ผลกรรมอะไรค่ะที่ทำให้แต่ละคนมีร่างกายที่แตกต่างกันไป อ้วนเกินไป ผอมเกินไป แล้วผลกรรมอะไรค่ะที่จะทำให้เป็นคนที่มีบุคลิกที่ดี ร่างกายแข็งแรง ไม่อ่อนแออ่ะค่ะ
ผลกรรมอะไรค่ะ
เริ่มโดย 131072, Mar 08 2008 01:52 PM
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 08 March 2008 - 01:52 PM
#2
โพสต์เมื่อ 08 March 2008 - 02:33 PM
QUOTE
แล้วผลกรรมอะไรค่ะที่จะทำให้เป็นคนที่มีบุคลิกที่ดี ร่างกายแข็งแรง ไม่อ่อนแออ่ะค่ะ
ศีล5เป็นคำตอบสุดท้ายครับ เช่น
ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต จะทำให้เราไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ร่างกายไม่พิกลพิการ และอายุไม่สั้นเพราะเวรปาณาติบาต
ไม่พูดปดพูดเพ้อเจ้อพูดส่อเสียด ทำให้เรามีปากมีฟันที่สวยงามไม่พิกลพิการเป็นหลอลี่ครับ
ไม่ดื่มสุรา ทำให้เรามีสติสมบูรณ์ ไม่บ้าใบ้ปัญญาอ่อน
ศีลทั้ง5ข้อมีความเกี่ยวโยงกันหมดทุกข้อซึ่งจะส่งผลและมีอานิสงค์ต่อ กาย วาจา ใจ ของเราครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#3
โพสต์เมื่อ 08 March 2008 - 03:59 PM
ขอตอบแบบสั้นๆ กระทัดรัด ตรงประเด็นก็แล้วกันนะครับ ลองไปศึกษาจาก "จูฬกัมมวิภังคสูตร" ตามลิงค์นี้ได้เลยครับ; http://www.navy.mi.t...m/tp/tp1435.htm
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี
#4
โพสต์เมื่อ 08 March 2008 - 06:23 PM
Sa Thu Krub
#5
โพสต์เมื่อ 08 March 2008 - 09:59 PM
สาธุค่ะ..
.....บุกเบิกไปให้ก้าวไกล ถึงคราวพวกเราเติบใหญ่ ชาติไทยได้พัฒนา....
#6 *sky noi*
โพสต์เมื่อ 10 March 2008 - 10:50 AM
แจ่มแจ้งแล้วพระเจ้าข้า สาธุ
#7
โพสต์เมื่อ 11 March 2008 - 04:05 PM
ผลร้าย ผลดี 7 คู่ ว่าเนื่องมาจาก กรรม คือ การกระทำ อันได้แก่
1. มีอายุสั้น เพราะ กรรมฆ่าสัตว์
2. มีโรคมาก เพราะ กรรมเบียดเบียนสัตว์
3. มีผิวพรรณทราม เพราะ มักโกรธ
4. มีศักดาน้อย เพราะ มักริษยา
5. มีโภคทรัพย์น้อ ย เพราะ ไม่ให้ทาน
6. เกิดในตระกูลต่ำ เพราะ กระด้างถือตัว ไม่อ่อนน้อม วาจาหยาบคาย
7. มีปัญญาทราม เพราะ ไม่เข้าหาสมณพราหมณ์ ไต่ถามเรื่อง กุศล อกุศล เป็นต้น
อนุโมทนา สาธุค่ะ
1. มีอายุสั้น เพราะ กรรมฆ่าสัตว์
2. มีโรคมาก เพราะ กรรมเบียดเบียนสัตว์
3. มีผิวพรรณทราม เพราะ มักโกรธ
4. มีศักดาน้อย เพราะ มักริษยา
5. มีโภคทรัพย์น้อ ย เพราะ ไม่ให้ทาน
6. เกิดในตระกูลต่ำ เพราะ กระด้างถือตัว ไม่อ่อนน้อม วาจาหยาบคาย
7. มีปัญญาทราม เพราะ ไม่เข้าหาสมณพราหมณ์ ไต่ถามเรื่อง กุศล อกุศล เป็นต้น
อนุโมทนา สาธุค่ะ