ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

สอบถามเรื่องการอุทิศบุญ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr23488

usr23488
  • Members
  • 6 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 May 2008 - 11:47 PM

อยากเรียนถามผู้รู้เรื่องการอุทิศบุญกุศลค่ะ

คือถ้าเรามีร่างกายที่ป่วยคือมีโรคประจำตัวที่มีอาการค่อยข้างหนัก
เวลาเรากรวดน้ำอุทิศบุญเราสามารถที่จะอุทิศให้คู่กรรมคู่เวรของคนอื่นได้มั๊ย
คู่กรรมคู่เวรของเราเราก็อุทิศให้ทุกครั้งนะค่ะ
เพียงแต่เราอยากช่วยเพื่อนที่ป่วยเหมือนกัน
เราจะอุทิศให้คู่กรรมคู่เวรของเพื่อนด้วยแบบเจาะจงชื่อเพื่อนเลยจะได้มั๊ย
และถ้าเราอุทิศให้เค้าจะมีผลอะไรกับเราและเค้ามั๊ยค่ะ เราจะไปทำให้เค้าแย่ลงมั๊ย

คือมีคนเตือนมาว่าตัวเองป่วยอยู่แล้วไม่สามารถที่จะไปช่วยอุทิศให้คนอื่นได้
เราจะแย่และอีกคนก็จะแย่ เหมือนการดึงกันไป ดึงกันมา (บุญแบ่งกันไม่ได้หรอค่ะ)

ก็เลยคิดว่าเราป่วยแล้วเราก็ไม่สามารถที่จะช่วยใครได้เลยหรอ

อยากทราบเรื่องนี้จริงๆค่ะ

#2 Bruce Wayne

Bruce Wayne
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 May 2008 - 12:58 AM

บุญของเราเปรียบเหมือนกองไฟกองหนึ่งซึ่งเราก่อขึ้นมา แล้วมีคนมาขออนุโมทนาบุญ ก็เหมือนกับ
มีคนเอาเทียนมาขอต่อไฟด้วย ต่อไฟไปแล้ว กองไฟก็ไม่ลดลง มีมาขอต่อ1 2 3 10 100
1000 ....จนเป็นล้านคน กองไฟ(บุญ)ก็ไม่ลดลง
เราอุทิศบุญ ก็เหมือนกับเราเอาเทียนที่จุดต่อจากกองไฟเราไปยื่นให้เขา จะเอาเทียนกี่เล่มไปต่อ
กองไฟ(บุญ)ก็ไม่ลดเหมือนกัน
มันสำคัญที่ว่าคนที่ได้รับไปจะเอาไปทำอะไร 1ดับเทียน(ไม่รับบุญ) 2 เอาเทียนไปใช้คนเดียว
3เอาเทียนไปส่องสว่างให้คนอื่นหรือเอาไปจุดต่อให้คนอื่นๆ 4เอาเทียนเพื่อไปจุดเป็นไฟกองใหม่

กองไฟ(บุญ)จะมอดก็เพราะหมดเชื้อ(บุญ)ไฟ ไม่ได้มอดเพราะใครมาต่อเทียน(อนุโมทนา)หรือ ต่อเทียนไปให้ใคร(อุทิศส่วนกุศล)

