มาแจกธัมมาวุธเพิ่มเติมจ้ะ
--------------------------------------------------------
คำพูด ๑ คำที่ทำให้ใจสงบ ดีกว่าคำพูดตั้ง ๑,๐๐๐ คำที่ไร้ประโยชน์
คำพูดที่มีประโยชน์คำเดียว ที่คนฟังแล้วสงบระงับ(กิเลส)ได้
ย่อมดีกว่าคำพูดที่ไร้ประโยชน์ตั้ง ๑,๐๐๐ คำ
ธรรมะบทหนึ่ง ที่คนฟังแล้วสงบระงับได้
ย่อมดีกว่าคาถาที่ไร้ประโยชน์ตั้ง ๑๐๐ คาถาที่เขากล่าว
ผู้ชนะข้าศึกจำนวนพันคูณด้วยพันในสงคราม หาชื่อว่าเป็นผู้ชนะที่ยอดเยี่ยมไม่
แต่ผู้ที่ชนะตนได้ จึงชื่อว่า ผู้ชนะที่ยอดเยี่ยม
การชนะตนของบุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว ประพฤติสำรวมเป็นนิตย์นั่นแล ประเสริฐกว่าการชนะผู้อื่น
เทวดา คนธรรพ์ มาร หรือพรหม ไม่อาจทำชัยชนะของบุคคลเช่นนั้นให้กลับแพ้ได้เลย
การบูชาของบุคคลผู้บูชาท่านที่อบรมตนดีแล้ว คนเดียว แม้เพียงชั่วครู่
ประเสริฐกว่าการบูชาของบุคคลผู้บูชายัญ(ให้ทานแก่มหาชน-ขุ.ธ.อ. ๔/๙๗)
ด้วยทรัพย์จำนวน ๑,๐๐๐ กหาปณะทุกๆเดือน ตลอด ๑๐๐ ปี
การบวงตั้ง ๑๐๐ ปีจะประเสริฐอะไร
การไหว้ท่านผู้ปฏิบัติตรง
ประเสริฐกว่าการบูชายัญและการบวงสรวงใดๆ ในโลก ที่ผู้หวังบุญทำอยู่ตลอดปี
เพราะการบูชายัญและการบวงสรวงทั้งหมดนั้น มีค่าไม่ถึงหนึ่งในสี่(ของการไหว้ฯ)
ธรรม ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ
ย่อมเจริญแก่ผู้มีปติกราบไหว้ ผู้อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ เป็นนิตย์
ผู้มีศีล เพ่งพินิจ แม้มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียว
ประเสริฐกว่าคนทุศีล ไม่มีจิตตั้งมั่น ที่มีชีวิตอยู่ตั้ง ๑๐๐ ปี
ผู้มีปัญญา เพ่งพินิจ แม้มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียว
ประเสริฐกว่าผู้มีปัญญาทราม ไม่มีจิตตั้งมั่น ที่มีชีวิตอยู่ตั้ง ๑๐๐ ปี
ผู้มีความเพียรมั่นคง แม้มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียว
ประเสริฐกว่าผู้เกียจคร้าน ไม่มีความเพียร ที่มีชีวิตอยู่ตั้ง ๑๐๐ ปี
ขุ.ธ. 25/18/28-30.
มจร. (แปล) 25/100-115/61-66.
