รวบรวมจากคำสอนของหลวงพ่อ (คุณครูไม่ใหญ่)
• ใจจะหยุดได้ต้อง “เบาสบาย” แตะใจเบาๆ ไว้ตรงกลาง สบายตรงไหนเอาไว้ตรงนั้น
อย่ากังวลใจกับศูนย์กลางกาย เอาความสบายของเราเป็นเกณฑ์ ความสบายทำให้เกิดความพอดี ถ้าพอดีแล้วจะได้ดี
• หัดทำใจให้หยุด นิ่ง อย่างเบาสบาย ให้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
• ให้มีสติปรับไม่ให้ตึงหรือหย่อน “ตึงก็ผ่อน หย่อนก็ปรับ”
• ให้มีความอยากนั่ง และ นั่งอย่างสบาย มีความสุขในการนั่ง
• พอนั่งปุ๊ปก็หมดหน้าที่ของตา หรือ ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่ง เป็นหน้าที่ของใจแล้ว
• ให้รักษาอารมณ์สบายตลอดเวลาทั้งในการนั่งและช่วงอื่น ๆ เพราะว่าอารมณ์สบายจะทำให้เกิดความง่าย ง่ายต่อการนึกนิมิต ง่ายต่อการหยุดนิ่ง ง่ายต่อการเข้ากลาง ง่ายต่อการเข้าถึงกายภายใน
• ความสบายมี 2 อย่าง คือ เกิดขึ้นเอง กับ เราสร้างขึ้น ความสบายที่เกิดขึ้นเอง จู่ๆ ก็เกิดขึ้นเอง ส่วนความสบายที่เราสร้างขึ้นมาทำได้....
โดย 1. ห่างจากบุคคล สิ่ง ที่ทำให้ไม่สบายใจ
2. หาสิ่งที่ทำให้สบายใจ เช่น ชมนกชมไม้ ฟังเพลง อยู่สงบคนเดียว- ให้รักษาอารมณ์สบายก่อนที่จะนั่งจนเกิดความรู้สึกอยากนั่ง มีความพอใจในการนั่ง เห็น ไม่เห็นเป็นเรื่องรอง(ไม่สำคัญ)
• นิมิต คำภาวนา มีไว้กันความฟุ้ง ความง่วง ถ้าไม่ฟุ้ง ไม่ง่วง ก็ให้จรดเข้าภายใน หรือจรดเข้าศูนย์กลางกาย อย่าอยากได้ อยากเห็น เพราะเราจะเผลอไปเร่ง แล้วดึงประสาทตา ปวดขมับ เกร็งกล้ามเนื้อ ท่องไว้ ๆ ถ้าเราได้ด้วยความอยาก ถึงจะใสแค่ไหน ก็ไม่เอา ให้ได้ด้วยความสบายอย่างเดียว
• การปฏิบัติธรรม ให้มีมรรคผล นิพพาน เป็นแก่นสาร ไม่หวังลาภ ยศ สรรเสริญ ถ้าหวังอย่างนั้น จะทำให้จิตไม่นิ่ง ต้องทำใจให้บริสุทธิ์ คิดเสมอว่า เรียนไปทำไม เอาจริงไหม ปล่อยใจเลื่อนลอยไปที่อื่นหรือเปล่า
• จริงวันนี้ ได้วันนี้ จริงพรุ่งนี้ ได้พรุ่งนี้
• อย่าลุ้น คือ อย่าลุ้นปรากฏการณ์ภายใน เช่น ใจกำลังรวม เราก็ลุ้นให้ตกศูนย์
• อย่าเร่ง คือ ภาพกำลังสลัว เราก็เร่งให้ชัดๆเร็วๆ ที่ถูก คือ ต้องดูเฉยๆ
• อย่าเพ่ง คือ ภาพภายในต้องใช้ใจดู อย่าใช้ตาเพ่ง หลับตาให้สบาย คล้ายเรานอนหลับ
• อย่าจ้อง คือ ภาพอะไรปรากฏ ให้วางใจเบาๆ ดูให้ภาพเลื่อนไหลไปเอง ดูเฉยๆ ด้วยใจเย็นๆ
• อย่าใช้ความหยาบในการปฏิบัติเพื่อหาความละเอียด เช่นอารมณ์เศร้าหมอง ขุ่นมัว ลมหายใจเร็ว แรง จิตใจสั่น ไหว ริบรัว ฯลฯ
• ใจที่มีพลัง จะต้องเป็นใจที่เป็นกลาง ๆ ตั้งมั่น มั่นคง
• แม้เราจะไม่เข้าถึงธรรมในวันนี้ แต่อารมณ์สบาย คือ ของขวัญอันยิ่งใหญ่แก่จิตใจ
ซึ่งจะทำให้เราเข้าถึงธรรมในวันหน้า
• จิต มีลักษณะเป็นดวง จึงเรียกว่า ดวงจิต เห็น = มองห่าง ๆ เหมือนของสองสิ่ง ได้ = มองใกล้ ๆ หรือ เข้า ๆ ออก ๆ เป็น = เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มั่นคง กลืน แยกไม่ออก
