พุทธทำนายเกี่ยวกับภัยพิบัติ
#1
โพสต์เมื่อ 23 June 2008 - 03:25 PM
#2
โพสต์เมื่อ 23 June 2008 - 05:19 PM
#3
โพสต์เมื่อ 23 June 2008 - 06:48 PM
#4
โพสต์เมื่อ 24 June 2008 - 01:48 AM
#5
โพสต์เมื่อ 24 June 2008 - 07:43 AM
#6
โพสต์เมื่อ 24 June 2008 - 08:25 AM
#7
โพสต์เมื่อ 24 June 2008 - 09:16 AM
ฝ่านปี 2549 มาก็ 2 ปี ก็ไม่มีเหตุอันใดดังกล่าว... แต่ถึงมีเหตุ ก็ให้ยึดมั่นในบุญเป็นที่ตั้ง เราก็คงพ้นภัย...
ก็ขออนุโมทนาบุญ กับ จขกท. ที่นำมาบอกเล่า ให้เราไม่ประมาทในบุญครับ
#8
โพสต์เมื่อ 24 June 2008 - 09:59 AM
#10
โพสต์เมื่อ 24 June 2008 - 01:12 PM
#11
โพสต์เมื่อ 24 June 2008 - 01:38 PM
แต่อยากเสนอความเห็นว่า ไม่ควรใช้คำว่าพุทธทำนายนะคะ เพราะสิ่งที่เป็นพุทธทำนาย น่าจะเป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นตามที่พระพุทธองค์ทรงพยากรณ์อย่างไม่ต้องสงสัย แต่สิ่งที่นำมาแสดงไว้นี้ ยังมีความคลาดเคลื่อนและไม่แน่ชัดในหลายเรื่อง อีกทั้งรายละเอียดที่นำมาแสดงประกอบก็เป้นสิ่งที่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สิ่งที่ตรัสจากพระโอษฐ์ของพระพุทธองค์ แต่เป็นการขยายความในภายหลัง ดังนั้นอยากให้ช่วยกันทักท้วงในเรื่องนี้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีเรื่องทำนองนี้ค่อนข้างแพร่หลายค่ะ
#12
โพสต์เมื่อ 24 June 2008 - 05:21 PM
ถ้ามี คำแปลถูกต้องหรือไม่
หรือถ้าไม่มีในพระไตรปิฏกก็ไม่น่าเชื่อถือ...
#13
โพสต์เมื่อ 24 June 2008 - 10:05 PM
http://www.dmc.tv/pr...and_dhamma.html
ถ้าทีู่ถูกต้องตอนนี้ พ.ศ. 2493 แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรต่างๆ ให้ยุ่งยาก แต่เมื่อไรที่ต้องการอ้างอิงกับพุทธประวัติ ก็ต้องเอา พ.ศ. ที่ถูกต้องมาอ้างอิง
เช่นที่บอกว่าเมื่อถึงกึ่งกลางพุทธกาล คือพ.ศ. 2500 ศาสนาจะรุ่งเรืองที่สุด ตอนนี้ก็เหลือเวลาอีก 7 ปี
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#14
โพสต์เมื่อ 24 June 2008 - 10:09 PM
ลองหามาอ้างหน่อยนะครับ
#15
โพสต์เมื่อ 25 June 2008 - 08:13 AM
อย่าเอาความเท็จมาประกาศว่าเป็นพุทธทำนาย....
เว็บมาสเตอร์ควรดูแลกระทู้ประเภทนี้หน่อยนะครับ
#16
โพสต์เมื่อ 25 June 2008 - 12:03 PM
#17
โพสต์เมื่อ 26 June 2008 - 02:21 AM
พุทธทำนายของจริงมี16ข้อ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด ทรงทำนายอย่างกว้างๆ ถึงเวลาในช่วงกึ่งพุทธกาล
และเท่าที่ค้นมา ยังไม่พบว่า พระพุทธองค์ทรงตัรสว่าพระพุทธศาสนาจะมีอายุ 5,000 ปีดังที่อ้าง
เพียงใช้ตัวเลขนี้ยกตัวอย่างให้พระอานนท์เห็นโทษของการให้มีภิกษุนีในพระพุทธศาสนาเท่านั้น
แต่ยังส่งบอกต่อท้ายว่าอายุของพระศาสนาจะอยู่ได้เพียงใดขึ้นอยู่กับพุทธบริษัทสี่
ดังนั้นคำว่ากึ่งพุทธกาลจึงอาจหมายถึง ช่วงเวลาตั้งแต่วันแรกหลังพุทธปรินิพพาน ถึงวันที่ พระศรีอาริยะเมตไตรทรงตรัสรู้ ดังนั้นจะเห็นว่าเหตุการณ์ตามพุทธทำนายจึงเกิดขึ้นตลอดมาตั้งแต่หลังพุทธปรินิพพาน
เช่น เด็กไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ , ชิงสุกก่อนห่าม ,ลูกเนรคุณ ฯลฯ เพราะช่วงเวลาระหว่างนี้เป้นช่วงเวลาที่ผู้คนเริ่มสงสัยในคำสอน คลางแคลงในพระธรรม เพราะไม่มีพระผู้ทรงอภิญญามาโปรดประชาชนและเหตุอื่น อีกนานาประการ
ทำให้ผุ้คนที่ด้อยปัญยาไม่ทันต่อกระแสกิเลสเริ่มเสื่อมความศรัทธาในพระสัทธรรมลงทีละน้อย และหันไปเชื่อกิเลสในตัวมากขึ้น
ภัยพิบัติตามพุทธทำนายทยอยเกิดขึ้นมานานแล้วและจะเริ่มเห็นชัดข้นเรื่อยๆ
ทางแก้มีเพียงวิธีเดียวคือ ต้องให้ทุกๆคนในโลกเห็นพระในตัวเท่านั้น
#18
โพสต์เมื่อ 26 June 2008 - 10:52 AM
ขอบคุณที่ ย้ำเตือนเรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ให้คนที่ลังเลใจอยู่ ได้หมดความลังเลสงสัย
ขอบคุณที่ กระตุ้นเตือนเรื่องความไม่ประมาท ให้คนที่ยังมัวเมาในชีวิตอยู่ ได้ดำเนินชีวิตได้ถูกต้องทำนองคลองธรรม
ขอบคุณที่ สนับสนุนเรื่องอานิสงค์แห่งทาน ศีล สมาธิ ให้คนที่ปฎิบัติดีอยู่แล้ว ได้มีกำลังใจปฎิบัติยิ่งๆขึ้นไปครับ
และก็ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้นี้แทนทุกๆคน ที่มีความหวังดี หวังในธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หวังในความหลุด ความพ้นจากการบ่าวเป็นทาสของพญามาร หวังตามติด-ติดตามเหล่าปูชนีย์จารย์ ไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม พร้อมกันทุกๆคนเลยน่ะครับ สาธุครับ
ไฟล์แนบ
#19
โพสต์เมื่อ 26 June 2008 - 11:11 AM
(๒) แต่ก่อนโจ๋งครึ่มสิทธิชนยุคสุดท้าย(บางคนคงเกิดไม่ทัน) เดี๋ยวนี้เนียนๆตู่พุทธทำนาย
(๓) เขาได้ประโยชน์ เพราะพวกหลงเชื่อจะรีบเข้ารีตล้างบาป เพราะโลกใกล้แตกแล้ว จะทำดีเจือจางบาปก็ไม่ทันแล้ว
(๔) การเอาเรื่องงมงายหลอกคนให้ทำดี ก็เหมือนการใช้ยา STEROID. กล่าวคือ ใช้ปุ๊ปได้ผลปั๊ป แต่ระยะยาวตายหมู่ทั้งโลก
(๕) กรณีนี้ไม่เหมือน "แมวสีใดก็ได้ ขอเพียงจับหนูได้" = " Tylenol หรือ SARA ก็ paracetamol แก้ปวดได้เหมือนกัน"
(๖) มันไม่ใช่มรณะสติ แต่เป็น"งมงายมิจฉาสติ" หรือ " STEROIDสตึ "
(๗) การอนุโมทนาโดยไม่พิจารณา อาจกลายเป็นอนุโมทนาบาป เหมือนพวกที่ไปประท้วง
(๘) สังเกตุให้ดี จะไม่มีการพาดพิงถึงใครในกระทู้เลย จะพูดเป็นหลักการล้วนๆ ซึ่งสามารถนำหลักการไปใช้กับกระทู้อื่นๆหรือเรื่องต่างๆนานาในชีวิตได้
#20
โพสต์เมื่อ 27 June 2008 - 04:10 PM
กาลามสูตร 10 ประการ
อย่าเชื่อโดยการฟังตามๆ กันมา
อย่าเชื่อโดยการเชื่อสืบๆ กันมา
อย่าเชื่อโดยเขาเล่าว่า
อย่าเชื่อโดยอ้างตำรา
อย่าเชื่อโดยนึกเอาเอง
อย่าเชื่อโดยคาดคะเนเอา
อย่าเชื่อโดยนึกตามเอาอาการของเรื่องนั้นๆ
อย่าเชื่อโดยเห็นว่าตรงกับความเห็นของตน
อย่าเชื่อโดยเห็นว่าควรเชื่อได้
อย่าเชื่อโดยเห็นว่าผู้พูดเป็นสมณะ หรือเป็นครูของตน
ดูตัวอย่างได้จากเรื่องนี้ และเรื่องอื่นๆ ที่มักพบเห็นได้บ่อยๆ
อ่านแล้วอาจได้ประโยชน์น้อยนิด ตรงที่ว่าอาจช่วยกระตุ้นเตือนให้เร่งสั่งสมบุญ บารมี
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#21
โพสต์เมื่อ 28 June 2008 - 12:11 PM
ถ้าเป็นภัยพิบัติเยอะๆ ก็็อีกราว 25-60ปี
#22 *ann*
โพสต์เมื่อ 26 March 2011 - 04:26 PM
#23 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 01 April 2011 - 02:04 AM
ก้อขออนุโมทนาครับ
ไม่เจอกับตัวเองไม่รู้หรอก
เมื่อก่อนผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องผี วิญญาณ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
ฟังหูไว้หู แต่พอเจอกับตัวเอง และก็หลายครั้ง ตั้งแต่ผมอายุ 15
ตอนนี้ผมเริ่มทำบุญเยอะขึ้น เข้าวัดเข้าวาบ้าง ไม่มีเวลาก้อทำทาน
ตามกำลังและโอกาส
#24
โพสต์เมื่อ 11 April 2011 - 01:51 PM
#25 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 16 April 2011 - 11:39 PM
#26 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 23 April 2011 - 10:47 AM
#27 *nid2*
โพสต์เมื่อ 11 May 2011 - 10:41 AM
#28 *ARITOUCH*
โพสต์เมื่อ 11 June 2011 - 10:52 PM