ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการเกิด


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ศรีวยาฆร

ศรีวยาฆร
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 September 2008 - 01:08 PM

Reason behind your birth
เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการเกิด


There’s a reason behind your birth.
It’s not by chance You’re here on earth.
Who you are, Is how you have been.
The Law Of Karma tirelessly spins.
เบื้องหลังการเกิดของคุณนั้นมีเหตุผล
คุณไม่ได้มาอยู่บนโลกนี้ด้วยความบังเอิญ
คุณจะเป็นใครหรือเป็นอะไรก็ตาม
กฏแห่งกรรมนี้จะยังคงส่งผลวนไปไม่หยุดหย่อน

Nature’s Law is perfect and just
Where the cause, the effect is cast.
Though in life, no one escapes pain.
This sad human state, Need not always remain.
กฏของธรรมชาติคือความเป็นเลิศและยุติธรรม
ที่ไหนมีเหตุปัจจัยก็ย่อมมีผลวิบากตามมา
แม้ในชีวิตเราจะยังไม่อาจหนีพ้นจากความทุกข์ทรมานทั้งหลายได้
และสภาพของมนุษย์ที่เป็นเช่นนี้แม้น่าเศร้า แต่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่อย่างนี้ตลอดไป

* Break free from this cycle that binds.
Leave your earthly selfish concerns behind.
Be a Buddha in your thoughts, deeds and ways
And surely you’ll be in Pure Land one day.
จงประกาศอิสรภาพจากวัฏฏสงสารที่ผูกพันธนาการนี้เถิด
จงละทิ้งโลกียสุขส่วนตัวอันเป็นห่วงไว้ข้างหลังเถิด
จงมีพระพุทธองค์ไว้ในความนึกคิดเถิด นี่คือวิถีทางและการกระทำ
และจงมั่นใจเถิดว่าในวันหนึ่ง คุณจะเข้าถึง ‘ดินแดนอันเกษม’ อย่างแน่นอน

Look inside your heart And you will find
A nature that is pure and kind.
Let your heart be noble and true
Let your mind be calm and stable too. (ซ้ำ *)
จงมองเข้ามาในใจสิ แล้วคุณจะได้พบว่า
ธรรมชาตินี้บริสุทธิ์และมีเมตตา
ขอให้หัวใจของคุณสูงส่งและทรงสัจจะ
ขอให้จิตใจของคุณจงมีแต่ความสงบและมั่นคงตลอดไปด้วยเทอญ.

ไฟล์แนบ



#2 ศรีวยาฆร

ศรีวยาฆร
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 September 2008 - 02:28 PM

PHENOMENA and NOUMENA
การณ์ที่ปรากฏสมมุติและไม่ปรากฏสมมุติ

(Music and Lyrics:Alvina Eileen Sy)

There was once a man who dreamt he was a butterfly,
He roame the world, fluttered his wings, and there flew high,
He awoke from slumber, and began to question why,
He was no longer sure if he was a man or a butterfly.
ชายคนหนึ่งได้ฝันไปว่าเขานั้นคือ ผีเสื้อตัวหนึ่ง *
เขาเที่ยวกระพือปีกโบยบินท่องไปในโลกกว้าง
และเมื่อเขาตื่นจากหลับฝันนั้นแล้ว, ก็ได้ตั้งคำถามว่าทำไมหนอ
ตัวเขานี้ไม่อาจจะแน่ใจได้เลยว่าเขาเป็นคน(ที่หลับฝัน)หรือเป็นผีเสื้อ(ที่กำลังฝันว่าตัวเองเป็นคน)กันแน่

How can I be sure I’m not just dreaming?
How can I be sure in a world that’s ever- changing?
Like bubbles and lightning, the world is an illusion.
Each fleeting moment is magic, deceiving our human vision.
ก็เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า(ขณะนี้) นี่เราไม่ได้กำลังฝันอยู่
เราจะแน่ใจได้อย่างไรในโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดนี้
ก็โลกนี้เป็นเป็นเพียงภาพมายา เป็นประดุจฟองอากาศและสายฟ้าแลบ
ซึ่งปรากฏอยู่แค่เสี้ยววินาทีก็กลับหายวับไป ดังมายากลที่หลอกลวงการมองเห็นของมนุษย์เรา

Everything’s phenomena, things are not what they seem.
The young grow old; this earthly life is like a dream;
yet amidst these illusions Noumena, the Truth Supreme,
The Enlightened Mind can comprehend the unseen.
ทุกสิ่งเป็นเพียงการณ์สมมุติ สรรพสิ่งไม่ได้เป็นจริงอย่างที่เราเห็น
จากความอ่อนเยาว์สู่ความแก่ชรา ชีวิตโลกีย์นี้เป็นประดุจความฝัน
แต่ในท่ามกลางความเป็นปรากฏการณ์มายาทั้งปวงนี้ ยังคงมีสัจธรรมสูงสุดอยู่
‘โพธิจิต’ นั้นเองที่จะหยั่งรู้ ‘ฉากหลัง’ เหล่านี้ได้


