ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เราเป็นอะไรเนี่ย.. ช่วยตอบที.. ?


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 44 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี

เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี
  • Members
  • 938 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 July 2008 - 10:18 PM

คือ เราเพิ่งลาออกมาจากบริษัทเมื่อ 1 มิย. ที่ผ่านมา
เพราะปัญหาเรื่องคน คือ เจ้าของบริษัทไม่ซื่อต่อภรรยาซึ่งเป็นอาจารย์สอนเราตอนเรียนโท
และยังแจกเงินให้สาวๆลูกน้องเรา ซึ่งใครๆก็รู้ว่าคืออะไร.. แต่ไม่มีใครเล่นด้วย
มากกว่านั้น เราเหนื่อยที่จะต้องมาคอยสร้างภาพพจน์ที่ดีให้เขาดูดีในสายตาลูกน้องเรา
ในเมื่อเขาทำตัวไม่ดีแบบนี้ และทำให้น้องๆเรา(เราคุมหมดทั้งบริษัท)เสื่อมศรัทธากับองค์กร
มากกว่านั้นคือ เขาชอบพูดถึงวัดในแง่ร้าย ซึ่งเรารับไม่ได้เลย..
และยังชอบพูดให้เราเลิกถือศีล ๘ อีก ซึ่งเรารำคาญมาก.. แล้วหลังๆยังชอบหาเรื่องเราอีก..

สถานการณ์ตอนนี้..

- ตังค์เก็บไม่เหลือแล้ว.. (อายจัง)
- เราต้องจ่ายหนี้ค่าบ้านอีก 2 ล้าน เดือนละ 20,000 บาท
- จ่ายหนี้บัตรเครดิตอีกร่วมแสนบาท จ่ายเดือนละประมาณ หมื่นเศษๆ
- คุณพ่อเกษียณนานแล้ว ตังค์เก็บแทบไม่เหลือแล้ว
- คุณแม่ไม่มีรายได้อื่นใด นอกจากที่ลูกๆให้
- พี่ชายบอก.. ไม่มีเงินช่วยแล้วนะ.. เพราะเขาก็มีภาระลูกเมีย ซึ่งน่าเห็นใจ

- เราอยากขายบ้านทิ้ง.. เอาเงินมาใช้หนี้.. แล้วเริ่มต้นใหม่กับเงินที่เหลือ (ซึ่งน่าจะราวๆล้านบาท)
(ใจอยากถวายหล่อหลวงปู่ทองคำให้หมดเลย.. แล้วไปอยู่วัด.. แต่วัดคงไม่รับง่ะ..)
แต่.. ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ และพี่ชาย.. ไม่มีใครเห็นด้วยและไม่อยากให้ขายเลย.. แต่ก็ไม่มีตังค์ช่วย
แล้วเราจะทำไงเนี่ย.. เอิ๊ก..

- เรารับงาน Website มาทำที่บ้าน ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะได้กี่ตังค์.. เราไม่กล้าพูด
เพราะแม้จะเพิ่งรู้จักพี่เขา แต่ก็เคารพรักและเกรงใจอย่างมาก (ก็คนมาวัดนี่นา)
(ถ้าสะดวกเรื่องเงินจะทำให้ฟรีเลยนะเนี่ย)

- เราไม่สมัครงานแล้ว เพราะพิสูจน์มาแล้วว่า หากจะถือศีล ๘ แบบเน้นๆ ไม่เหมาะจะทำงานบริษัท
เพราะสิ่งสกปรกข้างนอกนั้น.. มันเยอะมาก.. แต่ละวันต้องกลับมานั่งสมาธิอย่างยาวนาน
เพื่อชำระล้างใจ.. ไม่งั้นจะรู้สึกไม่ดีเลย.. แล้วก็จะพักผ่อนไม่พอด้วย.. อีกอย่างคือ พออายุเริ่มมาก
โอกาสได้งานก็น้อยลงเป็นธรรมดา ถึงจะเก่งยังไงก็เถอะ.. ควรหาอะไรทำเป็นของตัวเองจะดีที่สุด
(แต่ก็ยังไปไม่ถึงไหน)

- คุณแม่มานอนที่บ้าน บ่นให้ฟังทุกวัน ท่านว่า ทำไมเราดูใจเย็นจังเลย..


เราไม่มีตังค์เก็บเหลือเลย.. ยกเว้นตังค์ที่หยอดมณีทวีบุญ ไม่กี่ร้อย.. เพราะ..

- ปกติเราต้องจ่ายหนี้มหาศาลในแต่ละเดือนทั้งบ้าน, บัตรเครดิต(ที่มันเยอะ เพราะที่ผ่านมา
เราเอาหลานสาว(ลูกพี่ชายคนโต คนละพ่อกับเรา)มาเลี้ยงเหมือนลูกสาว (เรียนอยู่ปี 2 แล้ว)
(เพราะพี่ชายต่างบิดา เขาลำบากมากๆ เราอยากช่วย) ค่าใช้จ่ายเลยเพียบบบ)

- อีกอย่างคือ เราจะบ้าทำบุญมาก เดือนละประมาณ 6,000-7,000 บาทตลอด ทั้งที่หนี้สินบานตะไท..
ช่วงพิเศษก็ 15,000-20,000 บาท.. ต้องรูดบัตรมาทำบุญก็ยอมด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง..
เดือนที่ผ่านมาตังค์ไม่พอ เลยต้องหยุดทำบุญ "บูชาข้าวพระตลอดชีวิต" ที่ทำมาเกือบปีแล้ว..
และตั้งใจจะทำตลอดชีวิตจริงๆ.. (แต่ในที่สุด ก็ต้องยอมจำนน.. แต่เราจะกลับมาใหม่แน่ๆ)
แต่ยังเค้นเงินมาทำหนังสือ "อยู่ในบุญ" ที่เป็นเจ้าภาพทุกเดือน.. และคิดว่าจะเป็นไปตลอดชีวิต
เพราะอยากให้เป็นจุดเปลี่ยนของคนอีกหลายคนบนโลก

