ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

การมีความรัก อาจทำให้เป็นเปรตได้


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ลูกพระพุทธ

ลูกพระพุทธ
  • Members
  • 136 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 July 2008 - 09:00 PM

หากหลงรักใครแล้วตัดใจไม่ได้ จะเกิดเป็น "เปรต" ได้ เพราะ "จิตตก" ลงต่ำ
มีคำกล่าวว่า ความรักทำให้โลกสวยงาม
จริงอยู่

แต่ความรักที่เป็นไปด้วยกับความชอบพออย่างชู้สาวสวาท

ทำให้จิตตก


เพื่อน ๆ และหลายท่านอาจจะได้อ่านผลของความรักที่ทำให้คนที่เร่าร้อนรุ่มใจในความรัก ยังตัดความรักไม่ขาด ตายแล้วจิตเศร้าหมองลงนรกแล้ว


ต่อไปนี้ เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ของการไม่สามารถตัดใจจากความพิสวาทในเพศตรงข้ามได้ ซึ่งเป็นความคิดทางกาม


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖
ขุททกนิกาย เปตวัตถุ
๑๑. ปาฏลีปุตตเปตวัตถุ
ว่าด้วยหญิงชาวเมืองปาฏลีบุตรสนทนากับเปรต



เวมานิกเปรตตนหนึ่งได้กล่าวกะหญิงมนุษย์คนหนึ่งว่า

[๑๓๑] สัตว์นรกบางพวกท่านก็เห็นแล้ว สัตว์เดียรัจฉาน เปรต อสูร มนุษย์
หรือเทวดาบางพวก ท่านก็เห็นแล้ว ผลกรรมของตนท่านก็เห็นประจักษ์
ด้วยตนเองแล้ว เราจักนำท่านไปส่งยังเมืองปาฏลีบุตร ท่านไปถึงเมือง
ปาฏลีบุตรแล้ว จงทำกรรมอันเป็นกุศลให้มาก.


เมื่อหญิงนั้นได้ฟังดังนั้นแล้ว มีความปลื้มใจ จึงกล่าวตอบว่า ข้าแต่
เทพเจ้าผู้อันบุคคลพึงบูชา ท่านปรารถนาความเจริญแก่ดิฉัน ปรารถนา
ประโยชน์เกื้อกูลแก่ดิฉัน ดิฉันจักทำตามคำของท่าน ท่านเป็นอาจารย์
ของดิฉัน สัตว์นรกบางพวก ดิฉันก็เห็นแล้ว สัตว์เดียรัจฉาน เปรต
อสูร มนุษย์หรือเทวดาบางพวก ดิฉันก็เห็นแล้ว ผลกรรมของตนดิฉัน
ก็ได้เห็นเองแล้ว ดิฉันจักทำบุญให้มาก.


จบ ปาฏลิปุตตเปตวัตถุที่ ๑๑



http://84000.org/tip...amp;pagebreak=0

ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tip....php?b=26&i=131


คำอธิบายเรื่องราวต่อไปนี้ จักมีแจ้งในความคิดเห็นต่อไป

อรรถกถาปาฏลีปุตตเปตวัตถุที่ ๑๑


เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภวิมานเปรตตนหนึ่ง จึงตรัสคาถานี้มีคำเริ่มต้นว่า ทิฏฺฐา ตยา นิรยา ติรจฺฉานโยนิ ดังนี้


ได้ยินว่า พ่อค้าชาวกรุงสาวัตถีและชาวกรุงปาฏลีบุตรเป็นอันมาก แล่นเรือไปยังสุวรรณภูมิ. บรรดาพ่อค้าเหล่านั้น พ่อค้าคนหนึ่งเป็นอุบาสก เกิดป่วยไข้ มีจิตปฏิพัทธ์ในมาตุคาม(สตรี) ได้ทำกาละ(สิ้นชีวิต)แล้ว. เขาแม้ได้ทำกุศลไว้ก็ไม่เข้าถึงเทวโลก เกิดเป็นวิมานเปรตในท่ามกลางมหาสมุทร เพราะเป็นผู้มีจิตปฏิพัทธ์(หลงรัก,แอบรัก,ติดใจ)ในหญิง.


ก็หญิงที่เขามีจิตปฏิพัทธ์นั้น ขึ้นเรือไปยังสุวรรณภูมิ.
ลำดับนั้น เปรตนั้นประสงค์จะจับหญิงนั้น จึงปิดกั้นไม่ให้เรือไป.

..

ลำดับนั้น พ่อค้าทั้งหลายพิจารณากันว่า เพราะเหตุอะไรหนอ เรือนี้จึงไม่แล่น จึงให้จับสลากคนกาฬกิณี สลากได้ถึงหญิงนั้นนั่นแหละถึง ๓ ครั้งโดยความสำเร็จของอมนุษย์. พวกพ่อค้าเห็นหญิงที่เขามีจิตปฏิพัทธ์นั้น จึงให้หย่อนแพไม้ไผ่ลงในสมุทร ให้หญิงนั้นลงไปอยู่บนแพไม้ไผ่นั้น. พอหญิงนั้นลงไป เรือก็แล่นบ่ายหน้าไปยังสุวรรณภูมิโดยเร็ว.

อมนุษย์ยกหญิงนั้นขึ้นยังวิมานของตนอภิรมย์กับหญิงนั้น.


ครั้นล่วงไป ๑ ปี หญิงนั้นเกิดเบื่อหน่าย เมื่อจะขอร้องเปรตนั้น จึงกล่าวว่า ดิฉันอยู่ในที่นี้ก็ไม่ได้เพื่อจะสร้างประโยชน์ในสัมปรายภพ ดีละท่านผู้นิรทุกข์ ขอท่านจงนำข้าพเจ้าไปเมืองปาฏลีบุตร.


เปรตนั้นถูกหญิงนั้นอ้อนวอน จึงกล่าวคาถา :-

สัตว์นรกบางพวกท่านก็เห็นแล้ว สัตว์เดียรัจฉาน เปรต อสุรกาย มนุษย์หรือเทวดาบางพวก ท่านก็เห็นแล้ว ผลกรรมของตน ท่านก็เห็นประจักษ์ด้วยตนเองแล้ว เราจะนำท่านไปส่งยังเมืองปาฏลีบุตร ท่านไปถึงเมืองปาฏลีบุตรแล้วจงทำกุศลกรรมให้มากเถิด.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ทิฏฺฐา ตยา นิรยา ได้แก่ แม้เฉพาะสัตว์นรกบางพวก ท่านก็เห็นแล้ว.
บทว่า ติรจฺฉานโยนิ มีวาจาประกอบความว่า แม้สัตว์ดิรัจฉานมีนาคและครุฑเป็นต้นผู้มีอานุภาพมาก ท่านก็เห็นแล้ว.
บทว่า เปตา ได้แก่ เปรตชนิดผู้หิวกระหายเป็นต้น.
บทว่า อสุรา ได้แก่ อสูรชนิดกาลกัญชิกาสูรเป็นต้น.
บทว่า เทวา ได้แก่ เทพชั้นจาตุมมหาราชบางพวก.


ได้ยินว่า เปรตนั้นพาหญิงนั้นเที่ยวแสดงปัจเจกนรกเป็นต้นในระหว่างๆ ด้วยอานุภาพของตน ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวอย่างนี้.

บทว่า สยมทฺทส กมฺมวิปากมตฺตโน ความว่า หญิงนั้นไปเห็นสัตว์นรกเป็นต้นโดยพิเศษ ก็ได้เห็นประจักษ์ซึ่งวิบากกรรมที่ตนทำไว้ ด้วยตนเอง.
บทว่า เนสฺสามิ ตํ ปาฏลิปุตฺตมกฺขตํ ความว่า บัดนี้ เราจักนำท่านผู้อันใครป้องกันไม่ได้ ไปยังเมืองปาฏลีบุตรโดยร่างของมนุษย์นั่นแล. แต่ท่านครั้นไปถึงเมืองปาฏลีบุตรแล้วจงทำกุศลกรรมให้มาก. อธิบายว่า เจ้าจงเป็นผู้ประกอบขวนขวายยินดีในบุญ เพราะเจ้าเห็นวิบากของกรรมโดยประจักษ์แล้ว.


