ทำอย่างไรจึงจะมีคนมาใส่บาตรเยอะๆ มาระดมสมองกัน
#1
โพสต์เมื่อ 06 June 2008 - 05:00 PM
พิธีกรรมแห่งความปลื้มปิตินี้จะเกิดขึ้นมิได้เลยหากขาดท่านผู้มีบุญทั้งหลายมาร่วมงานตักบาตร ยิ่งมีผู้มีบุญมาร่วมงานมากเท่าไร กุศลผลบุญก็ยิ่งทับทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น
จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมแสดงความคิดเห็น เสนอแนวทางว่าตามทรรศนะของท่าน หรือตามประสบการณ์ในชุมชนของท่านเองนั้น ทำอย่างไรจึงจะมีผู้มีบุญมาร่วมงานตักบาตรเยอะๆ ประชาสัมพันธ์รูปแบบใดเหมาะสมและชวนคนได้มากที่สุด
ขอกราบอนุโมทนาบุญซึ่งกันและกันที่ร่วมแสดงความคิดเห็น
สาธุ
“ไม่ได้ไม่มี ไม่ดีไม่ได้ ต้องได้และดี ให้ดีที่สุด”
#2
โพสต์เมื่อ 06 June 2008 - 05:48 PM
#3
โพสต์เมื่อ 06 June 2008 - 06:46 PM
ช่อง5 เพราะบางคนไม่ได้ติด DMC เลยไม่ทราบข่าว
อย่างตอนที่ตักบาตร10,000รูป ที่ลำพูน เพื่อนๆก็ไม่ทราบหนูเป็นคนไปบอกเพื่อนๆเองค่ะ
บุญกับบาปเท่านั้นที่บังคับเราอยู่
ถ้าสั่งสมบุญ ชีวิตก็รุ่งเรือง
ถ้าสั่งสมบาป ชีวิตก็ร่วงโรย
#4
โพสต์เมื่อ 06 June 2008 - 07:57 PM
1.แจ้งตามโรงเรียนแจ้งนักเรียน แจ้งผู้ปกครองในบริเวณจังหวัดดังกล่าว
2.สถานที่ราชการสำคัญเช่นอำเภอ ทำป้ายตั้งโต๊ะ ขนาดเห็นชัดระหว่างรอใช้บริการ
3.ห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าขนาดเล็กที่มีลูกค้าเข้ามาเยอะ
4.ประชุม อสม.ประจำหมู่บ้านแจ้งลูกบ้านทราบ
5.มอบของที่ระลึกเหมือนที่หลวงพ่อท่านเคยบอก
กราบอนุโมทนาบุญกับทีมงานทุกคนครับ
#5
โพสต์เมื่อ 06 June 2008 - 09:07 PM
#6
โพสต์เมื่อ 06 June 2008 - 09:27 PM
เพราะถ้าโฆษณาตรงๆมันแพงนะครับ
#7
โพสต์เมื่อ 06 June 2008 - 09:35 PM
ความเห็นส่วนตัว เราว่าต้องดูปัจจัยที่เป็นองค์ประกอบ คือ
1. สถานที่
ต้องอยู่ในย่านชุมชน ต้องกว้างขวางเพียงพอ และเดินทางไปถึงได้สะดวก ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า
และต้องมีที่จอดรถเพียงพอสำหรับผู้ที่นำรถส่วนตัวไป
(ข้อนี้เรามองไปที่.. สนามศุภชลาศัย เลยนะเนี่ย.. แต่ไม่รู้ติดต่อยากหรือเปล่า..)
(อาจขอความร่วมมือจากห้างดังแถวๆนั้นให้บริการที่จอดรถฟรีสำหรับผู้มาใส่บาตรได้ด้วย)
(เราว่าถ้าได้นะ.. บรรยากาศสุดยอดเลย.. และเป็นแบบอย่างที่ดีให้วันรุ่นแถวนั้นเห็นด้วย)
2. วัน เวลา
ควรเป็นวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ (ซึ่งเห็นทำอย่างนั้นอยู่แล้ว)
ทีนี้เรื่องเวลา.. คงต้องดูว่า.. ที่เคยทำๆกันมานั้นเช้าไปไหม ? และควรเป็นเวลาใด ?
