ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

มีเรื่องสงสัยอีกแล้วครับท่าน2


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 18 July 2008 - 12:08 PM

เดี๋ยวนี้มีของแปลกๆสิ่งแปลกๆเกิดขึ้นมากมาย ผมจึงมีข้อสงสัยขึ้นมาในใจ จึงนำมาขอความเห็นจากทุกท่าน

1. เรื่องอาหาร หลายท่านคงทราบว่ามีอาหารแปลกๆพิสดารที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนึกถึง หรือไม่รู้ หรือไม่ทราบ หรือแม้จะรู้แต่ไม่กล้าทาน เช่น กบผัดเผ็ด ตุ๊กแกย่างหรือทอด ลาบกระปอม ไส้เดือนทอดกรอบ เนื้อจรเข้ และอื่นๆอีกมากมายที่ผมนึกไม่ออก คำถาม หากจะนำอาหารเหล่านี้ถวายแก่พระภิกษุสงฆ์ ท่านจะฉันได้หรือไม่ และจะมีอานิสงฆ์หรือวิบากกรรมใดหรือไม่

2. คน ผมมีข้อสงสัยเก็บไว้ในใจมานานแล้วน่ะครับ เมื่อสมัยก่อนผมได้ดูรายการTVรายการหนึ่ง ที่เขามีการจัดชิงแชมป์ความสามารถในด้านต่างๆ ที่ผมสนใจเป็นอย่างมากคือ แข่งกินจุ ซึ่งมีสตรีตัวเล็กๆอยู่ท่านหนึ่งเป็นได้เป็นแชมป์หลายสมัยเลยทีเดียว จนปัจจุบันยังไม่มีใครโค่นแชมป์ของเธอได้ ล่าสุดได้มาออกรายการเจาะใจ เขาได้เผยข้อมูลลับมาส่วนหนึ่ง นั่นคือ สตรีท่านนี้มีกระเพาะที่สามารถขยายได้มากกว่าคนธรรมดาถึง3เท่า และมีระบบเผาผลาญอาหารเร็วกว่าคนปกติทั่วไป คำถาม สตรีท่านนี้ประกอบวิบากกรรมใดมา จึงทำให้เป็นคนกินจุอย่างในปัจจุบัน

ขอหนุโมทนากับทุกความเห็นนะครับ


1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#2 Dhamma Bot

Dhamma Bot
  • Members
  • 477 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 18 July 2008 - 02:18 PM

ผมว่าถ้าถวายของแปลกให้พระฉัน ถึงเวลาบุญส่งผล เราก็คงได้ของแปลกๆมาเปิบพิสดารเหมือนกันนะครับ ในฐานะที่เคยบวชเป็นพระ ผมคิดว่าโยมเอาอะไรมาถวาย พระท่านก็รับไว้เพื่อรักษาศรัทธาน่ะครับ แต่จะฉันหรือเปล่านี่ก็อีกเรื่องครับ

#3 Tanay007

Tanay007
  • Members
  • 616 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2008 - 03:23 PM

เนื้อบางอย่างพระฉันไม่ได้นะครับ มีพุทธบัญญัติห้ามเอาไว้ เอาเฉพาะเรื่องเนื้อสุนัขที่ผมเคยประสบมา คนแถวคนหนึ่งแกนิยมกินเนื้อสุนัขมาก ปรากฎว่าไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม มันจะถูกสุนัขไล่เห่าและไล่กัด
ว่ากันว่าคนที่กินเนื้อสุนัขมักจะกลิ่นที่สุนัขรับรู้ได้ จึงทำให้มันเกลียดและกลัวครับ