ทุกวันนี้เราไม่รู้จะทำอย่างไรจึงจะดีที่สุด..
แต่สิ่งที่เรารู้อยู่อย่างเดียวคือ.. เรายังทำทาน รักษาศีล ๘ และนั่งสมาธิทุกวันทุกคืน
แม้จะมีตังค์ทำทานน้อยมากแทบไม่มี (ปลายเดือนที่แล้วยังเค้นมาเลี้ยงเพลพระที่วัด 200 บาทเลย)

ใครจะมาห้าม หรือมาหยุด ไม่ให้เราทำทาน, รักษาศีล ๘, นั่งสมาธิ เราจะไม่ยอมเด็ดขาด..
ส่วนมากก็คุณแม่นี่แหละ เราก็เข้าใจนะว่าท่านเป็นห่วง
ท่านจะเป็นห่วงเราเรื่องปาก-ท้อง-ที่อยู่อาศัย.. ประมาณนี้..
แต่เรากลับดูเหมือนไม่สนใจอะไรในสิ่งที่เป็นอยู่ในชาตินี้เลย..
แต่เราก็ตั้งใจทำงานที่รับมานะ.. ทำทั้งวันถึงกลางคืนเลย..
เราไม่รู้จะทำอย่างไรให้ดีไปกว่านี้แล้ว.. จึงเกิดกระทู้นี้ขึ้นมา..


คำถามที่คาใจ..
1. ตกลงอย่างเรานี่เค้าเรียกว่าใจเย็นหรือ.. ?
2. เราผิดจากคนปกติหรือเปล่า.. ?
3. ทำไมเราเป็นแบบนี้.. ?
4. คนอื่นที่เจอแบบนี้เขาทำยังไงกันหรือ.. ?
5. แล้วเราควรทำอย่างไร.. ?

ที่ถามเพราะหลังจากฟังคุณแม่บ่นบ่อยๆ.. เราเริ่มไม่แน่ใจ และสับสนกับตัวเอง..
เลยต้องถามใครสักคน(ที่มีธรรมมะในหัวใจ)ให้หายข้องใจ..

กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ และทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยม..
และกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ และทุกท่านที่ตอบคำถามให้เราหายข้องใจจ้า..
ขอให้ธรรมมะสว่างไสวโชติช่วง.. สาธุ.. สาธุ.. สาธุ.. happy.gif
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..

#2 บุญเลี้ยง

บุญเลี้ยง
  • Members
  • 267 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 July 2008 - 10:55 PM

ลองตั้งสมการความสุขของตัวเองดูสิคะ
ทำทุกอย่างด้วยความสมดุลย์ของชีวิต
เมื่อเวลาผ่านไป หลาย ๆ อย่างจะลงตัวด้วยตัวเอง



เป็นกำลังใจให้จ้ะ

#3 บุญเลี้ยง

บุญเลี้ยง
  • Members
  • 267 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 July 2008 - 11:13 PM

ขอลองตอบดูนะ ไม่รู้ว่าจะถูกหรือเปล่า แต่ก็เป็นความคิดเห็นนึงเท่านั้น
1. ใจเย็น ไม่ใช่ ปล่อยวาง ปล่อยวาง ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย
2. ก็ไม่คิดว่าผิด แค่บางครั้งไม่สมดุลย์ อยู่กับปัจจุบันและทำให้ดีที่สุดทุกวัน เพราะวันนี้เป็นอดีตของพรุ่งนี้ เป็นอนาคต ของ เมื่อวานนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับวันนี้
3. มุ่งมั่นเกินไป (มั้ง)
4. คนอื่น แบบไหนล่ะ เข้าใจเรื่องบุญหรือเปล่า ? ต้องตั้งสติดี ๆ แล้วค่อย ๆ ดูทีละเรื่อง บางปัญหาคลี่คลายด้วยตัวเองได้ บางปัญหาก็ต้องมีเวลาของมัน บางปัญหาก็แก้ไม่ได้ ไปอ่านต่อ ใน AT LAST YOU WIN นะจ๊ะ
5. อ่านคำตอบข้อ 1 - 4

#4 เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี

เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี
  • Members
  • 938 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 July 2008 - 11:24 PM

ดีใจจังที่มีคนตอบ ปลื้มมม.. happy.gif
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอ่านอีกทีจ้า.. happy.gif
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..

#5 tnawut

tnawut
  • Moderators
  • 2398 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Laksi
  • Interests:Internet, Computer, Electronic, Security, Merit, Meditation, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, ทำบุญ, ปล่อยปลา, บูชาเจดีย์, ฝันในฝัน, DOU, หมู่บ้านปฏิบัติธรรม, บวช, บรรพชา, Web, CU, Chula

โพสต์เมื่อ 02 July 2008 - 11:44 PM

ก่อนอื่นขออนุโมทนาบุญกับจิตอันเป็นกุศล...

แต่เคยได้ยิน หลวงพ่อท่านสอนสั่ง ทำบุญให้เต็มที่เต็มกำลัง แต่อย่าให้เดือดร้อนตัว...
ทุกวันนี้ จึงต้องพยายามทำให้สมดุล ไม่ให้คนรอบข้างเขาว่าได้.. กลัวว่าไม่เข้าใจแล้วจะเข้าใจผิด

วันนี้ก็พยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และพยายามทำให้คนรอบข้างเข้า... ซักวันหนึ่งจะได้หมดกังวล ทำบุญได้อย่างสบายใจ

เอาใจช่วย เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี นะครับ

#6 กุ้งรพ.หัวหิน

กุ้งรพ.หัวหิน
  • Members
  • 201 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 08:48 AM