จริงๆการอุทิศบุญเหมือนกับการเติมเชื้อให้กองไฟเราทำให้เรามีกองไฟ(บุญ)ไว้ใช้นานๆ

ให้ดูหลัก ...บุญกิริยาวัตถุ10
คือ การทำความดีด้วยวิธีการต่างๆ(เรื่องที่จัดว่าเป็นการทำบุญ)10 ประการ
1.ทานมัย ทำบุญด้วยการให้ทรัพย์สิ่งของ
2.สีลมัย ทำบุญด้วยการรักษาศีล
3.ภาวนามัย ทำด้วยการเจริญภาวนา
4.อปจายนมัย ทำด้วยการประพฤติสุภาพอ่อนน้อม
5.ไวยาวัจมัย ทำด้วยการขวนขวายรับใช้ ให้บริการบำเพ็ญประโยชน์
6.ปัตติทานมัย ทำบุญด้วยการให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมในการทำดี(อุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่น
ให้ได้ทั้งคนเป็นคือให้เขาอนุโมทนาบุญที่เราทำ กับให้คนที่ตายไปแล้วด้วยการอุทิศส่วนบุญไปให้)
7.ปัตตานุโมทนามัย ทำด้วยการพลอยยินดีในการทำดีของผู้อื่น(อนุโมทนาบุญของผู้อื่น)
8.ธัมมัสสวนมัย ทำด้วยการฟังธรรม
9.ธัมมเทสนามัย ทำด้วยการสั่งสอนธรรม
10.ทิฏฐชุกัมม์ ทำด้วยการทำความเห็นของตนให้ถูกต้อง เป็นสัมมาทิฏฐิ
จะเห็นได้ว่าเมื่อเราทำบุญทำทานแล้วอุทิศบุญไปให้ เราจะได้บุญเพิ่มขึ้นอีกข้อหนึ่ง คือข้อ6.
เราจะได้บุญทั้งข้อ1.และข้อ6.เลย ทำให้เราได้บุญเพิ่มขึ้น หรือเราอาจทำบุญในข้ออื่นๆ เช่น
ถือศีล8 หรือเจริญภาวนา แล้ว อุทิศบุญไปให้ทั้งคนเป็นคนตาย เราก็จะได้บุญในข้อ6. เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ยิ่งให้ก็ยิ่งได้บุญเพิ่ม


ส่วนคำถามคำตอบให้ไปดูความคิดเห็นที่4ของคุณ หัดฝัน ได้ตอบไปแล้วครับ

#3 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 28 May 2008 - 10:44 AM

ขออธิบายเสริมคุณBruce Wayneสักนิดนะครับ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจยิ่งขึ้น

บุญที่เปรียบเสมือนกองไฟที่คุณBruce Wayneกล่าวไว้ สมมุติว่าคุณเจ้าของกระทู้จุดมันขึ้นเพื่อใช้ผิงไฟระงับความหนาวเย็น แล้วคุณเจ้าของกระทู้ก็เพื่อแผ่ให้เพื่อนๆของคุณเจ้าของกระทู้เข้ามาใช้กองไฟกองนี้ด้วย คิดว่าเพื่อนของคุณเจ้าของกระทู้จะได้รับความอบอุ่นของกองไฟกองนี้เหมือนกันไหมครับ ได้รับถูกต้องใช่ไหมครับ อ่ะทีนี้ถ้ามีคนที่คุณเจ้าของกระทู้ไม่รู้จักมาขอพึ่งพาความอบอุ่นของกองไฟกองนี้บ้างล่ะ เขาจะได้รับความอบอุ่นนี้ด้วยไหม ก็ได้รับเท่ากันถูกต้องไหมครับ แล้วความอบอุ่นที่ได้จากกองไฟกองนี้จะจางลงไหมครับ หากไฟไม่มอดความอบอุ่นของกองไฟก็ไม่มีทางจางลงจริงไหมครับ บุญก็เช่นกัน เราสามารถที่จะเผื่อแผ่ให้เพื่อนมนุษย์ได้อย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าผู้ที่เราจะเผื่อแผ่ให้จะมีกี่คน จะรู้จักหรือไม่รู้จักก็ตามบุญไม่มีทางจางลงเด็ดขาดครับ เปรียบเสมือนฝนที่ตกลงมาทั่วฟ้าให้ความชุ่มชื่นกับต้นไม้ต้นหญ้าได้เท่าเทียบกันฉันใด บุญก็สามารถเผื่อแผ่ให้กับเพื่อนมนุษย์ได้อย่างเท่าเทียมกันฉันนั้นครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#4 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 28 May 2008 - 11:45 AM

อุทิศ ให้คู่เวรของเพื่อนได้ไหม
ตอบว่า ได้ครับ

จะมีผลอะไรหรือไม่
ตอบว่า เราได้บุญจากการอุทิศบุญครับ ส่วนเพื่อนไม่ได้บุญครับ(เพราะเืพื่อนไม่ได้เป็นคนอุทิศบุญนั้น) และคู่เวรเพื่อนก็อาจรับบุญได้ครับ ถ้าเขาอยู่ในภาวะที่พร้อม และเต็มใจรับบุญ