(อันนี้เราตอบไม่ได้อ่ะจ๊ะ คงต้องให้ทางทีมงานระดมความคิดดู)
3. ผู้มาร่วมงาน
ถ้าต้องการคนมาเยอะ.. (อย่าเพิ่งมองแง่ร้ายเด้อ) ลองให้ดาราช่วยประชาสัมพันธ์อีกแรงสิ.. เราว่าได้ผล
ลองติดต่อดาราที่แสดงละครฟื้นฟูศีลธรรมโลกนี่แหละก่อนเลย.. แล้วบอกให้ช่วยชักชวนเพื่อนดารามาด้วย
ทีนี้พอได้รายชื่อดาราที่จะมาร่วม+มาช่วยงานแล้ว.. ก็ประชาสัมพันธ์เลย(อันนี้ของหมูๆของทีมงานอยู่แล้ว)
เพียงแต่เราทำสื่อประชาสัมพันธ์โดยให้ดาราเหล่านั้นมาชักชวนด้วย ทั้งใบปลิว, ทาง DMC, และ TV ทุกช่อง,
รวมทั้ง ad ทาง Internet ในหลายๆ Website (ลองติดต่อดูก่อนสิ)
(อันนี้อยู่ที่ Connection แล้ว ถ้าทำได้ก็ดี)
ทำไมให้ดาราช่วย.. เหตุผลก็คืออย่างที่เรารู้ๆกันอยู่ว่า..
ทุกวันนี้สื่อทั้งหลาย, ดารา และ Presenter ทั้งหลาย มีอิทธิพลต่อเยาวชน, คนวัยหนุ่มสาว, คนทำงานแค่ไหน..
(เรามองว่าตัวแปรที่จะทำให้คนมาก หรือไม่มาก.. คือ คน 3 กลุ่มนี้..
มองว่าผู้ใหญ่น่ะ ดึงมาใส่บาตรพระไม่ยาก.. และหากเด็กมา ส่วนมากผู้ใหญ่ก็ต้องมาด้วย)
เราเคยปวดหัวกับสิ่งที่สื่อนำเสนอออกมาทาง TV, วิทยุ, ป้ายโฆษณา, Internet
เคยปวดหัวกับสิ่งที่ดารา และ Presenter เหล่านั้นแสดงออก
ตอนนี้.. เราเพียงย้อนศรกลับไป.. ให้โอกาสเขาเหล่านั้น แสดงออกในด้านบวกบ้าง เพื่อเป็นการตอบแทนสังคม
ก็เท่านั้นเอง.. ซึ่งเรามองว่ามันน่าจะได้ผล..
4. การปรารภเหตุในการจัดงาน
อันนี้เราทำกันปกติอยู่แล้ว.. แต่.. ความไม่สม่ำเสมอของ ad แต่ละตัว คือ..
เดี๋ยวก็ปรารภเหตุทำบุญจังหวัด.. ช่วยพุทธบุตรภาคใต้.. จบ..
บางครั้งก็ปรารภเหตุทำบุญถวายพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา.. พุทธบุตรภาคใต้.. จบ..
บางครั้งก็ปรารภเหตุทำบุญถวายในหลวง.. พุทธบุตรภาคใต้.. ช่วยผู้ประสบภัยในพม่า.. จบ..
ทำไมเราไม่ปรารภเหตุทุกอย่างรวมกันเลยล่ะ.. เราว่าทำได้นะ.. เพราะอะไรน่ะหรือ..
เพราะเรื่องบุญ.. ปรารภเหตุให้ประเทศ.. ถวายกี่พระองค์.. กี่ท่าน.. บุญก็ไม่มีวันหมดอยู่แล้ว..