สาธุกับความดีทั้งหมดที่ทำนะคะ คุณเด็กหน้าใสไม่ผิดปกติแต่เป็นคนดีมากที่น่ารักคนนึงในลูกๆหลวงพ่อนะคะ
อิอิ ฟังดูแล้วคุณคงมีวิบาก(เก่า)เหมือนกัน คิดว่างี้ค่ะ
1.ต้องไปทำงานบริษัท(ซักแห่ง)เงินถึงจะพอใช้นะคะ ฟังดูคุณเด็กอนุบาลหน้าใส น่าจะเก่งมาก น่าจะหาที่ทำงานใหม่ได้ แต่พอเข้าไปแล้วอยากให้ทำแบบหลวงพ่อน่ะค่ะ ที่ท่านดูทุกอย่างแต่ไม่รับ(เช่นหลวงพ่อเห็นนรกสวรรค์ เห็นกรรมแต่คือสักแต่ว่าเห็น) งงมั้ยคะ สิ่งแวดล้อมรอบตัวเราในที่ทำงานจะสกปรกทั้งนั้น (กะลังโดนเหมือนกัน หุหุ) ต้องสักแต่ว่าเห็น และคุณเป็นคนดีน่ารักอยู่แล้วก็เลือก ว่าอันนี้เราไม่รับ สักแต่ว่ามอง ไม่พูดไม่คิด และเลือกทำเลือกพูดแต่ที่ดี(หมายถึงว่าถ้าพูดแล้วเค้าไม่ทำไม่สนเราก็อย่าพูดน่ะค่ะ) ทำเท่าที่ทำได้ไม่ต้องคาดหวังว่าเค้าจะไม่เลว อิอิ (กรรมของเค้าก็ต้องแล้วแต่เค้าเราช่วยได้บ้างเท่านั้นนะคะ)
2.ใจเย็นถูกแล้วค่ะ เพียงแต่คุณแม่ท่านห่วงมาก คิดว่าลูกไม่พยายามคิดหนักเท่าที่ควร บอกท่านไปว่ากำลังพยายามคิดอยู่ครับ คุณแม่รอนิดนึงนะครับ
3.ถ้าจำเป็นสุดขีดต้องไปประนอมหนี้และขายบ้านจะรับไหวหรือคะ แต่เมื่อบุญส่งผลบ้านและทรัพย์ต่างๆ จะคืนกลับมาแน่นอน ขอเป็นกำลังใจให้คนดีลูกหลวงพ่อนะคะ ขอให้ผ่านพ้นวิกฤติไปด้วยดีที่สุดนะคะ
4.ลองพยายามนำเงินสักเล็กน้อยที่พอหาได้ หรือแบ่งค่าจ้างทำเว็บไซท์ มาทำบุญเข้ากองทุนหลวงปู่ทองคำสิคะ แล้วกราบอธิษฐานขอให้หลวงปู่เมตตาช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤติ ทำมาแล้วค่ะ หลวงปู่จะช่วย รับรองว่าจะตะลึง จิงๆ
ขอร่วมกราบคุณพระศรีรัตนตรัยและพระเดชพระคุณหลวงปู่ทรงเมตตาช่วยคุณเด็กอนุบาลหน้าใสใจดี ผ่านทุกสิ่งไปด้วยดีที่สุด ได้ผลแห่งความดีทุกอย่างนะคะ สาธุค่ะ

#7 Noob

Noob
  • Members
  • 59 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 08:48 AM

โอ้...เหมือนผมตอนนี้เลย ลำพังงานที่ทำก็ไม่ได้หนักมาก สบายๆ เงินดี สวัสดิการดี แต่เบื่อคน เบื่อเพื่อนร่วมงาน เบื่อเจ้านาย วันๆคอยแต่แดกดัน ถากถาง พยายามปล่อยวางแต่ก็ได้เป็นพักๆ ไม่รู้ไปจองเวรกันมาแต่ชาติปางไหน ถึงไม่ยอมเลิกรา ยิ่งเราเงียบยิ่งได้ใจ แต่พอสวนกลับไปแรงๆก็เงียบไปพักหนึ่ง เบื่อแสนเบื่ออยากจะออกใจจะงาด ไปอยู่ที่สงบๆ ไม่วุ่นวาย ได้สวดมนต์ใส่บาตรนั่งสมาธิ แต่ก็มีภาระ มีหนี้ และต้องเลี้ยงดูแม่เหมือนกัน ตอนนี้ก็ได้แต่ ทน ทน ทน และ ทำบุญๆๆ นั่งสมาธิช่วย ก็ทำให้สบายใจได้บ้าง...เป็นกำลังใจให้นะครับ พยายามนึกถึงบุญในกลางกายบ่อยๆ เดี๋ยวก็น่าจะมีช่องทางให้ได้งาน ได้เงิน นะครับ

#8 เด็กน้อย...หัดเดิน

เด็กน้อย...หัดเดิน
  • Members
  • 237 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 08:59 AM

โอ้โห
อนุโมทนาบุญกับ ท่าน จขกท. นะคะ
คุณเป็นคนมีจิตใจแน่วแน่และมุ่งมั่นมากค่ะ

ถือศีล 8 ได้ ทั้งที่ต้องทำงานร่วมกับคนมากมายทั้งบริษัท ถือว่า"เยี่ยมยอด" มากแล้วล่ะค่ะ
เพราะลำพังแค่ศีล 5 ก็ลำบากแล้วนะคะ

ข้อคิดเห็นส่วนตัวนะคะ...............
-การทำบุญ ไม่ควรที่จะให้เดือดร้อน ใคร ทั้งตัวเอง และคนอื่น
เพราะไม่อย่างนั้นก็ไม่ได้บุญเต็มที่ค่ะ
-ไม่เห็นด้วยเลยค่ะ ที่ต้องไปรูดบัตรเครดิต(สร้างหนี้ให้ตัวเอง)เพื่อมาทำบุญ
ทำอย่างนี้คนนอกที่ไม่เข้าใจวัดก็ยิ่งมองวัดไปในทางเสื่อมมากขึ้นกว่าเดิมอีก



ขอโทษนะคะ ถ้าความคิดเห็นนี้อาจจะทำให้ไม่ชอบ


#9 crystal.mind

crystal.mind
  • Members
  • 280 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:BKK
  • Interests:Book Music

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 09:33 AM

แนะนำว่า "ให้หาทางอยู่กับปัญหา -- มิใช่หนีปัญหา"

คนทั่วไปในยุด "อายุขัย หมุนลง" จะหาคนดีมีศีล ก็ยากเต็มที (เฮ้อ)

