Jump to content


Photo
- - - - -

ไม่เข้าใจความหมายของวาทะธรรมประจำวันที่ว่า.....


  • You cannot start a new topic
  • Please log in to reply
9 replies to this topic

#1 คนไทย

คนไทย
  • Members
  • 95 posts

Posted 21 April 2008 - 11:34 PM

ขอความกรุณาผู้รู้ช่วยแนะนำทีครับ ขอขอบคุณล่วงหน้า

#2 Prince JuNNoi of LoNDon

Prince JuNNoi of LoNDon
  • Members
  • 89 posts

Posted 22 April 2008 - 12:05 AM

ก็เรื่องบางเรื่องที่ทำให้เราขัดข้องหมองใจ ถ้าเป็นเรื่องของเราก็ปล่อยวางครับ อย่าไปเอามาเป็นอารมณ์

แต่ถ้าเรื่องใดที่ทำให้พระพุทธศาสนาต้องมัวหมอง เราห้ามปล่อยวางครับ

ด้วยความเคารพ
Prince JuNNoi of LoNDon

...ปล่อยให้่เวลามันพาไป...

...สำหรับฉัน เธอคือ สิ่งที่ดีที่สุด เท่าที่ชีวิตนี้จะมีได้...

#3 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2,210 posts

Posted 22 April 2008 - 07:11 AM

คือถ้าเป็นเรื่องที่มากระทบตัวเราก็ให้ทำใจวางอุเบกขา คือวางเฉย ไม่วิตกกังวล วางใจเป็นกลาง ๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด แต่ถ้าเรื่องใดที่กระทบกระเทือนต่อพระศาสนา จะทำให้ศาสนามัวหมอง หรือมีการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย หรือมีการกระทำที่เป็นการดูหมิ่นพระรัตนตรัยจากผู้ที่ไม่หวังดี ถ้าเป็นเช่นนี้เราไม่ควรวางเฉยนิ่งดูดาย โดยเฉพาะพุทธบริษัทสี่ (พระภิษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา)จะต้องลุกขึ้นมาปกป้องรักษาพระพุทธศาสนาอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันเลยทีเดียว...สาธุครับ

พุทธบริษัทสี่ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว

#4 rattana_s

rattana_s
  • Members
  • 113 posts

Posted 22 April 2008 - 11:27 AM

เรื่องส่วนตัวให้วางอุเบกขา.....ถ้ามีเรื่องที่มากระทบตัวเราก็ให้ทำใจวางอุเบกขา คือวางเฉย ไม่วิตกกังวล อย่าเอาเรื่องเหล่านนั้นมาเป็นอารมณ์ วางใจเป็นกลาง ๆที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด

เรื่องพระศาสนาให้เอาอุเบกขาวาง...ถ้ามีเรื่องมากระทบกระเทือนพระพุทธศาสนา ให้เอาอุเบกขาวางใว้ไกลๆก่อน แล้วก็มาช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาใว้ แม้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ต้องยอม



#5 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1,296 posts
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

Posted 22 April 2008 - 09:49 PM

ขอเสริมทุกท่านอีกนิดนะครับ อุเบกขาในที่นี้หากพูดถึงโดยรวมแล้วหมายถึงการวางใจของเราครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องพระศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางพระศาสนา ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องภายนอกเท่านั้น รวมถึงเรื่องภายในใจนั่นก็คือการทำสมาธิด้วยนั่นเองครับ ซึ่งโดยหลักแท้จริงของวัดธรรมกายนั้น การทำสมาธิจะยึดอุเบกขาเป็นหลัก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะเห็นหรือไม่เห็น ต้องวางใจให้นิ่งเฉยซึ่งก็คืออุเบกขาที่ศูนย์กลางกายตลอด ไม่อยากรู้ ไม่อยากเห็น ไม่อยากเข้าถึง นั่นก็คืออุเบกขาเช่นกันครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#6 Chatkaew

