ถ้าเพ่งจิตมองลูกแก้ว แล้วได้อะไร มันทำให้หน้าไส ผิวไสไส ได้เปล่า ครับ
เห็นหลายท่านหน้าไสไส แต่ไม่กล้าเข้าไปถาม
หรือ บวกกับการนั่งสมาธิ แล้วระลึกจิตไสไส ไปด้วย
กระทู้นี้เป็นคำถามเด็กๆ อย่าว่ากันน้า..
การเพ่งจิตมองลูกแก้ว แล้วได้อะไรคับ
เริ่มโดย ลูกพระพุทธ, Mar 30 2008 02:12 PM
มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 30 March 2008 - 02:12 PM
#2
โพสต์เมื่อ 30 March 2008 - 03:03 PM
ก่อนอื่นต้องขอแบ่งปันความรู้ที่มีอยู่น้อยนิดสักหน่อยก่อนครับ ว่าทางวัดไม่ได้สอนให้เราเพ่งจิตไปที่ลูกแก้วนะครับ ถ้าเราเพ่งจิตไปที่ลูกแก้ว จิตก็จะออกไปอยู่นอกตัว แต่วิธีนี้เป็นการกำหนดบริกรรมนิมิต คือกำหนดภาพในใจ เพื่อป้องกันไม่ให้ใจฟุ้งซ่านซัดส่าย เพราะเวลาใจฟุ้งซ่านจะฟุ้งได้สองแบบ คือฟุ้งเป็นภาพความคิด และฟุ้งเป็นเสียงของความคิด การกำหนดนิมิตดวงแก้วไว้ที่ศูนย์กลางกาย (กะคร่าวๆว่าภายในกลางท้อง) จะทำให้ใจของเรามีที่ยึดที่เกาะ ไม่ท่องเที่ยวออกไป และสามารถหยุดนิ่งได้มากขึ้น ส่วนการเลือกเอาดวงแก้วมากำหนดเป็นบริกรรมนิมิตก็เพราะว่ามีลักษณะใกล้เคียงกับดวงธรรมภายในตัวของทุกๆคนครับ การกำหนดดวงแก้วใสจะมีส่วนช่วยให้ใจใสบริสุทธิ์ได้ง่าย ตรงกันข้าม หากเรานึกถึงสิ่งไม่ดีไม่งาม ใจก็จะขุ่นข้องหมองมัว เช่นการนึกถึงสิ่งของที่ถูกขโมยไป หรือนึกถึงขวดเหล้าที่ชอบ ภาพเหล่านี้จะทำให้ใจฟุ้งไปกับอารมณ์และนิวรณ์ ไม่สามารถสงบระงับได้ครับ นอกจากดวงแก้วแล้ว เราอาจนึกถึงองค์พระแก้วใส นึกถึงแอปเปิ้ล นึกถึงแสงประทีปที่จุดบูชาพระ เป็นของกลางๆ หรือของที่นึกแล้วใจรู้สึกสงบระงับ สะอาดยิ่งๆขึ้นไป คลายจากนิวรณ์ทั้งหลายครับ ส่วนที่ถามว่านึกถึงดวงแก้วแล้วทำให้หน้าใสหรือเปล่า ก็ต้องขอตอบว่ามีส่วนครับ เพราะพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่าเรามีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นผู้นำ หากใจเราผ่องแผ้ว ร่างกายของเราก็จะได้รับผลดีไปด้วย แม้คนผิวดำ ก็จะดำนวล คนผิวขาว ก็จะขาวผ่อง ถ้าตามหลักวิทยาศาสตร์ก็ต้องบอกว่า ใจที่เป็นสมาธิดีก็ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจก็จะช้าลง เซลล์ต่างๆทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หน้าก็เลยใส และดูอ่อนกว่าวัยครับ
#3
โพสต์เมื่อ 30 March 2008 - 05:07 PM
