ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 2 คะแนน

ขอรายละเอียดเรื่อง 18 กายหน่อยครับ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ลูกผู้ชายตัวจริง

ลูกผู้ชายตัวจริง
  • Members
  • 97 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 11:20 PM

พอดีผมได้ยินมา แต่ค่อนข้างสับสนครับ เพราะว่า คำพูดที่แต่ละคนใช้ค่อนข้างแตกต่างกัน จนผมฟังแล้ว ไม่เข้าใจเลยครับ ใครรู้ช่วยมาตอบด้วยนะครับ อนุโมทนาล่วงหน้าครับ

#2 mpbkkt

mpbkkt
  • Members
  • 55 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 11:37 PM

กายมนุษย์หยาบ - กายมนุษย์ละเอียด
กายทิพย์หยาบ - กายทิพย์ละเอียด
กายรูปพรหมหยาบ - กายรูปพรหมละเอียด
กายอรูปพรหมหยาบ - กายอรูปพรหมละเอียด
กายธรรมหยาบ - กายธรรมละเอียด
กายพระโสดาหยาบ - กายพระโสดาละเอียด
กายพระสกิทาคาหยาบ - กายพระสกิทาคาละเอียด
กายพระอนาคาหยาบ - กายพระอนาคาละเอียด
กายอรหัตรหยาบ - กายอรหัตรละเอียด


#3 เย็นสบาย

เย็นสบาย
  • Members
  • 155 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 August 2008 - 12:45 AM

กายธรรมหยาบ - กายธรรมละเอียด ขอแก้ไขนะครับเป็น กายธรรมโคตรภูหยาบ - กายธรรมโคตรภูละเอียด
http://www.kalyanami...index_d...มาฟัง

#4 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 August 2008 - 07:08 PM

ได้ยินมาอย่างไร ช่วยขยายความหน่อยครับ

#5 ลูกผู้ชายตัวจริง

ลูกผู้ชายตัวจริง
  • Members
  • 97 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 August 2008 - 11:30 PM

ตอนนี้ผมมีคำถามค้างคาใจอยู่ว่า ละเอียด กับ หยาบ จะแตกต่างกันยังไงหรอครับ

#6 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 29 August 2008 - 07:57 AM

ส่วนผมก็มีคำตอบสั้นๆ และง่ายๆ ว่า นั่งให้เห็นเองไม่ดีกว่าหรือครับ

เหมือนคุณเจอฝรั่งถามว่า พริกนี่ เผ็ดยังไงเหรอ เผ็ดเหมือนหัวหอมมั้ย

คุณย่อมบอกว่า ไม่ แล้วมันเผ็ดยังไง คุณจะอธิบายฝรั่งยังไงครับ

เป็นผม ผมก็จะหยิบพริกให้ฝรั่ง หน่อยนึง แล้วบอกให้ลองกินเข้าไปดู อธิบายง่ายกว่ามั้ยครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#7 yama

yama
  • Members
  • 43 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 August 2008 - 10:25 AM

เราอย่าหลงประเด็นนะครับ การฝึกให้เห็นพระธรรมกายเราต้องรู้หลักการที่ถูกต้องเสียก่อน ถ้าเราเข้าใจการปฏิบัติภาคทฤษฎีถูกต้องแล้ว เมื่อลงมือปฏิบัติเราก็จะได้รับผลตรงตามหลักวิชชาธรรมกาย


ฟังมามากแล้วว่าทำให้ได้แล้วจะรู้เอง ผมว่านั่นเป็นการดักปัญญา เป็นกับดักให้เราเขวในการเรียนรู้ เพราะถ้าปฏิบัติแบบไม่มีความรู้จริง ก็ไม่มีทางเข้าถึงของจริง

ทีนี้ฟังจากท่านเจ้าของกระทู้ถามแล้ว ไม่ทราบว่าท่านจะถามเกี่ยวกับกาย 18 กายนั้นท่านจะถามอะไร ท่านเคยได้ยินมาอย่างไร ท่านน่าจะเล่าสู่กันฟังก่อนนะครับ ไม่อย่างนั้นการคุยกันก็จับต้นชนปลายไม่ถูก