แนะนำว่า "หางานทำเถอะค่ะ โพสลงในเว็บหางานต่างๆ" + "หาอาชีพเสริม"
(วันก่อนเห็นหนังสือเล่มหนึ่ง ที่หารายได้จาก การ นำโฆษณาของ กูเกิ้ล มาลงในหน้าเว็บ ชื่อหนังสือ " AD... ? (จำไม่ได้) " เพิ่งซื้อมาวันก่อน

ถ้าสนใจเดี่ยวจะรีบอ่านแล้วส่งไปให้นะจ๊ะ
จะได้ทำงานกับบ้านได้ สบายใจดี

แต่ถ้าเลือกไม่ได้ ก้ยึดหลัก อิทธบาทสี่นะจ๊ะ
เมตตา
กรุณา
มุทิตา
อุเบกขา

ถ้าวางเฉยได้ ใจจะไม่สะเทือน
คนทุกคน มีกรรมเป็นของตน
QUOTE
เจ้าของบริษัทไม่ซื่อต่อภรรยาซึ่งเป็นอาจารย์สอนเราตอนเรียนโท

ก็กำลังใช้กรรมของเธอ อยู่เช่นกัน

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังไม่สามารถ โปรดสัตว์ ได้ทุกคน นะจ๊ะ

เป็นกำลังใจ ให้คนดี เช่นคุณนะคะ




" เกิดมาเพื่อ ทำพระนิพพานให้แจ้ง + แสวงบุญ + สร้างบารมีค่ะ "
"รักษา อารมณ์ดี + อารมณ์เดียว + อารมณ์สบาย ทั้งวัน "


#10 usr23268

usr23268
  • Members
  • 81 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 09:46 AM

อดและทนครับ หลวงพ่อบอก รอเวลาบุญส่งผลครับ จะหนีขึ้นต้นไม้ก็หนีไม่พ้นครับ ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอครับ แต่แนะนำว่าให้หางานทำนะครับ จะได้มีรายได้ครับ

#11 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 10:18 AM

มันก้อแค่วิบากกรรมเก่า มารุมส่งผล เท่านั้นเองแหล่ะค่ะ

ทำใจใสๆ ไว้ นึกถึงบุญที่ทำไป

ทั้งนี้ เหตุทีเกิดเนี่ย มันก็ไม่ได้เกิดจากใคร มันเกิดเพราะตัวเราเองนั่นแหล่ะค่ะ โทษใครมะได้หรอก
"ความพอเพียง" ก่อให้เกิดสุข
ถามตัวเองสิคะว่า ที่ผ่านมา เรา "พอเพียง" รึป่าว เท่าที่เล่าให้ฟังมานี่ ก็รู้ว่า "ไม่" พอออกจากงาน ก็เลยหนี้บาน อย่างที่เห็น

เรื่องงานออฟฟิสเนี่ยนะคะ ไม่มี ไม่ตายค่ะ ขอบอกได้เลย เต็มปาก

ทำงานที่บ้าน เขาก็รวยกันมานักต่อนักแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้น เกิดจาก
1. ปัญญา
2. บุญ

สองอย่างนี้เท่านั้นแหล่ะค่ะ อ้อ ขอบวก ธรรมะเล็กน้อย ไว้เป็นข้อคิดเพิ่มเติมหน่อยนะคะ

1. ไม่สะสมอารมณ์
2. ไม่สะสมสิ่งของ

ตอนนี้คุณใจเย็น ทำถูกแล้ว ตรงตามข้อ 1 เพราะถึงจะฟูมฟาย เครียด เบื่อ กลุ้ม มันก้อไม่ได้ทำให้ปัญหาหาย มีแต่กลับจะยิ่งเพิ่ม สู้ใจนิ่งๆ เดี๋ยวไอเดียดีๆ จะเกิด เองค่ะ มีเยอะแยะ บุคคลเคยล้มละลาย กลับพลิกเอาวิกฤต มาเป็นโอกาส คนจน อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นรวย เพียงเพราะเดินไปเห็น ตลับหมึกที่เขาทิ้งแล้ว ทุกวันนี้กลายเป็นเศรษฐี โอ ทุกอย่างในโลกนี้ เปลี่ยนเป็นเงิน เป็นทองได้หมดแหล่ะค่ะ แม้แต่ "ลม" ใจใส เดี๋ยวปัญญาเกิด รับรอง ไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากตัวเราเองค่ะ

ขอแถม "อินเตอร์เน็ต คือตลาดอันกว้างใหญ่ คือขุมทรัพย์แห่งเงินและทอง ลองขุดดูนะคะ"

ส่วนอันที่ว่า "ไม่สะสมสิ่งของ" เนี่ย ลองสำรวจตัวเองดูว่า อันไหนขายได้ ก็ขายๆ ทิ้ง เปลี่ยนสินทรัพย์มาเป็นทุน จะดีกว่า วางไว้เฉยๆ ให้เป็นเครื่องรกใจนะคะ ยิ่งมีสมบัติมาก ก็ยิ่งเอาตัวเองเข้าไปผูกกับสิ่งของมาก เปลือง ค่ะ เปลืองใจ

ปล.มาช่วยเว็บ dmc เอาบุญด้วยสิคะ จะได้มีบุญเกื้อหนุน ให้สำเร็จๆๆ อิอิ
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#12 rattana_s

rattana_s
  • Members
  • 113 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 10:28 AM

..ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากตัดสินใจพลาด..
..ก่อนลาออกจากงานทำไมไม่หางานใหม่รองรับก่อนล่ะครับ..ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าต้องมีภาระค่าใช้จ่ายประจำทุกเดือน
งานใหม่ก็ต้องมีรายได้พอเพียงกับภาระที่ต้องจ่าย

ใช้เศรษฐกิจพอเพียงครับ ขายบ้าน มาหาคอนโดถูกๆอยู่น่าจะลดภาระลงได้บ้าง..(ขายบ้านไม่ใช่จะขายง่ายๆเหมืนขายพวงมาลัยสี่แยกนะครับ) ใครไม่อยากให้ขายก็ให้เขามารับซื้อไปผ่อนต่อ