-----------------------------------------------------------------
ปาปวรรค ๙ บุคคลควรรีบทำความดี(บุญ) ควรห้ามจิตจากความชั่ว(บาป)
เพราะเมื่อทำบุญช้าไป ใจจะยินดีในบาป
หากบุคคลทำบาปไป ก็ไม่ควรทำบาปนั้นซ้ำอีก
ไม่ควรทำความพอใจในบาปนั้น เพราะการสั่งสมบาปนำทุกข์มาให้
หากบุคคลทำบุญ ก็ควรทำบุญนั้นบ่อยๆ
ควรทำความพอใจในบุญนั้น เพราะการสั่งสมบุญนำสุขมาให้
ตราบใดที่บาปยังไม่ให้ผล
ตราบนั้น คนชั่วจะเห็นว่าบาปดี
แต่เมื่อใดบาปให้ผล
เมื่อนั้น คนชั่วจะเห็นว่าบาปชั่วแท้
ตราบใดที่กรรมดียังไม่ให้ผล
ตราบนั้น คนดีจะเห็นกรรมดีว่าชั่ว
แต่เมื่อใดกรรมดีให้ผล
เมื่อนั้น คนดีจะเห็นกรรมดีว่าดีแท้
บุคคลอย่าสำคัญว่าบาปเล็กน้อยคงจักไม่มาถึง(ให้ผล)
แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยน้ำที่ตกลงมาทีละหยดๆ ได้ฉันใด
คนพาล เมื่อสั่งสมบาปทีละเล็กทีละน้อย ก็เต็มด้วยบาปได้ ฉันนั้น
บุคคลอย่าสำคัญว่าบุญเล็กน้อยคงจักไม่มาถึง(ให้ผล)
แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยน้ำที่ตกลงมาทีละหยดๆ ได้ฉันใด
คนมีปัญญา เมื่อสั่งสมบุญแม้ทีละเล็กทีละน้อย ก็เต็มด้วยบุญได้ ฉันนั้น
บุคคลควรละเว้นบาปทั้งหลาย ดุจพ่อค้าที่มีทรัพย์มาก แต่มีพวกน้อย หลีกเลี่ยงทางที่มีภัย
และดุจคนรักชีวิตหลีกเลี่ยงยาพิษ ฉะนั้น
ปาณิมฺหิ เจ วโณ นาสฺส หเรยฺย ปาณินา วิส
นาพฺพณ วิสมเนฺวติ นตฺถิ ปาป อกุพฺพโต ฯ หากที่ฝ่ามือไม่มีแผล บุคคลก็ใช้ฝ่ามือนำยาพิษไปได้
เพราะยาพิษจะไม่ซึมเข้าไปยังฝ่ามือที่ไม่มีแผล
เหมือน
บาปไม่มีแก่ผู้ไม่ทำบาป* ฉะนั้น
(*บาปใครทำใครก็รับไปเอง บาปไม่ได้สืบทอดกันโดยสายเลือด)
บุคคลใดประทุษร้ายต่อคนผู้ไม่ประทุษร้าย
เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่มีกิเลสเพียงดังเนิน
บาปย่อมกลับมาถึงบุคคลนั้น ซึ่งเป็นคนพาลอย่างแน่แท้
ดุจผงธุลีอันละเอียดที่บุคคลซัดไปทวนลม ฉะนั้น
สัตว์พวกหนึ่ง ย่อมเกิดในครรภ์
พวกที่ทำบาปกรรมย่อมไปนรก
พวกที่ทำความดีย่อมไปสวรรค์
ส่วนผู้ที่ไม่มีอาสวะย่อมนิพพาน
คนทำบาป ถึงจะเหาะขึ้นไปในอากาศ ก็ไม่พ้นจากบาปกรรม
ถึงจะดำลงไปกลางทะเล ก็ไม่พ้นจากบาปกรรม
ถึงจะเข้าไปหลบซ่อนตัวในซอกเขา ก็ไม่พ้นจากบาปกรรม
เพราะไม่มีแผ่นดินสักส่วนหนึ่ง ที่คนทำบาปยืนอยู่แล้ว จะพ้นจากบาปกรรมได้
บุคคล ถึงจะเหาะขึ้นไปในอากาศ ก็ไม่พ้นจากความตาย
ถึงจะดำลงไปกลางทะเล ก็ไม่พ้นจากความตาย
ถึงจะเข้าไปหลบซ่อนตัวในซอกเขา ก็ไม่พ้นจากความตาย
เพราะไม่มีแผ่นดินสักส่วนหนึ่ง ที่บุคคลยืนอยู่แล้ว จะไม่ถูกความตายครอบงำได้
ขุ.ธ. 25/19/30-32.