ผมไม่นิยมว่านั่งเองเห็นเองรู้เอง เพราะนั่นเป็นคำพูดที่ยังไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะถ้าไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้องการนั่งเองแล้วเห็นเองรู้เองก็จะไม่มีทางถึงขั้นนั้นได้


บางคนเห็นดวงปฐมมรรคแล้วก็ยังทำอะไรไม่ถูกเลย ไปต่อก็ไม่ได้ เพราะไม่มีความรู้ทางวิชชาธรรมกายมาก่อน บางคนพอฝึกเดินกายในกายก็ไปติดแค่กายสองกายแล้วก็ไปต่อไม่ได้ เพราะอะไร เพราะไม่มีความรู้ที่ถูกต้องในการปฏิบัติ แล้วนี่จะเรียกว่าปฏิบัติได้แล้วรู้เองได้หรือ คำพูดอย่างนี้ทำให้คนฝึกติดตังเพราะความไม่รู้มามากต่อมากแล้วนะครับ


ผมแสดงความเห็นเท่านั้นนะครับ ผมว่าเราควรเข้าใจความรู้ในทางวิชชาธรรมกายเบื้องต้นให้ถูกต้องกันก่อน ผมเสนอดังนี้นะครับ


1. ทุกครั้งที่นั่งสมาธิ ขอให้เดินใจไปตามทางเดินของใจทั้ง 7 ฐาน ก่อน แล้วไปทำใจให้หยุดนิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกาย เดินใจ 7 ฐานก่อนทุกครั้ง เพราะนี่คือทางไปเกิดมาเกิด ถ้าไม่ชำนาญในการเดินใจไปเป็นลำดับเช่นนี้ เราจะเดินวิชชาต่อไปเมื่อเห็นกายในกายแล้วได้ยากมาก ดังนั้นการเดินใจโดยลำดับไปตั้งแต่ฐานที่ 1 2 3 4 5 6 และ 7 นี้เป็นเรื่องสำคัญมาก

2. เมื่อท่านทำใจหยุดใจนิ่งจนเห็นดวงปฐมมรรคได้แล้ว ท่านต้องไปต่อวิชชา 18 กาย กับพระอาจารย์ที่ต่อวิชชาให้เราได้ อย่าดองเอาได้นาน ดวงปฐมมรรคไม่ใช่ดวงแก้วที่เรานึก ดวงแก้วที่เรานึกเป็นเพียงนิมิต ดวงปฐมมรรคเป็นดวงธรรมประจำกายของเรา เมื่อเห็นจะมีรัศมีสว่างโชติช่วง ลืมตาก็เห็นหลับตาก็เห็น เมื่อเห็นแล้วใจจะอยู่ในสภาวะ หยุด นิ่ง ใส

3. เมื่อท่านฝึกต่อวิชชากับพระอาจารย์ที่ชำนาญ จนกระทั่งลำดับกายในกายได้ทั้ง 18 กาย ย้ำนะครับ 18 กายหลักเราต้องฝึกให้เห็นได้ภายในการต่อวิชชากับพระอาจารย์เลย จะฝึกวันนี้กายหนึ่ง พรุ่งนี้สองกาย ไม่ได้ ถ้าฝึก 18 กายต้องฝึกต่อเนื่องจนกว่าได้เข้าถึงกายในกายทั้ง 18 กายในครานั้นเลย

4. วิชชา 18 กายเป็นเพียงความรู้เบื้องต้นที่ผู้เป็นธรรมกายควรผ่านหลักสูตรนี้ การปฏิบัติต่อเนื่องก็คือเดินอนุโลม-ปฏิโลม 18 กายทุกวันให้กายในกาย ขาวใส สว่างโชติตลอด ใจหยุด นิ่ง แน่น เห็นกายในกายได้ทั้งลืมตาหลับตา 18 กายเป็นเพียงเบื้องต้นท่านต้องมีความรู้เพื่อปฏิบัติให้กายในกายขาวใสเนืองๆ นี่หลวงปู่ท่านสอนไว้

