สำหรับคนโสด คือ การมองหาและคิดเปรียบเทียบระหว่างสิ่งที่ตาเห็นกับสิ่งที่ใจหวัง
สำหรับคนมีแฟน คือ ทุ่งหญ้าที่แสนจะสดชื่นและอบอวลไปด้วยความหอม
สำหรับคนอกหัก คือ การถูกทำร้ายจากใครบางคนที่ไว้ใจที่สุด
สำหรับคนที่กำลังแต่งงาน คือ การเปลี่ยนแปลงที่ลงตัวและงดงาม
สำหรับคนที่แต่งงานมาแล้ว 7 ปี คือ การจองจำในยามค่ำคืนในสถานที่ที่เรียกว่า "บ้าน"
สำหรับคนที่หย่ากันแล้ว คือ การได้รับของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิต
![รูปภาพ](/forum/uploads/photo-thumb-24505.jpg?_r=0)
รักคื่อ?
เริ่มโดย ธรรมะโยโยจัง, Aug 03 2008 09:07 AM
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 03 August 2008 - 09:07 AM
ก้าวไปข้างหน้าแล้วอย่าได้หันหลังกลับมา
#2
*ประภาสิรินาท*
โพสต์เมื่อ 03 August 2008 - 08:21 PM
มันแล้วแต่มุมมองค่ะ ความคิดของแต่ละคนมันไท่เหมือนกันนะ
#3
โพสต์เมื่อ 03 August 2008 - 08:47 PM
แล้ว จขกท กำลังอยู่ในภาวะใดครับ
ดูอาการแล้วคงอกหักใช่ไหมครับ
ดูอาการแล้วคงอกหักใช่ไหมครับ
#4
โพสต์เมื่อ 03 August 2008 - 09:02 PM
ก็ขอให้ทุกท่านโชคดีทั้งที่มีรัก ไม่มีรัก แต่อย่าลืมทำใจใสๆไว้นะคะ จะได้ติดตามหลวงปู่ หลวงพ่อทั้งสองและ คุณยายไปดุสิตบุรี ไม่ตกทริปนะคะ สาธุ สาธุ
![nerd_smile.gif](style_emoticons/default/nerd_smile.gif)
#5
โพสต์เมื่อ 04 August 2008 - 11:50 AM
นั่นเป็นเพียงรักของคนหนุ่มสาวน่ะครับ แต่ยังไม่ใช่ รักของบิดามารดาที่มีต่อบุตร รักของญาติมิตรที่มีต่อกัน และรักของพระโพธิสัตว์ที่มีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายน่ะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#6
โพสต์เมื่อ 04 August 2008 - 05:32 PM
รักคือ คำๆนี้ (เหล่านี้)
รักคือ ความผูกพัน (ผูก แปลว่ามัดเอาไว้ , พันหมายถึง คล้องไว้หลายๆรอบ/หาทางหลุดได้ยาก)
รักคือ ความอดทนทุกอย่าง (เพราะต้องทนให้ได้ทุกๆอย่าง) อภัยให้กัน
รักคือ ความเข้าใจ (เข้าใจเขา เข้าใจเรา เข้าใจญาติของทั้งสอลฝ่าย)
ดั่งดวงตะวัน(ยามเที่ยง/แดดร้อน) ที่ยังยั่งยืนคู่ฟ้า (ทำไมไม่ตกสักที)
ความรักจึงบังเกิดมาให้เป็นภาษาแทนใจ(ให้ผูกและพันกันไว้)
ความรักจึงช่วยนำทางให้ใจของเรา (ออกจากศูนย์กลางกาย ไปอยู่กับคนข้างกาย)
เพราะเราคู่กัน (จริงๆเหรอ???)
รักคือ ความผูกพัน (ผูก แปลว่ามัดเอาไว้ , พันหมายถึง คล้องไว้หลายๆรอบ/หาทางหลุดได้ยาก)
รักคือ ความอดทนทุกอย่าง (เพราะต้องทนให้ได้ทุกๆอย่าง) อภัยให้กัน
รักคือ ความเข้าใจ (เข้าใจเขา เข้าใจเรา เข้าใจญาติของทั้งสอลฝ่าย)
ดั่งดวงตะวัน(ยามเที่ยง/แดดร้อน) ที่ยังยั่งยืนคู่ฟ้า (ทำไมไม่ตกสักที)
ความรักจึงบังเกิดมาให้เป็นภาษาแทนใจ(ให้ผูกและพันกันไว้)
ความรักจึงช่วยนำทางให้ใจของเรา (ออกจากศูนย์กลางกาย ไปอยู่กับคนข้างกาย)
เพราะเราคู่กัน (จริงๆเหรอ???)