QUOTE
พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อมนุษย์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาคนที่มีศรัทธาเลื่อมใสมีอยู่ เขาสละเนื้อของเขาถวายก็ได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อมนุษย์ รูปใดฉัน ต้องอาบัติถุลลัจจัย อนึ่ง ภิกษุยังมิได้
พิจารณา ไม่พึงฉันเนื้อ รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.
พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อช้าง
[๖๐] ก็โดยสมัยนั้นแล ช้างหลวงล้มลงหลายเชือก สมัยอัตคัตอาหาร ประชาชน
พากันบริโภคเนื้อช้าง และถวายแก่พวกภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต ภิกษุทั้งหลายฉันเนื้อช้าง
ประชาชนจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรจึงได้ฉัน
เนื้อช้างเล่า เพราะช้างเป็นราชพาหนะ ถ้าพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบคงไม่ทรงเลื่อมใสต่อพระสมณะ
เหล่านั้นเป็นแน่ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติ
ห้ามแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อช้าง รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.
พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อม้า
สมัยต่อมา ม้าหลวงตายมาก สมัยอัตคัดอาหาร ประชาชนพากันบริโภคเนื้อม้า และ
ถวายแก่ภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต ภิกษุทั้งหลายฉันเนื้อม้า ประชาชนจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า
ไฉนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรจึงได้ฉันเนื้อม้าเล่า เพราะม้าเป็นราชพาหนะ ถ้าพระเจ้าอยู่หัว
ทรงทราบ คงไม่เลื่อมใสต่อพระสมณะเหล่านั้นเป็นแน่ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มี
พระภาค. พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติห้ามแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉัน
เนื้อม้า รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.
พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อสุนัข
สมัยต่อมา ถึงคราวอัตคัดอาหาร ประชาชนพากันบริโภคเนื้อสุนัข และถวายแก่พวก
ภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต ภิกษุทั้งหลายฉันเนื้อสุนัข ประชาชนจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า
ไฉนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรจึงได้ฉันเนื้อสุนัขเล่า เพราะสุนัขเป็นสัตว์น่าเกลียด น่าชัง
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติห้ามแก่ภิกษุทั้งหลาย
ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อสุนัข รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.
พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้องู
สมัยต่อมา ถึงคราวอัตคัดอาหาร ประชาชนพากันบริโภคเนื้องู และถวายแก่พวกภิกษุ
ผู้เที่ยวบิณฑบาต ภิกษุทั้งหลายฉันเนื้องู ประชาชนจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉน
พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรจึงได้ฉันเนื้องูเล่า เพราะงูเป็นสัตว์น่าเกลียดน่าชัง แม้พระยานาค
ชื่อสุปัสสะก็เข้าไปในพุทธสำนักถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วได้ยืนอยู่ ณ ที่ส่วนข้างหนึ่ง
ได้กราบทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคว่า พระพุทธเจ้าข้า บรรดาที่ไม่มีศรัทธา ไม่เลื่อมใสมีอยู่
มันคงเบียดเบียนพวกภิกษุจำนวนน้อยบ้าง ของประทานพระวโรกาส พระพุทธเจ้าข้า ขอพระ-
*คุณเจ้าทั้งหลายโปรดกรุณาอย่าฉันเนื้องู ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคทรงชี้แจงให้พระยานาคสุปัสสะ
เห็นแจ้ง สมาทาน อาจหาญ ร่าเริงด้วยธรรมีกถา ครั้นพระยานาคสุปัสสะอันพระผู้มีพระภาค
ทรงให้เห็นแจ้งสมาทาน อาจหาญ ร่าเริงด้วยธรรมีกถาแล้วถวายบังคมพระผู้มีพระภาคทำ
ประทักษิณกลับไป
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุ
แรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้องู รูปใดฉัน
ต้องอาบัติทุกกฏ.
พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อราชสีห์
สมัยต่อมา พวกพรานฆ่าราชสีห์แล้วบริโภคเนื้อราชสีห์ และถวายแก่พวกภิกษุผู้เที่ยว
บิณฑบาต พวกภิกษุฉันเนื้อราชสีห์แล้วอยู่ในป่า ฝูงราชสีห์ฆ่าพวกภิกษุเสีย เพราะได้กลิ่นเนื้อ
ราชสีห์ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติห้ามภิกษุ
ทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อราชสีห์ รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.
พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อเสือโคร่ง
สมัยต่อมา พวกพรานฆ่าเสือโคร่งแล้วบริโภคเนื้อเสือโคร่งและถวายแก่พวกภิกษุผู้เที่ยว
บิณฑบาต พวกภิกษุฉันเสือโคร่งแล้วอยู่ในป่า เหล่าเสือโคร่งฆ่าพวกภิกษุเสียเพราะได้กลิ่นเนื้อ
เสือโคร่ง ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติห้าม
ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อเสือโคร่ง รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.
พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อเสือเหลือง
สมัยต่อมา พวกพรานฆ่าเสือเหลือง แล้วบริโภคเนื้อเสือเหลืองและถวายแก่พวกภิกษุ
ผู้เที่ยวบิณฑบาต พวกภิกษุฉันเนื้อเสือเหลืองแล้วอยู่ในป่า เหล่าเสือเหลืองฆ่าพวกภิกษุเสีย
เพราะได้กลิ่นเนื้อเสือเหลือง ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาค
ทรงบัญญัติห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อเสือเหลือง รูปใดฉัน
ต้องอาบัติทุกกฏ.
พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อหมี
สมัยต่อมา พวกพรานฆ่าหมีแล้วบริโภคเนื้อหมี และถวายแก่พวกภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต
พวกภิกษุฉันหมีแล้วอยู่ในป่าเหล่าหมีฆ่าพวกภิกษุเสียเพราะได้กลิ่นเนื้อหมี ภิกษุทั้งหลายกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อหมี รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.
พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อเสือดาว
สมัยต่อมา พวกพรานฆ่าเสือดาวแล้วบริโภคเนื้อเสือดาว และถวายแก่พวกภิกษุผู้เที่ยว
บิณฑบาต พวกภิกษุฉันเนื้อเสือดาวแล้วอยู่ในป่า เหล่าเสือดาวฆ่าพวกภิกษุเสีย เพราะได้กลิ่น
เนื้อเสือดาว ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาค ทรงบัญญัติ
ห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อเสือดาว รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๕ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕
มหาวรรค ภาค ๒

#4 homer324

homer324
  • Members
  • 522 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2008 - 08:07 PM

ตอบคุณขี้สงสัย..(อิ อิ)

1.ผมไม่รู้ว่าวิบากกรรมเป็นอย่างไร (ผมก็สงสัยตะหงิดๆเหมือนกัน) แต่สมมติว่าถ้าผมเป็นพระ แล้วมีคนเอาอาหาร (อย่างที่คุณเล่ามา) มาถวายเพื่อขบฉัน (แต่คงไม่บ่อยมั้ง..ยิ่งหายากอยู่ด้วยนี่น่ะ) อาตมา..เอ้ย ผมคงจะฉัน..เอ้ยทาน แบบเจเขี่ยน่ะครับ รู้จักเจเขี่ยไหมครับ..คือเลือกทานแต่ผัก และส่วนอื่นๆ ยกเว้นเนื้อน่ะครับ..

