ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

พระธรรมเทศนาของพระสารีบุตรต่อพระยมกะ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 1 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 March 2008 - 08:39 AM

พระธรรมเทศนาของพระสารีบุตรต่อพระยมกะ รจนาโดย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

มีคำ
ยกย่องเรียกพระสารีบุตรอีกอย่างหนึ่งว่า พระธรรมเสนาบดี นี้เป็นคำเลียนมาจากคำเรียกแม่ทัพ
ดังจะกลับความให้เห็นตรงกันข้าม
กองทัพทำยุทธ์ยกไปถึงไหน ย่อมแผ่อนัตถะถึงนั่น
กองพระสงฆ์ผู้ประกาศศาสนา ได้ชื่อว่า ธรรมเสนา
กองทัพฝ่ายธรรมหรือประกาศธรรม จาริกไปถึงไหน ย่อมแผ่หิตสุขถึงนั่น

พระศาสดาเป็นจอมธรรมเสนา เรียกว่า พระธรรมราชา
พระสารีบุตรเป็นกำลังใหญ่ของพระศาสดา ในการธุระนี้ ได้สมญาว่าพระธรรมเสนาบดี นายทัพฝ่ายธรรม


พระสารีบุตรมีปฏิภาณในการแสดงพระธรรมเทศนาอย่างไร พึงเห็นในเรื่องสาธกต่อไปนี้

มีภิกษุรูปหนึ่ง ชื่อ ยมกะ มีความเห็นเป็นทิฏฐิว่า พระขีณาสพตายแล้วดับสูญ
ภิกษุทั้งหลายค้านเธอว่าเห็นอย่างนั้นผิด เธอไม่เชื่อ
ภิกษุเหล่านั้นไม่อาจเปลื้องเธอจากความเห็นนั้นได้ จึงเชิญพระสารีบุตรไปช่วยว่า

ท่านถามเธอว่า ยมกะ ท่านสำคัญความนั้นอย่างไร?
ท่านสำคัญ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ๕ นี้ว่าพระขีณาสพหรือ?
ย. ไม่ใช่อย่างนั้น
สา. ท่านเห็นว่าพระขีณาสพในขันธ์ ๕ นั้นหรือ?
ย. ไม่ใช่อย่างนั้น
สา. ท่านเห็นว่าพระขีณาสพอื่นจากขันธ์ ๕ นั้นหรือ?
ย. ไม่ใช่อย่างนั้น
สา. ท่านเห็นพระขีณาสพว่าเป็นขันธ์ ๕ หรือ?
ย. ไม่ใช่อย่างนั้น
สา. ท่านเห็นพระขีณาสพไม่มีขันธ์ ๕ หรือ?
ย. ไม่ใช่อย่างนั้น

สา. ยมกะ ท่านหาพระขีณาสพในขันธ์ ๕ นั้นไม่ได้โดยจริงอย่างนี้
ควรหรือจะพูดยืนยันอย่างนั้นว่า พระขีณาสพตายแล้วดับสูญ ดังนี้
ย. แต่ก่อนข้าพเจ้าไม่รู้ จึงได้มีความเห็นผิดเช่นนี้
บัดนี้ข้าพเจ้าได้ฟังท่านว่า จึงละความเห็นผิดนั้นได้ และได้บรรลุธรรมพิเศษด้วย

สา. ยมกะ ถ้าเขาถามท่านว่า พระขีณาสพตายแล้วเป็นอะไร? ท่านจะแก้อย่างไร?
ย. ถ้าเขาถามข้าพเจ้าอย่างนี้ ข้าพเจ้าจะแก้ว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่ไม่เที่ยงดับไปแล้ว

สา. ดีละๆยทกะ เราจะอุปมาให้ท่านฟัง เพื่อจะให้ความข้อนั้นชัดขึ้น

เหมือนหนึ่งคฤหบดีเป็นคนมั่งมี รักษาตัวแข็งแรง ผู้ใดผู้หนึ่งคิดจะฆ่าคฤหบดีนั้น
จึงนึกว่า เขาเป็นคนมั่งมี และรักษาตัวแข็งแรง จะฆ่าโดยพลการเห็นจะไม่ได้ง่าย
จำจะต้องลอบฆ่าโดยอุบาย ครั้นคิดอย่างนั้นแล้ว จึงเข้าไปเป็นคนรับใช้ของคฤหบดีนั้น
หมั่นคอยรับใช้ จนคุ้นเคยกันแล้ว ครั้นเห็นคฤหบดีนั้นเผลอ ก็ฆ่าเสียด้วยศัตราที่คม
ยมกะ ท่านจะเห็นอย่างไร คฤหบดีนั้น เวลาผู้ฆ่านั้นเขามาขออยู่รับใช้สอยก็ดี
เวลาให้ใช้สอยอยู่ก็ดี เวลาฆ่าตัวก็ดี ไม่รู้ว่าผู้นี้เป็นคนฆ่าเรา อย่างนี้ มิใช่หรือ?

ย. อย่างนั้นแล ท่านผู้มีอายุ

สา. ปุถุชน ผู้ไม่ได้ฟังแล้วก็ฉันนั้น
เขาเห็น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็นตน บ้าง
เห็นตนว่ามี รูป เวทนาสัญญา สังขาร วิญญาณ บ้าง
เห็น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ในตน บ้าง
เห็นตนใน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ บ้าง

ไม่รู้จักขันธ์ ๕ นั้น อันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตน
ปัจจัยตกแต่งดุจเป็นผู้ฆ่า ตามเป็นจริงอย่างไร
ย่อมถือมั่นขันธ์ ๕ นั้นว่าตัวของเรา
ขันธ์ ๕ ที่เขาถือมั่นนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์และทุกข์สิ้นกาลนาน

ส่วนอริยสาวก ผู้ได้ฟังแล้ว
ไม่พิจารณาเห็นเช่นนั้น รู้ชัดตามความเป็นจริงแล้วอย่างไร
ท่านไม่ถือมั่นในขันธ์ ๕ ว่าตัวของเรา
ขันธ์ ๕ ที่ท่านไม่ถือมั่นนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์และสุขสิ้นกาลนาน.


คัดลอกจาก ประวัติแห่งพระสารีบุตร ( หน้า ๓๒-๓๕ )
จากหนังสืออนุพุทธประวัติ ( หลักสูตรนักธรรมและธรรมศึกษาชั้นโท)
ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
ลิขสิทธิ์ เป็นของ มหามกุฏราชวิทยาลัย


พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#2 JaiKaeW

JaiKaeW
  • Members
  • 149 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 March 2008 - 01:22 AM

Sadhu