มจร. (แปล) 25/116-128/67-71.
-----------------------------------------------------------------
ทัณฑวรรค สัตว์ทุกประเภท ย่อมสะดุ้งกลัวโทษทัณฑ์
สัตว์ทุกประเภท ย่อมหวาดกลัวความตาย
บุคคลนำตนเข้าไปเปรียบเทียบแล้ว
ไม่ควรฆ่าเอง ไม่ควรใช้ให้คนอื่นฆ่า
ผู้ใดใฝ่หาความสุขเพื่อตน แต่กลับใช้ท่อนไม้ทำร้ายสัตว์ทั้งหลายผู้รักสุข
ผู้นั้นตายไปแล้ว ย่อมไม่ได้รับความสุขเลย
ส่วนผู้ใดใฝ่หาความสุขเพื่อตน ไม่ใช้ท่อนไม้ทำร้ายสัตว์ทั้งหลายผู้รักสุข
ผู้นั้นตายไปแล้ว ย่อมได้รับความสุข
เธออย่าได้กล่าวคำหยาบต่อใครๆ
คนที่ถูกเธอว่ากล่าว จะกล่าวโต้ตอบเธอ
เพราะว่าถ้อยคำที่โต้เถียงกัน ก่อให้เกิดทุกข์
และการทำร้ายกันจะมาถึงเธอ
ถ้าเธอทำตนให้นิ่งเงียงได้ เหมือนกังสดาลที่ตัดขอบปากออกแล้ว
เธอก็จะบรรลุนิพพานได้ การโต้เถียงกันก็จะไม่มีแก่เธอ
คนเลี้ยงโคใช้ท่อนไม้ไล่ต้อนฝูงโคไปยังที่หากิน ฉันใด
ความแก่และความตาย ก็ไล่ต้อนอายุของสัตว์ทั้งหลายไป ฉันนั้น
คนพาลมีปัญญาทราม เมื่อทำบาปกรรมย่อมไม่รู้สึกตัว
จึงมักเดือดร้อนเพราะกรรมของตน เหมือนคนถูกไฟไหม้ ฉะนั้น
ผู้ใดประทุษร้ายคนที่ไม่มีความผิด คนที่ไม่ประทุษร้าย ด้วยโทษทัณฑ์
ผู้นั้นย่อมได้รับผลอย่าง ๑ ใน ๑๐ อย่าง คือ
(๑) ทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า
(๒) เสื่อมทรัพย์
(๓) ถูกทำร้ายร่างกาย
(๔) เจ็บป่วยอย่างหนัก
(๕) กลายเป็นคนวิกลจริต
(๖) ต้องราชภัย
(๗) ถูกกล่าวหาอย่างร้ายแรง
(๘) เสื่อมญาติ
(๙) ทรัพย์สมบัติพินาศย่อยยับ
(๑๐) บ้านเรือนถูกไฟไหม้
เขาผู้มีปัญญาทราม เมื่อตายไปย่อมตกนรก
ขุ.ธ. 25/20/32-34.
มจร. (แปล) 25/129-145/72-76.
