยให้ความสะดวก อาสา ทั้งหมด และ สาธุชน ผู้ใจบุญ ต้อง แพ็ค อาหาร ทั้ง หมด หาก มา ประมาณ หมื่น สอง หมื่น ก็ สองคาบ ไม่ รวม น้ำ ก็ หลาย หมื่น มา ร่วม บุญ ด้วย กันนะค๊ะ
#12
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 04:32 PM
#13
*YTTRA*
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 04:50 PM
ถ้ามันห่างๆจากเวลาพิธีกรรมมากก้ออย่าเพิ่งไปแตะนะครับ เพราะบางทีผู้ประสานงานเขาจะจองไว้น่ะครับ
แต่ถ้าใกล้เวลาเริ่มพิธีแล้วก้อไม่ต้องสนใจเลยครับ นั่งไปเลย เพราะพี่วินิจ หัวหน้าชั้นบอกไว้แล้วว่าใครมาก่อนั่งก่อนไปเลยครับ
#14
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 07:18 PM
ทำงานกับคนหมู่มาก โดยเฉพาะงานของวัดเรา ที่มีคนร่วมงานเป็นแสน อนาคตเป็นล้าน
ย่อมมีเรื่องที่ไม่อาจทำให้ถูกใจคนทุกคนได้ แต่ขอให้เชื่อเถอะคะว่า ทุกคนต้องการให้งานออกมาดีที่สุด
ถ้ามีอะไรที่ถูกใจหรือไม่ถูกใจ ก็สามารถติชมกันได้คะ จะได้เป็น Feedback ที่จะทำให้งานออกมาดียิ่งๆขึ้น
ขอให้คิดซะว่า เราเป็นเจ้าของวัดนะคะ เริ่มจากเราหนึ่งคนทำใจใสๆ เข้าใจหมู่คณะ ก็จะทำให้คนที่มาใหม่ หรือมาเก่าที่ยังไม่เข้าใจ ใจใสไปด้วย แต่ถ้าเราขุ่น ก็จะทำให้คนรอบข้างขุ่นด้วยนะคะ อีกทั้งยังไม่คุ้มกับบุญที่ตกหล่นด้วยคะ
อย่างไรก็ขออนุโมทนาบุญนะคะ และก็มาร่วมสร้างบรรยากาศที่ดี สดชื่น ด้วยรอยยิ้ม และปิยวาจากันนะคะ
#15
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 07:40 PM
#16
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 09:20 PM
#17
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 10:11 PM
#18
โพสต์เมื่อ 19 February 2008 - 10:09 AM
![smile.gif](style_emoticons/default/smile.gif)
ปีนี้ก็มาให้ถึงเร็วหน่อยนะครับ ถ้ามาถึงช้าหรือพิธีเริ่มไปแล้ว ยิ่งหาที่นั่งยากใหญ่เลย
ถ้ามาเร็วหน่อย ที่นั่งเยอะแยะเหลือเฟือเลยครับ...
#19
โพสต์เมื่อ 19 February 2008 - 02:36 PM
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#20
โพสต์เมื่อ 19 February 2008 - 04:13 PM
![laugh.gif](style_emoticons/default/laugh.gif)
บุญรักษา ค่ะ ^O^
#21
โพสต์เมื่อ 19 February 2008 - 05:49 PM
#22
โพสต์เมื่อ 19 February 2008 - 06:59 PM
หากเราได้ร่วมพิธีในบุญเขต ใจย่อมอยู่ในบุญกุศลได้ทุกเวลา
#23
โพสต์เมื่อ 19 February 2008 - 09:46 PM
ตอนนั้น การเดินไปอธิฐานจิตที่มหาธรรมการเจดีย์ลำบากกว่านี้ ไม่รู้กี่เท่า
ทั้งไกลทั้งฝุ่นคลุ้ง เรายังทำกันเป็นระเบียบและร่วมใจรักษาวัฒนธรรมคุณยายและโอวาทของหลวงพ่อ
ฉะนั้นคิดแบบนี้แล้ว จะรู้สึกว่าการเข้าไปที่มหาธรรมการเจดีย์ตอนนี้จะรู้สึกแสนสบายจริงๆ
คุณอย่าไปหงุดหงิดเลย เพราะสาธุชนมีมาก ต้องมี่การเสียสละกันบ้าง แทนที่จะหงุดหงิดคุณก็ควรแก้ปัญหาที่ตัวเราเองก่อน คือรีบไปให้เร็วขึ้นเพื่อจะได้ไม่ต้องเดินไปไกลแบบที่คุณบอกมา