ลำดับนั้น หญิงนั้น ครั้นได้ฟังคำของเปรตนั้นแล้ว มีความดีใจกล่าวคาถาว่า :-

ข้าแต่เทพเจ้าผู้อันบุคคลพึงบูชา ท่านปรารถนาความเจริญแก่ดิฉัน ปรารถนาประโยชน์เกื้อกูลแก่ดิฉัน ดิฉันจักทำตามคำของท่าน ท่านเป็นอาจารย์ของดิฉัน สัตว์นรกบางพวก ดิฉันก็เห็นแล้ว สัตว์ดิรัจฉาน เปรต อสูร มนุษย์ หรือเทพดาบางพวก ดิฉันก็เห็นแล้ว ผลกรรมของตน ดิฉันก็ได้เห็นด้วยตนเองแล้ว ดิฉันจะทำบุญไว้ให้มาก.

..

ลำดับนั้น เปรตนั้นจึงพาหญิงนั้นไปทางอากาศ พักไว้ในท่ามกลางเมืองปาฏลีบุตร แล้วก็หลีกไป.


ลำดับ ญาติและมิตรเป็นต้นของหญิงนั้น เห็นเปรตนั้นแล้ว ดีใจยิ่งนักว่า เมื่อก่อน พวกเราได้ฟังมาว่าเจ้าถูกเขาโยนลงไปในมหาสมุทรตายแล้ว เจ้านั้นคือหญิงนี้แหละ พวกเราเห็นแล้วหนอ มาโดยสวัสดี แล้วมาประชุมกันถามถึงประวัติของนาง.


จำเดิมแต่นั้น นางก็ได้เล่าเรื่องทั้งหมดที่ตนเห็นและที่ตนเสวยมาแก่พวกญาติและมิตรเป็นต้นนั้น พ่อค้าชาวกรุงสาวัตถีเหล่านั้นเข้าไปเฝ้าพระศาสดาในเวลาที่ได้ถึงกรุงสาวัตถีโดยลำดับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ส่วนข้างหนึ่ง กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.




พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงกระทำเรื่องนั้นให้เป็นอัตถุปปัตติเหตุ(เหตุเกิดเรื่อง) จึงแสดงธรรมแก่บริษัท ๔ มหาชนได้ฟังธรรมนั้นแล้ว เกิดความสังเวช ได้ยินดีในกุศลธรรมมีทานเป็นต้น ฉะนี้แล.

จบอรรถกถาปาฏลีปุตตเปตวัตถุที่ ๑๑

ซึ่งความคิดทางกามนี้เอง ทำให้จิตตก ลงต่ำ เพราะไม่มีพลังมากพอที่จะปฏิสนธิในมนุษย์โลกหรือเทวโลก หรือแม้แต่สำเร็จมรรคผลนิพพาน


มีหลายพระสูตรและคาถาหรือแม้แต่ในชาดก กล่าวว่า ผู้ที่มีจิตติดพันในสิ่งใดสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นวัตถุกามแล้ว เมื่อตายลง จะเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉานบ้าง เป็นเปรตบ้าง หรือแม้แต่ตกนรก

คนบางคนในพระไตรปิฎก ร้อนใจเรื่องความรัก ร้อนใจในโลกนี้ไม่พอ ตายแล้วยังต้องไปร้อนกายในนรกอีก เพราะจิตถูกกิเลสดึงลง ให้เร่าร้อน และเศร้าหมอง ผู้ที่ยังมีจิตใจผูกกับสิ่งใดในโลก จะไม่พ้นจากอบายภูมิทั้งสี่ที่น่ากลัวได้เลย

เครดิต: SpiritWithin_HolyStream

#2 131072

131072
  • Members
  • 237 โพสต์
  • Gender:Not Telling

โพสต์เมื่อ 26 July 2008 - 09:34 PM

น่ากลัวจัง ทำไงดี ไม่อยากมีความรัก

#3 เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี

เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี
  • Members
  • 938 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 July 2008 - 10:12 PM

ขอกราบอนุโมทนาบุญในธรรมทานด้วยคน
สาธุ สาธุ สาธุ.. happy.gif
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..

