ปริศนา
#1
โพสต์เมื่อ 12 August 2008 - 04:51 PM
คนแบบไหน อุปสรรคมาก แต่สุขเสมอ
กินอะไร จึงรู้สึกว่าผู้อื่นไม่ดีเท่าตน
เห็นอะไร จึงคิดว่าใครไม่เห็นตน
แข่งอะไร ไม่ต้องคิด พูด ทำ
แพ้อะไร จึงคิดเอาชนะผู้อื่น
อะไรเอ่ย ทำแล้วไม่อยากพูด
อะไรเอ่ย พูดแล้วไม่อยากทำ
อะไรเล่า พูดแล้วต้องทำ
แล้วทำอะไรจะได้ไม่ต้องทำ?
#2
โพสต์เมื่อ 12 August 2008 - 05:08 PM
งง
#3
โพสต์เมื่อ 12 August 2008 - 05:37 PM
#4 *ประภาสิรินาท*
โพสต์เมื่อ 12 August 2008 - 06:31 PM
#5
โพสต์เมื่อ 12 August 2008 - 07:10 PM
คนรู้ธรรมแต่ไม่ปฏิบัติ ก็ยังเป็นทุกข์อยู่ร่ำไป
คนที่มองอุปสรรคว่าไม่เป็นอุปสรรคย่อมมีสุขเสมอ
กินคนเดียว (บริโภคอัตตา) มักทำให้คิดว่าใครๆ ก็ไม่ดี ยกเว้นตัวเอง
เห็นแต่โทษคนอื่น จึงลืมไปว่าใครๆ เขาก็เห็นโทษที่มีในตัวเราเหมือนกัน
แข่งกันประหารกิเลสน่ะ ไม่ต้องคิด พูด ทำ
แพ้ตัวเอง ก็เลยคิดเอาชนะผู้อื่น
คนบางประเภทขยันทำความดี ก็เลยไม่มีเวลาพูด
คนบางประเภทขยันพูด แต่ตัวเองก็ไม่ได้ทำ
สัจจะบารมี ถ้าพูดแล้วต้องทำ
สุดท้ายเราก็ต้องทำการสร้างบารมี จนถึงที่สุดแห่งธรรม จะได้ไม่ต้องกลับมาทำอะไรอีก
#6
โพสต์เมื่อ 12 August 2008 - 09:03 PM
สุดยอด.. คิดได้ไงเนี่ย.. เจ๋งดี..
สาธุ สาธุ สาธุ..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#7
โพสต์เมื่อ 12 August 2008 - 11:10 PM
ตอบได้บางข้อนะ บางข้อก็ตอบไม่ได้
พออ่านเฉลยก็ถูกบางข้อเหมือนกัน
แต่บางข้อก็คิดว่าถูกนะ อาจจะถูกในความคิดของเราน่ะ
ตอบว่า "นักสร้างบารมี" น่ะค่ะ เพราะมีสโลแกนว่า "อุปสรรคบ่มีบารมีบ่เกิด อุปสรรคมากมีบารมีจะเกิด"
#8
โพสต์เมื่อ 16 August 2008 - 10:21 AM
ทุกคนต่างก็มีธรรมะอยู่ในจิตใจ ตอบได้อยู่ ถ้าคิดดีแล้วอ่ะนะ
คิดดีเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
#9
โพสต์เมื่อ 16 August 2008 - 08:28 PM
ทำดีได้กับตัว ทำชั่วไม่ได้ดี
#10
โพสต์เมื่อ 20 August 2008 - 11:39 PM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป