ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ติดกาแฟนีุ่ถือว่าผิดศีลข้อ 5 ป่าวครับ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr22944

usr22944
  • Members
  • 63 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 June 2008 - 02:44 PM

ก็ตามหัวข้อเลยครับ คือผมมีเพื่อนที่ติดกาแฟต้องดื่มทุกเช้า ไม่งั้นจะรู้สึกไม่สดชื่น
ก็เลยอยากรู้ว่ามันผิดศีลข้อ 5 รึเปล่า

#2 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 20 June 2008 - 02:53 PM

ครับ มันยังไม่ผิดศีลครับ แต่ก็เพาะนิสัยต้่องคอยแสวงหาความสุขจากสิ่งที่อยู่ภายนอกตัวน่ะครับ อาจทำให้เมื่อถึงคราวจะแสวงหาความสุขภายในตัว ก็จะตัดใจยากนิดนึง เทียบกับคนที่ไม่ได้ติดสุขนอกตัว
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#3 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 June 2008 - 03:34 PM

ไม่ผิดครับ แต่ดื่มมากไปก็ไม่ดีครับ

#4 usr23724

usr23724
  • Members
  • 120 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 June 2008 - 04:40 PM

ไม่ผิดครับ

#5 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 20 June 2008 - 05:59 PM

มีกระทู้เก่าให้ศึกษาเพิ่มเติมจากทัศนะของเพื่อนสมาชิก ครับ

กินกาแฟผิดหรือไม่
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=3181

กาแฟกับหมาก
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=7347




#6 usr22944

usr22944
  • Members
  • 63 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 June 2008 - 12:12 AM

ขอพระคุณทุกท่านที่ช่วยให้ความกระจ่างครับ แล้วก็ขอโทษด้วยครับที่ตั้งกระทู้ซ้ำ
คราวหลังผมจะลองหาดูกระทู้เก่าๆก่อนครับ

#7 ถ่าน

ถ่าน
  • Members
  • 61 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 June 2008 - 01:09 PM

ตามไปอ่านดูแล้ว รู้สึกทึ่งในความคิดเห็นของเพื่อนกัลยาณมิตร
กาแฟ มี คาเฟอีน เป็นสารกระตุ้นสมองและกล้ามเนื้อ ให้ตื่นตัว เหมือนเปิดสวิทช์ใช้งาน
เมื่อดื่มบ่อยเข้าร่างกายก็ชินกับการถูกกระตุ้น หากไม่ดื่ม ก็จะรู้สึกเพลียอยู่ตลอดเวลา
หากจะเลิก ต้องทนรู้สึกเพลียไปทุกวัน จนกว่าร่างกายของบอกว่า ฉันไม่เอาก็ได้
กาแฟออกฤทธิ์แค่สั้นเท่านั้น ประมาณ 6 ชม.


#8 Ray

Ray
  • Members
  • 168 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 June 2008 - 07:47 PM

นี่ อิฉันติดมาก ต้องดื่มทุกเช้า แต่พอนั่งสมาธิมากมาก ดื่มแล้วจะอ้วกเองละไม่น่าเชื่อ เลยต้องเลยไปเอง

#9 swo

swo
  • Meditation Admin
  • 267 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:WDC

โพสต์เมื่อ 23 June 2008 - 01:01 AM

ไม่ติด ๆกินทุกวันยังไม่เห็นติด

#10 Sareochris

Sareochris
  • Members
  • 207 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:-
  • Interests:-

โพสต์เมื่อ 24 June 2008 - 05:35 AM

กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากเมล็ดกาแฟคั่วซึ่งได้จากต้นกาแฟ นิยมดื่มร้อนๆ แต่สามารถดื่มแบบเย็นได้ด้วย บางครั้งนิยมใส่นมหรือครีมลงในกาแฟด้วย ในกาแฟหนึ่งถ้วยมีคาเฟอีนอยู่ประมาณ 80-140 มิลลิกรัม กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกชนิดหนึ่งเช่นเดียวกับชาและน้ำ นอกจากนี้ กาแฟยังเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่มีการส่งออกมากเป็นอันดับที่หกของโลก [1]

เชื่อกันว่ากาแฟถูกค้นพบครั้งแรกโดยเด็กเลี้ยงแพะชาวอาบิสซีเนีย (ประเทศเอธิโอเปียในปัจจุบัน) ชื่อคาลดี จากการสังเกตพบว่า แพะดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นเมื่อกินผลไม้สีแดงของต้นไม้ต้นหนึ่ง ซึ่งก็คือต้นกาแฟนั่นเอง ในช่วงก่อนศตวรรษที่ 16 กาแฟถูกปลูกโดยชาวอาหรับเท่านั้น คำว่ากาแฟ เป็นคำที่มาจากคำว่า "เกาะหฺวะหฺ" ในภาษาอาหรับ แล้วเพี้ยนเป็น กาห์เวห์ ในภาษาตุรกี ก่อนที่จะกลายเป็น คอฟฟี ในภาษาอังกฤษ และกาแฟ ในภาษาไทย ชาวอาหรับหวงแหนพันธุ์กาแฟมาก จึงส่งออกเฉพาะเมล็ดกาแฟที่คั่วสุกแล้วเท่านั้น แต่ในที่สุดเมล็ดกาแฟก็ออกมาสู่โลกกว้าง โดยการลักลอบนำออกมาโดยชาวอินเดียที่ไปแสวงบุญที่เมกกะ และก็ได้แพร่ขยายไปยังชวา เนเธอร์แลนด์ และทั่วยุโรปในที่สุด สำหรับทวีปอเมริกานั้น ต้นกาแฟถูกนำไปอย่างยากลำบาก โดยทหารเรือฝรั่งเศสในต้นศตวรรษที่ 18 ในครั้งแรกนั้น มีต้นกาแฟที่เหลือรอดชีวิตบนเรือมาขึ้นฝั่งอเมริกาได้เพียง 1 ต้น และก็ได้แพร่ขยายเพิ่มขึ้น จนปัจจุบันดินแดนแห่งนี้ ได้กลายเป็นดินแดนที่ปลูกกาแฟมากที่สุดในโลก