เค้าจะแย่ลงมั้ย
ตอบว่า เพื่อนคุณอาจจะแย่ลงครับ แต่ไม่ได้แย่ลงเพราะเรื่องนี้ แต่แย่ลงตรงที่เพื่อนคุณไม่ยอมสร้างบุญด้วยตัวเองนะสิครับ เพราะโรคภัยไข้เจ็บส่วนใหญ่เกิดจากกรรม(ไม่ดี)ตามทัน วิธีแก้คือ คนป่วยนั้นต้องสร้างบุญ หากคนป่วยนั้นไม่สร้างบุญ แล้วจะเอาบุญที่ไหนไปสู้กรรมล่ะครับ

หรืออีกวิธีหนึ่งที่แนะนำเสริมคือ คุณทำบุญ และอุทิศให้เพื่อนที่ป่วยนั่นแหละ โดยวิธีไปเยี่ยมแล้วบอกเพื่อนว่า เอาบุญมาฝาก เล่ารายละเอียดของบุญที่ทำให้เพื่อน ให้เพื่อนฟัง แล้วให้เพื่อนอนุโมทนา อย่างนี้่ เพื่อนแม้ไม่ได้ทำบุญเอง แต่ก็จะได้บุญจากการอนุโมทนา ก็พอมีกำลังตัดรอนวิบากกรรมได้บ้างครับ

มีคนมาเตือนว่า คนป่วย อย่าไปอุทิศให้คนอื่น เดี๋ยวจะแย่หนักไปอีก
ตอบว่า คนมาเตือนคงดูนิยายมากเกินไปน่ะครับ เลยไม่รู้หลักวิชชาที่ถูกต้อง

คนป่วยไม่สามารถช่วยใครได้เหรอ
ตอบว่า ช่วยได้ครับ โดยคำแนะนำข้างต้นนั่นแหละครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#5 usr23488

usr23488
  • Members
  • 6 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 May 2008 - 09:38 PM

ขอบคุณมากๆเลยค่ะ กระจ่างสุดๆ หายสงสัยกับทุกเรื่อง ขอบคุณค่ะ

จริงๆแล้วเพื่อนที่ป่วยเค้าก็ทำบุญเหมือนกันค่ะ
เพียงแต่อยากจะช่วยเค้าอีกแรงนึง เรามีโรคที่ทางการแพทย์รักษาได้
แต่เพื่อนมีโรคที่ทางการแพทย์รักษาไม่ได้ หาโรคไม่เจอ
ตั้งแต่เค้านั่งสมาธิ ไปวัดทุกวันอาทิตย์ ตอนนี้ร่างกายก็ดีขึ้นมากๆแล้วค่ะ
เวลาเรานั่งสมาธิเราก็เลยอยากจะช่วยอุทิศไปให้เค้าอีกแรงนึงค่ะ

#6 hk_girlza

hk_girlza
  • Members
  • 580 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 May 2008 - 09:46 AM

ถาม ในหมู่เพื่อนสนิทเราเคยล้อเล่นกันว่า ชอบกินอะไรขอให้บอกนะเพื่อน นายตายเมื่อไหร่ เราจะทำบุญกรวดน้ำไปให้ แล้ววันหนึ่งเพื่อนก็จากไปจริงๆ หลวงพ่อคะ เวลาเราใส่บาตร ใส่ของที่ผุ้ตายชอบไปให้กับคนที่ตายแล้ว เขาจะได้รับของนั้นไหมคะ

ตอบ หนูเอ๊ย พระไม่ใช่นายไปรษณีย์นะ จะได้เอาไปส่งให้ใคร เวลาเราใส่บาตร เราใส่ของที่ผู้ตายชอบมาก อุตส่าห์ทำประณีตมาก บุญที่เราได้ก็ประณีตไปตามส่วน ส่วนคนที่ตายแล้วเขาจะได้ไหม ก็ขึ้นอยู่กับว่า เขาอนุโมทนาได้ไหม ถ้าเขาอนุโมทนาได้ เขาก็ได้