-----------------------------------------------------------------
อัตตวรรค ๑๒ ความทุศีลโดยสิ้นเชิง ย่อมรึงรัดอัตภาพของบุคคลผู้ทุศีลไว้ ดจุเถาวัลย์ที่รึงรัดต้นสาละไว้
เขาย่อมทำตนให้วิบัติดุจโจรปรารถนาให้เขาวิบัติ ฉะนั้น
กรรมที่ไม่ดีและไม่มีประโยชน์แก่ตน ทำได้ง่าย
ส่วนกรรมที่ดี และมีประโยชน์ ทำได้ยากอย่างยิ่ง
ผู้มีปัญญาทราม อาศัยทิฏฐิชั่ว คัดค้านคำสอนของพระอริยะ
ผู้เป็นพระอรหันต์ ผู้ดำรงอยู่โดยธรรม
การคัดค้านและทิฏฐิชั่วนั้น เกิดขึ้นมาเพื่อทำลายตนเอง เหมือนขุยไผ่ทำลายต้นไผ่ ฉะนั้น
อตฺตนา ว กต ปาป อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ
อตฺตนา อกต ปาป อตฺตนา ว วิสุชฺฌติ
สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺต นาฺโ อฺ วิโสธเย ฯ ตนทำบาปกรรมเอง ก็เศร้าหมองเอง ตนไม่ทำบาปกรรมเอง ก็บริสุทธิ์เอง
ความบริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์ เป็นของเฉพาะตน คนอื่นจะทำคนอื่นให้บริสุทธิ์ไม่ได้*
(* ไม่มีใครล้างบาปหรือไถ่บาปให้ใครได้ กรรมทั้งดีและชั่วใครทำใครก็รับไปเอง)
ขุ.ธ. 25/22/36-37.
มจร. (แปล) 25/157-166/81-84.
-----------------------------------------------------------------
โลกวรรค ๑๓ บุคคลไม่พึงเสพสิ่งต่ำทราม ไม่พึงอยู่ด้วยความประมาท
ไม่พึงยึดถือความเห็นผิด ไม่พึงเป็นคนรกโลก
ผู้ใดประมาทแล้วในกาลก่อนภายหลังไม่ประมาท
ผู้นั้นย่อมทำโลกนี้ให้สว่างไสว ดุจดวงจันทร์พ้นจากเมฆ ฉะนั้น
บาปกรรมที่ทำไว้ ผู้ใดละเสียได้ด้วยกุศล
ผู้นั้นย่อมทำโลกนี้ให้สว่างไสว ดุจดวงจันทร์พ้นจากเมฆ ฉะนั้น
โลกนี้มือมน คนในโลกนี้น้อยคนนักจักเห็นแจ้ง น้อยคนนักจักไปสวรรค์
เหมือนนกติดข่าย น้อยตัวนักที่จะพ้นจากข่าย ฉะนั้น
น เว กทริยา เทวโลก วชนฺติ
พาลา หเว นปฺปสสนฺติ ทาน
ธีโร จ ทาน อนุโมทมาโน
เตเนว โส โ หติ สุขี ปรตฺถ ฯ พวกคนตระหนี่ไปเทวโลกไม่ได้เลย
พวกคนพาลไม่สรรเสริญการให้ทาน
ส่วนนักปราชญ์อนุโมทนาการให้ทาน
เพราะเหตุนั้นแล เขาจึงได้รับสุขในปรโลก
ขุ.ธ. 25/23/37-39.
มจร. (แปล) 25/167-178/85-88.
-----------------------------------------------------------------
พุทธวรรค ๑๔ การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ก็นับว่ายาก
การดำรงชีวิตอยู่ของเหล่าสัตว์ก็นับว่ายาก
การที่จะได้ฟังสัทธรรมก็นับว่ายาก
การที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายจะเสด็จอุบัติขึ้นก็ยิ่งยาก
ความอิ่มในกามทั้งหลาย มีไม่ได้ด้วยกหาปณะที่หลั่งมาดังห่าฝน
กามทั้งหลายมีสุขน้อย มีทุกข์มาก
บัณฑิตรู้อย่างนี้แล้ว ย่อมไม่ยินดีในกามทั้งหลายแม้ที่เป็นทิพย์
สาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ยินดีในความสิ้นตัณหา
มนุษย์จำนวนมาก ผู้ถูกภัยคุกคาม ต่างถึงภูเขา ป่าไม้ อาราม และรุกขเจดีย์เป็นสรณะ
นั่นมิใช่สรณะอันเกษม นั่นมิใช่สรณะอันสุงสุด
เพราะผู้อาศัยสรณะเช่นนั้น ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งหปวง
ส่วนผู้ที่ถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นสรณะ
ย่อมใช้ปัญญาชอบพิจารณาเห็นอริยสัจ ๔ ประการ
คือ ทุกข์ เหตุเกิดทุกข์ ความดับทุกข์ และอริยมรรคมีองค์ ๘
อันเป็นข้อปฏิบัติให้ถึงความสงบระงับทุกข์ได้
นั้นเป็นสรณะอันเกษม นั่นเป็นสรณะอันสูงสุด
เพราะผู้อาศัยสรณะเช่นนั้น ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้
สุโข พุทฺธาน อุปฺปาโท สุขา สทฺธมฺมเทสนา
สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี สมคฺคาน ตโป สุโข ฯ การเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นเหตุนำสุขมาให้
การแสดงสัทธรรม เป็นเหตุนำสุขมาให้
ความสามัคคีของหมู่ เป็นเหตุนำสุขมาให้
ความเพียรของคนที่สามัคคีกัน เป็นเหตุนำสุขมาให้
ขุ.ธ. 25/24/39-41.
