ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เพื่อนๆ ว่าจริงไหม


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 cpj

cpj
  • Members
  • 47 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 June 2008 - 04:18 AM

เพื่อนๆ สังเกตไหมครับว่าในสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์บังเกิดขึ้น
เป็นสูตรสำเร็จเลยหรือเปล่าครับ ที่จะต้องมีสิ่งเหล่านี้
1. เป็นยุคสมัยที่ยังไม่มีความเจริญใด ๆ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่าง ๆ จะยังไม่เกิดขึ้น
2. ปาฏิหาริย์ สิ่งมหัศจรรย์ต่าง ๆ การเหาะเหิรเดินอากาศ ถือเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับยุคนั้น นาค ยักษ์ คนธรรพ์ ครุฑ จะมาปรากฏตัวหรือพูดคุยสื่อสารกับมนุษย์ได้เป็นปกติ
3. ผู้คนที่เกิดในแคว้นเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะต้องมีหน้าตาแบบแขกขาว จะไม่มีหน้าตาแบบฝรั่ง แบบจีน หรือแบบนิโกรเด็ดขาด
4. การแต่งตัวของเศรษฐีหรือผู้มีอันจะกินในยุคนั้นจะสวยงาม เลิศหรูอลังการ
5. การตั้งชื่อของผู้คนสมัยนั้น จะออกแนวบาลีสันสกฤต สะกดยาก แต่ฟังเพราะ
6. หมู่คณะหรือนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาอย่างพวกเรา จะไม่ได้อยู่โลกมนุษย์ในยุคนั้น แต่จะอยู่ที่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ หรือภพภูมิอื่น ๆ ตามกำลังบุญ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ไม่มีโอกาสได้พบกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย
นี่เป็นข้อสังเกตของผมเองนะครับ ถ้าใครมีข้อเสนอแนะอย่างไร ช่วยบอกด้วย ขอบคุณครับ



#2 ::: นายพีท ลูกพระธัมฯ :::

::: นายพีท ลูกพระธัมฯ :::
  • Members
  • 706 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:โรงกลั่นอุดมการณ์

โพสต์เมื่อ 25 June 2008 - 08:02 AM

น่าคิดๆ

#3 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 25 June 2008 - 09:49 AM

ถ้าถามว่า ยุคที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้น จะต้องเป็นแต่ยุคโลเทค เสมอไปหรือเปล่า คุณครูไม่ใหญ่เคยบอกว่า ในอดีต (กัปไหนไม่ทราบท่านไม่ได้บอกไว้) ก็เคยมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดในยุคไฮเทค ที่เทคโนโลยีก้าวหน้าล้ำสมัยครับ (ล้ำสมัยยิ่งกว่ายุคปัจจุบันอีกนะครับ)

อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องแก้ความเข้าใจนะครับว่า การเหาะเหินเดินอากาศ ไม่ว่าในสมัยไหนก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดานะครับ สมัยก่อนผู้ที่จะเหาะเหินเดินอากาศได้ จะมีเฉพาะนักบวชที่มีอำนาจสมาธิจิต ผู้ใดเหาะเหินเดินอากาศได้ ผู้คนที่ได้เห็นก็จะตื่นเต้นเลื่อมใสศรัทธาไม่ได้รู้สึกเป็นเรื่องธรรมดาแต่อย่างใด หากการเหาะเป็นเรื่องธรรมดามากอย่างที่เข้าใจ ผู้คนที่เห็นคนเหาะได้ ก็จะไม่สนใจอะไร แต่นี่ตรงข้ามครับ

อีกทั้งการแต่งตัีวของผู้มีอำนาจราชศักดิ์รวมทั้งเศรษฐีไม่ว่ายุคสมัยไหน ก็เลิศหรูอลังการทั้งนั้นนะครับ




ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#4 ลีดเดอร์

ลีดเดอร์
  • Members
  • 416 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 June 2008 - 10:40 AM

ไม่รู้สิ รู้แต่ว่าอยากกลับดุสิตกับหมู่คณะ แหะๆ

#5 เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี

เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี
  • Members
  • 938 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 June 2008 - 11:07 AM

ตอบคำถามสั้นๆนะ..