จะอุปมาให้ฟัง เช่นปีนี้เราไปทำการค้าได้กำไรมา 10 ล้าน พอรวยแล้วก็นึกถึงพี่ๆน้องๆ ที่เคยตกระกำลำบากกันมา เลยไปซื้อรถเก๋งมา 3 คัน เป็นรถเบนซ์ คันแรกขับไปให้พี่ชายคนโต ปรากฏว่าเขาไปค้าเฮโรอีน เลยติดคุกตลอดชีวิต รถคันนี้พี่ชายคนโตเลยไม่ได้ใช้ พี่สะใภ้กับลูกๆ หรือหลานของเราได้ใช้แทน ส่วนพี่คนโตติดคุกตลอดชีวิตก็อดไป ไม่อยู่ในสภาวะที่จะใช้ได้

รถคันที่ 2 ขับมาให้น้องชายคนที่ 2 ปรากฏว่าเจ้าคนนี้เป็นพวกขับรถซิ่ง ยังขาหักใส่เฝือกอยู่เลย พอเอารถมาให้ก็ขอบคุณแต่ยังขับไม่ได้ เพราะขายังเข้าเฝือกอยู่ ถอดเฝือกเมื่อไหร่จะไปซิ่งต่อ กรณีเช่นนี้ยังใช้ไม่ได้ สูญไหม ไม่สูญ รอให้หายก่อน ถอดเฝือกเมื่อไหร่จึงจะมีสิทธิ์ใช้ได้

คันที่ 3 ขับมาให้น้องชายคนเล็ก พอไปถึงพอดีเขากำลังหัดขับรถ กำลังคล่อง กำลังฟิต พอส่งกุญแจให้ เขาสตาร์ทได้ขับหายไปเลย เพราะเขาอยู่ในสภาพที่ขับได้

เช่นเดียวกัน บุญที่เราทำไป เราทำเราได้แน่ คนอื่นจะได้หรือไม่ ยังไม่แน่ แต่เราได้และเรานึกอุทิศส่วนกุศลให้คนนั้นคนนี้ ถ้าใครสามารถอนุโมทนาได้ เพราะยังตกนรกขุมไม่ลึกก็รับไป แต่ถ้าใครตกนรกลึกๆ อนุโมทนาไม่ได้ ได้แต่ร้องโอยๆ อยู่ ถึงจะกรวดน้ำหมดไปเป็นโอ่งๆ ก็ยังไม่ได้เพราะว่ามันตกนรกลึกเกินไป กรวดน้ำเท่าไหร่ๆ ก็ไม่สามารถจะรับได้

สำหรับบางคนที่ไม่ถึงกับตกนรก แต่เป็นแค่เปรต ทุกข์เหมือนกันแต่น้อยกว่า พอกรวดน้ำปุ๊บ เปรตพวกนี้มันก็รับปั๋บ มันรับได้ แต่บางพวกตกนรกตื้นๆ กำลังจะหมดเวรอยู่เชียว กรวดน้ำให้ก็ยังไม่ได้รับ ต่อเมื่อพ้นเวรจึงจะมารับไปได้ ส่วนคนไหนที่ทำบุญไว้มาก ตายแล้วไปเกิดเป็นเทวดา พอเราอุทิสส่วนกุศลให้ เขาก็รับได้ทันที

อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่าเราเป็นคนทำบุญ คนแรกที่ได้รับ คือเรา ส่วนคนอื่นๆ ถือว่าเป็นผู้อาศัยบุญของเราก็แล้วกันนะ

เมื่อได้รับบุญแล้วก็เป็นเรื่องว่า เขาจะปรารถนาอะไร กำลังบุญก็จะส่งให้ ไม่ใช่ทำบุญด้วย ไก่ทอด คนที่ล่วงลับไปจะได้ไก่ทอดไปกิน ไม่เกี่ยวกันนะ ไม่งั้นช่วงนี้ หมูหันตัวละ 160 บาท พวกเทวดา คงได้กินหมูหันกัน ความจริงไม่ใข่นะ เพราะบุญได้เปลี่ยนเป็นของละเอียดไปแล้ว

ข้อมูลจาก หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา เล่ม 1 ( หลวงพ่อทัตตะชีโว )

#7 usr23719

usr23719
  • Members
  • 15 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 June 2008 - 05:46 PM

สาธุ...ครับ แต่ละท่านสุดยอดจริงๆ