การผิดศีล8
#1
โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 04:53 PM
#2 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 05:47 PM
#3
โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 05:50 PM
ถ้าตั้งสัจจะแล้วทำไม่ได้ตามที่ตั้งก็เท่ากับเสียวาจาสัจของเราเท่ากับเสียสัจจบารมีครับ
ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าให้ตั้งสัจจบารมีแบบวันต่อวันเถอะครับวันไหนถ้าคิดว่าไม่ไหวจริง ๆ ก้อผ่อนมาเป็นศีล 5
รักษาสบายๆๆ นึกครึ้มศีล 8 ก้อให้ตลอดครับ
ถามว่าบาปไหมผมว่าไม่บาปนะครับเพราะศีล 8 เป็นศีลที่ใช้ขัดเกลากิเลสที่ละเอียดขึ้นมาอีกหน่อยครับ
ถ้าเทียบกับพระสงฆ์แล้ว ศีลฆาราวาส บาปไม่เท่ากับศีลของพระครับ เพราะพระภิกษุขอรับศีลก็เท่ากับขอรับสัจจะกับพระพุทธเจ้าครับ ดังนั้นถ้าพระผิดศีลขึ้นมาไม่ว่าข้อใดต้องรีบปลงอาบัติขอขมาพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ทันทีอย่าให้พ้นข้ามวันครับ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#4
โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 06:19 PM
เพราะการฆ่าเท่ากับเป็นการปิดหนทางเพื่อที่จะได้มีโอกาสบรรลุมรรคผลครับ ถ้าเป็นการฆ่ามนุษย์นะ
ถ้าเป็นการฆ่าสัตว์ ถ้าสะสมการฆ่ามากๆ จะทำให้สามารถฆ่าคนและฆ่าตัวเองได้ครับ โทษสูงสุดของการฆ่าคือ
การฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ทำพระพุทธเจ้าห้อโลหิต ทำสังฆเภท (ทำสงฆ์แตกแยกฆ่าความดีของผู้อื่น)
ขออภัยพิมพ์ตกไปครับ โทษสูงสุดของการฆ่าคือ อเวจีมหานรก ครับ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#5
โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 06:42 PM
อยากทราบว่า ถ้าเราผิดศีล8 เช่นข้อที่ห้ามนอนบนฟูก หรือข้ออื่นๆ ซึ่งเราไม่ได้ถือเป็นปกติ จะบาปไหมครับ
ตอบ...ผิดตอนไหนล่ะคะ ผิดตอนตั้งใจ อาราธนาศีล 8 แล้วหรือเปล่า ถ้าผิดก็ถือว่า ศีลขาดค่ะ เพราะศีล 8 เป็นศีลพวง ผิดข้อใดข้อหนึ่งถือว่าผิดทั้งหมดค่ะ ต้องศึกษาองค์แห่งศีลเพิ่มเติมอีกว่า ผิดระดับไหน ถือว่า ศีลขาด ผิดระดับไหน เป็นเพียงศีลด่าง ศีลพร้อย ศีลทะลุ ฯลฯ
ต่างจากการถือศีล 5 ผิดข้อใดก็ถือว่าผิดข้อนั้นข้อเดียว เป็นไปตามคำอาราธนา วิสุง วิสุง แปลว่า แยก (เวลาอาราธนาศีล 8 ไม่มีคำนี้)
อนุโมทนาบุญค่ะ
#6
โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 06:48 PM
อนุโมทนาบุญครับ
#7 *สาธุชนที่ศรัทธาวัดและหลวงพ่อมาตล*
โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 08:32 PM
สาธุ สาธุ สาธุ
#8
โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 08:41 PM