หลวงพ่อไม่สนับสนุนให้ใครไปกู้หนี้มาทำบุญหรอกนะ..เป็นหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้ที่ไหนๆก็ไม่มีความสุขหรอก หาเงินมาใช้ไม่ทัน ความทุกข์จะมาตามหลอกหลอน

ถ้าสถานการณ์คลี่คลายแล้วต่อไปก็คิดใหม่ทำใหม่ให้พอเพียงด้วยนะครับ แต่การทำบุญก็สุดๆเต็มกำลังแต่อย่าเกินกำลังจนเป็นหนี้

เป็นข้อแนะนำนะครับ ไม่ใช่ต่อว่าซ้ำเติม

#13 อริยสัจ4

อริยสัจ4
  • Members
  • 44 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 11:16 AM

ขอคิดด้วยคนครับ
1.คำนวณรายจ่ายที่จำเป็นจริงๆ(ขอเน้นครับ)ตอนนี้ในแต่ละเดือนว่าเราต้องมีรายจ่ายเท่าไหร่ครับ
2.เราสามารถหารายได้มาใช้จ่ายเพียงพอในแต่ละเดือนหรือไม่ ขณะนี้
3.ถ้าไม่พอคุณควรประกาศขายบ้านเพราะคุณอนุบาลหน้าใสถือศีล8 อยู่แล้วคงไม่มีปัญหาเรื่องที่อยู่ครับ

ดูแล้วคุณมีหนี้หลักๆคือบ้านกับบัตรเครดิต ซึ่งถ้าขายบ้านได้ก็เหมือนการปลดหนี้ไปในตัวครับ

สาธุครับ


#14 เพื่อบุญ

เพื่อบุญ
  • Members
  • 154 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 11:52 AM

ลองตอบคำถามต่อไปนี้นะครับ แล้วคุณจะได้คำตอบ (ผมตอบมาแล้ว)

1. สิ่งที่เราอยากได้
2. สิ่งที่เราอยากทำ
3. สิ่งที่เราเป็นห่วง
4. สิ่งที่เรากังวล
5. สิ่งที่เป็นภาระ
6. สิ่งให้ความสุขที่สุดสำหรับเรา
7. สิ่งที่ก่อให้เกิดความทุกข์ที่สุดสำหรับเรา
8. เราอยากอยู่ที่ไหน กับใคร
9. อะไรคือตัวแปร ตัวสนับสนุนให้เราพบกับความสำเร็จทุกครั้ง
10. เราทำสิ่งตรงข้ามกับคำตอบทั้งหมดได้หรือไม่

หากคุณตอบคำถามข้อที่ 10 ได้ นั่นอาจหมายถึงความสุขของคุณ นะครับ
สู้ต่อไปนะครับ ขอให้กำลังใจ และขออนุโมทนาในความมุ่งมั่นในบุญ

สาธุ

#15 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 12:08 PM

nerd_smile.gif ลองเข้าไปศึกษาทบทวนคำสอน คำแนะนำ ของครูบาอาจารย์และเพื่อนกัลยาณมิตรได้ในกระทู้ดังต่อไปนี้ครับ

๑. ถ้ามีคนต่อว่าเราว่า "มีเงินเท่าไหร่เอาไปทำบุญหมด"; http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=4731
๒. ทำบุญอย่างไรไม่ให้เดือดร้อนผู้อื่น; http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=4766
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#16 แม่ยาคูส์

แม่ยาคูส์
  • Members
  • 37 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 01:09 PM

ตัวเรากับสามีเคยตกงานเมื่อ 1 กว่าที่แล้วมา มีลูกกำลังเรียน 2 คน ตอนนั้นแย่มาก จำได้มีอยู่วันหนึ่ง เราเดินตลาดสดกับลูกชาย วัย 10 ขวบ ขอเงินเราเพื่อให้ขอทาน เราอยากจะให้ แต่ถ้าเราให้เราไม่มีเงินซื้อกับข้าว เราคิดในใจถ้าเรามีงานทำเราจะทำบุญให้มาก ให้ทานให้มาก ตอนนั้นเราอยากใส่บาตรตอนเช้า เราก็ไม่มีเงินพอ เพราะเรากลัวลูกอด ไม่มีเงินซื้อรองเท้าให้ลูก เราอธิฐานขอให้เรามีงานที่ดีทำ มีนาย และเพื่อนร่วมงาน ที่ดี ตอนนี้เราได้งานทำ เรามีหนี้สิ้น 1 ล้านกว่าบ้าน ทุกวันนี้แม้ว่าจะมีงานทำ กัน 2 คนสามีภรรยา เงินไม่มากแต่ละเดือนยังไม่พอจ่ายหนี้ แต่เรามีความสุขที่ได้มาทำงานที่ทำทุกวันนี้ เพราะเรารู้จักวัดธรรมกาย ก็เพราะคนที่ทำงาน ทุกคนในที่ทำงานไม่ดี บ้างวันก็ดูเลวร้าย แต่เราก็สู้นะ เราคิดอย่างเดียว อย่างน้อย เราก็มีเงินซื้อข้าว ,ให้ลูกเรียนหนังสือ , ทำบุญ , ทำทาน ตัวเองลองนึกถึงบุญที่ตัวเองทำมานะ แล้วเวลา ผ่านไม่นาน เราเชื่อว่าเธอจะมีความสุข เราว่าเธอเป็นคนมีความสามารถ ทำงานในรูปแบบบริษัท ไม่เลวร้ายหลอกนะ สามารถทำงานคู่กับการรักษาศีล 8 ได้ นะ เราฝากข้อคิดไว้นิดหนึ่งนะจ๊ะ ได้จากวัดสังฆทานธรรม " ไม่ต้องหนีไปไหน หนีที่ใจอย่างเดียว ทุกข์ก็ดี สุขก็ดี ไม่ต้องวิ่งไปอื่น ตัวเราแก้ตัวเราก็พอแล้วถ้ามันมีอะไรแก้ไม่ได้ก็ถือว่ากรรมเก่าแก้ไม่ได้ก็แล้วกัน ไม่เป็นไรพอมันรับแล้วก็พ้นกรรม"