5. กายในกายทั้ง 18 กายถ้าเราเดินสมาบัติให้ใสเนืองๆ ท่านว่าจะเป็นพื้นฐานในการเรียนวิชชาชั้นสูงต่อไป เพราะ 18 กายเป็นพื้นฐานของการเดินวิชชาทุกหลักสูตรตามที่หลวงปู่วัดปากน้ำท่านทำตำราสั่งสอนไว้นะครับ


เอาล่ะครับ คุณเจ้าของกระทู้น่าจะพอรู้หลักการแล้ว แต่ท่านสงสัยเรื่อง 18 กายอย่างไร ลองค่อยๆ พูดคุยกันดูนะครับ

#8 yama

yama
  • Members
  • 43 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 August 2008 - 10:47 AM

อ้อ...เพิ่งเห็นทีคุณเจ้าของกระทู้ถามเรื่องหยาบกับละเอียด ผมจะขอตอบง่ายๆ พอฟังได้ก่อนนะครับ

กายมนุษย์ ทิพย์ พรหม อรูปพรหม และกายธรรม มีทั้ง หยาบและละเอียด ยกตัวอย่าง

กายมนุษย์หยาบ - กับกายมนุษย์ละเอียด(กายฝัน) คู่หนึ่ง

กายทิพย์หยาบ - กายทิพย์ละเอียด คู่หนึ่ง

มีกายหยาบ - กายละเอียด เช่นนี้เป็นคู่กันไป เราพิจารณาดังนี้ ยกตัวอย่างกายทิพย์หยาบ กับ กายทิพย์ละเอียด กายทิพย์หยาบ จะมีเครื่องทรงและความสว่างน้อยกว่ากายทิพย์ละเอียด ท่านจึงกล่าวว่า กายทิพย์หยาบ กายทิพย์ละเอียด พอมีถึงกายธรรม ก็มีทั้ง หยาบ - ละเอียด เช่น กายธรรมพระโสดาหยาบ - กายธรรมพระโสดาละเอียด เรียกอีกอย่างว่า กายธรรมพระพระโสดาปฏิมรรค - กายธรรมพระโสดาปฏิผล ก็คือกายมรรค กายผลนั่นเอง กายในกายเหล่านี้เมื่อเห็นเราจะเห็นความใสความสว่างลำดับไปทีละกาย คือกายใสกายสว่างไปเป็นลำดับ กายทิพย์ละเอียดใสสว่างกว่ากายทิพย์หยาบ กายพรหมละเอียดใสสว่างกว่ากายพรหมหยาบ ฯลฯ เป็นต้น กายในกายแต่ละกายมีคุณสมบัติแตกต่างกันตามชื่อกายนะครับ


เรื่องแบบนี้พอจะอธิบายได้เช่นนี้ จะให้มากกว่านี้การปฏิบัติเป็นเครื่องพิสูจน์ เพียงแต่เราต้องมีพื้นความเข้าใจไว้เป็นทุนบ้าง เพราะการที่เราทำได้รู้เองนั้นไม่เป็นความจริงเสมอไป แต่ปฏิบัติอย่างมีพื้นความรู้นั้นสำคัญมากๆ ครับ ผมเห็นด้วยถ้าท่านจะกล่าวว่า ธรรมภาคปฏิบัติต้องเรียนพื้นความรู้(ปริยัติ)ก่อน เมื่อเข้าใจดีพอแล้วก็ลงมือปฏิบัติ เมื่อปฏิบัติแล้วก็มาตรวจสอบว่าการรู้การเห็นนั้นถูกต้องตามหลักสูตรหรือไม่ เพราะการปฏิบัติแล้วจะให้รู้ไปเสียทุกอย่างนั้นเป็นเรื่องไม่จริง เราต้องใช้หลักหลวงปู่วัดปากน้ำที่ว่า "ประกอบเหตุ สังเกตผล" นะครับ

#9 เสียงกระซิบจากสายลม

เสียงกระซิบจากสายลม
  • Members
  • 5 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 August 2008 - 11:59 AM

เหอๆ ท่านจงมาดูเถอะ รู้ให้เป็นปัจจัตตัง

พระพุทธองค์ก็ตรัสไว้แล้วว่า อย่าเชื่อ จนกว่าจะเห็นได้ด้วยตน

การที่เรารู้มากไปก็เป็นเสี้ยนหนามแก่เรา

อย่ามัวแต่ถามคนโน้น คนนี้อยู่เลย ท่านจงปฎิบัติปรารภความเพียรทั้งกลางวันและกลางคืน