#4 บุญเลี้ยง

บุญเลี้ยง
  • Members
  • 267 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 July 2008 - 11:29 PM

ถ้าแค่รู้สึกว่า พอใจ
รู้สึก แค่ รู้สึกดี ๆ
รู้สึก แค่ นึกถึงบ้าง บางเวลา
รู้สึก แค่ ยินดีเวลาที่เขามีความสุข
รู้สึก แค่ เป็นห่วงบ้าง เวลาที่เขามีความทุข์
แต่ ไม่รู้สึกอยากครอบครอง
ไม่รู้สึกอยากเป็นเจ้าของ

แบบนี้เรียกว่า ความรักหรือเปล่า?


#5 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 July 2008 - 06:55 AM

Sa Thu

#6 Bruce Wayne

Bruce Wayne
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 July 2008 - 11:55 AM

มันต้องดูที่จิตสุดท้ายก่อนตาย ว่าไปจับกับอะไรทำบุญอยู่บ้างแต่ละไม่ได้ มันเลยเป็นไปเช่นนั้น แต่ก็ไม่ทุกราย

#7 อริย 072

อริย 072
  • Members
  • 440 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 July 2008 - 12:02 PM

คงอย่างนี้ล่ะนะ
พระเดชพระคุณทุกท่าน จึงได้พร่ำสอนนัก ว่าให้เอาใจ จรดที่ศูนย์กลางกายไว้ตลอดทั้งวัน
เวลาตาเอย หูเอย ไปพบอะไรที่พอใจ ก็ยังพอที่จะตัด ยับยั้ง ไม่ให้เกิดมากจน ไหลหลงไปจนเป็นเช่นในเรื่องจ้ะ
....
ลองดูสิจ๊ะ เอาใจวางนิ่งๆ นุ่มๆ ทั้งวัน แล้วจะแปลกใจตนเอง
ใจเราจะอิ่มเต็ม.. อยู่ข้างใน ไม่ต้องเหงา ว้าเหว่ แบบที่ชอบเป็นกัน
จนเป็นเหตุ ของความต้องการใครๆ มาเป็นที่ยึด จนต้องทุกข์
....


#8 Boontomak

Boontomak
  • Members
  • 431 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 July 2008 - 12:18 PM

ขอกราบอนุโมทนาบุญในธรรมทานด้วยคน
สาธุ สาธุ สาธุ..

ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย ยายทำ ยายก็ได้ คุณก็ไม่ได้ คุณทำคุณก็ได้ เพราะฉะนั้นก็ทำมากๆ ไว้ก่อน เราทำทุกๆ วัน "ขอให้ข้าพเจ้าได้เข้าวัดตลอดชีวิต"

#9 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 27 July 2008 - 05:09 PM

แบบนั้น คงเป็นพวก มีจิตผูกพันธ์อย่างแรงกล้า คิดที่จะครอบครองอย่างแรงกล้า ประเภท ต้องเอาให้ได้ ใครจะได้ไปก็ไม่ยอม ผูกพยาบาทจองเวรผู้ที่ได้ไป หรือทำกรรม(ด้วยเล่ห์ กล หรือแย่งชิง)ต่างๆ เพื่อให้ได้มาเป็นของตัว

ถ้ามีความรัก แต่เห็นเหตุแห่งไตรลักณ์ คือ เกิดขึ้น มีอยู่ และดับไป คงไม่มีเหตุเภทภัยเช่นนั้นมังคะ

ผิดถูกประการใด ขออภัยทาน ด้วยนะคะ

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#10 สุภาพบุรุษ072

สุภาพบุรุษ072
  • Members
  • 597 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 July 2008 - 08:31 PM

รักด้วยเมตตาในสรรพสัตว์นั้นมีผลดีทำให้เรามีใจที่กว้างขวางดุจมหาสมุทร แต่รักด้วยราคะนั้นเปี่ยมล้นด้วยไฟที่เผาไหม้จิตใจให้ร้อนและลงสู่ที่ต้ำ

#11 ttt

ttt
  • Members
  • 15 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 July 2008 - 12:52 PM

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

#12 B..L..I..S..S..F..U..L..L.

B..L..I..S..S..F..U..L..L.
  • Members
  • 31 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:Jatujak

โพสต์เมื่อ 30 July 2008 - 01:48 PM

...ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ...จะได้สำรวมระวังมากขึ้น อ่านแล้วมันซิน่ากลัวหลายเด้อค่ะ
omg_smile.gif omg_smile.gif omg_smile.gif
บุญนั้นไม่มีขาย อยากจะได้ต้องทำเอง