#9
โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 09:05 PM
ส่วนที่คุณ xlmen บอกว่า การฆ่า เป็นบาปที่หนักที่สุด โดยยกตัวอย่างการฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ซึ่งเข้าข่ายอนันตริยกรรมนั้น ที่การทำแบบนั้นเป็นกรรมหนัก เพราะ วัตถุที่เราเข้าไปล่วงเป็นบุคคลที่มีคุณมากครับครับ ต้องแยกประเด็นกันด้วยระหว่างการผิดศีลกับวัตถุที่เราก้าวล่วงครับ แต่จะว่าไปแล้ว การผิดศีลข้อ 5 ก็เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นให้ผิดศีลได้ทุกข้อครับ
อ้อ...ลืมบอกไปว่า ที่ผมบอกว่าผิดศีลข้อ 5 บาปกว่าศีลข้อ 1 คือ ผมเปรียบเทียบในกรณีผิดศีลปกติ ไม่ได้ก้าวล่วงวัตถุที่มีคุณมากนะครับ
เพราะปกติผิดศีลข้อ 1 ก็ตกนรกขุม 1 ผิดข้อ 2 ก็ขุม ไล่ไปอย่างงี้จนผิดศีลข้อ 5 ก็ขุม 5 ถ้าขุม 6 ก็ผิดศีลหมดทั้ง 5 ข้อ ขุม 7 ก็อบายมุข ขุม 8 ก็นี่เลยครับ อนันตริยกรรมที่คุณ xlmen กว่าถึง แต่ถ้าเป็นพวกมิจฉาทิฏฐิทิ้งดิ่ง ก็นี่เลยครับ ขุมสเปเชียล โลกันตร์นรก ไปเลยครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#10
โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 10:07 PM
ถ้าสมมุติ นาย ก.ไปฆ่า นาย ข. ทางโลกนาย ก. มีความผิดฐานฆ่าคนตาย (กรณีไม่มีลดหย่อนโทษ) ต้องรับโทษถูกประหารชีวิต ถือเป็นการรับโทษที่เห็นได้ชัดๆ บนโลกเลยครับ
แต่ถ้านาย ก. เป็นคนขี้เหล้า ถ้าภายหลังนาย ก. เลิกเหล้าหันมาปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมกาย แสดงว่าความผิดของนาย ก. ก็ยังเปิดโอกาสมีเวลาให้สำนึกบาปได้ ผิดกับข้อแรกที่ถ้าทำไปแล้วหมดโอกาสในการทำบุญแล้วครับ
สำหรับเรื่องผิดศีลข้อ 1 แล้วไปขุม 1 ผิดข้อ 2 ไปขุม 2 ผิดข้อ 3 ไปขุม 3 ผิดข้อ 4 ไปขุม 4 ผิดข้อ 5 ไปขุม 5
ตั้งแต่ผมอ่านพระไตรปิฏกมายังไม่เคยพบคำสอนแบบนี้เลยครับ ถ้าหากมีปรากฎจริงดังกล่าวขอให้อ้างอิงพระไตรปิฏกมาด้วยครับผมจะได้ปัญญาบารมีเพิ่มครับ
วิเคราะห์ ถ้าผิดศีลข้อ 4 แล้วตกนรกขุม 4 จริง ผมว่ามนุษย์ในโลกนี้ทุกคนต้องตกนรกหมดแน่นอนครับ และถ้าตกขุม 4 เพราะพูดปด แสดงว่าฆ่าคนตายก็สบายกว่าโกหก งั้นนาย ก. ควรฆ่าคนมากกว่าโกหกใช่ไหมครับ ตวามผิดทางโลกโกหกยังไม่ร้ายแรงเท่าฆ่าคนตาย การฟังธรรมใดๆ พระพุทธเจ้าไม่สอนให้เป็นคนหูเบานะครับ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#11
โพสต์เมื่อ 27 December 2005 - 06:30 AM
เรื่องไหนไม่ควรทำก็ไม่ทำ ไม่ว่าข้อไหนก็เป็นบาปหมดละค่ะ การมาคุยกันว่านไหนร้ายแรงกว่าจะทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องกล้าทำผิดข้อที่เขาคิดว่าโทษเบาเอาเปล่า