ส่วนอาหารแห้ง, สิ่งของที่สาธุชนมาถวายนั้น.. แปรผันตามจำนวนคนมา และการปรารภเหตุด้วย.. จริงไหม.. ?
ยิ่งปรารภเหตุเยอะ.. งานนี้ยิ่งมีคุณค่า.. ควรแก่การสนใจและสละเวลาของผู้คน.. ถูกไหม.. ?
ทีนี้ก็ไม่ต้องห่วงล่ะ.. คนเยอะ=>สิ่งของเยอะ=>จะนำไปถวายพุทธบุตร หรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ไหน
ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป..
เราช่วยคิดแค่นี้ก่อนนะ..
แบ่งให้คนอื่นช่วยคิดบ้าง.. เราจะไปเตรียมตัวนั่งสมาธิพร้อม DMC แล้วจ้า..
(ไมเข้กำลังร้อง ยังหนุ่มอยู่เลย ทาง DMC เอิ๊ก.. ฟังกี่ที่อมยิ้มทุกที.. )
เอ่อ.. ความคิดไหนไม่เข้าท่า.. ก็ขออภัยด้วยจ้า..
ผู้ดูแล Web สั่งลบได้ตามสบายเลยจ้า.. สาธุ.. สาธุ..
ก็มันคิดได้แค่นี้อ่ะจ๊ะ..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#8
โพสต์เมื่อ 06 June 2008 - 10:39 PM
และขออนุโมทนาบุญครับ สาธุ สาธุ สาธุ
#9
โพสต์เมื่อ 07 June 2008 - 04:18 AM
1. ใช้วิธีการเชิญชวนเฉพาะกลุ่ม เช่นขอเข้าไปนำเสนอกับกลุ่มข้าราชการ ที่มีการประชุมใหญ่ ก่อนการตักบาตร โดยให้ท่านเหล่านั้นช่วยกระจายข่าวต่อ(เมืองกาญจน์ เชิญท่านผู้ว่ามา ก็รบกวนท่านช่วยเป็น PR ให้)
2. ใช้การแจกใบปลิว แผ่นพับ ส่งตามสถานที่สำคัญให้สาธุชนทราบ
3. เนื่องจากสถานที่ตักอยู่ในเมือง ใช้รถติดเครื่่องขยายเสียง วิ่งประชาสัมพันธ์ก่อน 3-5 วัน (เหมือนรถหาเสียงเลือกตั้ง)
4. ออก PR. ผ่านสื่อวิทยุชุมชน โดยขอความร่วมมือวิทยุชุมชน ให้ช่วยกระจายข่าว วิธ๊นี้ทำก่อนประมาณ 1 สัปดาห์ครับ
อย่างไรก็ตามหากจัดใน กทม. ยุทธศาสตร์ ก็น่าจะไม่หนีกัน คือในส่วนของการ PR อาจจะหากลุมนักเรียน/ ข้าราชการ รวมทั้งดารา ออกช่วย PR ส่วน Mass Media ก็น่าจะเป็นรายการวิทยุ รวมทั้ง TV ในการฝากข่าวประชาสัมพันธ์ครับ
#10
โพสต์เมื่อ 07 June 2008 - 08:49 AM
(ช่วงคุณกัมภู จัดรายการส่วนใหญ่จะแทรกเรื่องธรรมะมาสอนด้วยเขาน่าจะสนับสนุน)
#11
โพสต์เมื่อ 07 June 2008 - 09:46 AM
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#12
โพสต์เมื่อ 07 June 2008 - 10:54 AM
#13
โพสต์เมื่อ 08 June 2008 - 08:44 AM
#14
โพสต์เมื่อ 08 June 2008 - 11:39 AM
#15
โพสต์เมื่อ 09 June 2008 - 08:24 AM
ออกไปทำหน้าที่ยอดกัลฯ บอกข่าวบุญใหญ่ในครั้งนี้ครับ
#16
โพสต์เมื่อ 11 June 2008 - 12:19 PM