ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ที่คิดดี คิดช่วยโลก
เคยสงสัยว่าทำไมไม่ใช้ถ้วยที่เป็นแบบถ้วยจริงๆ (การใช้วัสดุใช้แล้วทิ้ง มันสิ้นเปลืองทรัพยากรมากๆๆ ถ้วยกระดาษ...ก็มาจากต้นไม้นะคะ) เหตุผลคงเพราะต้องรับภาระในการดูแล และเก็บล้าง คนเป็นหมื่นก็คงล้างไม่ไหว ยิ่งวันงานใหญ่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ...แต่ทุกครั้งที่เห็นก็อดรู้สึกในใจไม่ได้น่ะคะ ก็คิดต่อว่าต่อไปเราจะช่วยแก้ปัญหาได้ยังไง ก็คงต้องพยายามเตรียมข้าวไปทานเอง...แต่กับข้าวก็ต้องใส่ถุงอยู่ดี ถ้าเอาใส่กระปุกมา ถ้าไม่มีรถส่วนตัว ก็ต้องกระเตงแบกสัมภาระอีก คิดไปคิดมาเหมือนวนอยู่ในอ่าง เพราะคิดไปคิดมาถุงพลาสติกก็ยังจำเป็นอยู่ดี(คิดในแง่ของผู้ใช้นะคะ) อย่างไปจ่ายตลาด ก็ถือตะกร้าไป คิดว่าคงไม่ต้องใช้ถุงพลาสติกแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไ่ม่สามารถทำได้ เราไม่สามารถเอาของทุกอย่างที่เราซื้อมาเทกองรวมกันในตะกร้าได้ โดยที่ไม่มีถุงแยกประเภท
นึกถึงโฆษณาหนึ่งจำผลิตภัณฑ์ไม่ได้ เรื่องรณรงค์ช่วยโลกร้อน เค้าซื้อของเสร็จ บอกไม่เอาขวดหรือถุงนี่แหละ แล้วก็เทน้ำใส่้ถุงผ้า แล้วก็เอาหลอดเสียบเข้าไปสำหรับดูด...
เลยทำให้คิดต่อว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ เรามองจุดสำคัญของเรื่องผิดไปหรือเปล่า เราแก้ปัญหาผิดทางไม๊
คิดได้เรื่องนึงนะคะ ถ้านักวิทยาศาสตร์สามารถประดิษฐ์ภาชนะที่สามารถพับเก็บได้ น้ำหนักเบา ก็คงดีไม่น้อย ก็เอาภาชนะนั้นมาใช้แทนถุงพลาสติก พกพาไปไหนหลายๆ อันก็ได้ไม่เกะกะ เวลาจะใช้ก็ล้วงออกมาใส่ของที่ต้องการ ใช้เสร็จก็ล้าง แล้วพับเก็บ และยิ่งถ้าลดหรือเพิ่มขนาดได้เหมือนลูกโป่ง แต่ยังคงรูปร่างและความทนทานเหมือนเดิมก็อาจจะดี แล้วถ้าคิดอย่างคุณสิงโตเกเร ....การทำภาชนะแบบนี้สิ้นเปลืองทรัพยากรไปเท่าไหร่ ในระยะยาวจะคุ้มไหม สุดท้ายคงกลายเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ....เป็นการ์ตูนแนวยุคอนาคต
ส่วนเรื่องเสียงถูงก๊อบแก๊บ ก็เจอบ่อยค่ะ ขนาดไปปฏิบัติธรรม 7 วัน ซึ่งพี่เลี้ยงได้แจ้งไว้ตอนปฐมนิเทศน์แล้ว รวมถึงเรื่องโทรศัพท์ ก็ยังไม่วายมีเสียงเหล่านั้นมากกวนใจ แรกๆ ก็หงุดหงิดพอสมควร หลังๆ..ก็เริ่มขำๆ อย่างคุณทัพพีในหม้อ ...เออหนอ เราคงเคยทำไว้ คราวนี้เลยโดนบ้าง แล้วก็นึกสงสารเค้าต่อ ...จะรู้ไหมนั่นว่าได้ทำกรรมไว้ เคยตั้งใจฟังบ้างไหม เวลาเค้าเตือนน่ะ
เป็นแค่หนึ่งความคิด หนึ่งความเห็นเท่านั้น อ่านแล้วอย่าคิดมาก เดี๋ยวจะปวดหัวตาม ใจไม่ใส นั่งสมาธิไม่ได้