• ความเบา ความสบาย เป็นสิ่งที่เมื่อนั่งแล้วต้องเริ่มทำ ไม่ว่าจะได้ธรรมะในระดับใดก็ตาม
• ชัดไม่ชัด ไม่สำคัญ สำคัญว่ากลางหรือเปล่า นิมิตสัดส่ายเคลื่อนไหว อย่าตาม!!! จรดใจนิ่ง ๆ เข้ากลางอย่างเดียว แล้วจิตก็จะรวมลงสู่กลางเอง
• นึกดวงแก้ว ก็นึกแบบช้าง อย่าให้มีลีลา หรือมีพิธีรีตองมากมาย การนึกก็นึกอย่างสบาย นึกเห็น ก็เห็น เพราะใจเป็นธาตุสำเร็จอยู่แล้ว ให้มีความมั่นใจ ความมั่นใจเท่านั้นที่จะสร้างความมั่นใจต่อ ๆ ไป
• อย่ากลัวเสียเวลา อย่ากลัวเสียหน้า อย่ากลัวว่าจะไม่ได้
• เป็นพระภายนอก 1. สันโดษ ไม่คลุกคลีด้วยคนหมู่มาก 2. ไม่สะสม ไม่เห็นแก่ลาภ 3. ไม่อยากเด่น ไม่อยากดัง 4. อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นไปเพื่อบุญกุศลล้วน ๆ
• อย่าท้อใจ อย่าน้อยใจ เพราะเมื่อกระแสใจเสื่อมคุณภาพ บาปจะเข้าครอง ต้องปลุกใจให้ฮึดสู้ นั่งให้สนุก เบิกบาน ให้เป็นบุญบันเทิงให้ได้
• อย่าเสียดายความคิดเก่า ๆ จงสลัดทิ้งออกไป ตัดใจให้เหมือนตายจาก - เรื่องหยาบ ๆ ภายนอก ถ้าดูเบา จะมีผลต่อภายใน
• ถ้าไม่ฝึกจรดศูนย์กลางกายตลอดเวลา เวลานั่งใจจะรวมได้ช้า ต้องมัวปัดของเก่าออก ทำให้เสียเวลา
• ถ้าเห็นภาพต้นไม้ คน สัตว์ อย่าไปสนใจ เพราะใจเริ่มเป็นสมาธิ จึงจะเห็นภาพ ให้ดูเฉย ๆ ดูจุดที่เล็กที่สุด เดี๋ยวภาพก็จะเปลี่ยนไปเอง เปลี่ยนไปสู่ความไม่เปลี่ยน
• ความง่ายเกิด เพราะเราทำจิตให้คิดว่าง่าย ความยากเกิด เพราะเราทำจิตให้คิดว่ายาก ถ้ายาก เด็กทำไม่ได้หรอก อย่ากลัวว่าจะไม่ได้ อย่ากลัวว่าจะได้ช้า
• อย่ากลัวว่าจะไม่ได้ เพราะดวงธรรมที่โตเท่ากับฟองไข่แดงของไข่ไก่ มีในมนุษย์ทุกคน ถ้าไม่มีก็เป็นคนไม่ได้ ถ้าดวงนี้แตกดับ กายก็แตกดับดวงธรรมมีกันทุกคน เพียงแต่ไม่เห็น ถ้าใจยังสัดส่ายอยู่
• อย่านั่งไปบ่นไป ไม่เห็นมีอะไร ๆ ๆ ๆ ให้เฉย จะได้นิสัยอุเบกขา ใจจะได้เป็นกลาง ๆ ถ้าส่วนไหนตึง นั่นพยายามเกินไป อย่าฝืน ให้ปรับ
• จุดเริ่มต้นที่ไหนก็ได้ แต่ส่งท้ายต้องศูนย์กลางกาย ช่วงแรกใจอาจจะอยู่ข้างหน้า หรือที่ไหนก็ไม่รู้ อย่ากังวล ปล่อยไป เดี๋ยวจะเข้าศูนย์กลางกายเอง แม้ไม่เห็น แม้ไม่ชัด แต่ให้ใจอยู่กลางท้อง พร้อมความหวังว่าจะได้รักษาใจให้สบาย เดี๋ยวได้แน่
• ถ้าใจยังไม่พร้อมที่จะนึก อย่าเพิ่งนึก ให้วางใจเฉย ๆ จงคอยด้วยใจที่เยือกเย็น วางใจในที่สบาย ๆ
• การวางใจเฉย ๆ ไม่ใช่ช้า เพราะใจเฉย เป็นใจที่ใกล้กับใจละเอียดแล้ว
• ยิ่งอยากก็ยิ่งยาก เลิกอยากก็เลิกยาก จำไว้......... ผู้ที่สว่างเดี๋ยวนี้ ก็คือผู้ที่เคยฟุ้งมาก่อน ผู้ที่จิตตั้งมั่นเดี๋ยวนี้ ก็คือผู้ที่เคยมืดมาก่อน
• เมื่อจิตหยาบ ให้ทำให้นิ่งก่อน พอจิตละเอียด จะกระดิกจิตถึงดวงแก้ว ถึงองค์พระได้ ถ้าไปนึกตอนที่จิตหยาบ จะเครียด เพราะมีความอยากนำหน้า ต้องทำให้นิ่งก่อน
• ทำไมฟุ้ง ทำไมคิดหลายเรื่อง เพราะจิตกำลังหาที่สบาย เมื่อยังไม่พบที่ชอบก็แสวงหาต่อไป เมื่อพบที่ชอบก็หยุด การที่มีความคิดเหลือเฟือ ไม่ใช่ว่าฝึกจิตไม่ได้ เพราะความคิดเป็นกระบวนการอย่างหนึ่งของจิต