ส่วนอานิสงค์ ถ้าครบองค์บุญก็เต็มร้อยครับ คือ ผู้ให้บริสุทธิ์ สิ่งของบริสุทธิ์ (แต่อาจไม่ถูกปาก แฮ่ะๆ) เจตนาบริสุทธิ์ และผู้รับบริสุทธิ์ครับ..

ส่วนว่าเรื่องของวิบากกรรม จากการถวายอาหารแปลกๆนี่ คำตอบก็น่าจะคล้ายคุณ Blissinessman น่ะครับ เพราะหลวงพ่อเคยบอกไว้ว่า--ปลูกถั่ว ก็ย่อมได้ต้นถั่ว ปลูกงา ก็ย่อมได้ต้นงา จะได้ต้นแอปเปิ้ล หรือต้นส้ม เป็นไปไม่ได้ (อันหลังๆนี่ผมเติมเองน่ะครับ..แฮ่ะๆ)

2.เรื่องคนกินจุ ก็น่าจะเป็นว่า--เคยทำบุญมาแต่ละครั้ง ก็คงเคยนึกอธิษฐานจิตว่าให้ได้เกิดมาได้กินเยอะๆ หรือให้ได้เป็นแชมป์กินจุ (อันนี้มั่ว เอ้ย เดา) อะไรทำนองนี้มั้งครับ..

ไว้ฟังผู้รู้อื่นเฉลยมั่งน่ะครับ อย่าเชื่อเต็มร้อยเพราะเป็นเหตุเป็นผล หรืออย่าเชื่อเพราะเป็นนักปราชญ์ นักธรรมน่ะครับ..

ควรเชื่อแบบ 50-50 คือเอาไว้เป็นข้อมูล ที่เหลือไว้ค้นเอง (โดยไปรู้ไปเห็นเอง แบบผู้ที่ได้ฌานแล้วนั่นแหล่ะดีครับ)




#5 เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี

เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี
  • Members
  • 938 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2008 - 08:49 PM

เห็นหัวกระทู้แล้วรู้เลยว่าใคร.. อิอิ
ไม่มีคำตอบหรอก.. เพราะคิดว่าท่านอื่นตอบดีอยู่แล้ว
แวะเข้ามาอ่านจ้า
อนุโมทนาบุญกับคนขี้สงสัยด้วย
สาธุ สาธุ สาธุ.. happy.gif
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..

#6 เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี

เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี
  • Members
  • 938 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2008 - 09:09 PM

เอ่อ.. สงสัยบ้างได้มั๊ยอ่ะ..

กำลังสงสัยว่าเจ้าของกระทู้อาจจะสนใจเมนูพิศดาร
เรานึกขึ้นได้ เคยอ่านการ์ตูนตอนเด็กๆ ไม่รู้มีจริงหรือเปล่า เช่น
ช้างทอดกรอบ, ฉู่ฉี่ปลาโลมา.. อะไรประมาณนี้.. เอิ๊ก..
ล้อเล่นนะ อิอิ.. happy.gif
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..

#7 homer324

homer324
  • Members
  • 522 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2008 - 10:12 PM

ก็แซว..ซ้า

อิ อิ

#8 เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี

เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี
  • Members
  • 938 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 July 2008 - 09:36 AM

อ่า.. เราแซวเล่นนะ
แต่ข้อสงสัยคุณมีประโยชน์จริงๆ
เราชอบอ่านเพราะบางอย่างก็ยังไม่รู้เหมือนกัน.. happy.gif
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..

#9 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 21 July 2008 - 12:19 PM

เรื่องอาหาร ก็ตอบเหมือนคุณ Tanay007 น่ะครับ

ส่วนเรื่องว่าำทำบุญอะไรนั้น ส่วนใหญ่ถ้ามีความสามารถไม่เหมือนชาวบ้าน แต่มีชื่อเสียงและได้ทรัพย์เหมือนชาวบ้าน มักทำบุญกับเนื้อนาบุญ แล้วอธิษฐานให้มีความสามารถอย่างนั้นๆ มาน่ะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#10 กุ้งรพ.หัวหิน

กุ้งรพ.หัวหิน
  • Members
  • 201 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 July 2008 - 02:58 PM

ไม่น่าเอาไปถวายท่านมังเดี๋ยวท่านต๊กใจ อิอิ เพราะไม่น่าอร่อย แต่เจตนาดี คงไม่มีวิบากมั๊งคะ (ไม่รุ้เรื่องแต่อยากช่วยตอบ หุหุ)