และใจจะได้ใส รองรับบุญให้มากขึ้น หลวงพ่อก็พูดอยู่บ่อยๆว่า เรามาวัดมาเอาบุญ ไม่ได้มาอยู่สบาย
และน้องเจ้าหน้าที่ก็ทำงานหนักมาก กว่าเราหลายเท่า เราก็ผู้ใช้บริการ น้องๆเค้าให้บริการ เค้าต้องเหนื่อยกว่าเรามากกว่าอยู่แล้ว เห็นใจกัน คนละครึ่งทางแล้วคุณจะรู้ว่า คุณน่ะแสนสบายมาเอาบุญไม่ต้องจัดงานเก็บงานแสนเหนื่อยเหมือนน้องๆเค้า
แค่เดินอีกนิดเดียวเท่านั้น ถ้าทำได้จะได้ขันติบารมีเพิ่มขึ้นด้วยนะคับ สาธุ
บอกกันต่อๆด้วยนะคับ
ส่วนท่านคอมเมนท์ที่ 3 ที่บอกว่าเอาเทียนไปเอง นี่สงสัยจริงๆว่าเอาไปทำไม เพราะว่าเราจุดโคมไม่ได้จุดเทียนเดินเวียนนะคับ และที่สำคัญถ้าทำอะไรที่ผิดแผลกแตกต่างจากที่น้องเจ้าหน้าที่จัดไว้ ผมว่าไม่คอ่ยสมควรนะ เพราะว่า ระเบียบงานที่ทางวัดจัดไว้ให้ก็สวยงามอยู่แล้ว ถ้าทำผิดคนหนึ่ง เดี๋ยวคนอื่นทำตามจะพาทำให้ภาพออกมาไม่สวยงามแบบที่ทางวัดจัดไว้ให้นะคับ
ร่วมมือกัน เสียสละเพื่อ ส่วนรวมนะคับ และยิ่งดีกว่านั้น จบงานก้อเก็บเพชรพลอยกันคนละมือสองมือทั้งได้บุญทั้งได้ความปลื้มด้วยนะคับ
เลือกเอา ใจใสๆ
#24
โพสต์เมื่อ 20 February 2008 - 01:22 AM
ใครจองได้ก็จองไป ดีๆครับอนุโมทนาด้วย จองเผื่อญาติพี่น้องถือว่าน้ำใจงามแท้
ส่วนผมขอจอง ช่วยเตรียมงานทั้งลานธรรม ทั้งขนโคม ปักโคม และเก็บงาน ท่านใดที่ชอบจับจองก็จองกันให้หมดทั้งลานธรรมเลยนะคร้าบ
ผมจะได้ได้บุญเยอะๆ .....ปลื้มแท้น้อ......
.ฟังเรื่องราวดีๆได้ที่นี่ครับ
#25
โพสต์เมื่อ 22 February 2008 - 01:09 AM
เรื่องการจองโคมก่อนเวลาพิธี เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน
- ในการดูแลเจ้าภาพก็มีความจำเป็นในการจัดเจ้าหน้าที่ดูแลเจ้าภาพให้ครบทั่วถึง เช่นวันงานสมมติว่ามีเจ้าหน้าที่ 1 คนให้ดูแลเจ้าภาพ 10 คนหรือ 70 คน ก็คงอยากจัดที่นั่งให้อยู่ติดๆกันเป็นกลุ่มเดียวกัน จะได้มองเห็นกันได้ พูดแล้วได้ยิน
- หรือผู้นำบุญชวนคนใหม่มาวัด คือเป็นกลุ่มสาธุชนใหม่ ผู้ชวนก็อยากให้คนที่ตนชวนมา ได้นั่งอยู่ใกล้กันเป็นกลุ่ม จะได้ไม่พลัดหลงเวลากลับ
ในขณะเดียวกัน
- สาธุชนที่พาผู้สูงอายุ หรือผู้พิการ มาด้วย โดยไม่มี wheel chair มาด้วย เช่น อาจโดยสารรถคนอื่นมา มากับรถวัด หรือนั่งรถสาธารณะ รถเมล์ มาแท๊กซี่ เป็นต้น โดยเฉพาะถ้าตัวเองมาคนเดียวแล้วพาพ่อหรือแม่สูงวัยมา ก็ไม่อยากให้พ่อแม่ปู่ย่าตายาย เดินไกลโดยไม่รู้ว่าจะได้นั่งตรงไหน ถ้าจะให้ผู้สูงอายุนั่งที่วิหารคตแล้วตัวเองออกเดินหาโคม ก็จะเป็นห่วงผู้สูงอายุ(ว่าผู้สูงอายุที่มาวัดครั้งแรกจะกังวลว่าถูกให้อยู่คนเดียว หรือกลัวเรื่องพลัดหลง เป็นต้น)
- สาธุชนที่มาวัด อาจมาวัดเป็นครั้งแรก อาจงงว่า โคมที่ตนไปเจอมีแต่กระดาษปิดจองเป็นแถบๆ แสดงความเป็นโคมมีเจ้าของแล้ว เดินไปตรงโน้นก็เห็นกระดาษเขียนล๊อคที่เอาไว้ ก็คงอาจคิดว่า "แล้วบริเวณอื่นจะเป็นโคมที่ถูกจองไปทั้งหมดพื้นที่หรือไม่ ??? แล้วจะเดินไปทางไหนดี???"