• เมื่อเข้าถึงกำเนิดความสุข แหล่งของความสุขที่ศูนย์กลางกาย จิตก็จะไม่ไปไหน มีสุข เกิด ความพอใจ พอเหมาะ พอดี พอเพียง แค่ส่งจิตถึงศูนย์กลางกายนิดเดียว แล้วจิตถอน ก็ได้บุญมากแล้ว
หรือแค่เห็นแสงแว๊บนิดเดียว ชีวิตวันนั้นก็มีความสุขแล้ว คุ้มค่าแล้ว เหมือนคนเล่นน้ำ เอาเท้าจุ่มน้ำตื้น ๆ ก็ยังชื่นใจ
• ถ้าอยากได้เร็ว จะได้ช้า ถ้าไม่กลัวช้า จะได้เร็ว ให้ตัดใจ หักใจ ห้ามใจ ของหยาบ ๆ ก่อน เรื่องข้างในมีอีกเยอะ อย่าไปเลอะเรื่องข้างนอก พลังใจเป็นต่อ เพราะใจจ่อศูนย์กลางกาย ไฟฟ้าที่ลืมปิด ชีวิตที่ลืมศูนย์กลางกาย น่าเสียดายจังน่ะ สายน้ำอาจหมุนวน สายลมอาจเปลี่ยนทิศ แต่สายใยของชีวิต จะไม่เปลี่ยนทิศจากศูนย์กลางกาย
==>คำสอนของหลวงพ่อ (คุณครูไม่ใหญ่)
เริ่มโดย ใสในใส, Aug 30 2008 11:12 PM
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 30 August 2008 - 11:12 PM
#2
โพสต์เมื่อ 31 August 2008 - 12:23 PM
ได้ความรู้เพิ่มเติม อนุโมทนาบุญครับ
#3
โพสต์เมื่อ 31 August 2008 - 06:51 PM
อ่านแล้วใจสงบ...อยากนั่งสมาธิ...อนุโมทนาบุญกับ จขกท. ด้วยนะคะ
#4
โพสต์เมื่อ 31 August 2008 - 08:38 PM
very good
anumothana sathu sathu sathu
anumothana sathu sathu sathu
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
ทำดีได้กับตัว ทำชั่วไม่ได้ดี
ทำดีได้กับตัว ทำชั่วไม่ได้ดี
#5
โพสต์เมื่อ 31 August 2008 - 09:49 PM
สาธุ...น้อมนำไปนึกตอนทำสมาธิ
#6
โพสต์เมื่อ 31 August 2008 - 10:23 PM
สาธุ ชอบจัง เอาไว้ปรับให้ดีขึ้นไปอีก
พระพ่อท่านสอนไว้ทุกมุมแล้ว...
พระพ่อท่านสอนไว้ทุกมุมแล้ว...
#7
โพสต์เมื่อ 31 August 2008 - 10:34 PM
อนุโมทนา เจ้าของกระทู้ ที่นำถ้อยคำครู สู่ประตูธรรม [072]
มาฝากให้น้อมนำไปปฏิบัติ ครับ
Sa_Dhu_Anumonatami.gif 22.04K 74 ดาวน์โหลด
มาฝากให้น้อมนำไปปฏิบัติ ครับ
Sa_Dhu_Anumonatami.gif 22.04K 74 ดาวน์โหลด
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม
#8
โพสต์เมื่อ 31 August 2008 - 11:42 PM
หลวงพ่อท่านสุดยอดจริงๆ..
ได้ประโยชน์มากๆที่สุด
กราบขอบพระคุณหลวงพ่อ และท่านเจ้าของกระทู้ที่นำมาเผยแผ่
สาธุ สาธุ สาธุ..
ได้ประโยชน์มากๆที่สุด
กราบขอบพระคุณหลวงพ่อ และท่านเจ้าของกระทู้ที่นำมาเผยแผ่
สาธุ สาธุ สาธุ..
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#9
โพสต์เมื่อ 01 September 2008 - 08:31 AM
อนุโมทนาบุญครับ สาธุ
#10
โพสต์เมื่อ 01 September 2008 - 10:44 AM
ดีจังเลย อย่าแล้วสบายใจ ขอกราบอนุโมทนาบุญ ด้วยนะคะ สาธุ
#11
โพสต์เมื่อ 02 September 2008 - 03:16 PM
สาธุจ๊ะ
#12
โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 10:56 AM
แค่อ่านยังใกล้นิ่งแล้วเลยค่ะ อนุโมทนาคะ สาาาธุ