#17 tasawun

tasawun
  • Members
  • 58 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 01:49 PM

ก่อนอื่นต้องขอเป็นกำลังใจให้นะครับ อย่าเพิ่งท้อเลยครับ คนเราทุกคนเกิดมาล้วนมีหน้าที่ครับ การที่บุคคล คนใดคนหนึ่งทำงานทางโลกไม่สำเร็จ ใช่ว่าจะเป็นการล้มเหลวนะครับ ลองหลับตา ให้นาน ๆ นะครับ แล้วให้เห็นต้วเอง เราก็จะรู้ว่า เราเป็นใคร ครับ นั่นคือเราเกิดมาสร้างบารมีครับ หลับตาเฉย ๆ ไปเลยครับ แล้วทุกอย่างจะดีเอง ลองถามท่านพี่ใหญ่ของเราดูซิครับ พี่อนันต์ อัศวโภคินงครับ
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ ทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอครับ

#18 My WAY

My WAY
  • Members
  • 114 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:Bangkok, Thailand
  • Interests:meditation

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 01:49 PM

QUOTE
เรายังทำทาน รักษาศีล ๘ และนั่งสมาธิทุกวันทุกคืน

สิ่งที่ทำนี้จะนำมาซึ่งความสุข ทำต่อไปนะคะและขออนุโมทนาบุญด้วย
ถ้าอยู่ในบุญตลอด เดี๋ยวก็จะได้ทางออกที่ดีที่สุด
ขอเป็นกำลังใจให้คะ happy.gif

"อินเตอร์เน็ต คือตลาดอันกว้างใหญ่ คือขุมทรัพย์แห่งเงินและทอง ลองขุดดูนะคะ"
เห็นด้วยอย่างยิ่งคะ

หนทางสู่ที่สุดแห่งธรรม

#19 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 03:40 PM

เอากำลังใจกองโตมาให้ค่ะ ปัญหาดังกล่าวบุญโตผ่านมาแล้ว ตอนลาออกจากก็เครียดคิดว่าแย่ แต่ไม่เคยทิ้งบุญและปฏิบัติ ตอนนี้บุญโตใจใสสบาย ปัญหาทุกอย่างมีทางออกค่ะ สู้ๆ นะคะ

#20 panu

panu
  • Members
  • 530 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 03:48 PM

ก็คงได้แค่เป็นกำลังใจให้นะครับ

ชีวิตเป็นเรื่องซับซ้อน เจอเรื่องอะไรก็แล้วแต่ก็ต้องอยู่ให้เป็น อยู่ด้วยสติ อยู่โดยรับรู้สภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน
ถึงแม้ไม่มีทรัพย์ทำบุญก็ไม่เป็นไร หรอกครับ ที่สำคัญต้องรักษาใจไว้นะครับ



#21 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 04:02 PM

วินัยในการใช้เงิน คือ ห้าม เอาเงินบัตรเครดิตมาใช้เป็นอันขาด ถ้าไม่มั่นใจว่าจะคืนได้ เพราะมันคือปีศาจสูบเลือดดีๆนี่เอง

อะไรที่ตึงเกินไป หรือหย่อนเกินไป มันก็ไม่ดีนะครับ

แนะนำให้อยู่ในบุญให้ตลอดเวลา เพื่อดึงบุญเก่ามาช่วยให้เร็วที่สุด นั่งสมาธิเยอะๆๆๆๆๆๆ

#22 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 05:05 PM

เหอๆ คงบอกได้แค่คำเดียวว่า สู้เว้ย! ^ ^ v

ถามว่าคุณเป็นอะไร ผมตอบแบบเต็มปากเต็มคำว่า คุณเป็นนักสร้างบารมี เพราะฉนั้นอย่ายอมแพ้อุปสรรคแค่นิดหน่อยครับ ใช้สติปัญญาไตร่ตรองสักนิดทุกวิธีย่อมมีทางแก้แน่นอนครับ ยกตัวอย่างปัญหาของผมให้คุณจขกท.ดูก็แล้วกัน เผื่อเป็นแนวทางให้คุณจขกท.ได้

ตอนนี้ผมก็เหมือนกับคุณจขกท. คือเป็นหนี้บัตรเครดิตเงินผ่อน ประมาณ100000บาท แต่ผมชำระเดือนละไม่เกิน6000เพราะทุกครั้งที่ผมใช้บัตรผมจะเลือกผ่อนชำระเป็นปีซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนผมน้อยลง ตอนนี้เหลืออีก2ปีผมจึงจะใช้หนี้หมด แต่ผมมีวิธีที่สามารถใช้หนี้ได้หมดภายใน1ปี วิธีของผมคือ เอาบัตรเครดิตออกจากกระเป๋าตัง ใส่กล่องล๊อคแม่กุญแจทิ้งกุญแจลงชักโครก ไม่ใช้มันอีกเด็ดขาด

ผมมีรายได้เดือนละ19000 หักให้ป้าผม2000 ให้พ่อแม่ผม2000สมทบทุนให้ท่านไว้ทำบุญ เหลือ15000
ใช้หนี้บัตรเครดิต6000ค่าโทรศัพท์อีก1500(บ้าน+มือถือ) เหลือ7500
ฝากเงินเข้าธนาคาร5000ห้ามถอนเด็ดขาด เหลือตังใช้2500ต่อเดือน
ทำบุญ1000เหลือตังใช้กินข้าวเดือนละ1500 เฉลี่ยวันละ50บาท พอ2มื้อครับ ^ ^

ครบ1ปีผมจะมีตังเก็บในธนาคาร 60000บาทซึ่งพอดีกับหนี้ที่เหลือของผม ถอนออกมายัดลงหนี้ให้หมด \ ^ ^ / ไชโยปลดหนี้ได้แล้ว

เมื่อปลดหนี้ได้แล้วเงินผ่อนค่าหนี้ผมก็จะไม่ต้องผ่อนอีกต่อไป เหลือแค่เสียค่าโทรศัพท์เท่านั้น ทีนี้ผมก็มีเงินเก็บมากขึ้นกว่าเดิม มีเงินทำบุญเยอะขึ้นกว่าเดิม เยส! ได้เป็นเจ้าภาพกฐินกับเขาบ้างละทีนี้ ^ ^