ขอเสนอทางออก ดังนี้ค่ะ
1. หลายคนต่อหนึ่งโคม ซึ่งถ้าได้ประสานตายิ้มๆ กับสาธุชนที่นั่งกับโคมแล้วได้ ก็จะได้นั่งร่วมจุดโคมด้วยกัน (ขอแจมด้วยคนจ๊ะ)
และ
2. แบ่งเป็นโซน ว่าตรงโซนไหนไม่ให้จองที่ ตรงโซนไหนให้จองที่ได้
(พื้นที่รอบใน และพื้นที่บริเวณโคมพิเศษต่างๆ ซึ่งเป็นการจัดพื้นที่เฉพาะอยู่แล้ว จะขอยกไว้ ไม่กล่าวถึง)
- สมมติว่า เวลาที่เราเดินจากสภาตรงเข้าไปยังเจดีย์ ให้ซีกซ้ายเป็นพื้นที่ที่ไม่มีการจอง (free zone) คือ เดินเข้ามาในช่องทางเดินหลัก แล้วเลี้ยวซ้าย เป็นที่ที่ไม่มีการจอง ใครมาก่อนนั่งก่อน เลือกนั่งตรงไหนก็คือนั่งตรงนั้นได้เลย ใครมาหลังก็หาที่ถัดไป คือจะให้สิทธิตามคิวก่อน-หลัง ซึ่งควรมีการประกาศแจ้ง ในเวลาที่ขบวนสาธุชนเดินเข้าสู่พื้นที่ ว่าให้สาธุชนเดินไปทางไหน
- และให้ซีกขวาเป็นพื้นที่ที่ให้มีการจอง (reserve zone) จากทางเดินกลาง เลี้ยวขวา โดยจะล๊อคที่ใช้งานและพื้นที่ทำงานของเจ้าหน้าที่โดยคณะผู้จัดงานพิธีก่อน เช่น พื้นที่ชาวต่างประเทศ เป็นต้น จากนั้นก็เป็นเจ้าหน้าที่ภาคต่างๆมาจองกัน และจากนั้นในวันงานอาจมีการจองเพิ่มก็จองกันไป (แต่ไม่ควรจองเผื่อคนที่ไม่แน่ว่าจะมางานพิธี ควรเห็นใจคนที่มาวันงาน ที่มาจริง) ซึ่งแน่นอนบริเวณโซนนี้จะมีโคมที่ไม่มีใครจองด้วยแต่อาจเดินไกลหน่อย ก็คงต้องเดินหากันนิดนึง (แล้วพอถึงเวลาเริ่มพิธี ถ้ายังไม่มีคนจองมานั่ง ณ โคมที่จองนั้น ทางเจ้าหน้าที่ส่วนกลางก็แจ้งให้สาธุชนที่เดินเข้ามานั่งที่นั้นได้)
คิดว่าพอจะฟังได้บ้างหรือเปล่าไม่ทราบได้ ถ้าตรงไหนไม่ดียังไงก็ขออภัยค่ะ
ก็อยากให้ผู้มีส่วนในบุญพิธีทุกท่านได้รับความสุขที่สุดและสะดวกที่สุดในวันงานบุญใหญ่ และเพื่อท่านสาธุชนจะได้รับบุญใหญ่ๆ ด้วยใจใสๆ กลับบ้านไปด้วยความระลึกถึงแต่บุญล้วนๆ ไม่ระคายเคืองใจแม้สักนิดค่ะ
#26
โพสต์เมื่อ 22 February 2008 - 12:33 PM
ไม่ว่ายังไงก็ยังมีแบ่งชั้นคนเรากันอยู่เสมอแหละครับ ไม่ว่าที่ไหน
เอามาเป็นพลังในการผลักดันตัวเอง ตะกายขึ้นมาเป็นคนหนึ่งที่จะมีคนจองที่ให้ซิครับ
หรือไม่ก็ใช้วิธีผม ยืนรอตรงมหาฯวิหารคตนั่นแหละครับ ไม่ต้องสนใจเจ้าหน้าที่ที่มาประกาศเชิญชวนปาวๆให้เดินเข้าด้านในหรอกครับ พอเริ่มพิธีเจ้าหน้าที่ที่มาจองที่เอาไว้ เขาก็จะมาเกณฑ์เราเข้าไปนั่งในพื้นที่ที่เขาจองเอาไว้แต่ไม่มีคนมานั่งเองแหละครับ(เขาใช้คำว่า "จองเผื่อเอาไว้"น่ารักไหมครับ) ได้ผลทุกงานครับ ผมทำมาแล้ว