- -" ที่พวกเราหน้าใสเหมือนเด็กวัยละอ่อนกันเพราะผลจากการทำบุญ รักษาศีลและฝึกนั่งสมาธิครับ ไม่ได้ฝึกเพ่งลูกแก้วหรือดวงแก้วแต่อย่างใดเพราะทางวัดไม่มีสอนเพ่งลูกแก้วครับ จะมีก็แต่ผู้ที่ยังไม่ชินกับการนึกกำหนดนิมิตดวงแก้วไม่ได้ก็จะอาศัยดูลักษณะของดวงแก้วแล้วจำเพื่อให้ง่ายต่อการนึกนิมิตน่ะครับ เหมือนกับเราดูหนังสือแล้วจำ เมื่อสอบเราก็นึกเนื้อหาที่ได้อ่านแล้วจำ หรือเหมือนกับเราดูการ์ตูนสักเรื่อง สมมุติว่าเรื่องดราก้อนบอล พอดูจบก็มานึกถึงตัวการ์ตูน ว่าซุนโงคูหน้าตาเป็นแบบนี้ๆ โงฮังหน้าตาเป็นแบบนี้ๆ ฉันใดฉันนั้นครับ ^ ^
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#4
โพสต์เมื่อ 30 March 2008 - 05:47 PM
วัดไม่ได้สอนให้เพ่งลูกแก้วนะครับ แต่สอนให้นึกเบาๆสบายๆ ไม่ต้องเพ่งครับ ถ้าเพ่งผิดหลักวิชา ไม่ว่ากสินสายไหน ถ่าเพ่งผิดหลักวิชาหมด ต้องนึกเบาๆเท่านั้นครับ
แต่ถ้าอยากให้หน้าขาวใสแต่ไม่นั่งสมาธิ ขอแนะนำให้เพ่งนี่ครับ ตามรูป
200708_26_141641_1.gif 47.27K 151 ดาวน์โหลด
แต่ถ้าอยากให้หน้าขาวใสแต่ไม่นั่งสมาธิ ขอแนะนำให้เพ่งนี่ครับ ตามรูป
200708_26_141641_1.gif 47.27K 151 ดาวน์โหลด
#5
โพสต์เมื่อ 30 March 2008 - 07:35 PM
จิตใจ ย่อมส่งผลถึง ร่างกาย
ลองเราโกธร หน้าเราจะเป็นสีดำหรือแดง ผมว่าต้องมีอะไรบางอย่างในร่างกายเปลี่ยนแปลงครับ
ลองเราโกธร หน้าเราจะเป็นสีดำหรือแดง ผมว่าต้องมีอะไรบางอย่างในร่างกายเปลี่ยนแปลงครับ
#6
โพสต์เมื่อ 30 March 2008 - 07:49 PM
รักษาศีล ก็หน้าใสกิ๊งๆแล้วครับ
#7
โพสต์เมื่อ 30 March 2008 - 08:29 PM
เคยนั่งเพ่งแล้วครับ ปรากฏว่า พอนั่งเสร็จ คิ้วแทบติดกัน เครียดแทบจะกินอะไรไม่ได้ ถ้าทำอย่างนี้ หน้าไม่ใสหรอกครับ มีแต่หน้านิ่วคิ้วขมวด
คำว่า "เพ่ง" จริงๆ แล้วก็คือ ให้ดู (ด้วยใจ) เฉยๆ ด้วยใจที่สบายๆ ครับ
คำว่า "เพ่ง" จริงๆ แล้วก็คือ ให้ดู (ด้วยใจ) เฉยๆ ด้วยใจที่สบายๆ ครับ
#8
โพสต์เมื่อ 30 March 2008 - 11:01 PM
หน้า " ใส " ใช้ " ใ "
ไม่ใช่ " ไ "
ไม่ใช่ " ไ "
#9
โพสต์เมื่อ 31 March 2008 - 08:00 AM
หน้าใส ได้จาก ภายใน สู่ภายนอก จ้า รักษาศีล แล้วดีจริงๆ ( ขอบอก )
ไม่ต้องไปเสียตัง ทำหน้าเด้ง เข้าคอร์สขัดหน้า ที่ไหนแล้ว เดี๋ยวนี้
ไม่ต้องไปเสียตัง ทำหน้าเด้ง เข้าคอร์สขัดหน้า ที่ไหนแล้ว เดี๋ยวนี้
#10
โพสต์เมื่อ 31 March 2008 - 09:07 AM
ได้ใจที่สงบนิ่งไม่ซัดส่ายไปไหน ๆ ไงค้า เมื่อใจหยุดนิ่ง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะเพ่งอยู่จุดไหน นิ่ง ๆ นุ่ม ๆ นานๆ เดี๋ยวใจก็จะกลับมาอยู่ที่เดิม คือศูนย์กลางกายเองนั่นแหละค่ะ ก็หยุดเป็นตัวสำเร็จนี่น่า เมื่อสำเร็จแล้วแล้วพบความสุข ความใสก็จะตามมาเองแหละค่ะ เชื่อเหอะ
#11
โพสต์เมื่อ 02 April 2008 - 12:02 PM
Sa Thu