ไม่จริงจ๊ะ.. happy.gif

มีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายกว่านี้.. และมีที่มาที่ไป.. อย่าด่วนสรุป
ค่อยๆศึกษาไปแล้วจะรู้เอง ขี้เกียจอธิบายจ๊ะ มันยาว.. happy.gif
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..

#6 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 25 June 2008 - 11:50 AM

เป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจมากครับ

ในข้อ ๑ เป็นยุคสมัยที่ยังไม่มีความเจริญใด ๆ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่าง ๆ จะยังไม่เกิดขึ้น

ไม่ทราบครับ

แต่หากพิจารณา เรื่อง ปัญจมหาวิโลกนะในข้อ ๑

๑. กาล คือ อายุกาลของมนุษย์จะต้องอยู่ระหว่าง ๑๐๐ ถึง ๑ แสนปี

ก็ไม่มีรายละเอียดว่า กาลนั้น ๆ ยุคนั้น ๆ ความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีแค่ไหน

และเท่าที่มีบันทึกในพระไตรปิฎก ยุคที่ผ่านการสังคายนามากกว่า ๑o ครั้ง ในช่วง ๒,๕oo ปีมานี้
ในบทที่เกี่ยวกับพุทธวงศ์ ก็ไม่มีเรื่องไฮ-เทค
อาจเป็นเพราะในยุคพุทธกาลนี้ หากระบุรายละเอียดเรื่องไฮ-เทค คนอาจฟังไม่เข้าใจ หรืออย่างใดก็ตาม

โดยส่วนตัว ผมคิดว่า
เป็นไปได้ที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า บางพระองค์ หลายพระองค์
ในจำนวนพระสัพพัญญูพุทธเจ้าในอดีต
ที่มีมากกว่าเมล็ดทรายในท้องมหาสมุทรทั้ง ๔ มีนับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน
ทรงอุบัติในยุคสมัยไฮ-เทค

ทั้งนี้เพราะ เมื่อโลกพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถึงที่สุดแล้ว
จะค้นพบทฤษฎีฟิสิกส์ ใหม่ ๆ อีกกี่ร้อยกี่พัน ทฤษฎี
หรือแม้ศาสตร์ด้านไฮ-เทค จะพัฒนาล้ำหน้ามากแค่ไหน
เช่น ลิฟท์อวกาศ เดินทางข้ามจักรวาล อาศัยในดาวเคราะห์อื่น ฯล

ศาสตร์เหล่านี้ ไม่ทำให้พ้นเกิดแก่ เจ็บตาย
กฎฟิสิกส์ใด ๆ ก็ยังไม่พ้นอาณัติไตรลักษณ์
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็ไม่ทำให้มนุษย์ พ้นวัฏฏะทุกข์
และความรู้ ของบรรดานักฟิสิกส์ นักวิทยาศาสตร์
นั้นล้วนได้มาจาก สุตมยปัญญา จินตมยปัญญา , นิมิตจากเทพ ที่สอดละเอียดมา

อาจจะมากพอในการพัฒนาวัตถุ ประดิษฐ์นวัตกรรมไฮ-เทค
อาจจะมากพอที่จะเข้าใจ กลไก กระบวนการของ จิต อยู่บ้าง

แต่ไม่มากพอที่จะพัฒนาจิตใจ ให้พ้นวัฏฏะทุกข์ หรอกครับ

อีกทั้งวิทยาการไฮ-เทค ไม่สามารถเติมเต็ม ในตัณหาของปุถุชน ในมนุษยโลก
แม้กระทั่ง ชาวสวรรค์้ในโลกทิพย์ ก็ยังไม่เต็มอิ่ม ในทิพย์สุข ฉันใด

สุดท้ายมนุษย์ในยุคไฮ-เทค ก็ต้องหันมาแสวงหา ต้องศึกษาศาสตร์ด้าน จิต มาพัฒนาเรื่อง จิต ใจ ฉันนั้น
โดยอาศัยความรู้ที่ได้มาจากสัพพัญญุตญาณ ญาณทัสสนะจาก ภาวนามยปัญญา
ซึ่ง อยู่ที่พุทธศาสตร์ ครับ