ทำใจ ทำใจ
#27
โพสต์เมื่อ 22 February 2008 - 03:31 PM
#28
โพสต์เมื่อ 25 February 2008 - 07:05 PM
เนื่องจากหมู่คณะเรามีกันเป็นจำนวนมาก เมื่อวันมาฆะครบรอบ 10 ปีที่เราเข้าวัดพอดี
ก็ขอเล่าละกันนะค่ะ เท่าที่เราเห็นวันงานบุญใหญ่ ก็จะมีการจองพื้นที่เอาไว้สำหรับเจ้าภาพ หรือให้คนในภาคที่สังกัดอยู่
แต่พอใกล้ถึงเวลาจริง ๆ พื้นที่ที่จองเอาไว้ก็จะไม่ค่อยได้มานั่งกันหรอกค่ะ
เพราะอย่างเมื่อวันงาน เราได้ที่นั่งแล้ว แต่เพื่อนโทรมาแจ้งเราว่าให้ไปนั่งโซนที่ภาคจองเอาไว้
เราก็ไม่ได้ไปหรอกนะ เพราะฉะนั้นที่ๆ เค้าจองไว้ให้เราก็จะว่างแน่นอน
ดังนั้นหากมีผู้สูงอายุเราว่าสะดวกตรงไหนก็นั่งตรงนั้นเถอะค่ะ เพราะบริเวณที่จองส่วนใหญ่ก็อยู่รอบนอกใกล้ทางออกทั้งนั้น
ใครมีแรงเดินไหว...ก็เดินเข้าไปด้านในล่ะกัน ดีซะอีกนะค่ะ จะได้เห็นพิธีการชัดและใกล้ชิด
ขอให้นึกว่าเรามาเอาบุญแล้วกันนะค่ะ อย่างอื่นเป็นเพียงส่วนประกอบ อย่าได้น้อยอกน้อยใจไปเลยค่ะ
ขอยกตัวอย่างล่ะกันนะค่ะ
เมื่อตอนเข้าวัดใหม่ๆ เราทำบุญ 10,000 บาท สมัยนั้นสำหรับเราเยอะมากๆ เพราะเงินเดือนได้ไม่เท่าไหร่เอง กว่าจะเก็บเงินมาทำบุญได้ แต่พอเราทำบุญแล้วผ่านไปประมาณ 3-4 เดือน เรายังไม่ได้รับพระของขวัญ เพราะเราก้ออยากได้เครื่องระลึกนึกถึงบุญที่เราทำถูกไหมค่ะ เราเลยไปถามเจ้าหน้าทีที่ภาคฯ >>
เรา : ไม่ทราบว่าร่วมบุญ......พระของขวัญมาหรือยัง
เจ้าหน้าที่ : ทำบุญไปเท่าไหร่
เรา : หมื่นนึง ทำไปตั้งแต่เดือนเมษา
เจ้าหน้าที่ : ตอนนี้มีการรับพระของขวัญ แต่เจ้าภาพใหญ่ๆ ทั้งนั้น ยังไม่มีหรอกนะคงอีกนาน
เรา : ......???.......<เดินออกมาอย่าง..งงงง!>
ก็มานั่งคิด....เอ!...เราผิดด้วยเหรอที่เราไม่ได้เป็นเจ้าภาพใหญ่
ไม่นี่....เราไม่ผิด....เราตั้งใจทำบุญ เพราะฉะนั้นปัจจัยจะมากหรือน้อย แต่เราตั้งใจทำและเต็มใจทำ
สำหรับเราเงิน 10,000 บาทนั้นมีค่ามาก
คนอื่นอาจจะคิดว่าไม่มาก เพราะถ้าคอย take care เจ้าภาพใหญ่ได้ทีครั้งละเป็นล้าน
สำหรับอย่างเรา ๆ กว่าจะรวบรวมทีละ 10,000 ตั้ง 100 คน ถึงจะได้มา
เพราะฉะนั้นเรื่องอื่นๆ ไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ เดี๋ยวบุญจะหหกบุญจะหล่นซะเปล่าๆ
นำไปใช้ได้ในทุกกรณีนะค่ะ เพราะคนหมู่มากมาอยู่รวมกันย่อมมีการกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดาค่ะ
#29
โพสต์เมื่อ 12 March 2008 - 12:38 PM