ในกาแฟนั้นมีสารคาเฟอีนซึ่งเป็นสารกระตุ้นอยู่ ด้วยเหตุนี้เอง ผู้คนจึงนิยมดื่มในช่วงเช้าและเวลาทำงาน นักเรียนนักศึกษาก็นิยมดื่มเมื่อต้องเตรียมสอบจนดึก เพื่อไม่ให้ความง่วงมารบกวนสมาธิ พนักงานสำนักงานมักมีช่วงเวลา "คอฟฟี่เบรก" สำหรับเติมพลังการทำงาน

งานวิจัยปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงฤทธิ์กระตุ้นของกาแฟที่นอกเหนือไปจากฤทธิ์ของคาเฟอีน ในกาแฟยังมีสารเคมีที่เราไม่รู้จักช่วยเร่งให้ร่างกายสร้างคอร์ติโซน และอะดรีนาลีน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีฤทธิ์กระตุ้น

สำหรับผู้ที่ต้องการดื่มด่ำรสชาติของกาแฟโดยไม่ต้องการการกระตุ้น สามารถดื่มกาแฟพร่องคาเฟอีน (decaffeinated coffee) หรือเรียกสั้นๆ ว่า ดีแคฟ (decaf) กาแฟชนิดนี้ถูกเอาคาเฟอีนส่วนใหญ่ออกไปโดยการใช้น้ำหรือสารละลายทางเคมี เช่น ไตรคลอโรทีลีน (trichloroethylene) นอกจากนี้ยังมี ทิซาน (tisane) ซึ่งมีรสชาติเหมือนกาแฟจริงๆ แต่ไม่มีคาเฟอีน

กาแฟช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตัวระงับความเจ็บปวด โดยเฉพาะในการรักษาไมเกรน และยังสามารถกำจัดโรคหืดในผู้ป่วยบางคนได้ด้วย คุณประโยชน์บางอย่างอาจส่งผลต่อเพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น ตัวอย่างเช่น มันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดการฆ่าตัวตายในผู้หญิง และช่วยป้องกันนิ่วและโรคถุงน้ำดีในผู้ชาย นอกจากนี้มันยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคเบาหวานในทั้งสองเพศ และลดเพียงประมาณ 30% ในผู้หญิง แต่ลดมากกว่า 50% ในผู้ชาย กาแฟยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับแข็งและป้องกันมะเร็งในปลายลำไส้ใหญ่และกระเพาะปัสสาวะ กาแฟสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งในเซลล์ตับ ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของมะเร็งตับ (Inoue, 2005) และสุดท้ายกาแฟช่วยลดโอกาสเกิดโรคหัวใจ ถึงแม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เป็นเพราะมันกำจัดไขมันในเส้นเลือด หรือเพราะว่ามันเป็นมีผลกระตุ้นกันแน่[ต้องการแหล่งอ้างอิง]

ยังมีข้อดีอื่นๆ ที่เป็นเหตุผลให้คนส่วนใหญ่นิยมดื่มกาแฟ เช่น มันช่วยเพิ่มความจำระยะสั้น และเพิ่มไอคิว นอกจากนี้ยังช่วยเปลี่ยนระบบเมตาบอลิซึมให้มีสัดส่วนของลิพิดต่อคาร์โบไฮเดรตที่ถูกเผาผลาญสูงขึ้น ซึ่งช่วยลดอาการล้ากล้ามเนื้อของนักกีฬา

คุณประโยชน์เหล่านี้บางอย่างจะได้ผลเมื่อดื่มเพียงประมาณ 4 ถ้วยต่อวัน (24 ออนซ์) แต่บางอย่างก็ต้องดื่มถึง 6 ถ้วยหรือมากกว่านั้น (32 ออนซ์หรือมากกว่า)

ทีมวิจัยของ University of Bari ประเทศอิตาลี พบว่าการดื่มกาแฟ 1-2 แก้วต่อวัน ช่วยป้องกันโรคหนังตากระตุกได้ และยังช่วยลดอัตราการกระตุกให้ช้าลงได้สำหรับผู้ป่วย[

#11 Bookmark

Bookmark
  • Members
  • 5 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 06:38 PM

ดื่มแล้ว คนอื่นเดือดร้อน ป่าวล่ะครับ
ถ้าเดือดร้อน ก็ผิด