แม้ช่วงนี้ผมจะตังทำบุญเพียงน้อยนิด แต่เพื่อให้หนี้สินหมด ตอนนี้ผมก็คงต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวานละครับจริงป่ะ

1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#23 usr23724

usr23724
  • Members
  • 120 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 05:34 PM

คุณคือยอดนักสร้างบารมีจริงๆครับ สาธุ
ตอนนี้ผมมีรายได้เดือนละ2500บาท(เดกม.ต้นอ่ะครับ)
ผมเอาเงิน1000ไว้สร้างองค์พระทุกเดือนอีก1ปีจะครบ1องค์รวมเป็น2องค์
ที่เหลืออีก1500บาทเอาไสว้ใช้สัพเพเหระ พอวันเสาร์-อาทิตย์ผมก็ไปสถานีรถไฟเพื่อไปหาพระซื้อตั๋วถวายปานะท่านจนกว่ารถไฟจะออกมีอยู่ครั้งนึงพระท่านขึ้นรถผิดขบวนท่านจะไปซื้อตั๋วแต่ตังส์ไม่พอโชคดีผมไปเจอเลยออกตังส์ไปให้ปลื้มจริงๆอิอิ
ปล.หลงพ่อไม่แนะนำให้กู้เงินมาทำบุญนะครับแต่ถ้าใช้หมดก็ไม่เปนไรแต่ถ้าใช้ไม่หมดบุญก็จะหย่อนลงมา สาธุ

#24 Bookmark

Bookmark
  • Members
  • 5 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 06:27 PM

QUOTE
อีกอย่างคือ เราจะบ้าทำบุญมาก เดือนละประมาณ 6,000-7,000 บาทตลอด ทั้งที่หนี้สินบานตะไท..
ช่วงพิเศษก็ 15,000-20,000 บาท.. ต้องรูดบัตรมาทำบุญก็ยอมด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง

แล้วคุณก็บอกว่าคุณไม่มีเงิน

หลายคนที่มาแสดงความเห็นกับคุณก็บอก สาธุ สาธุ

คุณทำบุญเพื่ออะไร เพื่อสังคม หรือเพื่อที่คุณจะได้สะสมบุญของคุณเอง

แต่คุณบาปต่อแม่ บาปต่อแฟน เพราะคุณทำให้ท่านเป็นห่วงคุณ

คิดสักนิดนะครับ

#25 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 08:01 PM

ตะกี้หลวงพ่อเปิดเพลง tomorowฟังหรือปล่าวค่ะ

#26 Dhamma Bot

Dhamma Bot
  • Members
  • 477 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 08:05 PM

ขออนุโมทนาบุญกับความตั้งใจอันดีงามด้วยนะครับ ผมเห็นว่าการเป็นนักสร้างบารมีที่จะต้องมีภาระทางโลกนั้น เราก็ต้องวางแผนกันให้ดีนะครับ การสร้างบุญนั้นไม่ได้หมายความว่าเราต้องบริจาคเงินอย่างเดียว เพราะการทำบุญนั้นเราทำได้ถึง 10 รูปแบบ หรือที่เรียกว่าบุญกิริยาวัตถุ 10 ประการ เท่าที่ผมศึกษาการสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ในกาลก่อน ท่านจะบริจาคในสิ่งที่ท่าน "มี" เท่านั้นครับ แม้แต่พระเวสสันดรท่านก็บริจาคในสิ่งที่ท่านมีอยู่ในกรรมสิทธิ์เท่านั้น เมื่อหมดกรรมสิทธิ์แล้วท่านก็ไม่ได้หยิบยืมใครมาบริจาค ตรงนี้ต้องระวังให้มากนะครับ อย่าลืมว่า สมมติว่าคุณเป็นอะไรขึ้นมา (เราไม่รู้ว่าวิบากกรรมจะมาตัดรอนเมื่อไร) คนข้างหลังเขาก็จะต้องรับผิดชอบแทนคุณนะครับ

แต่ในเมื่อคุณได้สร้างบุญไปแล้วด้วยจิตเป็นกุศล ผมก็ขอแนะนำให้เริ่มตั้งต้นหลักใหม่นะครับ ต้องวางแผนการเงินให้ดี คำนวนว่าแต่ละเดือนรายจ่ายเท่าไร และต้องหายรายได้มาให้สมดุล แม้งานที่ต้องทำนั้นอาจทำให้ใจหมอง แต่ผมขอแนะนำให้สร้างขันติบารมี มากกว่าที่จะหนีสถานการณ์นะครับ ถ้าหากคุณทนได้ แก้ไขปัญหาในที่ทำงานด้วยปัญญา แผ่เมตตาให้เจ้านาย และอดทนทำหน้าที่กัลยาณมิตร อธิษฐานจิตประกอบเป็นประจำ ผมว่าเมื่อบุญส่งผล ก็สามารถเปลี่ยนเจ้านายคุณได้เหมือนกัน แต่ในเมื่อออกจากงานมาแล้ว ดีที่สุดในเวลานี้ก็คือปฏิบัติธรรม อธิษฐานจิต และหางานที่มีรายได้พอเพียงมาค้ำจุนชีวิตนะครับ ที่สำคัญคือนอกจากบุญจะทำงานในส่วนละเอียดแล้ว คุณเองก็ต้องประกอบเหตุในส่วนหยาบด้วยเช่นกันครับ

สำหรับการสร้างทานบารมีในช่วงนี้ผมก็เห็นว่าทำต่อไปได้นะครับ เพียงแต่ต้องให้สมดุลกับรายรับและรายจ่ายที่มี ขอให้หมดหนี้หมดสิน เหลือกินเหลือใช้ เหลือไว้สร้างบารมีนะครับ

#27 กุ้งรพ.หัวหิน

กุ้งรพ.หัวหิน
  • Members
  • 201 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 July 2008 - 08:45 AM

คุณ เคยเข้าวัดเก่งจังค่ะ โห (เงินเดือนหนู 31,200 เป็นหนี้ท่วม ไม่มีรถ ไม่มีบ้าน มีแต่พวกแฟ้บ สบู่ยาสัฟัน อิอิ ) เก่งกันจัง สุดยอดๆๆ

#28 เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี

เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี
  • Members
  • 938 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 July 2008 - 09:50 AM

เพิ่งกลับมาอ่านอ่ะ..
เมื่อวานหมดแรง สลบ..