ง่ายๆ คือ ต้องได้รับผลกรรมหมดล่ะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#12
โพสต์เมื่อ 27 December 2005 - 08:29 AM
ส่วนการจะนอนบนฟูกหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เช่น ไปพนาวัฒน์ถือศีล 8 เขาจัดที่นอนให้คนละเตียง ก็นอนได้ค่ะ หรือบางคนขาหรือหัวเข่าไม่ค่อยดี ไม่สามารถนอนกับพื้นได้ ก็นอนบนเตียงได้เช่นกัน หรือบางครั้งเดินทางไปพักที่โรงแรม ที่นอนเขาจัดให้เป็นเตียงก็สามารถนอนได้เช่นกันค่ะ
ส่วนเรื่องจุดพลุนั้น ชอบที่สุดเลยค่ะ ชอบดูมากกกกก เหมือนเราได้มาฉลองปีใหม่ที่วัดแทนที่เราจะไปที่อื่นค่ะ อีกเรื่องหนึ่ง จุดนี้ก็ยังสามารถเชิญชวนคนที่ยังไม่ค่อยอยากจะมาวัดเท่าไหร่ ให้มาดูพลุก่อน ซึ่งจะทำให้เขาได้มีโอกาสมาเห็นภาพคนปฏิบัติธรรมกันเยอะ ๆ ด้วยความสงบเรียบร้อยค่ะ หลายคนก็มีจุดเริ่มต้นจากตรงนี้ค่ะ
#13
โพสต์เมื่อ 27 December 2005 - 12:29 PM
วิสัชชนา: กรณีที่่ถามนี้"ไม่บาป" โดยต้องแยกประเด็นให้ออกว่า การกระทำนั้น ผิดศีล บาป หรือ มีวิบากกรรมจากการผูกพยาบาทจองเวรหรือไม่
ศีลจะขาดหรือไม่นั้น มีองค์ประกอบอยู่ที่
1. รู้ว่าพูดหรือกระทำแล้วผิด
2. รู้ว่าผิดแล้วยังคิดจะพูดหรือกระทำ
3. เจตนา-วางแผนจะพูดหรือกระทำ
4. ตั้งใจพูดหรือลงมือกระทำ
5. พูดหรือกระทำสำเร็จแล้วเกิดผลที่ตั้งใจไว้
- ถ้าผิดศีล จะดูที่ระดับก็ได้ โดยเปรียบเป็น ศีลด่าง ศีลพร้อย ศีลทะลุ(ขาด)
- ส่วนเรื่องการถือศีล ก็มีระดับเหมือนกัน เปรียบกันตั้งแต่ ศีลจิ้ม ศีลน้ำเชื่อม ศีลแช่อิ่ม
#14
โพสต์เมื่อ 27 December 2005 - 07:00 PM
อนุโมทนาบุญครับ
#15
โพสต์เมื่อ 27 December 2005 - 08:32 PM
ดังทีครั้งหนึ่งมีคนถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า "บุคคลควรทำบุญที่ไหน" พระองค์ ตอบว่า "ควรทำบุญในที่ที่ตนเลื่อมใส" แล้วคนเดิมก็ถามต่อว่า "บุคคลควรทำบุญที่ไหนถึงได้บุญมาก" พระองค์ตอบว่า "ผู้หวังผลบุญมากควรทำในที่เนื้อนาบุญ คือ พระรัตนตรัย" ครับ
ส่วนที่ถามว่า เอาหลักที่ว่า ผิดศีลข้อนี้ ตกนรกขุมนั้น ขุมนี้ มากจากไหน ไม่มีในพระไตรปิฎก ผมขอตอบว่า ความรู้อันนี้ผมได้มาจากครูบาอาจารย์ครับ คือ พระเดชพระคุณ คุณครูไม่ใหญ่ครับ ถ้าเข้าโรงเรียนอนุบาลเป็นประจำทุกวัน ก็จะรู้ครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#16
โพสต์เมื่อ 28 December 2005 - 05:38 PM
พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาของผู้รู้ การแสดงความเห็นด้วยเจตนาที่ดีต่อกันจึงเป็นการสร้างปัญญาบารมีอย่างหนึ่งครับ อย่ากังวลใจเลยครับ เนื่องจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านปรินิพพานไปแล้วดังนั้นการเป็นชาวพุทธที่ดีจำเป็นอย่างยิ่งครับที่จะต้องศึกษาคำสอนในพระไตรปิฏกประกอบด้วยเสมอครับ สำหรับการเข้าโรงเรียนอนุบาลผมก็เข้าครับฟัง DMC ทุกวันเหมือนกัน ผมก็ทราบคำสอนนี้เหมือนอย่างที่คุณ MiraclE...DrEaM ทราบมาครับ แต่เนื่องจากผมยังค้นคว้าในพระไตรปิฏกไม่เจอคำสอนตรงนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่บัณฑิตผู้รู้ควรจะค้นคว้าครับ
เรื่องของการเสวยผลบุญและบาปเป็นธรรมละเอียดลึกซึ้งมาก มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ แม้ตัวอย่างพุทธประวัติ หรือประวัติสาวก ก็มีมากครับที่ปรากฎว่าผู้ที่ทำบาปแม้เพียงวาจาก็สามารถตกนรกอเวจีได้ลึกกว่าขุมที่ 4 หรืออย่างชายที่ข่มขืนพระอุบลวรรณาเถรี ถามว่าชายคนที่ข่มขืนทราบไหมว่าท่านเป็นพระอรหันต์ ตอบว่าไม่ทราบครับ ยังต้องตกนรกดิ่งอเวจีเหมือนกันเลยครับ ดังนั้นที่ผมกล่าวว่าการฆ่าบาปที่สุดก็เพราะผมปรารถนาดีครับ สิ่งพึงงดที่สุดพระพุทธเจ้าให้ความสำคัญที่สุดท่านจึงกำหนดให้เป็นข้อแรกครับ ถ้าสมมุติว่าเราเกิดไปฆ่าใครเขาตายด้วยความไม่รู้ ความไม่รู้นี่แหละอันตรายนักถ้าบังเอิญคนๆ นั้นแม้ไม่ใช่พระแต่เป็นพระอริยะบุคคลเข้าบาปก็ดิ่งหนักเกินขุม 1 แน่นอนครับอเวจีเห็น ๆ เลย ตัวอย่างเคยมีมาแล้วในอดีตสามารถอ่านในพระไตรปิฏกได้ครับ ขอโมทนาในกุศลเจตนาด้วยครับ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#17
โพสต์เมื่อ 29 December 2005 - 03:40 AM
#18
โพสต์เมื่อ 30 December 2005 - 07:39 PM
ทำไมถึงห้ามนอนฟูกหนาๆ เพราะว่า มันทำให้เราสบายทำให้ติดยึดในรูปสังขาร และเป็นตัวช่วยส่งเสริมเรื่องกามคุณ(น่าจะเรียกกามโทษ) แต่ถ้าเราตั้งสัจจะบอกว่านอนที่ไหนก็ได้ ยินดีในสิ่งที่เจ้าภาพจัดให้ก็ไม่ผิดศีล
#19
โพสต์เมื่อ 31 December 2005 - 01:15 AM
คิดวิเคราะห์ กับไปดูมันต่างกัน
#20
โพสต์เมื่อ 31 December 2005 - 01:50 AM
ถ้ามีคนตอบก็น่าชื่นใจครับ อย่าไปคิดว่าเขามาขัดแย้งกันเลยครับ
เสวนาธรรมจุดประสงค์เพื่อคลายความสงสัยกำจัดวิจิกิจฉาอย่างหยาบไปในตัวนะครับ
แต่ถ้าหากใครจะสามารถท่องนรกสวรรค์ได้เองก็สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะธรรมะของพระองค์เป็น
"ปัจจัตตัง" ครับ แต่ถ้ายังท่องนรก-สวรรค์เองไม่ได้ก็ควรยึดพระไตรปิฏกไว้บ้างก็ดีครับ พระไตรปิฏกนี้ไม่ใช่สิ่งธรรมดานะครับอย่ามองว่าเป็นเพียงตำรา เพราะผู้ที่คิดทำคือพระอรหันต์ขีณาสพเจ้าทั้งหลาย โดยมีพระมหากัสสปเถระเป็นประธานในการสังขยนาครับ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#21
โพสต์เมื่อ 03 January 2006 - 08:49 PM
#22
โพสต์เมื่อ 05 February 2007 - 05:10 PM