ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

ศูนย์กลางกาย


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 18 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 WB

WB
  • Members
  • 267 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 May 2008 - 11:11 PM

รบกวนถามผู้รู้เรื่อง ศูนย์กลางกาย ครับ ว่า...
ศูนย์กลางกายฐานที่ 1 2 3 4 5 6 และ 7 มีความสำคัญอย่างไรบ้าง ทราบหรือไม่ว่า ทำไม ฐานที่ 1 ต้องอยู่ที่จมูก ฐานที่ 2 ต้องอยู่ที่เบ้าตา ... และอื่นๆ

#2 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 26 May 2008 - 11:58 AM

ตามที่ได้ฟังคุณครูไม่ใหญ่สอนอยู่เป็นระยะๆ โดยเฉพาะตอนนำนั่งสมาธิที่วัดในวันอาทิตย์น่ะครับ

ศูนย์กลางกาย ทั้งเจ็ดฐาน มีความสำคัญ คือ เป็นทางไปเกิดมาเกิดของมนุษย์ครับ เริ่มตั้งแต่ตอนมาเกิดนี่ ดวงจิต ที่เข้าสู่ปากช่องจมูกของบิดา เป็นฐานที่ 1 จากนั้น ก็จะเคลื่อนไปที่ฐานที่ 2 คือ ที่หัวตา แล้วก็เคลื่อนต่อไปยังฐานที่ 3 คือ กลางกั๊กศีรษะ จากนั้นก็เคลื่อนต่อไปฐานที่ 4 คือ เพดานปาก ไปฐานที่ 5 ปากช่องคอ ไปฐานที่ 6 ตรงสะัดือ แล้วมาหยุดอยู่ที่ฐานที่ 7 รอเวลาที่บิดาไปประกอบธาตุธรรมส่วนหยาบกับมารดา

จากนั้นก็จะเคลื่อนออกจากบิดา เข้าสู่กายของมารดา นี่เรียกว่ามาเกิดครับ

ส่วนไปเกิดก็จะทำนองเดียวกัน แต่ย้อนฐานครับ คือ จาก 7 6 5 4 3 2 1

ส่วนศูนย์กลางกายฐานที่ 7 จะพิเศษมากขึ้นไปอีก คือ นอกจากจะเป็นทางไปเกิดมาเกิดแล้ว ยังเป็นทางไปสู่นิพพานอีกด้วยครับ ทางสู่นิพพานไม่ได้อยู่ที่ไหน แต่อยู่ภายในตัวของเราเอง
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#3 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 26 May 2008 - 01:36 PM

อย่างที่พี่หัดฝันกล่าวไว้ หรือเรียกง่ายๆว่า ทางเดินของใจ นั่นเองครับ

และที่ศูนย์กลางกายฐานที่7 นอกเหนือจากที่พี่หัดฝันกล่าวไว้ ศูนย์กลางกายฐานที่7นั้น มีความสำคัญคือ มีแต่ผู้ที่เกิดเป็นมนุษย์เท่านั้นที่จะหาพบ และยังเป็นจุดศูนย์ถ่วงหรือจุดศูนย์กลางมวลรวมของร่างกายเราด้วยครับ หากร่างกายเราผิดปกติมวลรวมที่ศูนย์กลางกายจะไม่มั่นคงและจะทำให้การเคลื่อนไหวของเราไม่สะดวกทันทีครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#4 เป็นหนึ่ง

เป็นหนึ่ง
  • Members
  • 354 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 May 2008 - 03:40 PM

ขอแก้ไขนิดนึงครับ
ทางเดินของใจนั้น มีทั้งหมด ๗ ฐานที่ตั้ง
แต่เราจะเรียกว่า ศูนย์กลางกาย เฉพาะฐานที่ ๖ และ ฐานที่ ๗ เท่านั้นครับ

เวลาไปเกิดมาเกิด ใจจะเคลื่อนไปหยุดตาม ฐานที่ตั้งของใจครับ
I just gotta get out of this prison cell.
Someday I'm gonna be free.

#5 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 26 May 2008 - 04:42 PM

อ้อใช่แล้ว ขอบคุณ คุณเป็นหนึ่งมากครับ ตอนนั้นไม่ทันตรวจสอบการใช้คำให้ละเอียด ขอบคุณที่ช่วยแก้ไขให้ครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#6 หยุดนิ่ง

หยุดนิ่ง
  • Members
  • 60 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 May 2008 - 08:24 PM

สาธุครับ ได้ความรู้อีกแล้ว

#7 กาย072

กาย072
  • Members
  • 31 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 May 2008 - 09:15 PM

ความรู้เน็ดๆครับ

#8 WB

WB
  • Members
  • 267 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 May 2008 - 12:14 AM

รบกวนถามต่อเพราะสงสัยครับ

ทางเดินของใจ ทำไม ฐานที่ 4 ต้องอยู่ตรงเพดานปากครับ อยู่ที่ หน้าอกได้หรือไม่ แล้ฐานที่ 5 ก็เลื่อนลงมาอีก ????