หมั่นพิจารณาให้เห็นจริง เพราะมันเป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน

เพื่อที่สุดแห่งการประพฤพรหมจันทร์ เพื่อที่สุดเเห่งทุกข์ ก้าวข้ามห้วงวัฎฎะ

ที่หลวงปู่กล่าวไว้ว่า "ไหนเกิดมาว่าหาแก้ว เกิดมาพบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม........ฯ"

อนุโมทนากับทุกท่านครับ สาธุ

ปล. อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ เพราะนั่นไม่ใช่พุทธศาสนา

พุทธศาสนาคือศาสนาแห่งปัญญา ถ้าหากมีแต่ความเชื่อกับศรัทธานั่นไม่ใช่หมู่คณะเรา

#10 อริย 072

อริย 072
  • Members
  • 440 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 August 2008 - 12:46 AM

คุณ yama ช่างเป็นผู้ที่มากไปด้วยหลักวิชา..
น่าชื่นชม..ด้วยใจจริง
...
ที่ท่านกล่าวมา.. ก็ตรงกับที่ผู้เขียนได้อ่านมานะ เรื่องที่ตอบ
ที่อ่านมา...ในหนังสือ คู่มือสมภาร..
ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้เคยพิมพ์แจกพระสังฆาธิการ
...ดังนั้นเป็นเรื่องสบายใจได้ ว่าถูกต้องตามหลักวิชชา
ไม่เหมือน หนังสืออีกหลายเล่ม..
...
ส่วนเรื่อง รู้ก่อนทำ หรือทำแล้วค่อยรู้ ก็แล้วแต่จริตนะจ๊ะ
คุณyama อาจเป็นผู้ที่ใจละเอียดแล้ว เลยจะไม่"อยากได้" ในสิ่งที่รู้มา
แต่หลายๆท่าน โดยเฉพาะท่านที่ฝึกใหม่ หรือไม่สม่ำเสมอ
..อาจยังไม่ใช่..
เพราะต้องระวังใจตนเองไม่ให้อยากได้ อยากเห็นตามที่อ่านมา ถามคนที่ได้มา..

ใจที่จะละเอียดได้ เห็นดวงปฐมมมรรค หรือเข้ากลางได้..ต้อง ไม่มีความคิด เท่านั้น..

อ้อ ส่วนเรื่องเดินใจตามฐานทั้ง7 พระอาจารย์สอนสมาธิส่วนใหญ่ที่วัดพระธรรมกาย
ท่านให้ละเว้นได้จ้ะ..ถามมาหลายรูปแล้ว..
...
ท่านให้ไปวางใจนุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกายได้เลย เป็นการลดเวลาในการเริ่มนั่งลงไป
วางใจแล้ว.ก็รอนิ่งเฉยๆ อาจบริกรรมสัมมา อะระหังด้วยก็ได้สำหรับท่านที่ชอบฟุ้ง
แต่คนละเอียดพอประมาณแล้ว ไม่ต้อง วางเฉยๆ
เหมือนพระเดชพระคุณท่านบอกไว้ที่ป้ายพนาวัฒน์ไงล่ะ..
บางครั้งมีวิธีมาก หรือต้องเคลื่อนใจ บางคนไม่ชอบ ก็ให้วางเฉยๆ
...
อย่างไรก็ตาม ถ้าชอบเดินตามฐาน
ก็ไม่ผิด ถ้าใจสบาย..สงบ
วิธีที่ถูกต้องนั้น เมื่อไปตามถนนนั้นแล้ว ต้องไปบรรจบที่ปลายทางเดียวกันเสมอ..คือใจเป็นสมาธิ

...
สาธุ


#11 Remember

Remember
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 April 2010 - 10:56 PM

ตอนนี้สับสนค่ะ ทำอะไรไม่ค่อยจะถูก ไม่รู้จะต้องเริ่มต้นยังไง

#12 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 07 June 2011 - 09:40 PM

ผมกำลังฝึกได้10กายครับ