สรุปทัศนะส่วนตัวในเรื่องนี้ว่า

กาลที่เหมาะสมกับการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จ หรือมีข้อจำกัดว่า ต้องเป็นยุคโล-เทค แต่อย่างใดครับ

ถ้ายุคนั้น ๆ อยู่ในกฎ ปัญจะมหาวิโลกนะ ข้อ ๑
อายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์อยู่ระหว่าง ๑๐๐ ถึง ๑ แสนปี
แม้จะเป็นยุคไฮ-เทค ก็เป็นไปได้ที่จะมี
พระบรมนิตยโพธิสัตว์มาอุบัติตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ครับ


ที่จริงถ้าท่านใด สามารถสนทนากับบรรดา มหาพรหม ที่มีอายุขัยหลายหมื่นมหากัป
ก็น่าจะพอได้ข้อมูล เรื่อง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเคยอุบัติในยุคไฮ-เทค บ้างหรือไม่ นะครับ

#7 สุภาพบุรุษ072

สุภาพบุรุษ072
  • Members
  • 597 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 June 2008 - 01:05 PM

ตอบข้อ6 หมู่คณะเราจะลงมาเกิดในช่วงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันปรินิพพานแล้ว แต่ถ้าใครจะตั้งความปรารถนาพบพระพุทธเจ้าก็ได้ครับ อาจจะอยู่ดุสิตบุรีเหมือนกันแต่ไม่ใช่วงบุญพิเศษ เพราะวงบุญพิเศษมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม ฝ่ายปราบ ส่วนพระสัมมาสัมพุธิเจ้าฝ่ายโปรด และคนที่ได้เกิดพบพระพุทธเจ้า ต้องมีบุพกรรมสืบเนื่องกันมาแต่อดีตชาติครับ ถึงจะได้เจอกันได้ ซึ่งทุกสิ่งที่อย่างล้วนย่อมมีเหตุ เราเกิดมาในยุคนี้เจอหมู่คณะก็มีเหตุในอดีต ที่เราเคยเป็นหมู่คณะกัน จึงได้มาเจอกันอีก..และสั่งสมบุญบารมี พักกลางทางที่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ ได้เวลาก็จะลงมาเกิดสร้างบารมีในโลกมนุษย์อีกในช่วงพุทธันดรหน้า ซึ้งเป็นกัปสุดท้ายของภัทรกัปนี้ แต่จะหลังจากพุทธปรินิพพานแล้ว คล้ายๆชาตินี้อ่ะครับhappy.gif

#8 homer324

homer324
  • Members
  • 522 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 June 2008 - 06:24 PM

อ่านกระทู้นี้ ทำให้มีกำลังใจในการปฎิบัติสมาธิขึ้นอีกมาก
...........................
นั่งสมาธิ ให้นิ่งกว่าเดิม
นั่งสมาธิ ให้นุ่มกว่าเดิม
นั่งสมาธิ ให้แน่นกว่าเดิม
และนั่งให้นานกว่าเดิม
นานกระทั่ง ได้ฌาณพอจะ back to the past หรือ future ได้
เมื่อนั้นก็คงจะมานั่งตอบให้หายสงสัยได้น่ะครับ
thanks to เจ้าของกระทู้ที่ทำให้ผมเกิดความอยากนั่งน่ะครับ

ไฟล์แนบ



#9 usr20907

usr20907
  • Members
  • 18 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 June 2008 - 02:48 PM

เหมือนกันครับเกิดกำลังใจในการปฏิบัติธรรมดีมากเลยครับ

#10 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 June 2008 - 06:52 PM

ก็น่าจะเป็นไปในทำนองนั้น แต่ก็คงจะไม่เสมอไป

#11 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 June 2008 - 10:12 PM

(๑) บางพุทธกาลมีพระเจ้าจักรพรรดิ มีจักรแก้ว,ต้นกัลปพฤกษ์, ซึ่งอธิษฐานจิตขอได้ทุกสิ่ง, น่าจะเป็น super machine ที่วิทยาการสูง