ที่จำเป็นว่า ฐาน 3 ต้องอยู่ที่กลางกั๊กศีรษะ ฐาน 4 ต้องอยุ่เพดานปาก ฐานที่5 ต้องอยู่ที่ปากช่องคอ มีความสำคัญอย่างไรอ่ะครับ ทำไมจึ่งเป็นจุดอื่นในเส้นทางนี้ไม่ได้หรอครับ




#9 DoubleP

DoubleP
  • Members
  • 40 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 May 2008 - 07:12 AM

เป็นหลักวิชาที่ผู้รู้ (หลวงปู่วัดปากน้ำ พระมงคลเทพมุนี สด จันทสโร ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย) ได้ทุ่มเทชีวิตแล้ว ไปค้นพบมาครับ ลองทำดูก่อนพอเห็นเองแล้วก็จะหายสงสัยครับ

เหมือนตอนเราเป็นเด็กๆ อยู่อนุบาล คุณครูท่านสอนอ่านภาษาไทย ก ข ฃ .... เราก็อ่านตามแล้วมาหัดผสมสระ ทำให้เราอ่านหนังสือได้จนถึงทุกวันนี้ ถ้าตอนนั้นเราสงสัย ทำไมไม่เป็น ฃ ข ก .... ก็อาจจะมีผลต่อประสิทธิภาพการอ่านของเรานะครับ



#10 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 27 May 2008 - 08:01 AM

บางคำถามก็ตอบยากน่ะครับ เหมือนกับถามว่า ทำไมท้องฟ้าต้องเป็นสีฟ้า เป็นสีเหลืองไม่ได้หรือ ทำไมใบไม้สีเขียว เป็นสีแดงไม่ได้หรือ ทำไมมนุษย์ต้องมีลูกตาอยู่บนศีรษะ มีลูกตาอยู่ที่หน้าอกไม่ได้หรือ เป็นต้น
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#11 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 27 May 2008 - 11:02 AM

ด้วยปัญญาอันน้อยนิดของผม ผมคิดว่าจุดทางเดินหายใจที่หลวงปู่ท่านกำหนดแต่ละจุดนั้น เป็นจุดที่ง่ายต่อการนึกเป็นลำดับๆน่ะครับ ซึ่งหากสังเกตุดูจะเห็นว่าจุดที่ยากที่สุดในการนึกนั้นคือศูนย์กลางกายฐานที่7 เช่น ปากช่องจมูก อันนี้แทบไม่ต้องเค้นภาพเลยจริงไหมครับก็นึกเอาดวงแก้วไปแปะที่จมูกเลยก็สิ้นเรื่อง เบ้าตาก็แทบที่จะไม่ต้องเค้นเลยก็แค่นึกเอาดวงแก้วไปแปะไว้ที่เบ้าตาจบ กลางกั๊กศรีษะ ก็กลางหัวเรานี่เองอันนี้พอนึกออกนึกซะว่าหัวเราเป็นลูกบอลลูกนึงแล้วเอาดวงแก้วยัดเข้าไปไว้ตรงกลางลูกบอลก็ได้จริงไหมครับ เพดานปากและปากช่องคอนึกไม่ออกก็อ้าปากดูก็ได้จริงไหมครับ เพดานปากอยู่ตรงนี้ๆนะ ปากช่องคอก็อยู่ใกล้ๆกัน ศูนย์กลางกายฐานที่6อืม อยู่ระดับเดียวกับสะดือพอดี อันนี้ถึงนึกไม่ออกเราก็จินตนาการได้ตามที่คุณครูไม่ใหญ่ท่านสอนไว้ คือจินตนาการว่าขึงเส้นเชือก2เส้นนั้นแหละครับ

ทีนี้ลองพิจารณาดูที่คุณWBสงสัยบ้าง เช่นอยู่ที่หน้าอกได้หรือไม่ คุณWBลองจินตนาการดูสักนิดนะครับ ศูนย์กลางของหน้าอกอยู่ตรงไหนมีจุดไหนให้พอสังเกตุได้บ้าง เอ๋ หน้าอกผู้ชายกับหน้าอกผู้หญิงลักษณะก็ไม่เหมือนกันด้วย แล้วศูนย์กลางมันอยู่ตรงไหนล่ะหว่า ผู้หญิงก็คงจะนึกจินตนาการได้ยากจริงไหมครับ