** so why attach oneself to the material,
when this is not to stay forever, and not real?
Why give importance to the body that grows old and dies,
when we can heed to the wisdom of Buddha’s advice. (ซ้ำ **)
เพราะฉะนั้นทำไมเราต้องไปยึดมั่นติดอยู่แต่กับวัตถุเล่า
ในเมื่อสิ่งนี้ไม่อาจคงอยู่ได้ตลอดไป, ก็หรือไม่จริง
จะเยื่อใยไปทำไมกับสังขารร่างกาย ที่ต้องไปสู่ความแก่ชรา และตายลงในที่สุด
ในเมื่อเราสามารถที่จะใส่ใจ(เข้า)ถึง ‘ดวงปัญญา’ อย่างที่พระพุทธองค์ได้ทรงชี้หนทางไว้ให้แล้ว.
__________________

หมายเหตุ:
* ความฝันนี้มีความชัดเจนมากพอๆ กับตอนที่เขาอยู่ในโลกที่เป็นคน เขาจึงไม่แน่ใจว่า
นี่ตัวเองเป็นคนแล้วฝันว่าเป็นผีเสื้อ หรือตัวเองเป็นผีเสื้อแล้วฝันไปว่าเป็นคน
เพราะในโลกทั้งสองนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันปรากฏสัมผัสรับรู้ได้ชัดเจนเป็นจริงพอๆ กัน
จนเขาไม่อาจแน่ใจได้เลย แม้เมื่อเขาตื่นมาเป็นคนแล้วว่า
นี่มันตนเองที่เป็นคนตื่นอยู่จริง หรือตนเองที่เป็นผีเสื้อกำลังฝัน(ว่าเป็นคนที่กำลังตื่นอยู่) กันแน่ !!!???

ไฟล์แนบ



#3 ศรีวยาฆร

ศรีวยาฆร
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 September 2008 - 04:05 PM

ลิงค์ดาวโหลดครับ ฝรั่งแต่งไว้เพราะๆ หลายเพลง

http://www.buddhanet...ngs_english.htm

#4 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 08 September 2008 - 07:06 PM

เพลงแรกเนื้อหา ความหมายน่าค้นหา ดนตรี ทันสมัยดีครับ
อนุโมทนา ในการแบ่งปันช่องทางศึกษาธรรม ด้วยครับ

ไฟล์แนบ



#5 ศรีวยาฆร

ศรีวยาฆร
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 September 2008 - 10:27 AM

ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ
น่าสังเกตนะครับว่า ความเข้าใจศาสนาพุทธของชาวต่างชาตินี่
จะหนักไปทางเซ็น สังเกตเห็นจากเพลงที่สองนะครับ

อนุโมทนาสาธุการครับ

#6 usr17119

usr17119
  • Members
  • 47 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 01:40 PM

เราก็ว่าชีวิตก็เหมือนความฝัน
ไม่ว่าจะความฝันหรือความจริง เราควรทำให้ดีที่สุด
ต้องไม่ประมาท




#7 ศรีวยาฆร

ศรีวยาฆร
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 04:20 PM

เรื่องหลับฝันนี่ ในคัมภีร์พระอรรถกถาก็มีข้อความกล่าวไว้หลายที่ว่า
ผู้ที่ตาย คือกายสังขารนี้แตกดับ เมื่อมีบุญถึงมีวิมานเป็นของตัวเอง
ก็จะได้ไปบังเกิดในวิมานนั้น ท่านใช้สำนวนว่า

'เหมือนหลับ แล้วตื่นกลางวิมาน'

ฟังดูคล้ายกับว่าชีวิตคนในโลกมนุษย์เป็นประดุจความฝัน
ส่วนชีวิตในเทวโลกเป็นจริงยิ่งกว่า เพราะมันปรากฏให้สัมผัสรับรู้ได้
ชัดเจนยิ่งกว่าผัสสะในโลกมนุษย์เสียอีก

ก็แม้แต่ในเทวโลก ท่านก็ยังกล่าวว่าไม่ใช่ของจริง คือไม่ใช่สัจจะที่เที่ยงแท้
ยังต้องมีการจุติเคลื่อนจากที่นั้นอีก จึงฟังดูแล้ว
เป็นเรื่องคล้ายกับการ 'ฝันในฝัน' ไปเรื่อยๆ นะ
ภพภูมิเป็นเรื่องน่าประหลาดใจแท้
มันสลับทับซ้อนกันจนเกินกว่าปัญญาปุถุชนจะหยั่งรู้จริงๆ
มีก็แต่พระปัญญาอันล้ำเลิศของพุทธองค์นั่นแล้ว
ที่พึงรู้แจ้งแทงตลอดภพภูมิเหล่านี้ได้
ความมีอยู่ของสังสารวัฏฏ์นี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ก็เป็นความจริง!
และสรรพสัตว์ต่างก็มาเป็นอย่างนี้แล้ว!!!???

#8 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 September 2008 - 06:56 AM

๑.) ความฝันว่าตนเองกลายเป็นผีเสื้อนั้น , 0riginal version น่าจะเป็นของ "จวงจื้อ"

๒.) step ต่อไปก็ง่ายที่จะเปลี่ยนจากเซนเป็นเหมือนเราครับ