![รูปภาพ](/forum/uploads/profile/photo-thumb-1376.jpg?oh=7c5b25ccb3492e287ba66852b211cbc2&oe=5490980b&__gda__=1422188809_9d970ac596f3bd81b7c88042d6d13b41)
เมื่อสัตว์เดรัจฉาน ทำอนันตริยกรรม
#1
โพสต์เมื่อ 24 December 2005 - 07:45 PM
#2
โพสต์เมื่อ 24 December 2005 - 07:56 PM
**อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจนะครับ**
#3
โพสต์เมื่อ 24 December 2005 - 09:08 PM
ไม่เคยคิดเลยนะว่ามีประเด็นนี้หรือเปล่า
#4
โพสต์เมื่อ 25 December 2005 - 11:18 PM
การทำอนันตริยกรรมเพราะความไม่รู้ จัดเป็นบาปได้รับผลไม่ต่างจากคนทำครับเพราะกายในกายของสัตว์ก็คือกายมนุษย์ละเอียดเหมือนกันครับ...เท่าที่ผมเคยอ่านในพระไตรปิฏกพอจำได้ ขนาดแม้แต่กามีจิตเป็นอกุศลได้ทำการถ่ายมูลลงบนหัวของพระปัจเจกพุทธเจ้ายังต้องได้รับกรรมตกนรกเลยครับ...
ดังนั้นภัยในสังสารวัฏจึงน่ากลัวมากยิ่งมีความไม่รู้ในอดีต ปัจจุบัน อนาคต สิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำแล้วอันตรายมากๆ ครับ
อย่างกรณีหมู่คณะของเราถ้าท่านใดที่ทำบุญหวังรวยกัน ขอให้ระวังกันให้มากๆๆ นะครับ เพราะทรัพย์สมบัติถือเป็นอภิสังขารมาร อย่างหนึ่งเหมือนกันครับ ถ้าบังเอิญชาติใดเราใช้ทรัพย์ในทางที่ผิดหลงทำกรรมชั่วมากมาย ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รวยเป็นเศรษฐีเพียงชาติเดียวที่เหลือก็ลงนรกกันถ้วนหน้า ยาวนานกว่าจะกลับมารวยอีกครับ
ดังนั้น จึงควรปลูกนิสัยกลัวบาปอกุศลทุกชนิดให้มากๆ ในใจ ชนิดที่ขอให้ติดในสันดานไปเลยครับ เผื่อเกิดมาชาติใดพลาดท่าเป็นสัตว์เดียรัจฉานจะได้มีนิสัยที่ดีคุ้มตัวไว้ครับ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#5
โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 12:37 AM
ขอเรียนชี้แจงต่อทุกท่านว่า กรณีดังที่คุณ xlmen ได้กล่าวมานี้ จะเกิดขึ้นได้ก่อต่อเมื่อ เราใช้ทรัพย์นั้นทำบุญแล้วตั้งจิตอธิษฐานไม่เป็น อาทิ อธิษฐานว่า ขอให้รวยแต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้อธิษฐานล้อมกรอบให้บุญกุศลที่ได้ทำไป มารักษากาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์ ตั้งมั่นอยู่ในทางมรรคผลนิพพานโดยส่วนเดียว แต่ถ้าเราทำบุญอย่างถูกหลักวิชชา อธิษฐานล้อมคอกให้แน่นหนา ปัญหาดังกล่าวย่อมจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ
#6
โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 03:19 AM
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#7
โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 05:43 PM
แต่ในกรณีว่าสัตว์เดรัจฉานมันไม่ตั้งใจก็จะน้อยกว่าที่ทำแล้วชอบใจ พอใจที่ทำบาป อย่างนี้ก็รับไปเต็มๆเลย
แก้ไขโดย Muralath 26 December 2005 - 05:48 PM
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#8
โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 08:31 PM
พระนาคเสนตอบว่า มหาบพิต เหล็กร้อน คนที่รู้ว่าร้อนมาจับ กับคนที่ไม่รู้ว่าร้อนมาจับ ใครจะจับแรงกว่ากันใครจะร้อนกว่ากัน
#9
โพสต์เมื่อ 27 December 2005 - 06:33 AM
พระยามิลินตรัสถามกับพระนาคเสนว่า พระคุณเจ้า คนทำบาป โดยที่รู้ว่าเป็นบาป กับคนที่ทำบาป แต่ไม่รู้ว่าเป็นบาป อย่างไหน จะบาปกว่ากัน
พระนาคเสนตอบว่า มหาบพิต เหล็กร้อน คนที่รู้ว่าร้อนมาจับ กับคนที่ไม่รู้ว่าร้อนมาจับ ใครจะจับแรงกว่ากันใครจะร้อนกว่ากัน
ถูกเลยค่ะ
สาธุ
#10
โพสต์เมื่อ 28 December 2005 - 12:43 AM
#11
โพสต์เมื่อ 28 December 2005 - 08:40 AM
คือแค่บาปมาก มีแต่มนุษย์ ที่จะทำอนันตริยกรรม ได้
เพราะเหตุว่า มนุษย์มีสติและมีเจตนาแรงกล้ากว่าสัตว์
มนุษภูมิ จึงเป็น ภูมิ ที่สามารถ ทำบาปได้มากที่สุด(อนันตริยกรรม)
ในขณะเดียวกัน ก็จะทำบุญได้มากที่สุด(โลกุตตรฌาณสมาบัติ)เช่นเดียวกัน
#12
โพสต์เมื่อ 28 December 2005 - 12:01 PM
ซึ่งกระต่ายโพธิสัตว์นี้ปรารถนาโพธิญาน มีจิตเมตตาที่จะเกื้อกูลพราหมณ์เฒ่า(ท้าวสักกะแปลงกายา)ให้หายจากการหิวโหย จึงให้พราหมณ์ก่อไฟ แล้วกระต่ายโพธิสัตว์จึงได้บำเพ็ญปรมัตถบารมีด้วยการบริจาคชีวิต โดยการกระโดดเข้ากองไฟ(หาอ่านตอนต่อกันเองหรือกัลยาณมิตรท่านอื่นจะเล่าเรื่องเป็นธรรมทานต่อก็ได้นะ)
#13
โพสต์เมื่อ 29 December 2005 - 08:25 AM
ขนาดอีกามาแอบกิน อาหารพระ ยังไปเป็นเปรตเลย.....
ถ้าให้ชัวร์ๆ ก็ต้องรอพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
#14
โพสต์เมื่อ 05 February 2007 - 03:06 PM