อีกประการหนึ่งคือแต่ละจุดนั้น เป็นทางผ่านของลมหายใจของเรา ซึ่งทำให้ง่ายในการทำสมาธิมากขึ้น เช่น หากเรานึกดวงแก้วให้เคลื่อนไปตามจุดต่างๆไม่ออก เราก็สามารถเปลี่ยนมาใช้เป็นการกำหนดลมหายใจแทนก็ได้ โดยการหายใจเขาให้ลึกๆแล้วสังเกตุดูลมหายใจของเราว่ามันสามารถไปสุดได้ถึงตรงไหนจริงไหมครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#12 สุภาพบุรุษ072

สุภาพบุรุษ072
  • Members
  • 597 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 May 2008 - 01:06 PM

จริงครับ สาธุhappy.gif

#13 usr21276

usr21276
  • Members
  • 9 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 May 2008 - 04:52 PM

สาธุ

#14 New

New
  • Members
  • 95 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 May 2008 - 07:47 PM

นอกจากเป็นทางเดินของ "ใจ" แล้ว
ทั้ง 7 ฐานก็มีความสำคัญ เกี่ยวกับ "ใจ"
ใจ กับ ฐานทั้ง 7 มีความสัมพันธ์กันอย่างไร เป็นเรื่องยาวครับ มีรายละเอียดเยอแยะเลย
แต่ละฐานก็มีรายละเอียดที่สัมพันธ์กับใจต่างกัน ค่อยๆ ศึกษาไปนะครับ

#15 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 28 May 2008 - 07:59 PM

สนใจเรื่องที่ นักเรียนอนุบาล New กล่าวไว้ครับ
QUOTE
นอกจากเป็นทางเดินของ "ใจ" แล้ว
ทั้ง 7 ฐานก็มีความสำคัญ เกี่ยวกับ "ใจ"
ใจ กับ ฐานทั้ง 7 มีความสัมพันธ์กันอย่างไร
เป็นเรื่องยาวครับ มีรายละเอียดเยอแยะเลย
แต่ละฐานก็มีรายละเอียดที่สัมพันธ์กับใจต่างกัน


เคยฟังผ่านๆ มานานแล้ว แต่ไม่ได้จด และทรงจำไว้
ถ้านักเรียนอนุบาล New สะดวก แวะมาขยายความ แบ่งปันกันบ้างนะครับ สาธุ


#16 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 May 2008 - 11:22 AM

คุณNewส่งข้อความส่วนตัวมาก็ได้ครับ

#17 New

New
  • Members
  • 95 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 May 2008 - 08:31 PM

จะเขียนดีไหมหว่า เพราะกลัวจะโดนอุ้ม

ขอเล่าจากความรู้ที่เกิดจาก "สุตตมยปัญญา" นะครับ เอาคร่าวๆ นะครับ อ่านเอาเข้าใจคงต้องหาพระธรรมเทศนาของหลวงปู่มาอ่านนะครับ

ฐานที่ตั้งของใจทั้ง 7 ฐาน มีความสัมพันธ์กันคือ ฐานที่ 7 เป็นส่วนต้นของใจ ส่วนกลางของใจก็คือเนื้อหัวใจ ส่วนปลายของใจก็คือฐานต่างๆ ที่จะเกี่ยวข้องกับระบบการรับรู้ที่เป็น ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ (รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมารมย์)

แต่ถ้าเอาสรุปคร่าวๆ คือ ฐานต่างๆ ก็เกี่ยวกับการรับรู้อารมณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์ เช่น ฐานที่ 1 ก็เกี่ยวกับการได้กลิ่น เป็นต้น

งงมั้ยครับ ผมเองก็ยังงงๆ ไม่แน่ใจว่าเรียบเรียงได้ถูกต้องหรือไม่ เอาเป็นว่า ไปนั่งหลับตาจนได้ศึกษาของจริงกันดีกว่า ผมว่าดีกว่ารู้จำเยอะเลย ที่เขียนตอบนี่ก็ไปเอาที่เคยจดๆ เรียนๆ ไว้มาเขียนน่ะครับ เพราะลืมไปหมดแล้ว

#18 WB

WB
  • Members
  • 267 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 June 2008 - 10:56 PM

ขอบคุณมากมายครับ

#19 usr17048

usr17048
  • Members
  • 2 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 September 2008 - 04:01 PM

WB ถามเหมือนรู้คำตอบอยู่แล้วเลย