คือ ที่เรารูดบัตรทำบุญก็มีแค่ 2 ครั้งได้ ตอนนั้นเงินเดือน 46,000 บาทอ่ะ
คิดว่าเราน่าจะใช้หนี้ได้ในไม่ช้า เพราะอยากได้บุญใหญ่นั้นมากๆ
ทำเสร็จแล้วเราก็ปลื้มนะ ปลื้มมากๆด้วย
แม้ตอนนี้.. เราก็ยังปลื้มและไม่รู้สึกว่าเราผิดแต่อย่างใด เพื่อบุญนั้นเรายอมได้ทุกอย่าง
เราอาจคิดแตกต่างนิดนึง ก็ยอมรับว่าไม่ค่อยดี
แต่เรามองว่ามันไม่ต่างจากการควักลูกนัยตาสดๆ การสละอวัยวะสดๆ ของพระโพธิสัตว์ เพื่อผู้อื่น..
ใจเรายังชุ่มเย็นในบุญที่ทำอยู่เสมอ.. และสถานการณ์เลวร้ายรอบตัวที่บีบคั้นไม่อาจเปลี่ยนสิ่งนี้ได้
สำหรับเรา.. อะไรก็ได้.. แต่เพื่อบุญที่ทำ เพื่อผู้ที่รับทานจากเรา.. ต้องเลิศเสมอ..

แม้เราต้องเสียทุกอย่างไป..
แม้ต้องสละทรัพย์ทุกอย่างไป ไม่มีบ้านอยู่..
แต่เรายังรักษาศีล ยังนั่งสมาธิได้.. เราคิดแค่นี้จริงๆนะ..

ถ้าจะว่ากันจริงๆแล้ว ถามว่าเราเบียดเบียนตนเองไหม..
เราว่าไม่นะ.. เพราะบ้านที่เราอยู่นี้ บ้านเดี่ยวซื้ออยู่คนเดียว 80 ตรว.
ตอนแรกต้องการมีครอบครัว แต่แฟนทิ้ง เราเลยไม่สนใจอะไรแล้ว ขอทำบุญอย่างเดียวดีกว่า
หากจะต้องเสียบ้านไป.. เราก็หมดหนี้บัตรเครดิต หมดหนี้ค่าบ้าน
ส่วนเราอยู่ที่ไหนก็ได้.. ยังไม่เห็นมีอะไรในชีวิตที่ติดลบเลย..

อีกอย่างนึง.. ที่เราดูเหมือนใจเย็นเช่นนี้ (แบบที่คุณแม่พูดกับเราเสมอๆ)
อาจเป็นเพราะ.. ช่วงชีวิตที่ผ่านมา เราผ่านบทพิสูจน์มานับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่า..

ยิ่งให้.. จะยิ่งมี.. แม้ระหว่างทาง.. จะเจียนตายแค่ไหน.. แต่ก็จะไม่ตาย..

จริงๆนะ.. เราเลยเฉยๆไง..

แต่เรากลับมามองที่ "ทางสายกลาง"
แม้ว่าพระโพธิสัตว์ที่สั่งสมบารมีมายาวนาน ยังต้องค้นทางสายกลางให้เจอเลย
บางครั้งบางคราว เราก็รู้สึกว่าการสร้างบารมีอย่างยิ่งยวดในเส้นทางของท่าน
หลายครั้งก็ "ตึงเกินไป"
เราเอง แม้อาจเทียบไม่ได้กับพระโพธิสัตว์ แต่บางคราวเราก็มองว่าบางอย่าง.. ตึงเกินไปหรือเปล่า.. ?

ต่อไปเราคงต้องเอา "ทางสายกลาง" มาใช้ทั้งทางโลก และทางธรรม
มาใช้ทั้งกายหยาบ และภายใน

ถามว่าทำไมไม่สมัครงานให้ได้ก่อนลาออก
ก็เพราะเราไม่คิดอยากจะทำงาน Office อีกเลยนั่นแหละ จึงไม่สมัคร

ครั้นจะทำอะไรเป็นของตัวเอง.. เราก็ใจดีเกิน
คิดตังค์ลูกค้าก็ดันไปเกรงใจ ดันไปสงสารเขา..
เพื่อนอุบาสิกาคนนึงเคยฟังชีวิตการทำงานของเรา เขาบอกว่า..
ดูเหมือนพี่ไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ในโลกภายนอก.. น่าจะเกิดมาเป็นนักบวชมากกว่า..
แต่เหมือนมีอะไรมากดไว้..

ยังไงจากนี้ไป.. เราจะเอาความคิดเห็นที่ดี ข้อคิดดีๆ ของเพื่อนๆมาเป็นเครื่องเตือนใจนะ..
กราบขอบพระคุณทุกท่านมากๆเลยจ้า.. สาธุ.. สาธุ.. สาธุ.. happy.gif

Tomorrow.. เราจะรอ.. happy.gif
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..

#29 เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี

เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี
  • Members
  • 938 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 July 2008 - 10:03 AM

ปล. แต่ที่เราตั้งกระทู้ถามเนี่ย.. เพราะเราเริ่มสับสน
และอยากฟังความเห็นคนอื่นจริงๆนะ ว่าคนอื่นคิดยังไง และเราปกติหรือเปล่า.. ?

ซึ่งก็ได้คำตอบว่า.. ไม่ค่อยปกติ.. 555
แต่ยังไงเราจะพยายามปรับให้ปกติเหมือนคนอื่นละกัน happy.gif
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..

#30 usr20221

usr20221
  • Members
  • 57 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 July 2008 - 12:06 PM

คุณเด็กอนุบาลหน้าใสใจดี อ่านเมล์ ขาเข้าด้วยนะค่ะ ตอบไปเยอะเลยคะ