#7
โพสต์เมื่อ 05 August 2008 - 09:18 AM
มีตำรวจที่เข้าใจถึงความรักด้วย ..............
คงประสบทุกข์มาล่ะสิท่าน......
เฮ้อ.......รู้ว่าร้อนแต่ก็เข้าไป
คงประสบทุกข์มาล่ะสิท่าน......
เฮ้อ.......รู้ว่าร้อนแต่ก็เข้าไป
#8
โพสต์เมื่อ 05 August 2008 - 01:13 PM
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับความรัก และก็อย่าลืมครอบครัวและคนที่รักเรามากที่สุดคือ พ่อกับแม่ด้วยนะครับ
#9
โพสต์เมื่อ 05 August 2008 - 02:28 PM
รักตัวเราเองก่อน ด้วยการไม่ทำร้ายตัวเอง รักตัวเองให้เป็น แล้วเราจะรักทุกอย่างที่อยู่รอบตัว เชื่อเถ่อะนะ ไม่อย่างนั้นลองทำดูก็จะรู้เอง รักตัวของเราเองโดยเอาใจเรามาวางไว้ที่ศูนย์กลางกายให้ได้ทุกขณะจิต
#10
โพสต์เมื่อ 05 August 2008 - 02:35 PM
รักให้เป็น รักแบบ Lovely Love จ้า.......
#11
โพสต์เมื่อ 05 August 2008 - 05:05 PM
รักตัวเอง คือให้โอกาสตัวเองได้เข้าถึงธรรม การไปสู่ฝั่งแห่งทุกข์ก็ไม่ไกล
รักคนอื่นแบบหนุ่มสาว การไปสู่ฝั่งแห่งกองทุกข์ก็ไกลออกไป
แล้วแต่เราจะเลือก บารมีก็ต่างกันด้วย
รักคนอื่นแบบหนุ่มสาว การไปสู่ฝั่งแห่งกองทุกข์ก็ไกลออกไป
แล้วแต่เราจะเลือก บารมีก็ต่างกันด้วย
#12
โพสต์เมื่อ 06 August 2008 - 04:06 PM
ก็แบบว่า ยังไม่เคยมีความรัก อ่ะครับ
แต่ว่า ชอบอ่านพระไตรปิฎกครับ เลยคิดว่า
"แต่งงานทำไม หาเรื่องจะเศร้าเฉาทรวง มัวคิดแต่หาคู่ควง กาลจะล่วงพ้นวัยไปเปล่า
หลับตาสบาย จะคลายจากความหมองเศร้า หยุดใจกันเถิดพวกเรา แต่งงานเสียเปล่าไม่ได้อะไร
แต่งงานทำไม ไม่ตายก็ทรมาน หยุดใจหาพระนิพพาน คือหนทางที่แสนประเสริฐ
เกิดมาแล้วไซร้ ไม่หาสุขอันล้ำเลิศ หลับตานึกถึงพระเถิด จะไปเกิดบนสรวงสวรรค์ "
แต่ว่า ชอบอ่านพระไตรปิฎกครับ เลยคิดว่า
"แต่งงานทำไม หาเรื่องจะเศร้าเฉาทรวง มัวคิดแต่หาคู่ควง กาลจะล่วงพ้นวัยไปเปล่า
หลับตาสบาย จะคลายจากความหมองเศร้า หยุดใจกันเถิดพวกเรา แต่งงานเสียเปล่าไม่ได้อะไร
แต่งงานทำไม ไม่ตายก็ทรมาน หยุดใจหาพระนิพพาน คือหนทางที่แสนประเสริฐ
เกิดมาแล้วไซร้ ไม่หาสุขอันล้ำเลิศ หลับตานึกถึงพระเถิด จะไปเกิดบนสรวงสวรรค์ "