มจร. (แปล) 25/179-196/89-93.
-----------------------------------------------------------------
สุขวรรค ๑๕ ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้พ่ายแพ้ย่อมนอนเป็นทุกข์
ผู้ละทั้งความชนะและความพ่ายแพ้ได้แล้ว มีใจสงบ ย่อมนอนเป็นสุข
ไฟเสมอด้วยราะไม่มี โทษเสมอด้วยโทสะไม่มี
ทุกข์เสมอด้วยเบญจขันธ์ไม่มี สุข(อื่น)ยิ่งกว่าความความสงบไม่มี
ความหิวเป็นโรคอย่างยิ่ง สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
บัณฑิตรู้เรื่องนี้ตามความเป็นจริงแล้ว
ย่อมทำนิพพานให้แจ้ง เพราะนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
ความไม่มีโรคเป็นลาภอย่างยิ่ง
ความสันโดษเป็นทรัพย์อย่างยิ่ง
ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง
นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
การพบเห็นพระอริยะทั้งหลาย เป็นการดี การอยู่ร่วมกับพระอริยะ ก่อให้เกิดสุขทุกเมื่อ
เพราะการไม่พบคนพาล บุคคลพึงอยู่เป็นสุขเนืองนิตย์
เพราะการคบค้าสมาคมกับคนพาล ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลนาน
การอยู่ร่วมกับคนพาล เป็นทุกข์ตลอดเวลา เหมือนอยู่ร่วมกับศัตรู
การอยู่ร่วมกับนักปราชญ์มีแต่ความสุข เหมือนอยู่ในหมู่ญาติ
เพราะฉะนั้นแล บุคคลควรคบผู้เป็นปราชญ์ มีปัญญา เป็นพหูสูต
มีปกติเอาธุระ มีวัตร เป็นพระอริยะ เป็นสัตบุรุษ มีปัญญาดี เช่นนั้น
เหมือนดวงจันทร์โคจรไปตามทางของดาวนักษัตร ฉะนั้น
ขุ.ธ. 25/25/41-43.
มจร. (แปล) 25/197-208/94-97.
-----------------------------------------------------------------
ปิยวรรค ๑๖ บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยศีล และทัสสนะ ดำรงอยู่ในธรรม กล่าวคำสัตย์ ทำหน้าที่ของตน
ย่อมเป็นที่รักของประชาชน
ญาติ มิตร และผู้มีใจดีทั้งหลาย เห็นคนที่จากบ้านไปนาน
กลับมาจากที่ไกล มาถึงโดยสวัสดิภาพ ย่อมยินดีว่ามาแล้ว
เช่นเดียวกันนั้น บุญทั้งหลาย ย่อมต้อนรับคนที่ทำบุญไว้
ซึ่งจากโลกนี้ไปสู่โลกหน้า เหมือนญาติต้อนรับญาติผู้เป็นที่รักกลับมาบ้าน ฉะนั้น
ขุ.ธ. 25/26/43-44.
มจร. (แปล) 25/209-220/97-101.
-----------------------------------------------------------------