Chatkaew
  • Members
  • 118 posts

Posted 23 April 2008 - 04:13 PM

นอกจากที่ทุกท่านได้แสดงความเห็นมาแล้ว โดยส่วนตัวเห็นว่า วัตถุประสงค์ของคติเตือนใจข้อนี้คือ หากมีผู้ใดหรือสิ่งใดที่มากระทบเรา ให้วางอุเบกขา ไม่ยินดียินร้าย ไม่โต้ตอบ เหมือนแผ่นดินที่ไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจะถูกราดรดด้วยของหอมหรือของเหม็น ของเย็นหรือของร้อน ดังเช่น คุณยายอาจารย์ ที่ท่านไม่เดือดร้อนไม่ว่าจะถูกคนรังเกียจ หรือกลั่นแกล้งอย่างใดก็ตาม ซึ่งจะทำให้ไม่มีวิบากอกุศลกรรมติดตัวไปในเบื้องหน้า (จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่เพียงไม่โต้ตอบอย่างเดียว คุณยายท่านปล่อยวางได้แม้กระทั่งความรู้สึกรับรู้ในสิ่งเหล่านั้น ดังที่ท่านเคยบอกว่า ยายไม่รู้สึกไม่ชอบใครเลย เพราะยายไม่อยากให้มีคนไม่ขอบยายในภพชาติต่อๆ ไป)

แต่ในทางกลับกัน หากเป็นเรื่องที่กระทบกับพระศาสนาแล้ว หากทุกคนวางเฉยไม่ยินดียินร้าย พุทธศาสนาคงถูกผู้ไม่หวังดีหรือผู้ไม่เข้าใจ ทำร้ายจนกระทั่งไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ดังที่คุณยายท่านเคยบอกว่า (เป็นเนื้อความตามที่จำได้นะคะ ไม่ใช่คำพูดคำต่อคำ) เรื่องส่วนตัวใครจะทำอะไรยาย ยายไม่สนใจ แต่ถ้าใครจะมาทำให้งานส่วนรวมของพระศาสนาหรือของหมู่คณะเสียหาย ยายไม่ยอม



#7 สุภาพบุรุษ072

สุภาพบุรุษ072
  • Members
  • 597 posts

Posted 23 April 2008 - 08:15 PM

ใช่ครับ ...สาธุhappy.gif

#8 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3,579 posts

Posted 24 April 2008 - 11:02 AM

QUOTE
วางอุเบกขา ไม่ยินดียินร้าย ไม่โต้ตอบ เหมือนแผ่นดินที่ไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจะถูกราดรดด้วยของหอมหรือของเหม็น ของเย็นหรือของร้อน
- สนับสนุน...หากจะทำความเข้าใจอุเบกขาเพิ่มเติม ควรศึกษาเรื่องมหาพรหมนารทะ

QUOTE
หากเป็นเรื่องที่กระทบหรือเป็นภัยกับพระศาสนาแล้ว หากทุกคนวางเฉยไม่ยินดียินร้าย พุทธศาสนาคงถูกผู้ไม่หวังดีหรือผู้ไม่เข้าใจ ทำร้ายจนกระทั่งไม่สามารถดำรงอยู่ได้
- พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ...เคยอธิษฐานต่อหน้าพระประธาน ณ วัดบางคูเวียง...หากธรรมใดเป็นประโยชน์ต่อพระศาสนา...ขอพระองค์โปรดประทานธรรมนั้นแก่ข้าพระองค์เถิด...หากธรรมใดไม่เกิดประโยชน์ต่อพระศาสนานั้นไซร้...ขอทรงอย่าประทานแก่ข้าพระองค์เลย...ข้าพระองค์จักขอเป็นทนายแก้ต่างให้พระศาสนา

ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#9 คนไทย

คนไทย
  • Members
  • 95 posts

Posted 24 April 2008 - 09:50 PM

ผมขอขอบคุณทุกๆท่านที่ได้มาให้ความรู้นะครับ ผมเพิ่งเข้าใจอย่างแท้จริงตอนนี้เอง สาธุ

#10 Bruce Wayne

Bruce Wayne
  • Members
  • 184 posts

Posted 01 May 2008 - 11:08 AM

เรื่องส่วนตัวให้วางอุเบกขา คือ การปล่อยวาง ไม่หวั่นไหวใน โลกธรรม 8 มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์
เรื่องพระศาสนาให้เอาอุเบกขาวาง คือ ให้รีบทำ ทาน ศีล ภาวนา บุญทุกๆบุญ อย่าปล่อยวาง ครับ